People

‘แอบรัก’ ครั้งล่าสุด
ของ ติ๊ก – Playground
“เป็นตัวของตัวเองให้ชัดเจน”

ศรัณย์ เสมาทอง 17 Feb 2025
Views: 878

Summary

ถ้าจะแอบรักใคร…ขอให้ได้งานด้วย  หากเป็น ‘พี่ติ๊ก กฤษติกร’ กรรมการสนามภูมิภาค THE POWER BAND เจออารมณ์แอบรักเข้าไป รับรองว่าต้องวิ่งวุ่นเขียนเพลงใหม่มาประดับวงการชัวร์ !!!  เพราะเราเชื่อว่า ฉายา ‘เจ้าพ่อเพลงแอบรัก’ พี่ติ๊กไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่นนอน

“เบื้องต้นจะเป็นเรื่องจริงที่ผมได้พบเจอมา” คำตอบแรกของ ติ๊ก Playground ต่อคำถามว่า ตามปกติเขาเขียนเพลงมาได้อย่างไร

“ประสบการณ์อกหักครั้งแรกของผมก็ออกมาเป็นเพลงปล่อยวาง หรือเพลงมุม…ผมก็คิดย้อนไปสมัยมัธยม ผมเป็นเด็กโรงเรียนชายล้วนที่ไม่กล้าจีบผู้หญิง ชอบใครก็ได้แต่แอบมอง”

ถ้าใครทันยุคเทปคาสเซ็ตต์แบบติ๊ก ก็อาจเคย ‘อัดเทป’ เพลงที่มีประโยคโดนใจหลายๆ เพลง ต่อกันเป็นอัลบั้มส่งให้คนที่เราแอบชอบ “ผมก็อยากมีเพลงสักเพลงที่มันรวมทุกอย่าง ทุกความรู้สึก เหมือนที่เราเคยเลือกมาอัดเทปนั้นบ้าง”

ต้องมีประสบการณ์ขนาดไหนนะ ถึงทำให้ ติ๊ก – กฤษติกร พรสาธิต แต่งเพลงจนได้รับฉายา ‘เจ้าพ่อเพลงแอบรัก’ ไปครอง แม้วันนี้ ‘ติ๊ก Playground’ จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารค่ายเพลง Home Run Music ในเครือ Muzik Move แล้ว และยังเป็นคนเดียวกันกับที่เป็นกรรมการสนามภูมิภาคของการประกวด THE POWER BAND ถ้าศิลปินคนไหนที่ติดขัดเพลงรัก ลองหันหน้ามาหาเขา…ก็จะพรั่งพรู

เขามีอัลบั้มแรกกับวง Playground ตั้งแต่ปี 2547 ผ่านมา 20 ปีแล้ว แต่ยังสามารถโลดแล่นกลางมหาสมุทรดนตรีในยุคนี้ได้ ไม่ธรรมดาแน่ “เราต้องมีความเป็นตัวของตัวเองที่ชัดเจนครับ”

แค่นั้น…เองเหรอ ติ๊ก?!?

“นอกจากเป็นนักดนตรีที่เก่งหรือไม่เก่ง

ผมมองไอเดียเป็นสิ่งสำคัญสุด

วงดนตรีที่เก่งในระดับกลางๆ

ก็สามารถสร้างงานที่น่าจดจำได้”

ติ๊ก – กฤษติกร พรสาธิต (Tik Playground)
ผู้บริหาร Home Run Music / กรรมการ THE POWER BAND

 

เกือบเป็นครูอนุบาล

ติ๊กรวมวงกับเพื่อนสมัยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยบูรพา “ตอนแรกว่าจะเล่นกันสนุกๆ เป็นกิจกรรมของคณะ” แต่ทั้งหมดไม่ได้เรียนสายดนตรี “ผมกับตุ้ย (วัชระ ชัยพันธุ์ – กีตาร์) เรียนคณะศึกษาเอกปฐมวัย เตรียมไปเป็นครูอนุบาล เก้ง (ปรัชญา คำเมือง – เบส) เรียนที่คณะด้วยกันแต่เอกภาษาอังกฤษ ส่วนตุลย์ (ตุลย์ เหมือนสร้อย – กีตาร์) เรียนที่หอการค้า แต่เป็นเพื่อนผมสมัยมัธยม”

คิดแค่เล่นสนุก แต่ลึกๆ ก็มีภาพนักดนตรีอยู่ในใจ “ผมหลอกล่อเก้งให้ซื้อเบส แล้วเล่นดนตรีกันตามงานรับน้องคณะ จากคณะตัวเองก็ขยายออกไปเล่นให้งานต่างคณะบ้าง ส่งไปประกวดบ้าง”

มีคลื่นวิทยุเปิดออดิชันหาวงที่จะไปร่วมคอนเสิร์ตกับศิลปินอาชีพในตอนนั้น วงเขาตัดสินใจส่งเพลง ‘ปล่อยวาง’ เข้าไป “เราคิดว่าวงเราเล่นดนตรีไม่เก่ง เลยส่งเพลงที่แต่งเองไปให้เขาฟังดีกว่า เขาจะได้ไม่รู้ว่าเราเล่นดนตรีกันไม่แข็ง” ติ๊กหัวเราะร่า

ขอบคุณภาพจากพี่ติ๊ก กฤษติกร

ผิดคาด…คลื่นวิทยุเลือกเพลงของเขาไปเปิดในคลื่นด้วย “พวกเรารอฟังทางวิทยุ มันเหมือนในหนัง That Thing You Do เลย พอได้ยินเพลงตัวเองผ่านคลื่นวิทยุ ก็รู้สึกดีมากๆ เป็นแรงบันดาลใจให้เราเดินทางกันต่อ”

 

การใช้ประสบการณ์ส่วนตัวที่มี ในการ “ทำ” เพลง

จะช่วยสร้างความจริงใจให้กับคนฟัง

 

“ช่วงเวลาดีๆ ของวงเรา”

ออกไปวาดลวดลายหลายงาน ได้ร่วมเล่นเวทีเดียวกับวงที่พวกเขาชื่นชอบอย่าง Bodyslam หรือ Modern Dog ก็รู้สึกดีแล้ว “เฮ้ย! เรามันพวก underdog ได้ไปเล่นงานนี้กับพี่ๆ เขา ได้ไปอยู่หลังเวทีกับศิลปินที่เราชอบก็สุดยอดแล้ว” สิ่งที่คิดคือคิดว่าตัวเองไม่เก่งเสมอมา…

พอมีสังกัดก็เป็นค่ายอินดี้เล็กๆ ที่ปล่อยให้เขามีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงาน Playground ก็ค่อยๆ โดดเด่นขึ้นมาเรื่อยๆ “เราเริ่มมีเพลงที่ติดชาร์ตอันดับ 1 ทั่วประเทศ ได้เล่นคอนเสิร์ตแทบจะเรียกได้ว่าเล่นทุกวัน ได้ออกรายการที่เราเคยดูในทีวี ได้เจอคนเก่งๆ แบบที่รู้สึกว่า เฮ้ย…ชีวิตเราไม่น่าจะมีโอกาสเจอ”

ผลงานมีสม่ำเสมอและไม่รู้เพราะความถ่อมตัวหรือเพราะความซื่อสัตย์ในความรู้สึกที่นำมาเขียนเพลง ทำให้วง Playground ยังคงอยู่ในวงการมาร่วม 20 ปี

ขอบคุณภาพจากพี่ติ๊ก กฤษติกร

“ครั้งหนึ่งแม่เก้ง (มือเบส) เล่าให้เก้งฟังว่า แม่อยากให้เก้งอายุ 4-5 ขวบตลอดไป แม้ตอนนั้นแม่เหนื่อยมาก แต่รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะรู้ว่าเมื่อลูกโตก็จะจากไปมีชีวิตของตัวเอง ผมฟังแล้วผมรู้สึกอิ่ม…เลยเขียนเป็นเพลงออกมา”

เป็นเพลงชื่อยาวมากว่า ‘อยากให้ช่วงเวลาเหล่านี้อยู่กับเราไปนานๆ ได้ไหม’

 

“ขอให้ช่วงเวลาดีๆ อยู่กับเราไปอย่างนี้

เป็นความทรงจำที่จะไม่ลบไปจากใจ

อยากขอให้เธออยู่นานๆ ได้ไหม

เพราะช่วงเวลานี้ คือ ช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของฉัน”

 

สำนวนอบอุ่นของติ๊ก พาเพลงนี้เข้าไปสัมผัสใจคนฟังได้ไม่ยากนัก

แต่เรา…ในฐานะแฟนคลับ…กลับจดจำน้ำเสียงของติ๊กที่ร้องท่อนนี้ ในวาระรำลึกถึง ตุ้ย – วัชระ ชัยพันธุ์ มือกีตาร์ ที่รีบออกเดินทางไปสนามเด็กเล่นบนดาวดวงอื่นก่อนใคร

ขอบคุณภาพจากพี่ติ๊ก กฤษติกร

 

“การทำเพลงฮิต…แค่นั้นไม่พอ

ยุคนี้คนไม่ได้ซื้อเพราะความชอบ

แต่ว่าซื้อเพราะความเชื่อในสิ่งนั้นๆ

ศิลปินต้องสร้างสาวกขึ้นมาให้ได้”

นักดนตรีที่ใช้ชีวิตแบบผู้ฟัง

Playground เปิดตัวในยุค 2000 แนวเพลงอินดี้เริ่มขยับตัวขึ้นมาแมส และเขาอยู่ในกระแสมาโดยตลอด ช่วงแรกของการทำเพลงยังต้องออกเป็นอัลบั้มกันอยู่

“อัลบั้มแรก ตอนปี 2004 เป็นยุคเทปยุคสุดท้ายแล้ว” พูดแล้วหัวเราะเบาๆ “ผมโตมากับการฟังเพลงเป็นอัลบั้ม พอทำเองก็ต้องคิดว่าจะดึงเข้าด้วยเพลงอะไร แล้วไปต่อกับเพลงอะไร สร้างความรู้สึกต่อเนื่องกันยังไงในอัลบั้ม ต้องสนุกมาก่อนไหม แล้วเพิ่มดีกรีความอินขึ้น ก่อนมาเจอเพลงเพราะๆ จำได้ว่าเคยต้องคิดแบบนั้น”

ขอบคุณภาพจากพี่ติ๊ก กฤษติกร

โอ…แต่ละอัลบั้มมีเป็นสิบเพลง “เพลงหน้า B ต้องมีความลึกขึ้นกว่าหน้า A มันต่างจากการออกซิงเกิลแล้วฟังทีละเพลง เราต้องทำงานเยอะมากกว่าอัลบั้มจะเสร็จรวมแต่งเพลงด้วยน่าจะเป็นปีนะครับ”

 

ศิลปินต้องมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน

 

ในยุคนี้ที่ออกเพลงเป็นซิงเกิลและอุปกรณ์ก็มีมากขึ้น ชีวิตศิลปินก็คงง่ายขึ้นใช่ไหม

“แต่ยุคนี้คนฟังเพลงผ่านโซเชียลต่างๆ YouTube หรือ Spotify เป็นต้นนะ สมัยก่อนค่ายจะปล่อยเพลงถึงขั้นนับวันเลยนะ ว่าจะต้องไม่ชนกับใครบ้างเพราะเพลงมันมีไม่มาก แต่ว่าตอนนี้ วันๆ หนึ่งมันมีตั้งกี่ร้อยกี่พันเพลงที่ออกมาพร้อมกัน ของไทยว่าเยอะแล้ว ยังมีของประเทศอื่นๆ อีกนะ” เลยกลายเป็นมหาสมุทรดนตรีอย่างที่รู้ๆ กัน

อ้าว…แล้วจะทำยังไง!!?!

“เราต้องมีความเป็นตัวของตัวเองที่ชัดเจนครับ” คือสิ่งที่ติ๊กเชื่อมาโดยตลอด “ต้องหากลุ่มคนที่ชอบเราให้เจอ เอาตัวเองไปอยู่ในที่ๆ audience ของเราอยู่ ไปอยู่ในที่จะมีคนมองเห็น”

ตั้งแต่แรกวง Playground ก็มักไปร่วมงานเทศกาลดนตรีสายอินดี้ แบบที่จัดโดยนิตยสารหรือคลื่นวิทยุชื่อดังของยุค เข้าไปคลุกคลีเพื่อสังเกตว่าผู้ฟังของเขาใช้ชีวิตอย่างไร ฟังเพลงแบบไหน ชอบอะไร เมื่อสวมบทบาทผู้บริหารค่ายเพลงในปัจจุบันเขาก็ต้องไปเรียนรู้วิถีของกลุ่มเป้าหมายเหมือนเคย อาจต้องก้าวไกลไปถึงว่าคนเหล่านั้นเล่นโซเชียลมีเดียแบบไหนด้วย

แล้วการเลือก ‘ใคร’ มาเป็นศิลปินในสังกัด ติ๊กจะมองตรงไหน

 

‘ศิลปิน’ ของพี่ติ๊ก

“มีน้องหลายคนถามว่าจะส่งเพลงที่เขาทำมาหาผมได้ที่ไหน ผมบอกตรงๆ เลยนะครับ ว่าผมแทบไม่ได้ฟังสิ่งที่น้องๆ ส่งเข้ามา…แต่ผมจะไปเซิร์จดูตัวเขาเลย ว่าเขาทำอะไรอยู่ในโลกโซเชียลบ้าง ก่อนที่จะชวนน้องเบล (เบล – วริศรา จิตปรีดาสกุล) มาอยู่ในค่าย ผมก็เข้าไปดูใน IG ดูความเคลื่อนไหวใน YouTube ว่าเขาเหมาะกับสไตล์ค่ายเราไหม” คลิกอ่านเรื่องของเบล วริศรา ที่นี่

เมื่อน้องเบลมาเจอกับเพลง ‘เอาปากกามาวง’ ที่แต่งโดยพี่ติ๊ก ก็พากันฮิตน่ะสิ (ยอด View ตอนที่เราคุยกันก็มากกว่า 52 ล้านไปแล้ว)

สิ่งสำคัญสุดยังคงเป็นเพลงไหม

“เอาจริงๆ ถ้าเพลงดี ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มีคนเห็น แล้วก็จะถูกส่งต่อหรือโพสต์ซ้ำจนเป็นไวรัลขึ้นมาอยู่ดีครับ” แล้วที่พูดถึงตัวศิลปินมาทั้งหมดคือ… “ยุคนี้เป็นยุคที่ศิลปินที่ประสบความสำเร็จทุกคนแต่งตัวดี มีภาพลักษณ์ที่ดี มี performance ที่ดี และประกอบกับเพลงต้องดี เรียกว่าครบองค์มากๆ เพราะถ้าคนฟังเขาชอบอะไรเขาจะไปหาสิ่งนั้น อยากเป็นสาวกสิ่งนั้น อยากทำตาม เราต้องไปให้ถึงจุดนั้นถึงจะยั่งยืน”

…เป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน…ประโยคแรกที่ติ๊กบอกมานั่นเอง

 

“ได้เห็นแววตาของคนที่มีฝันและตั้งใจทำสิ่งที่รัก

 ในการประกวด THE POWER BAND

มันเป็นการเติมไฟให้ผม…แบบยิ่งยวด”

 

รู้จักสร้างผลงานอย่างสม่ำเสมอ

ใช้ความซื่อสัตย์จากความรู้สึกมาเขียนเพลง

THE POWER BAND 2024 SEASON 4 สนามกรุงเทพฯ และสนามเชียงใหม่

THE POWER BAND MUSIC CAMP ภาพโดย Expert Kit

 

 ‘ศิลปิน’ ล่าสุดของพี่ติ๊ก

ในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมาได้มีโครงการ THE POWER BAND การประกวดวงดนตรีสากล จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำ ติ๊กได้เข้าร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกวงดนตรีตามภาคต่างๆ มาเป็นเวลา 4 ซีซันแล้ว

“เด็กยุคใหม่สกิลดีมากครับ เทียบกับสมัยก่อน” นักดนตรีรุ่นพี่แทบทุกคนเอ่ยไว้แบบนี้ “และมีความกล้าแสดงออกค่อนข้างชัดเจน ความตื่นเวทีก็น้อยลงเรื่อยๆ บางคนอายุ 11-12 เล่นเหมือนวงมืออาชีพเลย ถ้าถามว่าอนาคตเราจะมีนักดนตรีที่มีศักยภาพสูงไหม…ผมเชื่อว่ามี”

ติ๊กได้พบ ปิ๊งปิ๊ง – รัสริณณ์ พัฒนพลวิชญ์ ซึ่งมาขึ้นเวทีประกวดในฐานะ frontman ให้ วง I Love Wednesday ของโรงเรียนโยธินบูรณะ “ครั้งแรกที่ผม comment วงนี้ ผมยังบอกน้องเลยว่า คนที่มี performance แบบนี้บนเวที วันหนึ่งจะได้เป็นศิลปิน เพราะเขาเคลื่อนไหวร่างกายผ่านจังหวะดนตรีแบบที่เป็นธรรมชาติมาก”

วันนั้นปิ๊งปิ๊งยังเรียนอยู่ชั้น ม.2 แต่โดดเด่นมาก “ผมลองตามไปดูในโซเชียลมีเดียต่างๆ เห็นถึงความขยันและทัศนคติที่น้องทำทุกอย่าง ดูเขารักและพากเพียรทำ content เกี่ยวกับดนตรีให้ตัวเองเยอะมาากกก” ย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวของ ปิ๊งปิ๊ง กับก้าวแรกที่ THE POWER BAND คลิก

ภาพกับ ปิ๊งปิ๊ง – ปันปัน ศิลปินค่าย Home Run Music ล่าสุด

ขอบคุณภาพจากพี่ติ๊ก กฤษติกร

 

กรรมการ ติ๊ก Playground

แนะนำน้อง THE POWER BAND #5

• เป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน

• มีไอเดียในการนำเสนอเพลง

• เรียบเรียงเพลงให้โดดเด่นน่าสนใจ

• มี performance ที่ดี

• ฝึกฝีมือให้ดี (สังเกตว่าจะอยู่ข้อสุดท้าย)

ขอบคุณภาพจากพี่ติ๊ก กฤษติกร

ปิ๊งปิ๊งมาขึ้นเวที THE POWER BAND ถึง 3 ซีซัน และครั้งที่สามนี่เองมีน้องสาว ปันปัน – พิชชานันท์ พัฒนพลวิชญ์ ขึ้นมาร้องเพลงคู่กัน “ผมว่าถ้าทั้ง 2 คน มาเป็นศิลปินคู่จะน่าสนใจมากขึ้น บุคลิกทั้งคู่แตกต่างกัน คนหนึ่งคาแรกเตอร์สดใสรับแขก อีกคนหนึ่งก็เท่ๆ เงียบๆ แต่มีความดึงดูดผู้คนในวัยเดียวกัน ยิ่งได้คุยกับพ่อแม่ของน้องๆ ก็ชอบในทัศนคติของคุณพ่อคุณแม่ด้วย เหมือนชวนมาทั้งครอบครัวเลย” ทำความรู้จักวง I Love Wednesday คลิก  แล้วติดตามบทสัมภาษณ์ของปิ๊งปิ๊ง-ปันปันในฐานะศิลปินจากเวที THE POWER BAND คลิก

ค่ายเพลง Home Run Music นิยามตัวเองว่าเหมือนการวิ่งออกจากบ้านไปทำความฝันให้สำเร็จ  จึงมองหาคนที่เป็นตัวของตัวเองแล้วส่งเสริมให้ความฝันของเขาเป็นจริง ปิ๊งปิ๊งเคยเอ่ยไว้ว่า “การร้องเพลงเป็นสิ่งที่ทำได้ดีและมีความสุข ถ้าเราต้องทำอาชีพที่ไม่มีความสุขก็ไม่อยากทำ อยากเป็นศิลปิน

เข้าทาง…วิ่งออกจากบ้านกันเลยไหม

 

การแอบรักครั้งใหม่

ซิงเกิลเปิดตัว PINGPING PANPAN คือเพลง ‘ถูกจับได้ซะแล้ว (SURRENDER)’ “เป็นเพลง POP สบายๆ เรื่องราวของคนที่แอบชอบใครสักคน” แอบชอบ…อีกแล้ว…เหรอครับติ๊ก “พยายามซ่อนยังไงก็ไม่เนียน จนถูกจับได้ในที่สุด”

เสียงใสๆ ของสองสาวน้อย ร้องประโยคน่ารักๆ ของพี่ติ๊ก “ถูกจับได้ซะแล้ว เห็นหมดแล้วสิว่าฉันทําอะไร…เห็นหมด แล้วสิ มอบตัวเลยแล้วกันว่าชอบเธอ” อีกไม่นานยอด View ของเพลงนี้จากสองสาวพี่น้อง ศิลปินของค่าย Home Run Music ที่พี่ติ๊กนั่งเก้าอี้โพรดิวเซอร์ คงถล่มทลาย “น้องมีอินเนอร์ที่ดี มีบางสิ่งที่ศิลปินต้องมี ของแบบนี้บางทีมันก็สอนกันไม่ได้”

…เป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน…เหมือนติ๊กย้ำประโยคนี้อีกครั้งเลย!!

Author

ศรัณย์ เสมาทอง

Author

นักเขียนและผู้ผลิตรายการเชิงสารคดีอิสระ ชอบตะลอนเวิร์กตามที่ต่าง ๆ พร้อมเล่าเรื่องระหว่างการเดินทาง และบ่อยครั้งก็บันทึกประสบการณ์เป็นบทกวี

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ