Passion

ความฝันบนชั้น 6
ของวง Sixth Floor

ณัฐวิมล เศารยะพงศ์ 30 Nov 2021
Views: 809

บนเวทีประกวด The Power Band ซึ่งจัดขึ้นโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล วง Sixth Floor จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ อยู่ในการประกวด Class F รุ่นมัธยมศึกษา ประกาศก้องถึงจุดเด่นของวง คือ “ความตลก” ที่พ่วงมากับความสนุกในการโชว์

แล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่พวกเขาบอก เมื่อวงพกเอาความตลก ความสนุก บวกเข้ากับฝีมือทางดนตรีขึ้นไปปล่อยของบนเวทีกันเต็มเหนี่ยว นี่ยังไม่นับสำเนียงที่พวกเขาใช้เรียกชื่อวงตัวเองด้วยคีย์โน้ตที่ไม่มีใครคาดคิด (เราอยากให้คุณได้ยินเสียงของพวกเขาจัง) คนดูที่เพิ่งได้เริ่มทำความรู้จักวง…ก็ถึงกับหลงรักกันตั้งแต่แรก

วันนี้ Thaipower.co เลยขอพามาทำความรู้จักกับ 5 หนุ่มสุดทะเล้น ตัวแทนวง Sixth Floor ที่จะมานั่งคุยกับเรา ซึ่งประกอบด้วย ทองเอก-ทองเอก เพ็ชรมีค่า (นักร้องนำ) โฟกัส-จิรพันธุ์ เพ็ชรเอี่ยม (เบส)อะตอม-ภูผา ใจรงเคราะห์ (คอรัส) จิมมี่-ธีรวัฒน์ จิตรอรุณสไว (คอรัส) และวิน-กวิน อรรคผาติ (คอรัส-แร็ป)

“เรียกพวกเราว่าเป็นลิงที่มีพลังครับ

Gorilla Power of Monkey”

วิน วง Sixth Floor (คอรัส-แร็ป)

 

Sixth Floor ชื่อนี้มีที่มา…

วง Sixth Floor เกิดจากการรวมตัวของรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียนเทพศิรินทร์ ที่รักการเล่นดนตรีเหมือนๆ กัน ภายในห้องเรียนบนอาคารเรียนชั้น 6 ได้ถูกแปรสภาพให้เป็นห้องซ้อมดนตรีกลายๆ ในคาบว่าง และห้องนี้เป็นเสมือนศูนย์รวมฝันของคนมีฝันในโลกของเสียงเพลง

นี่คือที่มาของชื่อ Sixth Floor – วงดนตรีที่กำเนิดขึ้นบนชั้น 6 ของโรงเรียน

“สไตล์การเล่นของวงเราก่อนหน้านี้ เราก็จะเล่นแนวร็อกยืนพื้นครับ อาจมีการผสมดนตรีฟิวชันแนวอื่นๆ อย่างพวก ฟังก์ โซล ป๊อป-ร็อก แล้วก็อีกหลายแนวมาผสมเข้าด้วยกัน ก่อนประกวดก็จะมีสมาชิกประมาณ 5 คน คือ นักร้อง กีตาร์ เบส คีย์บอร์ด แล้วก็มือกลองครับ” อะตอมบอกจุดเริ่มต้น

“จุดเด่นของวง…

เน้นลูกบ้าของการเป็นวงชายล้วน

เราปล่อยพลังกันเต็มที่ ไม่มีกั๊กครับ”

อะตอม วง Sixth Floor (คอรัส)

 

เมื่อโครงการ The Power Band การประกวดดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า เปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดเป็นครั้งแรกในปีนี้ Sixth Floor ก็ไม่รอช้าที่จะฟอร์มวงขึ้นใหม่ในรูปวงป๊อปปูลาร์มิวสิกผสมเครื่องเป่า กับสมาชิกที่เพิ่มเป็น 14 คนตามกติกาแข่งขัน ซึ่งทีมเครื่องเป่าที่เติมเข้ามา ก็คือกลุ่มเพื่อนๆ ในวงโยธวาทิตของโรงเรียนที่สนิทกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังจัดตั้งทีมนักร้องคอรัส ที่เปรียบดั่งเครื่องดนตรีอีกชิ้นของวงสมทบเข้ามาอีกแรง บอกเลยว่าทีมคอรัสนี่เอง…เป็นเสน่ห์จัดๆ ของวง จิมมี่-หนึ่งในทีมคอรัสผู้จัดจ้านด้านมุขตลกไม่แพ้ความสามารถในการประคองเสียงร้องประสานไปกับส่วนอื่นๆ ทำหน้าที่เล่าถึงความตั้งใจในส่วนนี้ของวง

“ทีมคอรัสเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โชว์ที่ออกมามีความสมบูรณ์นะครับ มันทำให้เสียงร้องมีฮาร์มอนิกมากขึ้น ถ้ามีนักร้องคนเดียวมันก็จะร้องเปล่าๆ คนเดียวก็จะดูแห้งไป” เขายังแจงถึงหน้าที่ของแต่ละคน “อย่างอะตอมเขาจะเป็นเสียงโทนต่ำ ก็จะให้อะตอมร้องเบส ผมกับวินก็จะเป็นคนร้องโทนสูงขึ้นมาหน่อย คือร้องเสียงกลางถึงขั้นสูงเลย ก็จะดูว่าใครเหมาะจะร้องสูง ร้องต่ำ ก็แบ่งสัดส่วนกัน แล้วก็จะมีคอรัสที่เป็นแร็ปด้วยครับ”

“ทีมคอรัสเป็นส่วนหนึ่ง

ที่ทำให้โชว์ที่ออกมามีความสมบูรณ์…

ทำให้เสียงร้องมีฮาร์มอนิกมากขึ้น”

จิมมี่ วง Sixth Floor (คอรัส)

ศักยภาพดนตรีที่มาพร้อมจุดขายที่แข็งแรง

เมื่อวางตำแหน่งเครื่องดนตรีได้ตามเกณฑ์ ก็เข้าสู่กระบวนการปรับจูนวิธีการเล่นของแต่ละคน พร้อมกับเลือกเพลงประกวดที่ต้องสื่อถึงอารมณ์ สื่อความเป็นตัวตนในแบบเด็กโรงเรียนเทพศิรินทร์ให้ออกมาได้มากที่สุด “จุดเด่นของวง เราค่อนข้างเน้นเรื่องความทะเล้น แล้วก็ลูกบ้าของการเป็นวงชายล้วนครับ ด้วยความที่… เมื่อเราอยู่ด้วยกัน เราเป็นผู้ชายด้วยกัน เราก็จะปล่อยพลังกันเต็มที่อยู่แล้ว มันไม่ค่อยมีกั๊กครับ พอเราขึ้นเวทีเราก็เลยจะห้ามความเป็นตัวเองไว้ไม่ค่อยอยู่ เราก็เลยปล่อยพลังออกมาค่อนข้างเยอะกว่าปกติครับ” อะตอมหัวเราะร่วนกับสิ่งที่บอก

“เรียกพวกเราว่าเป็นลิงที่มีพลังครับ Gorilla Power of Monkey” วินตบท้ายความ “ซน” ในแบบของพวกเขาได้อย่างเห็นภาพ

แม้ออกตัวว่าเน้นขาย “ความตลก” เป็นหลัก แต่ภาพที่เห็น Sixth Floor มีความแข็งแรงด้วยฝีมือทางดนตรีที่เรียกว่า “เคี่ยว” พอตัว โดยเฉพาะพาร์ตเสียงร้องที่เพื่อนๆ ร่วมวงยอมรับว่า นอกจากทองเอกจะมีกลวิธีร้องเต็มไปด้วยเทคนิคแพรวพราว เขายังเป็นนักเอนเตอร์เทนที่โชว์ผลงานได้สุดพลังบนเวที “พี่ทองเอกเขาสามารถแบกทุกคนในวงได้  เขาเป็นคนทำให้วงขยับไปข้างหน้าได้ครับ” ความเห็นของวิน ทำให้เพื่อนๆ ต้องพยักหน้าตาม

“บูมเมอแรง เป็นเพลงที่มีความหมายตรงไปตรงมาดี

ก็จะสื่อให้เห็นถึงพลังของเด็กผู้ชาย

ที่มีความทะเล้น ซุกซน แบดบอยนิดๆ ครับ”

ทองเอก วง Sixth Floor (ร้องนำ)

ฝึกซ้อมให้หนัก เพื่อรับมือกับโจทย์เพลงที่ต้องเรียบเรียงใหม่..ในฉบับ Sixth Floor

เพลงที่กำหนดให้ใช้ประกวดบนเวที The Power Band จะมีทั้งหมด 2 เพลงด้วยกัน เป็นหนึ่งเพลงบังคับและอีกเพลงให้วงดนตรีเลือกเอง โดยผู้เข้าประกวดจะต้องนำทั้งสองเพลงไปเรียบเรียงใหม่ ให้มีส่วนผสมของเครื่องเป่าตามกติกา

เพลงบังคับ “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ของศิลปิน จรัล มโนเพ็ชร ผลงานของวงมาจากที่อาจารย์จตุรงค์ ดุษฎี และ Sixth Floor นำเพลงนี้มาเรียบเรียงดนตรีกันให้เป็นฟิวชันแจ๊สที่ฟังแล้วนวลหู สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ส่งกำลังใจไปสู่คนฟังตามความหมายของเพลง ส่วนอีกเพลง “บูมเมอแรง” โดยศิลปิน ธงไชย แมคอินไตย์ พวกเขายังคงเรียบเรียงให้เป็นฟิวชันแจ๊สในทางถนัด แต่เพิ่มเติมสีสันด้วยการใส่อัตลักษณ์ก็คือความสนุกบนเวทีการแสดงลงไปด้วย

“บูมเมอแรงเป็นเพลงที่มีความหมายตรงไปตรงมาดีครับ เปรียบเสมือนเราเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นเหมือนบูมเมอแรง เขาจะโยนเราไปที่ไหน เราก็จะกลับไปหาเขาเหมือนเดิม” ทองเอก ย้อนเล่าถึงการตีความเนื้อหา รวมถึงเมโลดี้ที่เรียบเรียงขึ้นใหม่ “ก็จะสื่อให้เห็นถึงพลังของเด็กผู้ชายที่มีความทะเล้น ซุกซน แบดบอยนิดๆ ครับ”

การแสดงบนเวที สมาชิกวงเล่าว่า พวกเขายังช่วยกันคิดลูกเล่นต่างๆ เพื่อทำโชว์ให้ออกมาดูสนุกสมกับเป็นวงชายล้วน “เราก็จะมาหาจุดที่แบบว่า.. ตรงนี้เราสามารถเพิ่มอะไรได้บ้าง สามารถใส่ลูกเอนเตอร์เทนอะไรได้บ้าง อย่างเช่นท่าตอนที่ปาบูมเมอแรง ก็เหมือนกับเอาชื่อที่เป็นกิมมิกของเพลงมาเล่นกับคนดู มันก็ทำให้ดูน่าสนใจดีครับ” โฟกัส-มือเบสของวงเล่าบ้าง

ท้ายที่สุดการทำงานเป็นทีมเวิร์ก คือปัจจัยสำคัญที่ต้องมุ่งมั่นฝึกซ้อมกันอย่างหนัก เพื่อให้เกิดเป็นโชว์ที่เพอร์เฟกต์ในวันแข่งขัน มันคือความท้าทายที่ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจ ทำให้ดนตรีเป็นหนึ่งเดียวกันให้เร็วที่สุด จิมมี่เล่าถึงช่วงเวลาฝึกซ้อมก่อนการแข่งขัน “การซ้อมมันก็จะมีสองพาร์ตครับ พาร์ตแรกคือตอนที่กักตัวช่วงที่โควิดแรงๆ ตอนนั้นก็จะมีการบ้านมาให้วงอาทิตย์ละครั้ง เราก็ถ่ายคลิปไปให้อาจารย์ดู อาจารย์ก็จะมาดูเป็นเซคชันๆ เลยครับ อย่างพวก Rhythm Vocal  แล้วก็เครื่องเป่า พอรวมวงก็อาจารย์จะดูภาพรวมทั้งหมดให้อีกที ส่วนพาร์ตหลังคือหนึ่งอาทิตย์ก่อนประกวด พวกเราก็ไปเข้าค่ายกันที่โรงเรียน เป็นค่ายฝึกซ้อม ก็ซ้อมกัน อยู่ด้วยกันเลยครับ”

 “เราก็จะมาหาจุด

ที่สามารถใส่ลูกเอนเตอร์เทนอะไรได้บ้าง

อย่างเช่นท่าตอนที่ปาบูมเมอแรง ก็มาเล่นกับคนดู”

โฟกัส วง Sixth Floor (เบส)

ก้าวขาขึ้นเวทีประกวดพร้อมกับเป้าหมาย..ที่ไม่ใช่แค่ชัยชนะ

ในวันแข่งขัน Sixth Floor ต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แม้จะมีอุบัติเหตุจากสถานการณ์เฉพาะหน้าเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการแสดงสด ความเห็นของจิมมี่และทุกคนบอกว่าค่อนข้างพอใจกับการแข่งขัน หลังการแสดงจบลง

“ที่สุดแล้ว พวกเราก็เป็นแค่เด็กมัธยมนะครับ ยังไงพวกเราก็ต้องการประสบการณ์ในการขึ้นเวทีดนตรีต่างๆ ถ้าเกิดว่าหลังจากนี้ พวกเราอยากจะมีอนาคตในทางนี้ การได้ขึ้นเวที The Power Band มันก็ค่อนข้างส่งเสริมในเรื่องของประสบการณ์ ทำให้ได้รับรู้ว่า การประกวดรายการใหญ่ๆ อารมณ์มันจะประมาณนี้นะ มันมีการจัดการแบบไหน เราต้องฝึกซ้อมหนักแค่ไหน ก็ต้องจัดการตัวเองและเพื่อนๆ ร่วมทีม เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการแข่งขัน มันก็อาจมีจุดที่พวกเราไม่ได้พอใจบ้าง แต่โดยรวมแล้ว พวกเราค่อนข้างที่จะมีความสุขกับมัน  เพราะว่าพวกเราฝึกซ้อมกันมาอย่างเต็มที่แล้วครับ เมื่อขึ้นเวทีเราก็เต็มที่กับมันแล้ว พวกผมคิดว่าไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจเลย”

ประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวได้บนเวที อาจไม่ได้ให้แค่กำไรชีวิตสำหรับเด็กหนุ่มอย่างพวกเขา อย่างน้อยมันน่าจะทำให้ความฝันบางประการของชาว Sixth Floor ส่งเสียงดังขึ้น “พวกเราอยากได้ห้องซ้อมครับ” นั่นคือสิ่งเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเขาอยากได้

“ที่โรงเรียนไม่มีห้องซ้อมดนตรี พวกเราต้องขนเครื่องดนตรีขึ้นไปซ้อมบนชั้น 6 ของโรงเรียนทุกวัน ยกของหนักมากครับ” และนี่เป็นคำขอที่พวกเขาอยากมอบให้น้องๆ รุ่นต่อไป…ไม่ใช่สำหรับพวกเขากันเอง แม้จะกลบท้ายประโยคด้วยเสียงหัวเราะ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของทองเอก รวมถึงเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้วย ก็คงรู้สึกไม่ต่างกันเช่นเดียวกับสมาชิกทั้งหมดของวง

พลังทางดนตรีที่ถูกสร้างขึ้นจากความมุ่งมั่น คงพาความฝันของ Sixth Floor เดินไปสู่เป้าหมายยิ่งใหญ่ที่วาดไว้ได้สำเร็จ แล้วพวกเขาก็ทำได้แล้วจริงๆ!! สำหรับรางวัลชนะเลิศสำหรับวงประกวดใน Class F (ระดับมัธยมศึกษา)…คว้าถ้วยและเงินรางวัล 120,000 บาทไปครอง…อืมม ห้องซ้อมดนตรีสำหรับรุ่นน้องของพวกเขาสินะ พวกเรานึกภาพตามถึงความยินดีของพวกเขาได้ไม่ยาก

ถึงนาทีนี้ผลการตัดสิน…คงไม่สำคัญเท่ากับที่ลีลาบนเวทีและนอกเวทีของพวกเขา เอาชนะใจคนดูอย่างล้นหลามไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่แรก

 

ความฝัน 6 ข้อ บนชั้น 6 ของ Sixth Floor

• The Parkinson และ ETC คือวงดนตรีต้นแบบที่สมาชิกวง Sixth Floor ชื่นชอบและอยากเจริญรอยตาม

• วินรับหน้าที่คอรัสและแร็ปเปอร์ในวง เพราะเคยเข้าแข่งขันในรายการ The Rapper New Gen มาก่อน วินเลยอยากเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับวงการเพลงในอนาคต

• ที่อยากได้ห้องซ้อมดนตรี เพราะวง Sixth Floor อยากส่งต่อโอกาสนี้ไปถึงรุ่นน้องให้มีห้องซ้อมได้ใช้ด้วย

• จิมมี่มีฝันจะเป็นหมอ ควบคู่กับการเป็นนักแสดง เหมือนหมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ ด้วย

• นอกจากร้องเพลง ทองเอกชอบ…ทำอาหารและอยากเป็นเชฟ

• ถ้าไม่ให้เล่นดนตรี โฟกัสกับอะตอมจะไป…เป็นนักศิลปะ

 

ตามติดผลงานเพลง “บูมเมอแรง” (เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์)

ในฉบับของวง Sixth Floor จากขอบเวที THE POWER BAND

โดยเฉพาะ ได้แล้วที่ YouTube : Kingpower Thaipower พลังคนไทย

 

 

Author

ณัฐวิมล เศารยะพงศ์

Author

นักเขียนที่นอกจากจะทำตัวเป็นทาสแมวตัวยง ยังชอบเอาเวลาว่างจากการเขียนงานไปเสาะหาเรื่องกิน เรื่องเที่ยว แล้วทำให้เป็นเรื่องเดียวกัน

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ