Summary
BLACK COFFEE วงสุดเฟี้ยวจากนครราชสีมา ที่เดินทางไกลเพื่อตามหาฝัน ส่งมอบความสุขและความบันเทิงให้ผู้ชมผ่านดนตรีของพวกเขา วงนี้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มามากมาย วันนี้พวกเขาพร้อมแล้วสำหรับเวที THE POWER BAND 2024 SEASON 4 ถือเป็นการเดินทางที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ไปรู้จักกับพวกเขากัน
อารมณ์ สีสัน และบรรยากาศของเวทีการประกวด THE POWER BAND 2024 SEASON 4 ที่จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปลี่ยนไปทันทีเมื่อ วง BLACK COFFEE เริ่มโชว์บนเวที ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหน หรือทำอะไรอยู่ เราเชื่อว่าคุณจะต้องหยุดแล้วหันมามองวงนี้แน่นอน มีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถดึงดูดใจทุกคนได้
เพลงที่เร้าใจเถิดเทิงทิงนองนอย เสียงดนตรีและเครื่องเป่าจะไปกระตุกเส้นให้คุณอยากโยก อยากขยับเนื้อตัว โบกไม้โบกมือ และมีรอยยิ้มไปกับดนตรีที่พวกเขาบรรเลง นี่แหละวัตถุประสงค์หลักของวง BLACK COFFEE เลย การเล่นดนตรีให้ทุกคนมีความสุข เพราะพวกเขามีความสุขสุดๆ ที่ได้เล่นดนตรี
“ฝากถึงทุกคนเลยว่า เล่นดนตรีให้มีความสุข
เราเชื่อในเรื่องความสุข เพราะดนตรีแปลว่าความสุข”
วง BLACK COFFEE รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ
(Professional Class : Road to Artist)
THE POWER BAND 2024 SEASON 4 สนามกรุงเทพมหานคร
วงนี้มีสมาชิกถึง 12 คน แบบเต็มสตรีม เต็มทั้งสมาชิก คุณภาพ รวมไปถึงเสียงดนตรีที่พวกเขาส่งมา มีใครบ้าง ไปรู้จักพวกเขากัน ออร์แกน – รัชตะ ศรีพูน (กลอง) โอชิ – ชวดล อิ่มกมล (กีตาร์) ปกป้อง – อมรวุฒิก์ ถันลานันท์ (คีย์บอร์ด) เฟรม – สิทธิพล คนขยัน (เบส) เบิ้ลเอ – อดิเทพ นาดี (ทรัมเป็ต) ออร์แกน – ปิติชัย เดชะสุนทราพัชร์ (ร้องนำ) กล้า – กฤตยชญ์ แก้วฝ่ายนอก (เพอร์คัชชัน) มังกร – มังกร ปัญญาว่อง (เทเนอร์ แซกโซโฟน) ขวัญ – เขมิกา จอมศรี (อัลโต แซกโซโฟน) ทิว – คูณธนาโชค ผานิล (ทรัมเป็ต) พี – พีรวิชญ์ มาวงษ์นอก (ทรอมโบน) และ แซ็ก – ก้องภัค ศรีพูน (อัลโต แซกโซโฟน)
แต่กว่าจะมีวันนี้ กว่าจะมีความสุขแบบนี้ วง BLACK COFFEE ก็ต้องฝ่าเรื่องราวดราม่ามาไม่น้อย เนื่องจากมีสมาชิกจำนวนมาก ทางวงเลยส่งตัวแทนมาคุยกับเรา 6 คน ได้แก่ ออร์แกน (ร้องนำ) กับนักดนตรี อย่าง ขวัญ กล้า ปกป้อง ทิว และพี…ไปฟังเรื่องราว สนุกๆ ความฝัน แรงบันดาลใจ ไปจนถึงเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาของพวกเขากันดีกว่า
ฝ่าดราม่า…กว่าจะมีวันนี้
วงนี้รวมตัวกันมาได้หลายปี ทุกคนเป็นเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่โรงเรียนบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ใครเรียนจบก็หาคนใหม่มาแทน ในโรงเรียนมีวงโยธวาทิตและวงดนตรีลูกทุ่งอยู่แล้ว เมื่อคุณครูฟอร์มวงสตริงขึ้น จึงชักชวนเด็กที่สนใจและคนที่เล่นดนตรีอยู่แล้วมารวมวงกัน วงมีการออกงานและประกวดกันมาตลอด ซ้อมก็หนัก บางทีก็ต้องมาค้างมากินนอนอยู่ที่โรงเรียน หลายคนจึงมีปัญหากับทางบ้านบ้าง
“พอต้องมาค้างที่โรงเรียน พ่อกับแม่ก็ไม่เข้าใจว่าลูกจะไปนอนได้อย่างไร เล่นดนตรีทำไมต้องนอนโรงเรียน” ออร์แกนเล่าให้ฟัง “และยังมีเรื่องการเงิน และเวลาเรียนด้วย พอเราเป็นเด็กกิจกรรม เราก็ต้องสละเวลามากกว่าคนอื่น บางคนไม่มีเวลาทำการบ้าน บางคนทะเลาะกับพ่อแม่เรื่องเล่นดนตรี แต่สุดท้ายแล้ว เราพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า เราสามารถทำอะไรได้ ใช้ดนตรีหากินได้”
ชีวิตพีก็ไม่ต่างกัน “ถึงผมจะอยู่กับดนตรีมาตลอด พอต้องซ้อมเยอะ อยู่โรงเรียนเป็นเดือนๆ ที่บ้านก็ไม่เข้าใจว่าไปอยู่ทำไม เกิดประโยชน์อะไร ทำไมไม่ช่วยงานที่บ้าน”
แม่ของปกป้องที่อยากให้ลูกเป็นวิศวกร “ตอนผมขึ้น ม.4 แม่ให้เรียนสายวิทย์ ให้ผมไปเรียนพิเศษ ผมต้องแบ่งเวลามาซ้อมดนตรีด้วย เลยขัดแย้งกัน แม่อยากเห็นลูกชายใส่หมวกขาว แต่ตอนนี้ผมก็ใส่หมวกขาวนะ หมวกขาววงโยฯ มีพู่ด้วย (ฮ่า ฮ่า) พอวงไปได้แชมป์กลับมา แม่ก็ยอมรับมากขึ้น”
ซ้ายไปขวา: เฟรม (เบส) ปกป้อง (คีย์บอร์ด) กล้า (เพอร์คัสชัน) ออร์แกน (กลอง) โอชิ (กีตาร์)
ออร์แกน (ร้องนำ)
ในขณะที่เรื่องของกล้านั้นเกิดจากความรู้สึกของตัวเอง “ผมเคยรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ากับวง มันมีช่วงที่ผมยังไม่ใช่ตัวจริงของวง ผมอยากเล่นดนตรีมาก แต่เมื่อไหร่จะได้เล่น ผมท้อมาก เลยโทร.ไปคุยกับที่บ้านว่าออกดีไหม แต่พ่อกับแม่บอกว่าให้อดทนไปก่อน เดี๋ยวมันก็มีวันที่ดีของเรา จนถึงวันที่เราซ้อมวงลูกทุ่งกันแล้วมีเพลงชมทุ่ง ทำให้ไฟในตัวผมลุกอีกครั้ง มันปลุกสัญชาตญาณ ผมเล่นจนทุกคนยอมรับ ผมเลยรู้สึกขอบคุณตัวเองที่อดทนมาจนถึงจุดนี้ได้”
แอบมีเรื่องความรักของกล้าด้วยนะ “ผมเคยตีเพอร์คัชชันจีบสาว ผมส่งคลิปให้เขาดู เขาพิมพ์ตอบกลับมาว่า เพลงเพราะดีนะ แต่เรากลัวเธอตบเราจนหัวหลุด” เป็นอันจบข่าวกัน แต่ใครจะสำเร็จแบบปกป้องล่ะ “ตอนอยู่ ม.6 ไหนๆ ก็จะจบแล้ว ผมก็ลองใช้ดนตรีจีบสาวดูบ้าง สำเร็จด้วย เขาก็มีความสุขไปด้วยเวลาที่เราขึ้นเวที”
ทิวก็โดนคนอื่นดูถูก “ตอนแรกที่ผมเข้าวง มีรุ่นพี่บอกว่าจะเล่นไปทำไม เล่นดนตรีแล้วไม่มีเวลาเรียน ไม่มีอนาคต ผมก็ไม่สนใจ แต่คิดในใจว่าถ้าวันไหนผมสำเร็จขึ้นมา ผมก็จะรอดูเขาบ้าง” เคียดแค้นนะเนี่ย
ซ้ายไปขวา: ขวัญ (อัลโต แซกโซโฟน) มังกร(เทเนอร์แซกโซโฟน) ทิว (ทรัมเป็ต) พี (ทรอมโบน) แซ็ก (อัลโตแซกโซโฟน)
แถวล่าง: เบิ้ลเอ (ทรัมเป็ต)
ส่วนขวัญไม่ค่อยมีเรื่องดราม่านัก เพราะถ้าเป็นเรื่องไม่ดี เธอเลือกจะตัดทิ้งและทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุขมากกว่า “ถึงคนอื่นจะไม่เข้าใจสิ่งที่เราทำ แค่เราเข้าใจตัวเองว่าเราต้องการอะไรและกำลังทำอะไรอยู่ ทำตรงนั้นให้มีความสุขก็พอ”
กว่าจะมาถึงวันที่เล่นดนตรีอย่างมีความสุขแบบนี้ คงเดินทางผ่านทุ่งน้ำตากันมาไม่น้อย
เพลงแรกที่ซ้อมในวันนั้น สู่เพลงโปรดในวันนี้
ของตัวแทน BLACK COFFEE แต่ละคน
ออร์แกน: เพลงจูบ ของ Jetset’er → เพลงขอให้ผม ของ โยคี เพลย์บอย
ขวัญ: เพลงคืนนี้ ของ Jetset’er → เพลงก้อนหินละเมอ ของ Soul After Six
กล้า: เพลงชมทุ่ง ของ เพลิน พรหมแดน → เพลงนักวิเคราะห์ ของ Crescendo
Suggestion
ถึงเวลาแล้วสำหรับเวทีนี้
แม้จะเดินสายประกวดกันมาหลายปี แต่ปีนี้พวกเขาพร้อมแล้วที่จะมายืนอย่างภาคภูมิใจบนเวที THE POWER BAND 2024 SEASON 4
“ทุกปีวงเราต้องมีการประกวดรายการใหญ่ เราค่อยๆ ขยับมาเรื่อยๆ จนมาถึง THE POWER BAND ที่นี่เราเป็นตัวเองได้ เราเล่นดนตรีด้วยความสุข และเราอยากมอบความสุขนี้ให้คนอื่น เราเลยมาประกวด THE POWER BAND 2024 SEASON 4 เพราะสนามแห่งนี้ เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี ตั้งแต่เดินเข้างานมา ใจผมก็มาเต็มแล้วครับ” ออร์แกนตอบเราว่าทำไมต้อง THE POWER BAND
ส่วนพีก็มีความฝันบนเวทีนี้ “ผมหวังว่าอยากถ่ายทอดบทเพลงให้คนได้ฟัง เราเล่นดนตรีให้คนสนุกไปเลย ถ้าได้เข้ารอบเราก็จะไปถ่ายทอดความสนุกให้คนได้เห็นต่อไปว่า BLACK COFFEE มีลายเซ็นแบบนี้”
ออร์แกนเสริมว่า “BLACK COFFEE คือ BLACK COFFEE ครับ”
ส่วนปกป้องขอแค่เอาไปขิงลูกได้ “การที่ผมเข้ามาประกวดในรายการนี้ สามารถเล่าให้ลูกให้หลานฟังได้ว่า ฉันเองนี่แหละ คนโคราชที่ได้มาแข่งขันรายการ THE POWER BAND ฉันดีใจเด้ที่ได้มา…ลูกว่าพ่อเท่ไหม”
ทิวปิดท้ายว่า “มันเป็นรายการใหญ่ในประเทศ เราดูกันมาหลายปี ครั้งหนึ่งเราก็อยากมาอยู่ใน THE POWER BAND บ้าง”
เพลงแรกที่ซ้อมในวันนั้น สู่เพลงโปรดในวันนี้
ของตัวแทน BLACK COFFEE แต่ละคน
ปกป้อง: เพลงใจสั่งมา ของ เสก โลโซ → เพลงเวลาเธอยิ้ม ของ POLYCAT
ทิว: เพลงชาติไทย → เพลงภาพฝันในจักรวาล ของ เขียนไขและวานิช
พี: เพลงคนมีเสน่ห์ ของ ป้าง นครินทร์ → เพลงรักจริงจัง ของ Pause
Let the Music Power Your World
จากวันที่เริ่มรู้จักดนตรี จนมาถึงวันที่พวกเขาเล่นดนตรีเพื่อให้ตัวเองและผู้ฟังมีความสุข หลายปีผันผ่านดนตรีเปลี่ยนโลกและตัวตนของทุกคนไม่น้อย รวมถึงทำทุกอย่างได้แบบที่ไม่เคยคาดว่าจะทำได้ด้วย
ขวัญบอกว่า “ดนตรีช่วยให้คนเรามีความสุข เวลาเล่นดนตรีก็มีความสุข บางคนเหนื่อยๆ พอฟังเพลงก็รู้สึกดีขึ้น ช่วยปลอบโยนเรา เปลี่ยนโลกของเราไปได้เยอะ”
“ดนตรีเป็นสิ่งที่เราสัมผัสไม่ได้แต่รับรู้ว่ามีอยู่ ทำให้เราใจเต้น ใจฟู ดนตรีมีผลต่อจิตใจและอารมณ์มากสำหรับคนที่เล่นดนตรี ดนตรีเป็น Fantastic แบบว่าเราทำได้ เราสร้างดนตรีและดนตรีก็สร้างเราขึ้นมา” กล้าเชื่อแบบนั้น
ส่วนตัวของปกป้องก็เปลี่ยนไป “ผมเคยเป็นเด็กติดเกมจนได้มารู้จักกับดนตรี พ่อกับแม่เห็นผมจับเครื่องดนตรีเขาก็สนับสนุน ซื้อเครื่องดนตรีให้เลย อยากเรียนมหาวิทยาลัยดีๆ ก็สนับสนุน ถ้าไม่ได้มาสายดนตรีผมอาจจะเป็นเด็กเกเรไปแล้ว ไม่เรียน เล่นแต่เกม พอรู้จักดนตรีกลายเป็นว่าวันๆ อยู่กับดนตรี”
ออร์แกนกล่าวในนามวงว่า “BLACK COFFEE อยากส่งความสุขให้คนฟังให้มากที่สุด เพราะเราถือว่าดนตรีคือความสุข สโลแกนเราคือ เล่นดนตรีให้มีความสุข”
ปิดท้ายแบบ…เฉียบบบบบบ
ก่อนจะจบเรื่องราวความสนุกในวันนี้ ขอคำคมปิดท้ายจากทุกคนหน่อย
กล้า: “ดนตรีสร้างเรา เราสร้างดนตรี”
ปกป้อง: “ผมเชื่อคำพูดของพ่อที่ว่า อย่าสร้างศัตรูให้ตัวเอง”
ออร์แกน: “เล่นดนตรีให้มีความสุข แล้วให้เวลาเป็นตัวกำหนด”
ทิว: “อย่าไปเชื่อคำคนอื่น ถ้าตัวเองยังไม่เคยลองทำ”
ขวัญ: “อย่าไปสนใจในสิ่งที่คนอื่นพูด เราเน้นความสุขจากสิ่งที่เราทำ”
พี: ถ้าบ่ซ้อม มึงก็บ่เก่งจักเทื่อดอก อีหลีซะ
(แปลได้ว่า ถ้าไม่ซ้อมก็จะไม่เก่งสักที จริงๆ นะ)
การเดินทางไกลยังไม่จบลงแค่นี้ พวกเขายังมีพลังและแรงใจในการทำในสิ่งที่รักต่อไปเรื่อยๆ มาร่วมส่งกำลังใจให้วงนี้กันเถอะ และจำชื่อนี้ไว้ให้ดีนะคะ เพราะในอนาคตเราอาจจะได้เจอศิลปินที่ชื่อว่า วง BLACK COFFEE ก็เป็นได้