Passion

วงอรชร
สู่การปลดปล่อยพลังอย่างเต็มที่

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว 19 Jul 2023
Views: 1,575

Summary

วงอรชรซึ่งเป็นวงดนตรีที่รวมตัวกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องชมรมดนตรี โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จังหวัดสมุทรปราการ พวกเขาทุ่มเทกับการซ้อมอยู่ 3 เดือน จากความผิดหวังในครั้งก่อน เป็นแรงผลักดันจึงอยากทำให้เต็มที่กว่าเดิมวงและด้วยดนตรีที่มีตัวตน ลายเซ็น และคาแรกเตอร์ไปทางดนตรีที่หนักในแนว Pop Rock ทำให้วงอรชรผ่านเข้ารอบไฟนอล รุ่นบุคคลทั่วไป จากสนามขอนแก่น

“ความพยายาม ความทุ่มเท ความเฟี้ยว…วงเราเฟี้ยวที่สุดในโรงเรียนแล้ว” คือคำนิยามสั้นๆ ของวงอรชรที่สมาชิกแนะนำตัวกับเราก่อนพูดคุยกันครั้งนี้

ก็คงจะจริงอย่างนั้น เพราะกรรมการเองก็ชมว่าพวกเขาเล่นได้สมศักดิ์ศรีของวงปิดท้ายบนเวทีในสนามขอนแก่น สำหรับ THE POWER BAND 2023 SEASON 3 เวทีประกวดดนตรีระดับประเทศ โดย คิง เพาเวอร์ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ที่ผนึกกำลังกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเวทีนี้เองที่วงอรชรสร้างความเป็นไปได้ให้สำเร็จ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้หลังจากที่เคยพลาดโอกาสมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา และอีกครั้งที่รอบคัดเลือกสนามกรุงเทพฯ ของในปีนี้

เมื่อรู้ผลว่าวงผ่านเข้ารอบกันเพียงหมาดๆ แบบเพิ่งลงจากเวที เรากับสมาชิกวงอรชรก็ได้เจอกัน “เหนื่อยไหม” เราอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเห็นวงอรชรปล่อยพลังกันเต็มเหนี่ยวแบบไม่มีกั๊กบนเวที

“ไม่เหนื่อยเลยพี่ ตอนนี้อะดรีนาลินกำลังหลั่ง มีความสุขสุดๆ” น้องๆ บอกแบบนั้น

 

คนละ “1 คำ” ถึง “ดนตรี”

เอิร์ก: ความคิดสร้างสรรค์
เปอร์เซนต์: ความสนุกสนาน
ไกด์: ความโหยหา
หมิง: ความสบายใจ
การ์ตูน: เซฟโซน
ไบท์: อารมณ์

วงอรชรรวมตัวกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องชมรมดนตรี โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จังหวัดสมุทรปราการ สืบทอดกันมากว่า 7 ปีแล้ว ทุกคนในโรงเรียนรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งมี การ์ตูน – ปิยะธิดา ประเสริฐพงษ์ (ร้องนำ) หมิง – กชวรรณ แตงสวัสดิ์ (คีย์บอร์ด) ไบท์ – ภาณุวัฒน์ คำนวนธรรมศาสตร์ (กีตาร์) เอิร์ก – ศรานนท์ พุ่มเรือง (กีตาร์) ไกด์ – กิตติภณ ศิริเถียร (เบส) และ เปอร์เซนต์ – วงศกร ทองเย็น (กลอง)

เปอร์เซ็นต์ (กลอง) – หมิง (คีย์บอร์ด) , การ์ตูน (ร้องนำ)

ไบท์ (กีตาร์) – ไกด์ (เบส) – เอิร์ก (กีตาร์)

สองสาวในวง…คนหนึ่งร้อง คนหนึ่งเล่นดนตรี การ์ตูนร้องเพลงมาตั้งแต่ประถม เริ่มจากร้องเพลงสากล ก่อนเปลี่ยนแนวไปร้องลูกทุ่ง เพลงแรกที่เธอฝึกคือ Roar ของ Katy Perry เป็นนักร้องของโรงเรียนมาก่อนรุ่นพี่มาชวนเข้าวง เธอชอบอยู่บนเวทีกับพี่ๆ มากกว่าร้องคนเดียว เพราะสามารถเล่นหรือปล่อยพลังได้เต็มที่

ในขณะที่หมิงเริ่มต้นทางนักดนตรีจากการเล่นอูคูเลเล่ จนครูเห็นแววด้านดนตรีแต่ชวนมาเล่นคีย์บอร์ด ให้ฝึกเพลง The Day You Went Away ของ M2M ช่วงม.ต้น หมิงไปโฟกัสในเรื่องอื่นจนไม่ได้เล่นดนตรีเลย จนมาอยู่ม.ปลาย ที่โรงเรียนนี้จึงได้เริ่มเล่นดนตรีอีกครั้ง

 

“เราเหนื่อยกับการซุ่มซ้อมมานาน ได้มาปลดปล่อยแบบนี้ก็พอใจมาก
สนุกสุดๆ Complete แล้วในชีวิตนี้ พอแสดงออกมาเป็นที่พอใจก็หายเหนื่อย หายท้อ”

วงอรชร สมุทรปราการ Class B
THE POWER BAND 2023 SEASON 3 สนามขอนแก่น

ส่วนสี่หนุ่มก็มีเรื่องทางดนตรีไม่เหมือนกันเลย อย่าง ไกด์ คือสมาชิกมือเบสรุ่นที่ 2 เริ่มเล่นดนตรีตอนป.6 และฝึกกีตาร์เป็นชิ้นแรกด้วยเพลงตลอดเวลาของพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ที่พ่อสอนเขาเล่นแค่เพลงเดียว จากนั้นไกด์ก็ฝึกเองและเมื่อประจำตำแหน่งเบส เขาก็ไม่ได้กลับไปจับกีตาร์อีกเลย

ต่างจากเรื่องราวของเปอร์เซนที่เป็นเด็กติดเกม พ่อเขาเลยโน้มน้าวให้ไปลองฝึกกลอง เขาใช้เพลงทางของฝุ่น ของอะตอม ชนกันต์ ในการเริ่มฝึก

ส่วนสองมือกีตาร์ของวง ไม่ว่าจะเป็นไบท์และเอิร์ก ต่างก็ได้รับอิทธิพลดนตรีมาจากพ่อเช่นกัน ของเอิร์กเริ่มสนใจดนตรีและฝึกกีตาร์มาตั้งแต่ป.3 เพราะพ่อเปิดเพลง Silly Fools กรอกหูเขามาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่พ่อของไบท์เปิดเพลง X  Japan ให้ฟังตอนเด็กๆ…ฮิเดะ วง X Japan จึงเป็นมือกีตาร์คนโปรดของเขา

 

ไอดอลของ “อรชร”

● ไกด์ มือเบส:
วงที่มีอิทธิพลกับเขามากในด้านการเล่นดนตรีในตอนเด็ก คือวง Silly Fools

● เปอร์เซนต์ กลอง:
ชัช วง Bodyslam เพราะเขาฟังเพลงยาพิษไปสักหนึ่งล้านรอบเห็นจะได้

● ไบท์ มือกีตาร์:
แจ็ค ธรรมรัตน์, ต้น Silly Fools และ Slash วง Guns N’ Roses

● เอิร์ก มือกีตาร์:
อยากเป็นเหมือนบอม ณัฐธีร์ แห่งวง Yes’sir days เพราะอยากเล่นกีตาร์ที่ไม่เหมือนใคร

เรียกข้าว่า “อรชร”

หลังรู้จักกับสมาชิกแล้ว ก็ถึงเวลาทำความรู้จักกับวงและตัวตนที่ชัดเจนของอรชรให้มากขึ้น ถึงแม้ความชอบหรือแนวทางในการฟังเพลงจะต่างกัน แต่ทุกคนรู้ดีว่าตัวตน ลายเซ็น และคาแรกเตอร์ของวงอรชรนั้นคือ ดนตรีที่หนักในแนว Pop Rock เหมือนกับเพลงที่เลือกมาประกวดคือเพลงพัง ของ Indigo และจงเรียกเธอว่านางพญา ของ Silly Fools

“วงเราจะเน้นสกิลและส่วนใหญ่จะทำเพลงที่หนักแน่น เราฝึกกันมาแบบนั้น อาจารย์ที่ดูแลพวกเราก็ถนัดทางนี้ เพลงและคาแรกเตอร์ของเราเลยออกมาเป็นแบบนี้” ไบท์เล่าให้ฟัง

แม้วันนี้อรชรจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแล้ว แต่พวกเขายังไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง “ผมว่าวงเรายังออกแบบโชว์ได้ไม่ดี นั่นคือจุดด้อยที่ผมอยากแก้ไข หลังจากนั้นผมก็พยายามเพิ่มแก๊กเล็กๆ ของวง และศึกษาไทมิ่งของคณะกรรมการ เพิ่มลูกเล่นและคาแรกเตอร์ให้ชัดมากขึ้น”

 

ไอดอลของ “อรชร”

● การ์ตูน นักร้อง:
อยากเป็นแบบวี วิโอเลต เพราะเธอไม่อยากดังแค่ในประเทศ แต่อยากดังไกลถึงต่างประเทศด้วย

● หมิง คีย์บอร์ด:
วงไททศมิตร เป็นไอดอลทั้งเรื่องการแสดงและความเป็นตัวเอง

 

จุดเปลี่ยนและ “เป็นไปได้” ของพวกเขา  

เคยทำไม้กลองหลุดมือบนเวทีในโชว์ครั้งแรก เปอร์เซนต์อายมากจนหมดไฟและหยุดเล่นไปถึง 2 ปี แต่ฟ้าเหมือนจะไม่ยอมให้เขาเลิกตีกลอง คลิปการแสดงกลองปรากฎเข้ามาในหน้าฟีดโซเชียลมีเดียบ่อยๆ เขาจึงอยากกลับมาเล่นกลองอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าโรงเรียนมีวงดนตรีเขาจึงมาสมัครเข้าวงพร้อมกับเอิร์ก

ในขณะที่เอิร์กอยากลองเล่นกลอง เพราะรู้สึกว่าได้ปลดปล่อยความรู้สึก…เวลาโมโหอะไรก็มาลงที่กลอง ม.1 เอิร์กได้ขึ้นเวทีครั้งแรก เขาฟังเพลงมากขึ้นพยายามค้นหาแนวเพลงที่ชอบ และอยากพัฒนาตัวเอง โดยมีสไตล์เป็นแนว Dream Theater หรือ Yngwie Malmsteen เป็นสายปั่น เน้นกีตาร์แนวโปรเกรสซีฟร็อก

หมิงกับการ์ตูนต่างก็ชอบฟังเพลงหลายแนว การ์ตูนชอบร้องตั้งแต่เพลงอีสานอินดี้ไปจนถึงแบบ บรูโน มาร์ส และเพลงของวง Tilly Birds ที่หนิงชอบมากก็จะเป็น Pop Rock เธอชอบวง Three Man Down ส่วนเพลงโปรดก็คือเพลงบรรยากาศของ Only Monday

การ์ตูนเล่นเครื่องดนตรีไม่เป็นสักอย่าง แต่เธอก็อยากลองเล่นทุกอย่าง เลยพยายามแอบเรียนรู้และฝึกจากพี่ๆ พอได้เข้าวงอรชรเธอก็เริ่มฟังเพลงที่มีซาวนด์หนักแน่นขึ้นจนชอบเพลงแนวนี้ไปแล้ว

อรชรทำให้พวกเขา “ดีขึ้น”

อยู่ในวงอรชรคือแรงบันดาลใจให้ไกด์พัฒนาฝีมือของตัวเองจริงจัง คือเมื่อได้ลงสนามแข่งขันเขาถึงรู้ตัวว่า “หลงรักดนตรีเข้าแล้ว” ในขณะที่ไกด์มองอนาคตไว้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเชฟที่ว่างมาเล่นดนตรี หรือเรียนต่อด้านนี้เพื่อเป็นครูสอนดนตรี หรือเป็นนักดนตรีไปเลย ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาอยากเรียนรู้ดนตรีให้มากที่สุด

ไกด์ยังบอกว่าเพลง Vintage Pic ของ Solitude Is Bliss ทำให้เขาร้องไห้ได้ เขารักวงนี้และรู้สึกว่านี่คือส่วนหนึ่งในตัวตนของเขา

สำหรับไบท์มีแอนิเมชันเรื่อง K-ON เคอง ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว เกี่ยวกับวงดนตรีของเด็กผู้หญิงมัธยมปลายก็เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ พอได้เล่นดนตรีก็ทำให้ไบท์รู้ว่า “เฮ้ย คนอย่างเราก็มีสาวมากรี๊ดได้นี่นา” ไบท์ไม่ได้อยากทำอาชีพด้านดนตรี แต่อยากให้เป็นงานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุข ไบท์บอกว่าปีที่แล้วเขาได้ฟังเพลงของวง Safeplanet จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป จากที่เคยฟังเพลงโหดๆ ว้ากๆ ก็มาเป็นเพลงหวานเจี๊ยบ และเพลงที่เข้ากับคาแรกเตอร์ของเขาที่สุดคือ เพลงดินแดน ของ Safeplanet

“ตอนนี้ผมรักดนตรีมากครับ” เปอร์เซนต์พูดเขินๆ เขาบอกว่าช่วงนี้ชอบฟังเพลง R&B หรือแจ๊ส และเพลงที่ทำให้เขาน้ำตาไหลเป็นกะละมังคือ เพลงทุกความทรงจำ ของ Only Monday พอได้ขึ้นเวทีบ่อยๆ เริ่มพัฒนาตัวเอง และคิดว่าจะเดินทางสายนี้อย่างจริงจัง

เหนื่อย ท้อ แต่ไม่ถอย  

สำหรับการประกวด THE POWER BAND ครั้งนี้พวกเขาทุ่มเทกับการซ้อมอยู่ 3 เดือน ความผิดหวังในครั้งก่อน เป็นแรงผลักดันจึงอยากทำให้เต็มที่กว่าเดิม

“เวทีปีที่แล้วเราไม่เข้ารอบ ก็มาแก้ไขกันเยอะ รอบนี้แก้กันจนนาทีสุดท้ายแบบซ้อมกันก่อนขึ้นเวทีเลย คราวที่แล้วลงใน Class A แต่ไม่ผ่าน คราวนี้ก็เลยอยากลองสมัคร Class B ดูบ้างครับ อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย” ไกด์เล่า แล้วพวกเขาก็ทำความฝันให้เป็นไปได้อย่างตั้งใจในครั้งที่พวกเขาเดิมพันและเสียสละทุกอย่างแล้ว

“เราพร้อมจะสละเวลาเรียนเพื่อมาซ้อมดนตรีเลยครับ” ไกด์ปิดฉากการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้พร้อมเสียงหัวเราะจากเพื่อนทั้งวง

ถ้าเห็นชื่อ “อรชร” ทำให้คิดถึงดาราตลกคนหนึ่งแล้วละก็…คุณมาถูกทางแล้ว
“ที่มาของชื่อวงก็คือรุ่นพี่เขาจะเข้าประกวดวงดนตรีแล้วยังตั้งชื่อวงไม่ได้สักที
พอดีอาจารย์ดูรายการตลกที่มี อรชร เชิญยิ้ม อยู่ เลยเอาชื่อมาใช้
วงก็คิดว่าชื่อนี้มันขลัง เพราะถูกใช้มาตลอดตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงตอนนี้” ไกด์เล่าให้ฟัง

 

Author

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว

Author

นักเล่าเรื่อง ผู้มีหนังสือและการเดินทางเป็นดั่งลมหายใจ นิยมชมชอบท้องฟ้า กาแฟ และแมว

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ