Summary
เมื่อใดที่วงดนตรีสักวงอยากเป็น “แบบที่เขาเป็น” อยากบอก “แบบที่เขารู้สึก” เห็นว่า “ความแตกต่าง” เป็นเรื่องปกติ การเหมือนคนอื่นๆ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เมื่อนั้นคุณจะได้ฟังบทเพลงที่แตกต่าง ที่บอกเล่าความรู้สึกของเขาหวังเพียงให้คุณหันมาฟังและเข้าใจเขาสักนิด
และเมื่อใดที่คุณถูกดึงเข้าไปในมิติที่เขาสร้างขึ้น พร้อมหลับตาเป็นสุขไปกับบทเพลงของเขา เมื่อนั้น…เขาชนะแล้ว!!!
“อยากเล่นคอนเสิร์ตเล็กๆ เราอยู่ตรงกลางแล้วมีคนล้อมๆ เราฝันแค่นี้ ฝันถึงคนที่ชอบเรา รักเรา มาฟังกัน…แค่นี้เอง”
ฝันเล็กๆ ของหนุ่มสาวห้าคนที่เพิ่งสร้างภวังค์ในฮอลล์ที่มีคนดูหลายร้อยคน ดึงคนเข้าไปยังมิติและบรรยากาศที่เขาสร้างขึ้นใหม่ด้วยเสียงดนตรี
ผมลองหลับตาฟังบทเพลงนั้น “รู้สึกเหงาเท่าๆ กับมีความสุข”
มอค (กลอง) – บอร์น(คีย์บอร์ด) – เจอร์รี่ (ร้องนำ) – หมี (เบส) – เบนซ์ (กีตาร์)
“เราลองมาทำเพลงมาหลายแบบ แต่ไม่พอใจกันเสียที” เจอร์รี่ – กะรัต เกิดทะเล นักร้องนำ TOMs & JERRY เล่าให้ฟัง “เลยให้ทุกคนลองเล่นด้วยกัน…แบบเป็นตัวเอง…คิดแบบไหนก็เล่นแบบนั้น ลองดูว่าจะออกมายังไง”
ความงดงามของมิติในเสียงเพลงที่ TOMs & JERRY ได้ถ่ายทอดออกมา คงกระทบใจทุกคนในงานที่นครปฐม จัดโดย คิง เพาเวอร์ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลง อย่าง THE POWER BAND 2023 SEASON 3 สนามแข่งนครปฐม จนก้าวผ่านไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้ในที่สุด
“อยากดูต่อว่าเขาจะสร้างบรรยากาศแบบไหน อยากไปเที่ยวในสเปซนั้นอีกสักครั้ง” กรรมการเอ่ยทิ้งท้ายในวันนั้น
“เราต้องเชื่อในความแตกต่าง เชื่อไปจนกว่าคนอื่นจะเชื่อตามเรา
เพราะเป็นคนอื่นเป็นได้ไม่นาน แต่เป็นตัวเองเป็นได้ตลอดไป”
วง TOMs & JERRY
(Class B) สนามนครปฐม
“ทักทาย” ด้วย “คำลา”
“เล่นให้รู้สึก” มอค – อินทนนท์ กรัยวิเชียร มือกลองพูดเรียบนิ่ง
นั่นคือความโดดเด่นของ TOMs & JERRY คือเขานำเพลงมาตีความลงลึก พร้อมค้นลึกไปถึงความรู้สึกของตัวเอง แล้วถ่ายทอดความรู้สึกนั้นอย่างเป็นตัวเองที่สุด
“ฟังเพลง ลา ลา ลา ของ Dept กับ ลาก่อน ของ YourMOOD เราจะนึกต่อไปว่า มันเป็นการลาแบบไหน ลาแบบเขาตายไปแล้วหรือเปล่า จากลาแบบสว่างขึ้นสวรรค์หรือเปล่า เราจะคิดภาพตามไปให้รู้สึก” เจอร์รี่ย้อนไปตอนต้นของการทำเพลง เบนซ์ – กรวัฒน์ อรัณยะนาค มือกีตาร์เสริมต่อ “เราชอบเพลงต้นฉบับมากอยู่แล้ว แต่จะต่อยอดความชอบของเราไปต่อ เหมือนเราเอาเพลงเขามา แล้วเล่นเพลงเขาให้เป็นเรา”
แต่กว่าจะลงตัวในเรื่องการถ่ายทอด เขาต้องทำงานหนักกันพอดู จากเดิมที่มีสมาชิกสามคน เจอร์รี่ – เบนซ์ – มอค ต่างคนต่างมีงานประจำ มาลงมือซ้อมได้ช่วงสามทุ่มถึงตีสอง สิงสถิตกันอยู่ที่ห้องซ้อม The Black Box Music ย่านพระราม 9 แหล่งที่ทำให้ได้พบสมาชิกอีกสองคน
“เพราะผมนอนดึกครับ” หมี – ณัฐชนน แสงสุวรรณ มือเบสพูดติดตลก “ผมเคยซ้อมที่ห้องนั้น วันนั้นพี่เขาหามือเบสอยู่ เขาเห็นผมโพสต์ facebook ยังไม่นอน ก็เลยโทร.มาหาผม” จากนั้นหมีก็ชวน บอร์น – ธาดา ธรรมธาดาตระกูล มาช่วยเล่นคีย์บอร์ดให้วงสมบูรณ์ขึ้น “ผมเด็กที่สุดในวง แต่รู้สึกเติบโตขึ้นทุกครั้งเวลาเล่นด้วยกัน”
ทั้งหมดซ้อมด้วยกันอยู่นาน พยายามใส่ความ “เก๋า” “เท่” ให้เพลงได้โชว์สกิลทางดนตรี แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกดีกับสิ่งที่ทำ จนได้ลองปล่อยให้ทุกคนเล่นแบบเป็นตัวเอง
“เหมือนใช้ภาษาดนตรีคุยกัน เราจะรู้เองว่า ใครจะต้องมาเวลาไหน ใครเด่นในท่อนไหน และใครควรจะแผ่วยังไง” เบนซ์เองที่เป็นผู้เล่นเมโลดีผ่านเสียงกีตาร์ก็จะรู้ว่าตอนไหนที่ต้องผ่อนลงให้กลองได้นำวง กลายเป็นดนตรีที่เหมือนงาน Sound Design เป็นงานศิลปะที่ใช้พื้นที่ทางเสียงแสดงตัวตน
มีเสียงชื่นชมถึงการสร้างมิติและบรรยากาศที่แตกต่างไปจากบทเพลงดั้งเดิม ยึดแกนเป็นดนตรี Post – rock ที่ไม่ยึดถืออะไรตายตัว มีการใส่เสียงบรรยากาศ (ambience) เข้าไป บางจังหวะอาจแว่วเสียงลมพัด นกร้อง น้ำไหล และเปลี่ยนอารมณ์ของงานให้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ “เราพยายามเล่าเรื่อง ให้เหมือนหนัง” มือกลองเล่านุ่มๆ “มันจะค่อยๆ ดำเนินไปจนถึงจุดพีค แล้วเราก็จะวนไปต่อให้มีความดรามาติก ทำการสลับท่อนเพลง เพิ่มท่อนเข้าไปบ้าง โน้ตบางช่วงเราเพิ่มเข้าไปเพื่อนำพาความรู้สึกไปสู่อีกจุดหนึ่ง”
สร้างแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนที่ได้ฟังในวันนั้น
“เรามาถูกทางแล้ว เริ่มมีคนเข้าใจสิ่งที่เราคิด เราก็อยากจะทำให้ทุกคนรู้จักเรามากขึ้นไปอีก” เจอร์รี่ยิ้มอย่างมีความสุข
“เราพยายามจะเล่าเรื่องบางอย่าง
มีบรรยากาศร่วมกัน มีภาพเดียวกัน เราใช้ภาษาดนตรีคุยกัน”
วง TOMs & JERRY
(Class B) สนามนครปฐม
Suggestion
ส่วนผสมที่ลงตัว
หากต้องเลือกเพลงสักเพลงหรือวงสักวง แล้วอยู่กับมันตลอดไป…
มอค – ความหวังสุดท้ายในชีวิตถ้าจะเลือกได้ จะเลือกวิธีตายด้วยตัวเอง และขอเปิดเพลง Goodbye ของวง TOE ในงานศพ วงนี้เป็นวงญี่ปุ่น Post-rock ที่แทบไม่มีเนื้อร้อง ผมรู้สึกว่าเขาเล่นดนตรีด้วยวิญญาณ ราวกับเครื่องดนตรีเป็นอวัยวะหนึ่งของเขา แทบไม่ต้องคิด ไม่ต้องสั่งการ ถ้าต้องเลือกวงที่จะฟังไปตลอดชาติก็ TOE
เจอร์รี่ – เพลงที่ฟังบ่อย ฟังเกือบทุกวัน ฟังมาเป็นปีๆ แล้ว คือ Escape ของ Moving and Cut คือ มีคำที่เจอร์ชอบ “ฉันเพียงอยากขอ ช่วยทำให้ฉันหายไป หายไปในความฝันที่ไม่มีใครสนใจ อยู่ตรงนั้นคงงดงาม ฟ้าที่สีคราม ลมที่พัดผ่านไป” บางวันเราอาจแบกอะไรมากเสียจนอยากหายไปจากตรงนี้ อยากไปอยู่อีกดาวหนึ่ง ไปอยู่อีกที่หนึ่ง
เบนซ์ – จริง ๆ เพลงที่ผมรู้สึกและเพิ่งร้องไห้กับมันเลย คือ ความเยาว์ (Youth) ของ The Darkest Romance เขาเล่าผ่านมุมมองของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งตั้งแต่เด็กที่ไม่รู้ว่าโลกคืออะไร ดนตรี ambience แบบที่ชอบเลย แล้วมีช่วงเด็กโต ทำงาน บ้า…ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง…แล้วก็ (ดีดนิ้ว) ก็ต้องทำงานต่อไป สำหรับผมพอใส่หูฟังแล้วอยู่กับเพลงนี้น้ำตาไหลได้เลย
สักเพลงในใจ…ของพวกเขา
• มอค: “Goodbye” ของวง TOE
• เจอร์รี่: “Escape” ของ Moving and Cut
• หมี: เพลงของวง Penguin Villa
• บอร์น: “Make Me Cry” ของ Jacob Collier
• เบนซ์: “ความเยาว์ (Youth)” ของ The Darkest Romance
หมี – ผมชอบวง Penguin Villa เวลาฟังเพลงของพี่เจ (เจตมนต์ มละโยธา) แล้วรู้สึกอบอุ่น เพลงอะไรก็ได้เลยครับ เพลงของพี่เจมีความแตกต่างจากเพลงอื่นๆ มีบิดเมโลดี บิดคอร์ด มีความแปลกแต่กลมกล่อมลงตัว จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่ตอนไหนเหมือนกันนะครับ อยู่ดีๆ ก็เป็นอัลบั้มในเพลย์ลิสต์ แล้วก็เปิดฟังบ่อยๆ
บอร์น – ถ้าต้องเลือกหนึ่งเพลง จะเลือก Make Me Cry ของ Jacob Collier ผมรู้สึกว่าเขาเป็นศิลปินที่ beyond คำว่า ทฤษฎีไปแล้ว เขาทำทุกอย่างเพื่อ express อะไรบางอย่างที่เป็น Idea หรือ Emotion เขาใส่ใจกับการวางรายละเอียดในเพลง ทุกครั้งที่ฟังเพลงของเขาจะรู้สึกว่า สิ่งที่เขาต้องการจะสื่อถูกวางในพื้นที่ที่เหมาะเจาะ ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น
เห็นสิ่งที่ชอบ คงพอรู้ได้ว่า TOMs & JERRY เกิดจากส่วนผสมใดบ้าง
“ถ้าวันหนึ่งเราได้เป็นศิลปิน เราจะมีพื้นที่แสดงออกมากขึ้น
จะมีคนเข้าใจเรามากขึ้น เราคงฟินมากขึ้นเรื่อยๆ”
วง TOMs & JERRY
(Class B) สนามนครปฐม
Suggestion
มันต้องเป็น (ตัวเอง) ได้สิ
ในยุคที่นักดนตรีเกิดขึ้นมาได้ง่าย แต่ “ศิลปิน” ที่โดดเด่นท่ามกลางมหาสมุทรดนตรีช่างหายากยิ่ง เคยคิดกันบ้างไหมว่าวันหนึ่ง…จะเป็นไปได้
“อยากทำเพลงแบบที่เราเป็นกัน เราเป็นคนอื่นเป็นได้ไม่นานหรอกค่ะ” เบนซ์รีบเสริมคำของเจอร์รี่ “เราต้องเชื่อในความแตกต่างของเรา ถ้าวันหนึ่งเราไม่เชื่อ…แล้วยอมที่จะเหมือนคนอีกล้านคน สำหรับผมนั่นไม่ใช่ทางที่ดี”
ตกลง…จะมีวันนั้นไหม
“เราไม่ได้มีความคาดหวังสูง เพราะฉะนั้นการได้สร้างผลงานที่ตัวเองชอบ แล้วมีคนที่จะเข้าใจระดับหนึ่ง ก็รู้สึกดีมากกว่าที่คิดไว้ เพราะไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องสำเร็จยังไง” มอคยังคงยึดมั่นในแนวทางของตน
“ถึงแม้วันนี้จะไม่ชนะ แต่มีคนเข้าใจในสิ่งที่เราตั้งใจนำเสนอ สำหรับผม…นั่นคือเราชนะแล้ว มันทำให้เรารู้สึกว่า ถูกต้องแล้วที่เราเชื่อแบบนี้”
อย่างน้อยวันนี้ คุณก็ไม่ได้คุยกันอยู่แค่ห้าคน^^
ติดตามภารกิจพิชิตฝันของ TOMs & JERRY ได้ที่ THE POWER BAND 2023 THE SERIES EP. 9