Summary
วงที่ใช้ความรักในดนตรีและมิตรภาพในการรวมตัวกันเพื่อถ่ายทอดบทเพลง ตัดสินใจเข้าแข่งขันด้วยหวังจะเพิ่มดีกรีในการเล่นดนตรีให้กับตัวเอง พวกเขาใช้ “ความสุข” สารตั้งต้นในการเล่นดนตรี โดยปรารถนาที่จะส่งต่อความสุขนั้นสู่ผู้ชมของพวกเขา และแม้ 5 หนุ่มจะเป็นนักดนตรีอาชีพกันอยู่แล้ว แต่ยังต้องการพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ…อย่างมีเป้าหมาย
งานนี้มีเสียน้ำตา! เมื่อสิ้นเสียงประกาศชื่อวงที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นวงสุดท้ายใน Class B ของสนามเชียงใหม่ ได้แก่ วง UnToxic สมาชิกทุกคนกระโดดดีใจและวิ่งขึ้นไปบนเวที
ฟรองซ์น้องเล็กของวงถึงกับร้องไห้ออกมา เพราะว่าเวที THE POWER BAND 2023 SEASON 3 เวทีประกวดดนตรีระดับประเทศ จัดโดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย แห่งนี้ เป็นเวทีประกวดครั้งแรกของเขา น้ำตาจึงเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความดีใจได้เป็นอย่างดี…เมื่อฝันของวงเป็นไปได้จริง
UnToxic รวมตัวกันเพื่อเข้าประกวดงานนี้เป็นการเฉพาะกิจ เพราะสมาชิกทั้ง 5 คน ได้แก่ บอม – ภัคภูมิ ถาวรรักษ์ (กีตาร์) สนุกเกอร์ – ดลพัฒน์ หาญกล้า (ร้องนำ) ฟรองซ์ – ธนดล คำใส (กลอง) น้ำพุ – ณภัทร ศรีไทย (คีย์บอร์ด) เน็ต – ภานุวัฒน์ ศุภวงค์ (เบส) เล่นดนตรีกันเป็นงานประจำอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่ทำให้วงมาประกวดคือ “เราไม่ได้ประกวดกันนานแล้ว ปกติเล่นกลางคืนกันก็เฉยๆ เราอยากได้ความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนที่เราเคยประกวดกลับมาเพื่อเติมไฟให้ชีวิตอีกครั้งหนึ่ง” น้ำพุบอกแบบนั้น
บอมผู้เห็นประกาศรับสมัครคนแรกและชักชวนเพื่อนๆ จนกลายมาเป็นวง UnToxic เสริมว่า “เวที THE POWER BAND เป็นเวทีที่พวกเราตามหามานาน เพราะเวทีประกวดส่วนใหญ่จะจำกัดอายุ แต่เวทีนี้เป็นเวทีเปิด พวกเราเลยสนใจ”
“แนวคิดในการทำเพลงคือเราอยากให้คนฟังแปลกใจว่า นี่คือเพลงนี้เหรอ
เนื้อเพลงเดียวกัน แต่ดนตรีคนละแบบเลย เหมือนกำลังฟังอีกเพลง
พวกเราชอบท้าทายตัวเอง อะไรที่มันยากเราจะทำให้มันได้”
วง UnToxic (ลำพูน) Class B
THE POWER BAND SEASON 3 สนามเชียงใหม่
ความยากที่เจอตั้งแต่เริ่มต้น
การทำตามฝันและเข้าประกวดอีกครั้ง UnToxic ก็ประสบปัญหาคลาสสิกตั้งแต่เริ่มคือเรื่องเวลา เพราะการตามหาสมาชิก เลือกเพลง ทำเพลง รวมไปถึงการซ้อม พวกเขามีเวลาเพียง 1 เดือน! แถมซ้อมกันได้แค่อาทิตย์ละวัน วงเลยจะได้ซ้อมแค่ 4 ครั้งก่อนขึ้นเวที… แต่โชว์บนเวทีของพวกเขาไม่ได้บ่งบอกถึงสิ่งเหล่านั้นเลย ถึงขั้นกรรมการเอ่ยชมว่า การแสดงดูลงตัว เข้าขากันเป็นอย่างดี และดูมืออาชีพมากๆ…
“เรามีงานประจำที่ต้องแบ่งเวลาให้ดี การจะทำให้วงแข็งแรงหรือประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งคือเรื่องของเวลา การคุยกันให้เข้าใจและไปในทิศทางเดียวกัน” เน็ตเล่าให้ฟังตรงๆ ถึงปัญหาของวง
บอมเสริมว่า “สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่สุดคือ การที่เรารวมตัวกันนี่แหละ เรามีเวลาแค่เดือนเดียว แต่มันก็เป็นไปได้แล้ว และความชอบของแต่ละคนก็ต่างกัน เรา 5 คนต้องมาจูนกันให้อยู่ตรงกลางในจุดที่ทุกคนมีความสุข”
ฟรองซ์ (กลอง) – บอม (กีตาร์)
“คำชมจากกรรมการทำให้รู้สึกว่าเพลงที่เลือกมานั้นถูกต้องแล้ว ภูมิใจกับเพลงที่เลือกมา ตอนทำเพลงกันก็ไม่ได้คิดว่าจะมีคอมเมนต์แบบนี้ ทำไปเพราะคิดว่ามันสนุกเท่านั้นเอง รู้สึกดีที่กรรมการเห็นความตั้งใจของเรา” สนุกเกอร์บอกความรู้สึกหลังโชว์และได้ฟังความเห็นจากกรรมการ
Q: อะไรคือเสน่ห์ของ UnToxic?
A: น่าจะเป็นเรื่องความพร้อมเพรียง ดนตรีที่หนักหน่วงและมีสัดส่วนที่ดี การเรียบเรียงดนตรีที่ไพเราะ
เสียงร้องที่มีเสน่ห์ ดนตรีของเราอาจไม่ได้ยากอะไร แต่ก็เป็นเพลงที่ลงตัว
Suggestion
บันไดมีกี่ขั้นก็จะเดินขึ้นไป
ทุกวันนี้สมาชิกของ UnToxic ได้เล่นดนตรีที่พวกเขารักอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ยังบอกตัวเองเสมอว่า ไม่ว่าจะมีบันไดอีกสักกี่ขั้นพวกเขาก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ
แม้ว่าจะเล่นดนตรีอาชีพมา 20 ปีแล้ว แต่บอมก็ยังพร้อมที่จะไปต่อ “ทุกวันนี้ได้เป็นนักดนตรีก็ถือว่าความฝันสำเร็จแล้วในส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ถึงจุดสูงสุดเท่าที่เราต้องการ ถ้าสามารถไปต่อได้เราก็อยากไปให้ไกลกว่านี้”
เน็ต (เบส) – น้ำพุ (คีย์บอร์ด)
เน็ตมองว่าการเดินทางร่วมกับดนตรีนั้นมาถึงครึ่งชีวิตแล้ว แต่เขาก็ยังไม่หยุด “การได้เล่นดนตรี ได้เป็นนักดนตรี คือความสำเร็จแรก ถ้าสุดท้ายแล้วเราเป็นที่รู้จัก ก็น่าจะสำเร็จไปอีกจุดหนึ่ง ความสำเร็จอาจไม่ใช่หัวใจหลัก แต่อย่างไรเราก็จะก้าวไปข้างหน้าอยู่ดี”
UnToxic ขอบอกตัวตนผ่านบทเพลง
• เพลงคืนนี้ ของ The Parkinson – สนุกเกอร์
• เพลงความเชื่อ ของ Bodyslam – บอม
• เพลงเรือเล็กควรออกจากฝั่ง ของ Bodyslam – ฟรองซ์
• เพลงรักแรกพบ ของ Tattoo Colour – น้ำพุ
• เพลงศรัทธา ของหินเหล็กไฟ …ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา – เน็ต
สนุกเกอร์ (ร้องนำ)
ความคาดหวัง & ความฝัน
เชื่อว่าทุกวงที่เข้าร่วมในเวทีแห่งนี้มีความฝันไม่ต่างกัน รวมถึง UnToxic ด้วย พวกเขายังมีประกายความฝันเล็กๆ ที่ฝังอยู่ในใจลึกๆ ที่ยังไม่เคยมอดดับไป รอคอยการประทุขึ้นมาเสมอ พวกเขายังอยากไปให้ถึง ณ จุดที่หวังกันเอาไว้
บอมเป็นคนแรกที่เล่าความฝันในใจให้เราฟัง “ผมคาดหวังสิ่งแรกเลยคือ อยากจะผ่านรอบคลิปเพื่อมาแสดงสด ถ้าเราทำเพลงมาแล้วไม่ได้แสดงให้คนอื่นดูมันก็ไม่มีประโยชน์ แต่เป้าหมายจริงๆ เราทุกคนก็อยากเป็นศิลปิน อยากไปอยู่ในจุดที่ผมอยู่บนเวทีแล้วคนเขาตั้งใจมาดูเรา ไม่ใช่เล่นอยู่ที่ร้านเหล้าแล้วเขามาเที่ยว ถึงมาเจอเรา”
สนุกเกอร์ใช้ช่วงกลางวันเป็นข้าราชการนั่งเขียนรายงาน ชีวิตอีกด้านของเขาคือนักดนตรีกลางคืน “คิดว่าชีวิตผมไม่เหมาะกับการจับปากกา เหมาะกับการจับไมค์มากกว่า และความสำเร็จสำหรับผมคือมีเพลงแล้วคนรู้จักเพลงของผม”
ฟรองซ์แม้จะพูดน้อยแต่ความฝันของเขาก็ไม่เล็ก “ผมก็อยากเป็นนักดนตรี เพราะดูแล้วว่าตัวเองทำอย่างอื่นไม่เก่งเลย เก่งอยู่อย่างเดียว”
“ความฝันของผมมาถึงจุดที่ตัวเองพอใจแล้ว ผมมีความสุขกับการเล่นดนตรี ได้อยู่กับเสียงดนตรีก็ดีใจแล้ว แต่ในใจลึกๆ ถ้ามันมีทางให้ไปต่อผมก็อยากจะไปให้ถึงตรงนั้น” น้ำพุผู้ที่ความฝันพาเขาเดินทางมาถึงจุดที่เขามีความสุขแล้วเล่า
ถึงทีเน็ตมองความฝันและชีวิตที่ผ่านมาของเขาบ้าง “โอกาสที่เคยคิดว่าจะได้รับ เราพลาดมาเยอะ ประกวดมาเยอะ รางวัลก็เคยได้ แต่สุดท้ายเราก็ยังไปไม่ถึงในจุดที่อยากจะเป็น ปัจจุบันเราอยู่กับดนตรีได้ ไม่ได้หายไปจากดนตรี ความฝันของผมก็แค่อยากจะเล่นดนตรีแบบนี้ต่อไป แล้วก็สร้างผลงานของตัวเองให้คนชื่นชอบในตัวเรา”
Q: เพลงอะไรที่ช่วงนี้ UnToxic เล่นบ่อยสุด?
A: เพลงรักแรก ของ นนท์ ธนนท์ พวกเราชอบกันมาก มือคีย์บอร์ดก็ชอบเล่นเพลงนี้
ไม่รู้ว่ามีอะไรในใจหรือเปล่านะ
บอมยังเล่าถึงความตั้งใจในรอบชิงชนะเลิศที่เป็นอีกหนึ่งความฝันอันใกล้ของ UnToxic “เราเตรียมเพลงไว้แล้วตั้งแต่รอบแรก มองข้ามช็อตไปเลยว่าทำครั้งเดียว ถ้าผ่านก็คือผ่านเลย ไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร อีกเพลงเป็นเพลงแต่งเองที่จะเอาตัวตนของวงใส่เข้าไป คนเล่นต้องสนุก คนฟังก็ต้องสนุกด้วย เราทำงานกลางคืนมาจะเห็นว่าเล่นแบบไหนคนถึงจะสนุก ก็เก็บประสบการณ์ตรงนั้นมาใช้ในโชว์ เอนเตอร์เทนทั้งตัวเราเองและลูกค้า เอ้ย ผู้ชมครับ” นี่ตอบด้วยความเคยชินหรือความงงกันนะ อยู่ๆ เรากลายเป็นลูกค้าไปแล้ว เพื่อนๆ ฮากันครืนเลยตรงนี้
สุดท้ายนี้ UnToxic ฝากเราบอกถึงทุกคนที่อยากเล่นดนตรีว่า “คนที่อยากเล่นดนตรีก็หยิบมาเล่นเลย ลองเล่น ลองฝึก ไม่นานไอ้ที่เราลองเล่นมันจะพัฒนาเอง เราโตขึ้นการฝึกมันก็จะโตตามเราไปด้วย ฝึกบ่อยๆ เราก็จะเก่งขึ้น จากนั้นก็จะเล่นดนตรีได้ตามที่ต้องการ” บอมส่งท้ายว่า “ชอบอะไรทำแบบนั้นครับ มั่นใจในตัวเองหน่อย ว่าเราทำได้”
Suggestion
ความในใจจาก UnToxic
“พวกเราเป็นนักดนตรีกลางคืน คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเรามันร้าย เป็นคนเจ้าชู้
เพราะอยู่กับแสงสีและแอลกอฮอล์ เขาคิดว่านักดนตรีไม่ดีหรอกหรือมีแฟนเป็นนักดนตรีเจ้าชู้จะตาย
เราอยากบอกว่า พวกเราไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะครับ เราเล่นดนตรีกันเพราะมันคือการทำงาน
เราชอบเสียงเพลง เราชอบเล่นดนตรีก็แค่นั้น นักดนตรีก็ไม่ได้ร้ายเสมอไป”
