Summary
ชวนทำความรู้จัก “อาจารย์นก” แห่ง Vocal Clinic ที่ THE POWER BAND MUSIC CAMP 2024 เธอคือนักร้องรางวัลประกวดระดับ “แชมป์โลก” หลายรางวัลจากความมุ่งมั่น มาเป็น “โค้ช” ครั้งแรกที่นี่…ถ่ายทอดประสบการณ์และติวการร้องเพลงให้กับวงประกวดผู้ผ่านเข้ารอบของโครงการเท่านั้นที่จะได้ “ตั๋วสำคัญ” เข้ามาเวิร์กช็อปนั้น
ไม่ได้ต้องการแค่เป็นนักร้องหรือศิลปินดัง แต่เป้าหมายสูงสุดของคุณนก – พริมาภา กรโรจนชวิน คือการเป็น “นักร้องแชมป์โลก !!” เธอจึงทุ่มเทฝึกและมุ่งแข่งขันเวทีต่างๆ ตั้งแต่เด็ก จนได้เป็น “แชมป์โลก” สมตั้งใจ นอกจากความสำเร็จส่วนตัว คุณนกยังอยากเป็นแรงบันดาลใจ ที่พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ เพื่อสร้างนักร้องรุ่นใหม่ให้ก้าวไกลในเวทีระดับโลกเช่นเดียวกัน
บนเส้นทางความสำเร็จในอาชีพนักร้องที่ไม่ได้เริ่มจากความบังเอิญ แต่มันคือการฝึกฝนและความพยายามที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่เด็ก การได้มาสำหรับรางวัลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รองชนะเลิศอันดับ 2 Asia New Singer, แชมป์ KPN Award 2009 และได้ร่วมร้องเพลงกับนักร้องระดับโลก อย่าง เดวิด ฟอสเตอร์ รองแชมป์ White Nights International Music Festival Saint Petersburg 2017 หรือผลงานอีกมากมาย
อาจดูเป็นภาพยิ่งใหญ่สำหรับหลายคน แต่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของเป้าหมายที่ไกลกว่า คือการคว้ารางวัล Solo Senior Vocalist บนเวที World Championships of Performing Arts 2024 มาอยู่ในมือได้สำเร็จ !!
“นกได้แชมป์โลกตอนอายุ 41 แต่เด็กๆ ที่นกสอนไป อาจจะได้แชมป์โลกพรุ่งนี้ก็ได้
ถ้าเขาเอาความรู้ที่นกแชร์ไปใช้ในทางที่ถูกต้อง …เชื่อว่าเด็กๆ เขาจะต้องเก่งกว่าเรา
และมันจะพาวงการดนตรีบ้านเราให้ไปไกลระดับโลก มันจะไม่ใช่เรื่องยาก”
นก – พริมาภา กรโรจนชวิน
ศิลปิน, วิทยากร THE POWER BAND MUSIC CAMP 2024
ถ้านิยามความเป็น “นก พริมาภา” ให้เห็นภาพ
นี่คือ 5 สิ่งในตัวตนที่ชัดเจน
• นักสู้ที่ไม่ยอมแพ้
• นักร้องที่มีเป้าหมายระดับโลก
• ศิลปินผู้เป็นแรงบันดาลใจให้นักร้องรุ่นใหม่
• บุคคลที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นและวินัยสูง
• กล้าฝันและทำตามฝันของตัวเองจนสำเร็จ
ขอบคุณภาพจากคุณนก พริมาภา
จากเด็กหญิงผู้หลงรักเสียงเพลง การร้องเพลงไม่ใช่แค่การแสดงออกถึงความสุข แต่มันคือการเปิดเผยตัวตนที่เป็น ในขณะที่เด็กคนอื่นอาจมองว่า “ศิลปิน” คือความฝันลมๆ แล้งๆ แต่คุณนกกลับเลือกที่จะเดินไปบนเส้นทางที่เลือกอย่างมุ่งมั่น
✔ จะเป็นนักร้องต้องมี Vocal Technique ที่ดี
ต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรงที่สุด
ทำได้ดีตั้งแต่เด็กคือการร้องเพลง
“จริงๆ เราก็เติบโต และถูกเลี้ยงดูมาแบบธรรมชาตินั่นแหละ ชอบร้องเพลง ชอบเต้นตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเราถูกคอนเฟิร์มจากคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือคนครูที่โรงเรียนว่าทำตรงนี้ได้ดี และมันก็ได้รับการคอนเฟิร์มเมื่อเติบโตขึ้นเรื่อยๆว่า ‘เอ๊ะ ! เราทำตรงนี้ได้ดีกว่าคนอื่นๆ นี่นา ทำไมเพื่อนในห้องถึงทำอย่างเราไม่ได้’ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรขนาดนั้นนะคะ แค่เราเป็นคนที่ถูกเลือกให้ไปทำกิจกรรมของห้อง ของโรงเรียนอะไรพวกนี้เยอะกว่าคนปกติ
แต่มันมีจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ตอนช่วง ม.ต้น ที่จะข้ามไป ม.ปลาย นกเรียนสายวิทย์ – คณิตมา แต่เกรดเฉลี่ยเราไม่แตะถึงเลข 2 ทั้งๆ ที่เราทำเต็มที่แล้ว ‘เราก็ตั้งใจเรียนนะ’ จนมารู้สึกตัวว่า มันไม่น่าจะใช่แนวของเราแล้ว กระทั่งวันหนึ่งไปเห็นโบรชัวร์ในห้องแนะแนว ของวิทยาลัยนาฏศิลป์ ลพบุรี ความรู้สึกในวันนั้น คือ ‘มันต้องใช่เราแน่นอน !’ ก็เลยไปบอกป๊าขอย้ายโรงเรียน (หัวเราะ) ซึ่งที่บ้านเขาน่ารักตรงที่เขาไม่ได้สนับสนุนอะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้กีดกัน ป๊าก็พาขับรถไปสมัครเรียนทันที”
ขอบคุณภาพจากคุณนก พริมาภา
คุณนกย้อนเรื่องราวในวัยเด็ก ถึงจุดเปลี่ยนจากเด็กสายเรียนที่หักมุมมาสู่เส้นทางดนตรี แม้ช่วงแรกจะยังไม่ได้มาแบบสายตรงเสียทีเดียว แต่ก็เป็นเสมือนประตูบานใหม่ ที่เปิดให้เห็นตัวตนในเวลาต่อมา “ตอนนั้นตัดสินใจเรียนรำอยู่ 3 ปี เพราะคิดว่านี่แหละทางของฉันแน่นอน ก็เรียนรำตอน ม. 4 ถึง ม. 6 ซึ่งวิทยาลัยก็จะมีการรับงานนอกเพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกงานไปในตัว ตอนนั้นนกเองก็ทั้งร้องเพลงแล้วก็รำ ทำทั้งสองอย่างควบคู่กัน แต่แอบรู้สึกว่าทำไมรำแล้วมันได้เบี้ยเลี้ยงน้อยจังเลย (หัวเราะ) ในขณะที่ฝั่งร้องเพลงเบี้ยเลี้ยงมากกว่า ก็เลยเริ่มมุ่งไปร้องเพลงแบบจริงๆ จังๆ มาตั้งแต่นั้น”
✔นักร้องขึ้นเวทีประกวด
ควรต้องเลือกเพลงที่จะลงแข่งให้ถูกต้อง
ขอบคุณภาพจากคุณนก พริมาภา
Suggestion
ขับเคลื่อนความฝันที่เวทีประกวด
หลังตัดสินใจเป็นนักร้อง คุณนกเริ่มทำกิจกรรมต่างๆ ทางการร้องเพลงควบคู่ไปกับการเรียน กระทั่งสอบเข้าสาขาดนตรี ที่มหาวิทยาลัยจันทร์เกษม คุณนกก็เริ่มมีฝันที่อยากจะเข้าประกวด KPN Award แบบจริงจัง เธอทุ่มเทกับเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมุ่งมั่น “จริงๆ นกเคยเข้าประกวดตั้งแต่ปี 2005 แต่ปีนั้นนกแค่เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย แล้วนกก็มาประกวดอีกครั้งในปี 2009 ซึ่งในปี 2009 เราเริ่มมีการเตรียมตัวมากขึ้น และปีนั้นนกได้เป็นแชมป์ มันเลยเป็นการการันตีให้กับเราว่า นี่แหละคืออาชีพ !”
ขอบคุณภาพจากคุณนก พริมาภา
และการได้ไปประกวดร้องเพลง ถือเป็นประสบการณ์จริงที่ได้อะไรมากกว่าในห้องเรียน “เวทีประกวดร้องเพลง มันมีอะไรอย่างอื่นที่ภาคดนตรีไม่ได้สอนเรา อย่างเช่น การแต่งตัว การเพอร์ฟอร์ม อายคอนแท็กต์ การแสดงบนเวที เพราะฉะนั้น เราต้องออกมาหาเอาข้างนอก การประกวดเลยมีส่วนช่วยมาก การเรียนในมหาวิทยาลัย ถ้าตก อย่างน้อยก็ได้ F ก็แค่ลงเรียนใหม่ ไม่มีใครมาตัดสินเรา แต่ประกวดมันมีแค่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น นั่นคือข้อที่หนึ่ง ส่วนข้อที่สอง ได้รับถ้วยพระราชทาน แล้วข้อที่สาม หนึ่งปีมันจะมีแค่คนเดียวที่เป็นแชมป์ มันก็คือหนึ่งในร้อย หนึ่งในล้านจริงๆ นกเลยตั้งใจมากๆ ค่ะ”
✔ต้องวางเกมเป็น อ่านคู่แข่งเป็น วิเคราะห์กรรมการเป็น
คืออีกเทคนิคประสบความสำเร็จในการประกวด
สู่เส้นทางของนักร้องแชมป์โลก !!
ชีวิตหลังการเป็นแชมป์ KPN Award คุณนกเล่าว่า พอเรียนจบก็ยึดอาชีพนักร้องกลางคืนเป็นหลัก “นกรู้สึกว่าอาชีพนักร้องมันได้ตังค์เร็วนะคะ เราเลยจะยึดอาชีพนี้แหละเพราะมันได้ตังค์เยอะ (หัวเราะ) มันทำให้เราดูแลพ่อแม่ ดูแลคนในครอบครัวเราได้สบายๆ พอย้อนกลับไปที่ความฝันในวันนั้น นกรู้สึกว่านกไม่ได้อยากเป็นนักร้องดัง นกไม่ได้อยากมีอัลบั้ม นกไม่ได้อยากเป็นศิลปิน นกอยากเป็นแชมป์ ! แค่นี้จริงๆ”
จากความฝันตรงนั้น คุณนกตัดสินใจเติมไฟให้ตัวเอง ด้วยการเข้าประกวดร้องเพลงในรายการ World Championship of Performing Arts 2016 ช่วงไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาเพื่อท้าทายตัวเอง แม้ปีนั้นจะตกรอบเพราะเตรียมตัวไม่พอและยังไม่รู้เทคนิคการประกวดเท่าไร แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจสั่นคลอน “ตอนนั้นเราก็จำเอาไว้ อ๋อ ความรู้สึกมันเป็นแบบนี้ วิธีการประกวดมันเป็นแบบนี้ รายการนี้มันโหดตรงที่เขามีเวลาให้แค่ 1 นาที โชว์ความสามารถให้เต็มที่เลยค่ะ แล้วเราจะเอาท่อนไหนดี จะตัด Backing Track ยังไง เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย” ด้วยประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้จากการประกวดครั้งนั้น คุณนกได้นำกลับมาฝึกฝนตัวเองอย่างมุ่งมั่น พร้อมเติมความมั่นใจด้วยการไปประกวดรายการ White Nights International Music Festival Saint Petersburg 2017 ในปีถัดมา จนได้ตำแหน่งรองแชมป์ และอีก 8 ปีให้หลัง เธอก็กลับไปเวที World Championship of Performing Arts อีกครั้ง พร้อมคว้าการเป็นแชมป์โลก ปี 2024 มาได้สำเร็จตามเป้าหมาย
เคล็ดลับ “ฉบับแชมป์โลก”
สำหรับเตรียมตัวไว้แข่งร้องเพลงเวทีนี้หรือเวทีไหนๆ
• ต้องมี Vocal เทคนิคที่ดี
• ต้องแข็งแรงมากๆ
เพราะเวลาเดินทางไปแข่งที่ต่างประเทศ
ต้องเกิดอาการ Jet Lag
ฉะนั้นต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรงที่สุด
• ต้องเลือกเพลงที่จะลงแข่งให้ถูกต้อง
(คุณนกเสริมว่า จากการวิเคราะห์เพลงที่เลือกไปแข่ง
เวทีนี้ต้องการเพลงที่เป็น vibe + เพลงเศร้ามักจะไม่เข้ารอบ
ฉะนั้นไม่ต้องอัดเทคนิค ไม่ต้องตะโกน ร้องสบายๆ ให้เป็นธรรมชาติ)
• ต้องวางเกมเป็น อ่านคู่แข่งเป็น
วิเคราะห์กรรมการเป็นว่าต้องการอะไร
• เตรียมตัวให้พร้อม
ถ้าตัวเราพร้อมก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
Suggestion
“แชมป์โลก” มาอยู่ที่แคมป์ดนตรี
เมื่อไปขึ้น “สังเวียน” ดวลไมค์ระดับโลกมาจนสำเร็จแล้ว ล่าสุดเธอขอเป็นแรงบันดาลใจเพื่อศิลปินรุ่นใหม่บ้าง …บนความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทำความฝันเพื่อตัวเองมาตลอด คุณนกยอมรับว่า เธอมองอนาคตในเรื่องการร้องเพลงด้วยความลังเลเสมอ “ก่อนหน้านี้นกแอบประมาทตรงที่เราไม่เคยวางแผนในสายอาชีพร้องเพลงเลยว่า พอประกวดเสร็จแล้วเราจะทำอะไรต่อไป พอมันได้เป็นแชมป์จริงๆ มันก็จบแล้วค่ะ (หัวเราะ)
เลยกลับมาคิดว่า แล้วชีวิตที่เหลืออยู่จะทำยังไง เรายังมีแพสชันที่อยากจะร้องเพลงอยู่ไหม การได้แชมป์โลกมา มันไม่มีอะไรที่จะสูงสุดไปกว่านี้อีกแล้ว จะไปแข่งที่ดาวอังคารมันก็ไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) ตรงนี้นกคิดว่าจะต้องจัดการความคิดของตัวเองใหม่นิดหนึ่งตรงที่ว่า ถ้าเราไม่ใช่นักร้องประกวดแล้ว ความรู้และความสามารถที่เราสะสมมาทั้งชีวิต เราจะเอาไปทำอะไรต่อได้บ้าง”
เป็นเวลาพอดีที่ได้รับการชักชวนให้มาเป็น “ติวเตอร์” สำหรับคลาส Vocal ให้กับ โครงการ THE POWER BAND MUSIC CAMP ปี 2024 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เลยทำให้รู้เป้าหมายของชีวิตหลังจากนี้ทันทีว่าจะเดินต่ออย่างไร “นกคิดว่าหลังจากนี้อาจจะเริ่มสอนอย่างจริงจัง เพราะนกเชื่อว่าความสามารถและประสบการณ์ ที่ได้ไปตะลุยทั้งในประเทศและต่างประเทศ มันน่าจะเป็นประโยชน์กับใครก็ตามที่ได้มาเรียนรู้ตรงนี้ ทริกอะไรบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาไม่สอนกัน คลิกอ่านบรรยากาศ THE POWER BAND MUSIC CAMP ปีล่าสุด
นกเชื่อว่านกมีประโยชน์ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ไม่แน่ว่าเรื่องราวของนก อาจจะไปเป็นแรงบันดาลใจ เป็นความรู้ให้เด็กๆ ต่อยอดไปได้ไกลกว่านี้อีก นกได้แชมป์โลกตอนอายุ 41 แต่เด็กๆ ที่นกสอนไป อาจจะได้แชมป์โลกพรุ่งนี้ก็ได้ ถ้าเขาเอาความรู้ที่นกแชร์ไปใช้ในทางที่ถูกต้อง คำว่าแชมป์โลกมันจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนไทย เป้าหมายใหม่ของนกในวันนี้ นกอยากแชร์ความรู้ ความสามารถต่างๆ ให้กับเด็กๆ รุ่นต่อไป และนกเชื่อว่าเด็กๆ เขาจะต้องเก่งกว่าเราแน่นอน และมันจะพาวงการดนตรีบ้านเราให้ไปไกลระดับโลก มันจะไม่ใช่เรื่องยาก”
ความตั้งใจหลังจากนี้ นอกจากจะแชร์ความรู้ทางดนตรีให้กับเด็กรุ่นใหม่ๆ ให้มากขึ้นตามที่ว่า คุณนกบอกเพิ่มว่า เธออาจจะทำอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองขึ้นมาสักอัลบั้มเพื่อเก็บไว้เป็น Portfolio ของตัวเอง และท้ายที่สุดก็ยังจะร้องเพลงด้วยความสุขต่อไป