กว่าจะมาเป็น “ขนมทองม้วนบรรจุกล่อง” ออกแบบอย่างสวยงาม เหมาะที่จะเป็นหน้าเป็นตา…เป็นของขวัญของฝากที่ใครๆ จะหยิบติดมือไปมอบให้กับคนสำคัญของพวกเขาด้วยความภูมิใจ “ทองม้วนคิงเพาเวอร์โรล” ต้องผ่านกระบวนการคิดต่าง-ทำต่าง และยังต้องดำเนินการผลิตอย่างมีมาตรฐาน…ได้คุณภาพ ซึ่งลงเอยด้วยคำตัดสินของลูกค้าเพียงคำว่า “อร่อย”! สั้นๆ แต่ก็ภูมิใจได้แล้ว
ขนมไทยรสกลมกล่อมหอมแป้งหอมกะทินี้ได้รับความนิยมจากนานาชาติ จนขึ้นหิ้งเป็น “สินค้าขายดียอดนิยม” ที่ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยต่างให้ความสนใจล้นหลาม ทำหน้าที่ช่วยประชาสัมพันธ์ไทยแลนด์ด้วยขนมไทยไปเสียอีก
“ครั้งหนึ่งที่ผมไปญี่ปุ่น ช่วงหนึ่งที่รถติด ไกด์เขาเดินเอาขนมมาแจกคนบนรถชิม ดูเหมือนหยิบจากปี๊บแต่ข้างในเป็นทองม้วนบ้านเรานี่แหละ ผมหยิบชิม ในใจก็คิดว่าโอเค ตามความคิดของผม…ก็ไม่ได้อร่อยนัก”
“แต่พอหันกลับไปเห็นคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ข้างหลังเรา เขาทานกันหมดปี๊บเลย(อมยิ้ม) ทำให้เห็นว่านี่ขนาดไม่อร่อย…ผมเลยคิดได้ว่าน่าจะส่งขนมทองม้วนมาขายที่ญี่ปุ่นดูบ้าง ตอนนั้นคิดเล่นๆ” แต่ ปราโมทย์ ไชยอุฬาร ผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์ลงมือทำจริง
เรื่องราวความอร่อยและความไม่ซ้ำใครของทองม้วนคิงเพาเวอร์โรล จึงเริ่มต้นขึ้นอาจจะด้วยความบังเอิญแบบนั้น…
…พิถีพิถัน ตั้งแต่เริ่ม…
ทองม้วนเป็นขนมที่มีองค์ประกอบไม่ซับซ้อน จริงอยู่ว่าแค่แป้ง น้ำตาล และกะทิถูกผสมให้เข้ากันเป็นอย่างดี รวมออกมาเป็นหวานเค็มมันปะแล่มกรอบอร่อยก็ได้ทองม้วนแล้ว แต่ “ของดี” จะอร่อยได้…มันไม่ได้ง่ายแค่นั้นน่ะสิ
“เราต้องตื่นคั้นกะทิตอนตี 4 ทำส่วนผสมทิ้งเอาไว้ให้ลูกน้องมารับช่วงทำต่อแล้วออกไปทำงาน ช่วงบ่ายๆ ลูกน้องก็จะโทรศัพท์มารายงานว่าวันนี้ปิ้งแล้วเป็นอย่างไร วันนี้ปิ้งไม่ได้ วันนี้ขนมออกมาเหลว วันนี้ปิ้งออกมาแล้วเนื้อขนมอ่อนไป…วันนี้แข็งไป”
แน่นอนว่ากว่าจะได้ส่วนผสมสำหรับแป้งที่ลงตัวได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีก… แป้งถูกตักลงเกลี่ยบนเตาที่ทำหน้าที่เป็นพิมพ์ให้แป้งออกมาเป็นแผ่น วางฝาเตาด้านบนทับลงมาให้ความร้อนทั่วถึงทั้งแผ่นบางๆ จนสุกพอดี กะดูด้วยสายตาต้องมีสีเหลืองน้ำตาล กลิ่นหอมกะทิและหอมกลิ่นเตา ความพอดีที่ต้องเป๊ะอยู่ระหว่าง “สุก” กับ “ยังไม่ไหม้” ต้องอาศัยความชำนาญของคนทำคนปิ้ง ที่จะรู้จังหวะความร้อนของเตาด้วย…แป้งสีออกขาวไปก็ไม่น่ารับประทาน เหลืองไปจนน้ำตาลเกินไป ก็ทั้งกลิ่นเหม็นไหม้และขม
“เราจะหาสูตรพื้นฐานก่อนว่ามีวัตถุดิบหลักกี่ชนิด แล้วมาหาสัดส่วนใหม่ พยายามผสมมันอย่างไรเพื่อดึงจุดเด่นนั้นของขนมออกมาให้ได้ บางวันผมผสมไว้ 3-4 สูตร แค่ส่วนผสมแป้ง เราก็ลองผิดลองถูกอยู่หลายเดือนมาก เรียกว่าประมาณ 4-5 เดือนกว่าจะได้สูตรนี้มา”
…ขนมไทย ผ่านมุมมองวิศวกร…
แม้จะเรียนจบมาทางด้านวิศวกรรม แต่ด้วยความสนใจเกี่ยวกับ “ขนม” ที่มี ทำให้สองสิ่งในที่นี้ควบรวมกันเป็นเกิดเป็นแบรนด์ขนมทองม้วนได้อย่างไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ย้อนหลังกลับไปกว่า 30 ปี งานแรกของเจ้าของ “ทองม้วนคิงเพาเวอร์โรล” คือเป็นผู้จัดการโรงงานขนม
“ผมเรียนจบวิศวะที่อเมริกา ตอนต้องทำวิทยานิพนธ์ก็เขียนและค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องขนม เป็นเรื่องของคุกกี้ Mrs. Fields Cookies ไม่นึกว่าพอเรียนจบกลับมา ผมจะได้ทำงานบริษัทนี้ที่ประเทศไทยด้วย แต่ช่วงที่ผมได้เริ่มเข้าไปทำงานเป็นเวลาที่บริษัทไม่มีผู้จัดการมานานถึง 1 ปี เมื่อผมเข้ามาก็แก้ไขสถานการณ์อะไรไม่ทันแล้ว สุดท้ายเขาก็ต้องปิดบริษัทไป สำหรับผมเองก็เหมือนกับว่า ทำกิจการขนมไม่ประสบความสำเร็จ …”
…ความกรอบเป็นอุปสรรค ถึงเวลาพัฒนา…
หลังจากที่ได้สูตรทำทองม้วนออกมาเป็นที่พอใจแล้ว “คิงเพาเวอร์โรล” ยังได้ออกแบบกล่องบรรจุให้สวยงามดูดี…ฉีกขนบขนมหน้าตาพื้นบ้านไปเลย ทองม้วนที่ดีสุดฝีมือของคนทำก็พร้อมแล้วที่จะถูกส่งต่อถึงคนกิน ด้วยความมุ่งมั่นในการทำทองม้วนคุณภาพ…แต่ก็ยังมีความพลิกผันเกิดขึ้นจนได้
“ครั้งแรกผมถือไปเดินที่ซอยละลายทรัพย์กับภรรยา เราสองคนก็เดินขายกันไปจนสุดซอย…ไม่มีใครซื้อเลย เขาบอกว่าสวยเกินไป…เป็น ‘ทองม้วนไฮโซ’ ซึ่งผมก็แปลกใจนะว่ามีด้วยหรือ? คำว่าดีเกินไป…สวยเกินไป? แต่ว่าเราก็ยังยืนยันคอนเซ็ปต์เดิมคือเราอยากให้สิ่งที่ดีที่สุด อะไรที่เราคิดว่าดีที่สุด…เราใส่ลงไปในขนมของเรา”
“คนมักจะบอกว่าทองม้วนน่ะแตกนะ มันหักนะ และก็เสียหายเยอะมาก ผมเลยไปสังเกตดูว่าถ้าปัญหาอยู่ที่การแตกหัก…แตกตรงไหนอย่างไรบ้าง? ก็พบว่าส่วนใหญ่ทองม้วนจะแตกหักที่ตรงปลายชิ้น แล้วเนื่องจากเราเป็นวิศวกร ก็เลยคิดเทคนิคใหม่ในการทำทองม้วนให้ไม่แตกโดยการพับข้างเข้ามาแล้วถึงค่อยม้วน ทีนี้ตรงปลายก็ไม่แตกแล้ว ทำให้ทองม้วนของเราแข็งแรงมากขึ้น”
Suggestion
…ขนมบ้านๆ พร้อมออกสู่ตลาดโลก…
เมื่อไม่ได้ยอมแพ้และรู้ดีว่าขนมไทยหน้าตาทันสมัยด้วยหีบห่อสดใสสวยงามนี้ เหมาะกับใคร ขนมจึงถูกนำไปวางขายที่ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านประตูน้ำ และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับการติดต่อให้นำมาเสนอกับนักท่องเที่ยวนักเดินทางที่ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีของสนามบินแห่งชาติ นั่นอาจจะอธิบายส่วนหนึ่งของที่มาสำหรับชื่อแบรนด์ทองม้วนที่นักเดินทางต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีนี้ก็เป็นได้
“เราได้รับออร์เดอร์ครั้งแรกก็ 200 กล่องเลย ตื่นเต้นมาก..คือดีใจ แต่ความที่เรายังเป็นผู้ประกอบการเล็กๆ ในเวลานั้น เมื่อต้องจัดส่งของก็เอากล่องทองม้วนใส่ถุงไป ถุงละสิบกล่องๆๆ หิ้วไปเองเลย…20 ถุงได้ ก็ได้ความรู้จากเจ้าหน้าที่สต็อกสินค้าเวลานั้นแหละครับ เขาขอไว้ว่าครั้งหน้าให้ช่วยซื้อลังใส่มาหน่อย (หัวเราะ) เรียกว่าเราได้รับความสนับสนุน ทั้งคำแนะนำติ-ชมจาก คิง เพาเวอร์ อย่างผูกพันกันมายาวนาน”
…จากบ้านหลังเล็กที่เคยสร้างสรรค์ทองม้วนไทยนี้เมื่อในอดีต ปัจจุบัน “ทองม้วนคิงเพาเวอร์โรล” กลายเป็นโรงงานที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ใช้เครื่องจักรที่ได้มาตรฐานการผลิตขนมจากเยอรมัน จนทำยอดขายได้เป็นปีละหลายร้อยล้านบาทและยังเติบโตตลอดเวลา ไม่เฉพาะเพียงแต่ทองม้วนไทยจะกลับไป “ดัง” ที่ญี่ปุ่นได้ด้วยแล้ว ยังไปได้ไกลในอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลกด้วย
“โลกเราเปลี่ยนทุกวัน สินค้าเราก็ต้องปรับปรุงไปเรื่อยๆ ถ้าของฝากเป็นอะไรที่ธรรมดา คนจะไม่ค่อยนิยมซื้อ ของฝากต้องหายากและมีความพิเศษ เราจึงพัฒนาทุกอย่างออกมาด้วยสูตรพิเศษเสมอ การทำทองม้วนนี่ทุกคนก็ใช้วัตถุดิบคล้ายๆ กัน แป้ง น้ำตาล กะทิ แต่ความต่างกัน อยู่ที่ความเชื่อ ถ้าเชื่อว่าเราทำได้ดีกว่า ใส่ใจ และมุ่งมั่นมากกว่า ก็ไม่มีใครทำเหมือนเราได้”
หากถาม “คิงเพาเวอร์โรล” ถึงความภูมิใจในขนมทองม้วนที่เขาสร้างสรรค์ เราจะได้รับคำตอบยาวๆ อธิบายถึงสิ่งที่เจ้าของเองเคยสัมผัสพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า… “ครั้งหนึ่งผมเคยเห็นภาพนักท่องเที่ยวเขานั่งหลับ ในมือกำถุงใส่ทองม้วนของเรา ผมก็รู้สึกแบบภูมิใจมากว่า โอ้โห ขนมของเรามีค่ากับเขามากเลยนะ ถึงขนาดกำไว้กลัวใครมาขโมยทองม้วน…”
ทองม้วนเป็นขนมไทยลูกผสมขนมโปรตุเกส มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ว่ากันไปถึงเรื่องราวของตำนานท้าวทองกีบม้ากันเลยทีเดียว
ปัจจุบันทองม้วนในอดีต ได้รับการพัฒนารูปแบบจาก “คิงเพาเวอร์โรล” ไปสู่ทองม้วนซีรีส์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น “ทองถ้วย” “ทองแผ่น(กลม)” “ทองพับ”… ส่วนความอร่อยที่เริ่มต้นจากรสดั้งเดิมแล้ว ปัจจุบันยังมีถึงกว่า 30 รสชาติ ทั้งรสช็อคโกแลต ดับเบิลช็อคโกแลต รสคอฟฟี กรีนทีชาเขียว สตรอเบอรี่ และอื่นๆ ไปจนถึงรวมรส
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: KING POWER ROLL
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา
ปักหมุดจุดเช็คอิน-แชะรูป-ท่องเที่ยวใกล้เคียง
• มหานครสกายวอล์ค เที่ยวจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าที่ชั้น 78 ซึ่งมองเห็นความสวยงามของกรุงเทพฯ 360 องศา มีมุมสวยประทับใจแบบไม่รู้จบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงอาทิตย์ตกดิน และหาของกินระดับมาสเตอร์ชิมได้จากที่รูฟท็อปบาร์ชั้นนำ
• สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) สัมผัสพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและกิจกรรมสโลว์ไลฟ์มากมาย มีต้นไม้ใหญ่และมุมถ่ายรูปมากมายในพื้นที่ 375 ไร่
• ตลาดน้อย ย่านชุมชนเก่ากุฎีจีน เดินเที่ยวชมวิถีชุมชนเก่าแก่แบบไม่แออัด และหาของอร่อยๆ ชิม ทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นแคะ ไก่ทอด ขนมเปี๊ยะ กะหรี่ปั๊บ กุยช่าย กาแฟสโลว์บาร์
