Product

ปรุงดอกไม้เก้าชนิด เป็น ‘เก้ากลิ่น’
บาล์มสมุนไพรหอมรัญจวนใจ

วรากร เพชรเยียน 22 Mar 2022
Views: 900

เพียงแค่ลองจินตนาการถึงกลิ่นหอมพิเศษของดอกไม้ทั้งเก้าชนิดลอยโชยแตะจมูกในครั้งแรกที่เปิดฝาตลับใส่ยาหม่อง เนื้อครีมก็สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายตั้งแต่ยังไม่ได้ลงมือใช้งานจริง เรียกว่าแบรนด์ผลิตภัณฑ์อโรมาไทยรายนี้ใส่ใจในทุกองค์ประกอบ และลบภาพยาหม่องแบบไทยๆ ได้ด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ โดยทุกองค์ประกอบที่ผู้ใช้ได้สัมผัสล้วนเกิดจากความตั้งใจของผู้ปรุง

เก้ากลิ่น แบรนด์ผลิตภัณฑ์สปาที่เริ่มต้นจากความชื่นชอบของคุณเมย์ รังรอง อโนธารมณ์ ผู้บริหารในวัย 35 ปี พายาหม่องสมุนไพรไทยก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการพัฒนา ปรับเปลี่ยนจุดอ่อนของผลิตภัณฑ์สมุนไพรแบบเก่าให้มีความทันสมัยมากขึ้น ใส่ใจในทุกรายละเอียดจนสามารถครองใจได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และสามารถนำเข้ามาวางขายในคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ตั้งแต่เริ่มสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ยาหม่องมุมมองใหม่นี้ จนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ที่เก้ากลิ่นโปรยกลิ่นหอมของดอกไม้ให้ลูกค้าชาวไทยและต่างชาติได้รู้จัก

 

เริ่มต้นจากไลฟ์สไตล์สู่เก้ากลิ่น

ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์บาล์มสมุนไพร และน้ำมันสมุนไพร คุณเมย์ที่ในขณะนั้นแม้จะไม่มีความรู้ในด้านการปรุงสมุนไพรมากนัก หันมาจับแบรนด์สมุนไพรที่เริ่มต้นด้วยการนำเอาความชอบของตัวเองมาเป็นแรงบันดาลใจ

“ส่วนตัวเป็นคนชอบผลิตภัณฑ์สปา ชอบไปนวดสปา นวดแผนไทย แล้วเล็งเห็นว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ดูมีภาพลักษณ์และราคาที่ค่อนข้างแตกต่างจากผลิตภัณฑ์สปาที่ดูพรีเมียม ราคาแพง จึงทำให้เกิดไอเดียที่อยากจะยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้มีความพรีเมียมขึ้น”

จากการมองเห็นโอกาสในท้องตลาด จึงนำมาสู่การพัฒนาสินค้า ซึ่งกว่าจะเปิดตัวมาในปี 2018 ผลิตภัณฑ์แรกผ่านการศึกษา คิดค้น และปรับปรุงสูตรมากว่าสองปี ซึ่งได้แนวคิดทุกอย่างมาจากการที่อยากจะพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีวางขายตามท้องตลาดให้มีความแตกต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ขวดบรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงสูตรยาต่างๆ ซึ่งก็เกิดจากการมองเห็นจุดอ่อนของสินค้าจากแบรนด์อื่นๆ “เราเอาปัญหาของยาหม่องหลายๆ ตัวมาปรับแก้ให้ของเราดีที่สุด อย่างเนื้อบาล์มบางยี่ห้อก็จะแข็งไป เหลวไป เอามานวดไม่ได้ เอามาทาไม่ได้ เราก็เอามาปรับให้มันพอดี”

ด้วยการศึกษา ค้นหาสูตรที่ใช่และแตกต่างจึงนำมาซึ่งบาล์มสมุนไพรกลิ่นดอกไม้เก้าชนิดที่เป็นจุดเริ่มต้นของเก้ากลิ่น

 

บาล์มสมุนไพรดอกไม้เก้าชนิด

บาล์มสมุนไพรสูตรดอกไม้เก้าชนิดเป็นที่มาของชื่อแบรนด์เก้ากลิ่น มีความแตกต่างจากกลิ่นยาหม่องของแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาดที่มักจะฉุนยา มีกลิ่นสมุนไพรแรงๆ คุณเมย์จึงเลือกนำแนวคิดของผลิตภัณฑ์สปาที่มีกลิ่นหอมจากดอกไม้เมืองหนาวต่างๆ มาลองปรับใช้

“เรามองไปเห็นธุรกิจสปา ผลิตภัณฑ์ของเขาน่าใช้ ปลายทางมันช่วยผ่อนคลายเหมือนกัน ก็เลยเกิดไอ เดีย น่าจะลองเอาดอกไม้ของไทยมาปรุงแต่งในผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยดู จึงเป็นที่มาของเก้ากลิ่นดอกไม้ไทย” ดอกไม้ไทยทั้งเก้าชนิดที่เป็นส่วนผสมหลัก ได้แก่ มะลิ ดอกโมก หอมหมื่นลี้ พิกุล กฤษณา จำปา กระดังงา กุหลาบ และลำเจียก ทั้งหมดนี้เป็นดอกไม้ไทยโบราณที่ปัจจุบันหาแบรนด์ที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักได้ยาก

“ดอกไม้ทั้งเก้าชนิดที่เลือกมานี้มีกลิ่นหอมออกไทยๆ เฉพาะตัว ซึ่งตรงกับความต้องการและพอผสมผสานกันแล้วได้กลิ่นไทยๆ อย่างที่เราตั้งใจไว้”

กลิ่นหอมของบาล์มสมุนไพรดอกไม้เก้าชนิดหอมเตะจมูกตั้งแต่แรกสัมผัส และแม้ว่าหลังสัมผัสเย็นๆ จะจางหายไปแล้ว แต่กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้จะยังคงติดผิวอยู่ราวกับน้ำหอม นี่เป็นสิ่งที่เก้ากลิ่นตั้งใจฝากไว้ให้กับผู้ใช้ด้วย

นอกจากบาล์มสมุนไพรกลิ่นดอกไม้แล้ว อโรมาออยล์ที่มีถึงสามสีจากสมุนไพรสามชนิด อย่างพริก เสลดพังพอน และไพล ยังเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจกับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอโรมาออยล์สีแดงที่มีส่วนผสมของพริกให้ความร้อนแรง ตรงใจลูกค้าชาวจีนเป็นอย่างมาก

จากการพัฒนาสูตรร้อน สูตรเย็น รวมถึงกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ตรงใจกลุ่มลูกค้าทั้งผู้ใหญ่ และวัยรุ่น วัยทำงานให้สามารถใช้ได้ และสามารถนำไปเป็นของฝาก ของที่ระลึกได้ด้วยรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่เก้ากลิ่นภูมิใจนำเสนอ

แพ็กเกจจากความตั้งใจ

จากภาพลักษณ์ยาหม่องดั้งเดิมของไทย เก้ากลิ่นพยายามปรับเปลี่ยน พัฒนาให้แพ็กเกจของบาล์มสมุนไพรไทยมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนตั้งแต่ขวดบรรจุภัณฑ์ที่สั่งทำขึ้นพิเศษเฉพาะของเก้ากลิ่นให้แตกต่างไปจากภาพลักษณ์เดิมๆ ของยาหม่องดั้งเดิม

“เราตั้งใจลงทุนในการดีไซน์ ผลิตขวดออกมาให้เป็นของตัวเอง สร้างความแตกต่าง หรูหราให้กับสินค้า ในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงการใช้งาน เราคิดว่าน่าจะทำขวดให้มันเป็นขวดเหลี่ยม จับง่าย หยิบถนัดมือ ปากขวดให้กว้างขึ้นเพื่อที่เราจะสามารถเอานิ้วควักใช้ได้จนถึงท้ายขวด”

นอกจากขวดบาล์มสมุนไพรดอกไม้แล้ว เก้ากลิ่นยังใส่ใจบรรจุภัณฑ์ของอโรมาออยล์ด้วยการเพิ่มลูกเล่นซิลิโคนครอบฝาขวดเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น พร้อมกับใส่ลวดลายและทำสีให้มีความโดดเด่น รวมถึงการพัฒนามาทำให้มีสายห้อยเพื่อให้สามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่

แต่กว่าจะออกมาเป็นยาหม่องบรรจุกล่องกระดาษสวยงามออกแบบมาอย่างดีอย่างในทุกวันนี้ คุณเมย์เล่าว่าเธอได้รับไอเดียดีๆ จากการได้นำมาวางขายในคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี หลังจากผลิตภัณฑ์ได้นำมาวางขายเพียงไม่นาน

“ก่อนหน้านี้เราทำเป็นกล่องอะซิเตทพลาสติกลายดอกไม้ ตอนแรกมันไม่เวิร์ก ทางคิง เพาเวอร์ ฝ่ายจัดซื้อเขาก็ให้คำแนะนำเราว่าหรือว่าแพ็กเกจของเรา อาจทำให้ลูกค้าไม่เข้าใจว่ามันคือยาหม่อง เขาก็เลยแนะนำให้เรามาปรับให้ลูกค้าเห็นแล้วเข้าใจง่ายมากขึ้น ก็เลยปรับมาเป็นกล่องกระดาษ”

หลังจากปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของเก้ากลิ่นก็มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน สื่อสารจุดประสงค์ของผลิตภัณฑ์ไปยังผู้ซื้อได้อย่างตรงตัว ทั้งเนื้อบาล์มสมุนไพร รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ทำให้เก้ากลิ่นเป็นแบรนด์ไทยอีกแบรนด์ที่มีตัวตนชัดและเป็นตัวเลือกให้กับชาวต่างชาติรวมถึงคนไทยได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจากที่แบรนด์ทั่วไป

ยาหม่องจากคนรุ่นใหม่ เอาชนะใจต่างชาติ

แม้จะดูเหมือนว่าเก้ากลิ่นพัฒนาปรับเปลี่ยนยาหม่องในรูปแบบเดิมๆ จนต่างไปไม่เหลือคราบบาล์มสมุนไพรดั้งเดิม แต่สรรพคุณทางยาของสมุนไพรยังคงถูกนำมาใส่ไว้ครบสูตร เลือกสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์สูงสุด

“ส่วนประกอบวัตถุดิบเราตั้งใจเลือกแบบพรีเมียมทุกตัว โดยลงลึกไปถึงแหล่งที่มาว่าวัตถุดิบนั้นๆ จากประเทศไหนมีชื่อเสียงหรือมีประสิทธิภาพสูงสุด”

บาล์มสมุนไพรจากเก้ากลิ่นที่ทาแล้วรู้สึกเย็นนานจึงเป็นผลมาจากการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แม้หลังจากหมดความเย็นแล้วก็ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้เหลืออยู่ จากความตั้งใจที่อยากสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์  พรีเมียมเพื่อให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติ อีกทั้งยังสะท้อนความเป็นไทยสู่สากลนี้ ที่คิง เพาเวอร์จึงมีเก้ากลิ่นจำหน่ายอยู่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

“ความที่เราวางตัวเองว่าเป็นแบรนด์พรีเมียม เราก็เลยยังยึดว่าเราจะขายที่คิง เพาเวอร์ เราคุยกับที่คิง เพาเวอร์ไว้ว่าเราเป็น Exclusive at King Power ตั้งแต่ตอนที่เข้าไป” ซึ่งทำให้เก้ากลิ่นได้ลูกค้าจากต่างชาติ ไม่เพียงชาวจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นลูกค้าจากยุโรปและอินเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่แบรนด์ยาหม่องอื่นๆ ยังเข้าไม่ถึง

ด้วยความแตกต่างที่เก้ากลิ่นเริ่มต้นจากการหยิบจุดอ่อนของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยดั้งเดิมมาปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเก้ากลิ่นมีความโดด การเลือกสรรวัตถุดิบและดอกไม้ไทยยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับดอกไม้ไทยโบราณที่น้อยคนจะเลือกใช้อย่างลำเจียกและกฤษณา ผ่านการปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน รวมถึงใส่ใจรูปลักษณ์ที่สวยงาม เก้ากลิ่นจึงไม่เพียงเป็นแบรนด์ที่โชว์ความเป็นไทยในมาตรฐานสากลเท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นยังแฝงไว้ซึ่งคุณค่าที่สรรค์สร้างจากความตั้งใจ เป็นของที่มอบให้กับตัวเองหรือเป็นของฝากที่สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจของผู้ให้ที่ชวนให้ผู้รับติดตรึงใจเหมือนอย่างกลิ่นหอมของดอกไม้ไปอีกนาน

 

Kao Klin

ที่ตั้ง : บริษัท หอมเก้าเกสร จำกัด 999/24 ม.3 ซ.วัดจำปา ถ.นครอินทร์ ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

 

Facebook: KAO KLIN

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย

คลิก: KAO KLIN

 

สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา

 

ปักหมุดจุดเช็กอิน–แชะรูป–ท่องเที่ยวใกล้เคียง

• ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (หลังเก่า) อาคารไม้เก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เหมาะกับการหามุมถ่ายรูป นอกจากนี้กรมศิลปากรยังได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานในปี พ.ศ. 2524

• Foreste’ Café ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร คาเฟ่ในจังหวัดนนทบุรีที่ยกเอาภูเขาทั้งลูกมาไว้ถึงในร้าน เหมาะสำหรับไปนั่งจิบกาแฟ ทานอาหาร ถ่ายรูปสวยๆ เสมือนได้เดินทางไปท่องเที่ยว

• วัดตะเคียน สักการะวัดเก่าแก่อายุนับร้อยปี คาดกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ภายในประดิษฐานหลวงพ่อธรรมจักร และศาลเจ้าแม่ประกายทองประกายมาศ ก็สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดตะเคียน

Author

วรากร เพชรเยียน

Author

อดีตแอร์โฮสเตสผันตัวมาเป็นนักเขียน ผู้หลงใหลศิลปะและการเดินทาง นิยมการบอกรักประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ