Passion

คว้าทุกโอกาสไว้ แล้วไปให้สุด!
แบบ “บอย พิษณุ”

อณิศา จิตตภานันท์ 26 Mar 2024
Views: 619

Summary

ศิลปินคนแรกที่จุดประกายความฝันในการเป็นนักร้องสำหรับบอย คือ เจ เจตริน วรรธนะสิน ในอนาคตนอกจากเขาอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว ยังมีเป้าหมายที่จะเป็น “คนแก่ที่ดูดี” ชื่อช่องทาง YouTube ว่า “Bradboy” มาจากความอยากเท่เหมือนแบรต พิตต์ บวกกับลุคแบดบอยของตัวเอง เลยลงตัวที่ “แบรดบอย”

หนุ่มคนนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างของคนที่เห็นคุณค่าของคำว่า “โอกาส” และไม่เคยปล่อยให้ทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิตหลุดลอยไปสักครั้ง

จากธงในใจของ บอย – ภิษณุ จุฑานิ่มสกุล หรือที่คุ้นเคยกันดีในชื่อ พิษณุ นิ่มสกุล ที่ตั้งไว้ว่า “อยากมีชีวิตที่ดีและสักวันจะต้องประสบความสำเร็จในการร้องเพลง” เส้นทางชีวิตที่ออกจะขรุขระอยู่บ้างในบางช่วง ถึงจะล้มบ้างลุกบ้างแต่ไม่เคยทำให้เป้าหมายในชีวิตเปลี่ยน ความตั้งใจที่อยากมีชีวิตที่ดีเป็นแรงผลักดันให้เขาเปิดรับทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิตและทำทุกอย่างเต็มที่เสมอ

“ทุกคนมีโอกาสไม่เท่ากัน แต่ต้องรักตัวเองและวิ่งไปหาเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้

ทำให้เต็มที่ไว้ก่อน อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป

บอย – พิษณุ นิ่มสกุล

 

กว่าจะเป็นบอยในวันนี้

ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่โตมากับยายและน้า จุดเริ่มต้นในการร้องเพลงมาจากที่ผมชอบศิลปินคนหนึ่ง ทั้งฟังเพลง ตามไปดูคอนเสิร์ต แล้วก็หัดร้องเพลงตามเขา จนได้ย้ายมาอยู่กับคุณแม่ที่กรุงเทพฯ ด้วยความที่บ้านเราไม่ได้ฐานะดี เรียกว่าระดับกลางถึงล่างก็ได้ แม้จะอยู่กับคุณแม่แต่เราก็ต้องดูแลตัวเอง ทำให้ผมคิดเสมอว่าอยากมีชีวิตที่ดี

ผมอยู่ในยุคที่ผู้ใหญ่ปูทางด้านการเรียนไว้ให้ซึ่งมันดีนะ แต่เรารู้ตัวว่าเรียนไม่เก่ง ผมชอบทำกิจกรรม เล่นกีฬา ร้องเพลงมากกว่า พอถึงจุดหนึ่งเรารู้สึกว่าไม่อยากขอเงินคุณแม่แล้ว เลยออกมาใช้ชีวิตของตัวเอง อยากทำสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วก็เป็นนักร้องกลางคืนไปด้วย คิดว่าวันหนึ่งต้องประสบความสำเร็จในการร้องเพลงให้ได้ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ผมเคยไปแคสติง ไปอยู่โมเดลลิ่ง ไปออดิชันตามค่ายเพลงต่างๆ แต่ก็เฟล ผิดหวังอยู่พักใหญ่ที่พยายามแล้วแต่ไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการ จนเริ่มเบื่อกับการทำงานกลางคืนที่ทำให้สุขภาพเราโทรม

 

ตั้งเป้าหมาย แล้วคว้าไว้ทุกโอกาส

ช่วงที่ร้องเพลงกลางคืน ผมมีโอกาสได้ไปออกอัลบั้มแนวเพลงอินดี้ แต่มันเฟลเพราะมันไม่ใช่แนวเพลงที่ผมถนัด ถ้ามันเป็น “โอกาส” ผมจะไม่ให้มันหลุดไป ทำได้หรือไม่ได้ขอให้ลองก่อน เลยเป็นจุดเริ่มต้นในการทำอัลบั้มนั้น

ขอบคุณภาพจาก บอย พิษณุ

ตอนนั้นผมก็กลับมาร้องเพลงกลางคืนอีก แล้วก็กลับไปเรียนมหา’ลัย พอไปเรียนได้สัก 2 ปี มีประกวด AF ซีซัน 2 ที่เราเคยนั่งดูจากทีวี ในชีวิตผมไม่เคยประกวดอะไรเลย ถึงจะชอบร้องเพลงแต่ไม่เคยผ่านเวทีอะไรเลย เลยถามตัวเองว่าลองดูไหม เพราะตอนนั้นอายุ 27 แล้วเขารับอายุไม่เกิน 28 ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่มีบอยในวันนี้ แรงบันดาลใจทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะเราอยากเป็น เราเชื่อว่าเราทำได้ เราเชื่อว่าวันหนึ่งต้องประสบความสำเร็จ ทั้งๆ ที่ระยะทางมันทำให้เราล้มมาเยอะ เราผิดหวังมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่เราอยากสู้ให้เต็มที่จะได้ไม่รู้สึกเสียใจเมื่อเวลาผ่านไป สุดท้ายก็ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้ออกอัลบั้ม ได้เป็นนักร้องอย่างที่อยากเป็น

ดนตรีไม่เคยหายไปไหน ปีนี้จะกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง

ผมหยุดร้องเพลงมา 7-8 ปีแล้ว แต่ปีนี้ผมมีแพลนที่จะทำเพลงอีกครั้ง ที่ผมหยุดร้องเพลงก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ ตั้งแต่ผมเป็น AF ผมร้องเพลงมาเยอะมาก มีเพลงเกือบ 40 เพลง แต่ไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกเพลง ถ้าเพลงที่วิทยุเปิดบ่อยและคนรู้จักคือ อยากบอกเธอเหลือเกิน

ในปีนี้ผมอยากมีเพลงของตัวเองอีกสักครั้ง แล้วเราจะลงทุนกับมันเองไม่ต้องมีค่าย เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เรายังโชคดีที่มีสื่อในมือ มีช่อง YouTube  มี Instagram และ TikTok ของเราเอง ดนตรีในตัวเราไม่ได้หายไปไหนครับ เพียงแค่รอจังหวะ รอโอกาส ผมคิดว่าจะทำภายในต้นปีนี้ แต่ยังไม่รู้จะเสร็จทันไหม

ขอบคุณภาพจาก บอย พิษณุ

 

ดูแลตัวเองเพราะเคารพในงาน

ผมเริ่มเล่นฟิตเนสมาตั้งแต่อายุ 20 เล่นจนรู้สึกว่าติดการออกกำลังกาย แล้วก็เล่นบาส สควอช ปิงปอง ว่ายน้ำ วอลเลย์บอล และกอล์ฟ รู้สึกว่าพอเหงื่อออกแล้วมีความสุข เรามีเป้าหมายว่าตอนนี้เราอายุเยอะแล้ว มีครอบครัวมีลูกแล้ว เราไม่อยากเป็นคนแก่ที่ไม่ได้ดูแลตัวเอง เลยตั้งเป้าไว้เลยว่าอีก 3 เดือนเราจะมีซิกซ์แพ็ก…จะมีหุ่นลีนให้ได้

จุดเริ่มต้นมีแค่ “ความอยากชนะใจตัวเอง” ว่าต้องมีหุ่นดีสักครั้ง เพราะผมยังเคารพในงาน เป็นแพสชันในการดูแลตัวเองเพราะมันคือสิ่งที่เราอยากได้มาทั้งชีวิต เมื่อได้โอกาสมาก็ต้องรักษาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราไม่อยากเป็นคนแก่ที่ไม่ดูแลตัวเอง โอกาสการทำงานก็จะหายไปด้วย

ขอบคุณภาพจาก บอย พิษณุ

 

ชาเลนจ์ตัวเองด้วยการขึ้นเวทีชกมวย

ชาเลนจ์ตัวเองมากกก (น้ำเสียงหนักแน่นสุดๆ) เพราะผมไม่ชอบการต่อยตี ไม่ชอบการใช้กำลัง แต่เมื่อมีโอกาสเราจะไม่ทำเหรอ? กลับไปที่โอกาสอีกแล้ว (หัวเราะ)

จะมีสักกี่ครั้งที่รายการทีวีทำมาเพื่อให้นักแสดงมาต่อยกันบนเวทีโดยมีโพรดักชัน มีการซัปพอร์ต แพ้ชนะผมไม่สนใจ ผมชนะใจตัวเองที่ผมลองทำ ผมยืนครบ 3 ยก ทั้งๆ ที่เราจะล้มมวยก็ได้ เพราะยกสองผมเหนื่อยมาก ตอนต่อยจริงไม่เหมือนตอนซ้อมแต่ก็ยืนครบยก ถึงแพ้แต่แฮปปี ถือว่าเราใช้โอกาสที่เข้ามาแล้วสนุกกับมัน

 

เริ่มชอบบ้างหรือยัง

หลังจากนั้น ผมรู้สึกได้เลยว่า…ถ้าจะมาเชิญกูอีก กูไม่ไปแล้วนะ (หัวเราะดังมาก) ตอบตัวเองได้เลย  ไม่เอาแล้ว เราได้ลองแล้ว มันก็ได้ออกกำลังกายได้เบิร์นนะ แต่มันไม่ใช่ทาง หลังจากนั้นคิดเยอะเลยทีนี้ คู่ต่อๆ ไปมีจมูกหักมั่ง แขนหักมั่ง เราเลยเฮ้ย มันไม่ต้องถึงขนาดนั้นมั้ง เราไปทำอย่างอื่นก็ได้ ไปเล่นละครไปเล่นตลกก็ได้เงินเท่ากันนะ

บทบาท YouTuber ช่อง Bradboy กับดราม่าว่าจะเลิกทำ

ตอนนั้นมันรู้สึกท้อจริงๆ ครับ ผมทำช่องมาเกือบ 4 ปีตั้งแต่มีโควิดใหม่ๆ แล้วมันก็ดีมาตลอด แต่ช่วงหลังๆ ยอดวิวตกลงเรื่อยๆ เพราะอัลกอริทึมเปลี่ยน จากยอดหลายแสนเหลือหมื่น เราก็นอยด์ว่าถ้าทำไปแล้วไม่มีคนเห็นจะทำไปทำไม ตกผลึกตัวเองอยู่พักใหญ่ว่าจะทำต่อไปไหม

สุดท้ายตัดสินใจทำต่อเพราะเรายังมีกำลังใจจากคนดู ผมถือว่าโชคดีมากที่ช่องผมมีดราม่าน้อยมาก หลายๆ คอมเมนต์ก็บอกว่าถ้าเหนื่อยหยุดก่อนก็ได้ หรือเก็บเป็นโมเมนต์กับลูกไหม วันหนึ่งถ้าเขามาเห็น เขาจะรู้ว่าพ่อรักเขาแบบนี้ เป็นทุกโมเมนต์ของชีวิตลูกเรา อันนี้ยิ่งเป็นแรงใจที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันก็จริง เป็นโมเมนต์ที่จะเก็บไว้ให้เฟรยา (ลูกสาว) เพราะเราเริ่มมาจากศูนย์ จริงๆ แล้วเราก็มีความสุขที่ได้ทำ

ขอบคุณภาพจาก บอย พิษณุ

 

ครอบครัวเป็นอีกหนึ่งหน่วยซัปพอร์ต

ผมไม่เคยฝันเลยว่าจะมีลูก แต่เฟรยามาเติมเต็มชีวิตให้ผมได้มีแรง ที่ผ่านมาผมเคยรู้สึกเบื่อ ชีวิตมีแค่ทำงานกลับบ้านวนอยู่แบบนี้ สิ่งที่เราไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตเรามีหมดแล้ว เคยคิดเหมือนกันว่าจริงๆ กูตายแล้วก็ได้นะชีวิตมันครบแล้ว จากคนที่กินมาม่า เงินเดือนชนเดือน เราประสบความสำเร็จในชีวิตระดับหนึ่งแล้ว พอแต่งงานก็อยากมีลูกแต่ไม่มี จนเรายอมแพ้ไปแล้ว

เฟรยามาเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมกลับมามีแรงอีกครั้งที่จะมีชีวิตให้ยาวนานที่สุด เพราะเรามีความรับผิดชอบใหม่ที่โคตรยิ่งใหญ่ เขาคือคนที่ทำให้เราเปลี่ยน เรามีชีวิตใหม่ที่มีความสุขในอีกแบบหนึ่ง ทุกวันนี้ผมเลยไม่ท้อ แค่เป็นคนที่จะคิดแบบ…เฮ้ยชีวิตช่วงนี้ทำยังไงดีวะ ช่วงนี้งานน้อยวะ เดี๋ยวโรงเรียนต้องจ่ายตังค์แล้ว กลายเป็นคนที่คิดไปหมด ทำให้เราต้องแอ็กทิฟตัวเอง เมื่อก่อนปล่อยเรื่อยอะไรก็ได้ แต่ตอนนี้ไปวางแผนหาอะไรทำมากขึ้น

 

บทบาทพิธีกรครั้งล่าสุด

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ไปเป็นพิธีกรในงาน LCFC x BAN KHAO TAO COLLECTION ที่ คิง เพาเวอร์ นำผ้าทอของชาวบ้านเขาเต่ามาออกแบบให้กับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นการนำภูมิปัญญาของไทยไปสู่ระดับสากล ผ้าไทยพอถูกดีไซน์ให้มีคอนเซปต์ มีคัตติ้งดีๆ แล้วมันสวย กลายเป็นสตรีตแวร์ที่ใส่ได้ตลอด ทั้งๆ ที่เราคงไม่ไปใส่ผ้าซิ่นหรือผ้าไหมในชีวิตประจำวัน แต่พอมาอยู่บนเสื้อที่ออกแบบมาใหม่ให้มี      อัตลักษณ์ไทยกลายเป็นสามารถใส่เดินถนนได้ ผมว่าเป็นโครงการที่เจ๋งจริงๆ และอยากให้ คิง เพาเวอร์ ทำโครงการแบบนี้ไปยาวๆ เพราะผมว่าประเทศไทยยังมีสินค้าชุมชนที่ดี แต่ยังไม่ได้ถูกเอามาพัฒนาอีกเยอะครับ

 

Quote กำลังใจจาก “แบรดบอย”

• วันนี้อาจจะไม่ใช่โอกาสของเรา แต่ขอให้สู้จนถึงที่สุด ถ้าตั้งใจและไม่ปล่อยโอกาส สักวันคุณก็ต้องทำได้

• เด็กบ้านนอกอย่างผมยังประสบความสำเร็จได้เลย แล้วคนที่มีโอกาสมากกว่าผมทำไมจะทำไม่ได้ มันอยู่ที่จังหวะและช่วงชีวิตเท่านั้นเอง

• ทุกคนรอบตัวคือไอดอลของผมหมด เราแค่เลือกเอาสิ่งดีๆ ของแต่ละคนมาเป็นแรงผลักดันแล้วทำให้ได้อย่างเขา

• ความอยากเป็นอย่างคนอื่นต้องไม่ได้เกิดจากความอิจฉา แต่เอาเขามาเป็นแรงบันดาลใจแล้วทำให้ชีวิตเราดีขึ้น

 

ชมบทบาทพิธีกรของบอย พิษณุ เปิดตัว LCFC BAN KHAO TAO COLLECTION

Author

อณิศา จิตตภานันท์

Author

เด็กบัญชีผู้รักตัวหนังสือมากกว่าตัวเลข เริ่มต้นเขียนจากอ่านเยอะแล้วอยากเล่า หลงเสน่ห์จานชามวินเทจและแคคตัส มีความสุขกับอาหารอร่อยและการเดินทาง