Summary
เดือดกว่าลาวา! ก็การแข่งขัน THE POWER BAND 2023 Season3 สนามนครปฐม สนามภูมิภาคแห่งสุดท้าย ก่อนจะไปต่อกันที่รอบชิงชนะเลิศนี่เอง…3+4 วงชนะจากทั้งสอง Class ของรอบนี้ มีไอเดีย มีความทุ่มเท…และมีเบื้องหลังของความสำเร็จกันอย่างไร Thaipower.co เก็บตกมาให้อ่านกันแบบครบๆ ทั้งอารมณ์ความรู้สึก หรือการเตรียมพร้อมในการขึ้นเวทีแบบโค้งสุดท้ายที่แรงดีไม่มีแผ่วกันเลยทีเดียว
การเฟ้นหาสุดเข้มข้นในรอบคัดเลือกของ THE POWER BAND 2023 Season 3 การประกวดวงดนตรีสากล โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ผนึกกำลังกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำของไทย ได้เดินทางมาถึงสนามนครปฐม…สนามสุดท้าย ซึ่งรวมสุดยอดวงจากภาคกลาง มาสาดฝีมือทางดนตรีใสกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
สนามนี้ต้องบอกว่าเดือดจัดกว่าลาวา! เพราะทุกวงปล่อยพลังฟาดกันแบบไม่มีคำวาเกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นจิ๋วอินเตอร์อย่าง ANT Band วงพี่วงน้องร่วมครอบครัวโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ อย่าง Pride และ Pham วงเพื่อนร่วมสถาบันดนตรีอย่างวงไข่ดาวและวงคนใดที่ถูกเจียว แถมยังมีวงรวมเจเนอเรชัน อย่าง อุดรพิทยานุกุล รวมทั้งอีกนับ 10 วงที่ต่างขึ้นเวทีปล่อยของไม่ยั้ง สร้างความปวดใจในการตัดสินให้กับคณะกรรมการทั้ง 3 ท่าน อย่าง อาจารย์เช่ – อัคราวิชญ์ พิริโยดม กับอาจารย์วิโรจน์ สถาปนาวัตร “อาจารย์แป๊ป” จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ พี่ติ๊ก – กฤษติกร พรสาธิต นักร้องวง Playground และผู้บริหารค่ายเพลง Home Run Music อย่างที่สุด
กว่ากรรมการจะตัดสินใจเลือก 7 วงให้ไปต่อในรอบชิงชนะเลิศได้ ซึ่งนับเป็นสนามเดียวที่มีวงได้รับเลือกแบบเต็มแมกซ์แบบจุกๆ ด้วยกันแบบ Class A 3 วง ส่วน Class B มีวงที่ผ่านเกณฑ์เข้ารอบทั้งหมดอีก 4 วงด้วยกัน โดยใน Class A วงแรกที่ได้เฮเข้ารอบสุดท้ายก่อนใคร ได้แก่ วง LYRE Band โรงเรียนดุริยางค์ทหารบก ที่ส่งโชว์สุดเนี้ยบ ระดับ อาจารย์แป๊ปและพี่ติ๊ก ขอชมคำเดียวกันว่า “เพอร์เฟกต์!”
“เราอยากให้เพลงแตกต่างจากต้นฉบับและเพิ่มสีสันจากเครื่องเป่าเข้าไป ดีใจที่ได้เล่นดนตรีด้วยกัน เราจะนำคอมเมนต์จากกรรมการไปปรับปรุง และสร้างสีสันใหม่ๆ ให้หลากหลายขึ้น ให้เห็นว่าทหารก็สามารถเดินออกจากกรอบและเป็นศิลปินได้” วง LYRE Band แสดงความรู้สึก
วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
CLASS A จากสนามนครปฐม ได้แก่
• วง LYRE Band (โรงเรียนดุริยางค์ทหารบก) กรุงเทพฯ
• วงไข่ดาว (โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล) นครปฐม
• วง ALICEMAN (สังกัดอิสระ) กรุงเทพฯ
ถัดมาคือ วงไข่ดาว จากโรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จังหวัดนครปฐม เจ้าถิ่นที่ปักหลักสู้ด้วยโชว์ที่มีความกดดันเป็นพลังขับเคลื่อน “แอบกดดันนิดหน่อย เพราะเป็นนักเรียนที่นี่ด้วย เราเลยใช้เวลาซ้อมนานเป็นเดือน พอลงมาจากเวทีรู้สึกว่าความเครียดหายไปหมดเลย ในรอบชิงชนะเลิศตั้งใจจะเล่นให้เฟอร์เฟกต์ หมายถึงที่เราต้องเล่นอะไรในเพลงจะไม่ให้พลาดอีก แต่เพอร์ฟอร์ม ก็ต้องออกมาสนุกและเข้ากับเพลง” วงไข่ดาว ถ่ายทอดความรู้สึกไว้
และสุดท้าย วงที่เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกต่างโรงเรียนเป็น วง ALICEMAN สังกัดอิสระ พวกเขามาชนะใจกรรมการด้วยโชว์ทีสร้างสรรค์และสะท้อนความเป็นตัวตนอย่างชัดเจน “บนเวทีสนุกมากครับ เหมือนได้อยู่กับตัวเองและปลดปล่อยได้เต็มที่ ภูมิใจที่เราทุกคนทำได้ดีกว่าตอนซ้อม พวกเราสนุกและดีใจที่ทำให้คนดูสนุกไปกับเราด้วยได้ ส่วนในรอบชิงชนะเลิศเราจะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้วงการดนตรีไทย รอชมได้เลยครับ” พวกเขาบอกกับเรา
Suggestion
วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
CLASS B จากสนามนครปฐม ได้แก่
• วง 01.00 p.m. (กรุงเทพฯ)
• วง Dachshund (กรุงเทพฯ)
• วง TOMs & JERRY (นครปฐม)
• วง อุดรพิทยานุกูล (อุดรธานี)
ทางด้าน Class B วง 01.00 p.m. เข้ารอบมาพร้อมโชว์สุดเข้มข้น จนอาจารย์แป๊ปชื่นชม “เขาผสมผสานหลากหลายแนวดนตรี ทั้งแจ็ส ป็อป ร็อก และโซล ผสมเพื่อให้เกิดฟิลลิ่งที่แตกต่างกัน นักร้องนำมีศักยภาพ ทักษะการเล่นดนตรีของวงมีมาตรฐาน ทำผลงานออกมาได้ดี”
ส่วนวง Dachshund มากับโชว์ที่ตรึงผู้ชมด้วยความหนักแน่น ระดับที่พี่ติ๊กทิ้งทุกอยางเพื่อหันมาดู “เป็นโชว์ทีหนักแน่นมากตั้งเมโลดี้แรก และเป็นโชว์ที่คลาดสายตาไม่ได้เลย”
“พวกเราเลือกเพลงที่ชอบ อยากให้เอามาทำเป็นเพลงเศร้าแบบรุนแรง” วง Dachshund สารภาพถึงความตั้งใจ “เรารื้อเพลงเขาหมดเลย จะไม่มีเค้าโครงเดิมของเพลงเลยนอกจากเนื้อร้อง คอร์ดก็ทำใหม่ ของเดิมเป็นป็อปธรรมดา เราเอามาทำเป็นเมทัลร็อก”
สำหรับวง TOMs & JERRY ที่พาผู้ชมเข้าไปสู่โลกแห่งดนตรีที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้น และนี่คือการแสดงหนึ่งเดียวของสนามนี้ที่อาจารย์เช่ ผู้ทำหน้าที่กรรมการแสนขึงขัง ได้ให้คำชมแบบไม่มีกั๊ก “นี่คือโชว์ที่มีมิติ ที่อินสไปร์ทั้งตัวผม ผู้เข้าแข่งขัน และทุกคน…เป็นโชว์ที่ความสร้างสรรค์ได้คะแนนเต็ม”
“วันนี้เราชนะ ไม่ว่าจะเข้ารอบหรือเปล่า แต่ที่กรรมการได้ฟัง เขาเก็ตเรา เราชนะแล้ว เราไม่ได้ทำเพลงโชว์เก่ง แต่เราพยายามหาสเปซที่จะถ่ายทอดบางสิ่ง ยิ่งกรรมการบอกว่าอยากฟังเราต่อ อยากเห็นเราเล่นอีกว่าจะพาไปในทิศทางไหน มันมีความสุขมาก” วง TOMs & JERRY น่าจะหายเหนื่อยจากการทุ่มเทซ้อมมาขึ้นเวทีกันก็ตอนนี้เอง “สิ่งที่เราเชื่อมันสามารถถ่ายทอดออกไปหาคนฟังได้จริงๆ แล้ว จากที่เหมือนคุยกันอยู่แค่ 5 คน ตอนนี้เหมือนคุยหลายคน และมีหลายคนเข้าใจที่เราพูดด้วย”
และสุดท้ายวงอุดรพิทยานุกูล จังหวัดอุดรธานี ที่น่าสนใจ วงที่เคยเข้ารอบชิงชนะเลิศมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ THE POWER BAND 2022 Season 2 ส่วนในปีนี้พวกเขาสู้ต่อจากที่เคยผ่านเข้ามาแล้วครั้งหนึ่งที่สนามขอนแก่นใน Class A จนทะลุมาสู่รอบคัดเลือกอีกครั้งที่การแข่งขันของสนามนี้ใน Class B …เราจึงได้เห็นอุดรพิทยานุกูลที่ต่างไปจากเดิม สมาชิกที่แตกต่างไป รวมทั้งยังได้สร้างความโดดเด่นด้วยการเพิ่มการร้องเพลงในแนวอาร์แอนด์บี จนได้รับคำชมจากกรรมการว่า “วงมีพัฒนาการขึ้นมา มีทีมเวิร์กที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และมีนักร้องนำชายที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เขามีศักยภาพที่น่าจะอยู่ในวงการดนตรีในอนาคตได้เลย” ในขณะที่วงอุดรพิทยานุกูลบอกไว้เพียงสั้นๆ บนเวทีว่าพวกเขาพอใจกับการทำเต็มที่ “การแสดงในวันนี้ถือว่าสัมฤทธิ์ผล พวกเราซ้อมกันมาอย่างไร ก็เล่นได้อย่างที่ซ้อมมา” อ่านบทความ PASSION ของวงอุดรพิทยานุกูล
วงทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาสู่รอบการแสดงสดครั้งนี้ แม้ว่าจะยังไม่ผ่านไปรอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ แต่ก็นับว่าพวกเขาสร้างความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นได้ขั้นหนึ่ง แบบ IT’S POSSIBLE, MUSIC MAKES LIFE POSSIBLE พลังแห่งดนตรี พลังแห่งทุกความเป็นไปได้ เพราะพวกเขาคือ 1 จาก 80 ผู้สมัครผ่านคลิปเข้ามาในรอบนี้แล้ว ทั้งวง 1852 (โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน) วง ANT Band (Harmon Music School) วง Pride (โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒) วงคนใดที่ถูกเจียว (โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล) ใน Class A และวง Happy Hour (นครปฐม) วง Pham (กรุงเทพฯ) วง Scalene (นครปฐม) และ วง Small Light (นนทบุรี) ใน Class B และยังต้องแสดงความยินดีกับ Popular Vote รางวัลพิเศษสำหรับ วง Zyren (โรงเรียนดรุณาราชบุรีวิเทศศึกษา) ราชบุรี ที่มีหลายคนติดตามกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งเคยขึ้นแสดงตอนเป็นวง Bussoap จากสนามขอนแก่น อ่านบทความแรงบันดาลใจของพวกเขา
Suggestion
จบจากช่วงลุ้นผลตัดสิน เข้าสู่ช่วงกรี๊ดกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินขวัญใจชาวเรา เวทีประกวดถูกเปลี่ยนไปเป็นการแสดงจากศิลปินอาชีพที่ทุกคนรอคอย ผู้ชมแน่นฮอลล์การแสดงจนล้นออกไปที่ด้านนอก ก่อนที่บนเวทีจะเริ่มต้นความสนุก ด้วยเสียงใสๆ ของ Bell Warisara ที่เตรียมหลายเพลงมาสร้างความคึกคัก ตามด้วยเพลงละมุนละไมจากคู่ดูโอ้ Serious Bacon หนึ่งในสองศิลปินตัวแทนโครงการของปีนี้ และก่อนจะปิดท้ายด้วยนักร้องหนุ่มกระแสแรง YourMOOD ทิ้งท้ายความประทับใจให้กับคนดูในค่ำคืนนั้น
วอร์มเสียงกรี๊ดกันให้ดีแล้วเตรียมพบกับ 32 วงดนตรีตัวแทนทั่วประเทศจากทุกสนามภูมิภาค ที่จะลงชิงชัยบนเวที THE POWER BAND 2023 Season 3 รอบชิงชนะเลิศ Class B (รุ่นบุคคลทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2566 และ Class A (รุ่นมัธยมศึกษา) วันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566 มาร่วมลุ้นกันว่าใครจะได้เป็นสุดยอดคลื่นลูกใหม่สู่การเป็นศิลปินมืออาชีพในปีนี้