People

‘อั้ม Football Genius’
คนธรรมดาที่ตั้งเป้าสร้างพลังบวกให้สังคมฟุตบอล

อลิษา รุจิวิพัฒน์ 22 Apr 2025
Views: 790

Summary

อะไรทำให้ ‘อั้ม Football Genius’ คนธรรมดาที่รักฟุตบอลต้องการที่จะสร้างพลังบวกให้สังคมฟุตบอล ผ่านคอนเทนต์ฟุตบอลที่ใช้แทกติกเป็นเครื่องมือและใช้วิธี ‘ปล่อยวาง’ เป็นแรงขับให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด…กระทบไหล่ “ตัวตน” ที่น่าสนใจของอินฟลูเอนเซอร์ หนุ่มคนนี้แบบไม่เคยมีใครทำความรู้จักมาก่อน…ได้ที่นี่

“ผมไม่ใช่ตัวพ่อปีศาจแดง เป็นแค่แฟนบอลแมนยูที่คลั่งไคล้ หลงใหลแทกติกฟุตบอล และอยากสร้างพลังบวกให้กับสังคมฟุตบอล” อั้ม – ภัทรเศรษฐ์ เรืองรัตนะกูล หรือที่แฟนบอลแมนยูรู้จักเขาในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ สายฟุตบอลเจ้าของช่อง ‘อั้ม Football Genius’ บอกจากที่เราถามว่ารู้สึกอย่างไร  ที่มีคนกลุ่มหนึ่งยกให้เขาเป็น ‘ตัวพ่อปีศาจแดง’

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

“เอาจริงๆ ไม่ชอบเลย สำหรับผม ‘ตัวพ่อปีศาจแดง’ คือ พี่จอม – บ.บู๋ พี่เม้ง – ซัมเมอร์ฮิลล์ พี่โต – ซันเดย์ คนพวกนี้คือสายคอลัมนิสต์ที่เขาอยู่กับฟุตบอลมานาน คือตัวจริงที่สามารถเล่าเรื่องและสื่อสารได้อย่างมืออาชีพ”

“ผมไม่ต้องการเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการ ไม่ต้องการเป็นช่องใหญ่ เพราะวันที่ช่องผมถึงแสนซับ ผมถือว่าถึงเป้าแล้ว”

จะว่าไป…ตั้งแต่ปลายปี 2017 ที่เพจเริ่มสร้างเขาก็อธิบายเป็นลายลักษณ์อักษณชัดเจนแล้วว่านี้คือ ‘เพจของคนธรรมดาที่รักฟุตบอล ที่อยากแค่แบ่งปันมุมมองเรื่องฟุตบอลส่วนตัว’

แต่คนธรรมดาที่รักฟุตบอลคนนี้ยังต้องการที่จะ ‘สร้างพลังบวกให้กับสังคมฟุตบอล’ ด้วย อะไรทำให้เขาเชื่อและลงมือทำสิ่งเหล่านี้ท่ามกลางสังคมที่ใช้โซเชียลและความเกลียดชังเป็นอาวุธ

ผมก็บอกเสมอว่า ผมไม่ใช่มืออาชีพ

เป็นแค่แฟนแมนยูที่ชอบดูและคิดวิเคราะห์

แค่มุมมองว่าเราเห็นอะไรบนเกมบ้าง เอาหลักการใส่

และเล่าให้ฟังที่เหลือก็ให้แฟนบอลไปคิดต่อ

เผื่อเขาจะมองในมุมที่ต่างไปจากเดิม”

อั้ม Football Genius

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

 

สิ่งที่เห็น = สิ่งที่เป็น

“เลือดนักสู้น่าจะได้มาจากแม่เต็มๆ” เขาเติบโตมากับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวยอดนักสู้ที่ฝึกให้ลูกทุกคนมีความรับผิดชอบ ดูแลตัวเองให้ได้ ผมโตมากับชีวิตที่เหมือนกำลังเล่นรถไฟเหาะ ‘ขึ้นสุดลงสุด’ สร้างธุรกิจด้วยตัวเองมีทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี เลยทำให้รู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้เป็นธรรมชาติของชีวิต”

“ตอนเด็กๆ อาชีพในฝันมันไม่ชัดเจนนัก แต่คนรอบตัวมีอิทธิพลมาก เคยอยากเป็นนักการทูตเพราะมีลูกพี่ลูกน้องทำงานที่สถานทูต อยากเป็นทนายเพราะเห็นญาติประสบความสำเร็จกับอาชีพนี้ อีกใจก็อยากทำธุรกิจเพราะเราเติบโตมาก็เห็นแม่ทำธุรกิจมาหลายอย่าง อาชีพที่อยากทำมันเลยไม่ชัดนัก แต่สุดท้ายก็เลือกเรียนบริหารธุรกิจและจบมาก็ตัดสินใจสานต่อธุรกิจของคุณแม่” เท่ากับว่าตอนนี้ นอกจากจะสวมหมวกอินฟลูเอนเซอร์ฟุตบอล เขายังสลับไปสวมหมวกนักธุรกิจและทำธุรกิจกับที่บ้านอีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

 

เล่นบาสแต่รักฟุตบอล

“ตอนเรียนมัธยมไม่ค่อยได้เตะบอล เพราะสนามบอลที่โรงเรียนต้องให้นักกีฬาโรงเรียนใช้ฝึกซ้อม เพื่อนในกลุ่มเลยหันไปเล่นบาสกัน ผมก็เล่นด้วย แต่กลับอินฟุตบอลมากกว่าเป็นโมเมนต์ที่จับความรู้สึกเราได้ แต่ก็ดูการแข่งทั้งบอลและบาสเลยนะ ผมว่าจุดเปลี่ยนคือตอนที่เพื่อนๆ เริ่มมีทีมเชียร์ เราก็เริ่มหาทีมเชียร์บ้าง ทำให้เริ่มรู้จักแมนยูมากขึ้น”

“ที่มั่นใจว่าตกหลุมรักทีมนี้แน่ๆ และเป็นการตกหลุมรักซ้ำๆ เพราะหลายครั้งทีมสามารถกลับมาแซงชนะได้ ต่อให้บางครั้งไล่ไม่ทันจบเกมด้วยการแพ้ แต่หลังจากที่เริ่มไล่กลับมาทีมบุกก็เป็นพายุเลย สู้สุดจนกว่าเสียงนกหวีดจะดัง พลังแบบนี้มันชนะใจ ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบนั้น เวลาทำอะไรผมใส่สุด ถ้าทำต้องทำให้เต็มที่ที่สุดจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลังเลยยิ่งอิน ทีมอื่นก็อาจจะมีโมเมนต์นี้ แต่บังเอิญผมดูแมนยูทีมแรกตอนเริ่มดูฟุตบอล

เป็นคนชอบพิสูจน์

ถ้าอยากรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี ต้องลงมือทำ

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

 

จากคนเชียร์มาเป็นคนทำช่อง ‘Football Genius’

จุดเริ่มต้นจริงๆ น่าจะมาจากความรู้สึกแตกต่างเวลาที่เราเชียร์แมนยูกับเพื่อน ขนาดเชียร์ทีมเดียวกันแต่เรามีมุมมองที่ต่างไป เริ่มคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง เพราะเราอธิบายไม่ถูกว่าทำไมเราถึงมองแบบนั้น”

“แต่เวลาที่อ่านบทวิเคราะห์ของพี่ๆ คอลัมนิสต์ในซอกเกอร์ ก็พบว่ามีบางคนพูดในประเด็นที่เรามองเห็นเหมือนกัน หรือบางทีเราเจอบทวิเคราะห์ที่พูดถึงตำแหน่งการยืนของนักแตะ เราก็เอามาให้เพื่อนดูว่า   นี่แหละสิ่งที่เราคิดและอยากจะบอก”

“จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงที่ทุกคนมีเฟซบุ๊ก ช่วงนั้นกระแสของ ไมเคิล คาร์ริก นักเตะแมนยู ที่เป็นประเด็นมากๆ ว่ามาเป็นตัวไร้ประโยชน์ในสนาม ซึ่งเราเห็นต่างเลยลองเขียนมุมมองของเราเกี่ยวกับนักเตะคนนี้ใน     เฟซบุ๊กส่วนตัว ปรากฎว่ามีคนกดไลก์ กดแชร์ เริ่มมีคนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แปลว่ามีคนที่เห็นมุมนี้เหมือนกัน นั่นเป็นจุดแรกที่เริ่มเห็นพื้นที่ที่เราสามารถบอกหรือส่งต่อมุมมองฟุตบอลของเราไปหาคนอื่นได้อีกครั้ง”

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

 

แนวคิดปลดแอกความสุขจากยุค

ที่สังคมให้ค่ากับ ‘สปีดความสำเร็จ’ แบบ ‘อั้ม Football Genius’

• เตือนตัวเองเสมอว่า อย่าเชื่อทุกอย่างที่เห็นในโซเชียล
ให้ชมเหมือนเป็นศิลปะ

• ไม่มีชีวิตใครที่ไม่มีปัญหา
เขาแค่ไม่ได้เอาปัญหามาวางอยู่ในโซเชียลให้คุณเห็น

• อยู่กับความเป็นจริง

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

“แต่ก็ทิ้งช่วงมานานเหมือนกันกว่าจะเปิดช่อง เพราะเป็นช่วงที่กำลังลุยทำธุรกิจ จนกระทั่งเริ่มหมดแพสชันกับงานที่ทำ ก็มีรุ่นน้องมาเปิดประเด็นว่าทำไมไม่ลองทำเพจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำได้เพราะเราไม่ได้เป็นคนในวงการ ไม่มีใครรู้จัก แล้วใครจะตาม ใครจะเชื่อ และไม่รู้ด้วยว่าจะนำเสนอสิ่งที่คิดออกมาแบบไหน”

“วงการฟุตบอลเมื่อ 8 ปีก่อนไม่ค่อยมีแหล่งข้อมูลที่เราชอบให้อ่านมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการรายงานข่าวทั่วไป เราก็เริ่มไปติดตามสื่อต่างประเทศ อ่านบทวิเคราะห์ ถึงได้รู้ว่ามันมีข้อมูลเจ๋งๆ เยอะมากที่เมืองไทยยังไม่มีคนเอามาพูดถึง จนไปเจอยูทูบช่องหนึ่ง เขาวิเคราะห์เทคนิคการเล่นต่างๆ จุดประกายทันที แบบนี้แหละที่เราชอบ ต้องใช้การอธิบายแบบนี้ เหมือนเจอทางของตัวเองเลยตัดสินใจทำช่องเริ่มไลฟ์เกมครั้งแรกด้วยแมตช์ใหญ่ แมนยูปะทะแมนซิตี้ ซึ่งเกมนั้นแมนยูแพ้ (หัวเราะ)”

“ชื่อก็ต้องรีบคิดเพราะแมตช์ใหญ่มารออยู่ คำว่า ‘Football Genius’ ขึ้นมาในหัวเพราะเป็นช่วงที่ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมที่มารับตำแหน่งต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดนแฟนบอลล้อและจิกกัดว่าทำแต่ละอย่างจีเนียสมาก แล้วเราก็ไปติดกรอบว่าชื่อเพจต้องมีคำว่า ฟุตบอล คนจะได้รู้ว่าทำเรื่องอะไร พอเอามาร่วมกันก็รู้สึกว่าเป็นคำที่ดี ไว้ชมนักเตะหรือชมโค้ชที่เก่งๆ ก็ได้ แต่ดันลืมไปว่าคนมองชื่อเพจเป็นตัวตนเจ้าของเพจ”

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

เอาชนะเสียงภายนอกด้วยเสียงภายใน

“ชื่อเพจอาจทำให้คนเข้าใจผิดก็เยอะ แต่ผมก็บอกเสมอว่า ผมไม่ใช่มืออาชีพ เป็นแค่แฟนแมนยูที่ชอบดูและคิดวิเคราะห์ ว่าทำไมผู้จัดการทีมถึงวางนักแตะในตำแหน่งนั้นๆ แล้วมันส่งผลต่อเกมการเตะอย่างไร อยากให้คนที่เข้ามาดูรู้สึกเหมือนกำลังนั่งฟังมุมมองของพี่ เพื่อน หรือแฟนบอลคนหนึ่ง มันอาจไม่ถูกต้องทั้งหมดเพราะมันเป็นแค่มุมมอง ว่าเราเห็นอะไรบนเกมบ้าง เอาหลักการใส่และเล่าให้ฟังที่เหลือก็ให้แฟนบอลไปคิดต่อ เผื่อเขาจะมองในมุมที่ต่างไปจากเดิม”

“พอคาแรกเตอร์ช่องถูกวางแบบนี้ ทำให้ผมต้องหาข้อมูลเยอะเรื่องการยืนตำแหน่งในสนามและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง เพื่อเข้าใจพื้นฐานของมันมากที่สุดเท่าที่แฟนบอลทั่วไปคนหนึ่งจะเข้าใจได้ แต่ไม่เคยทำสคริปต์ พูดไปตามจังหวะเกมที่เห็น ผมเชื่อว่าเรื่องแทกติกฟุตบอล คนที่สนใจและศึกษาอย่างจริงจังก็อ่านเกมได้ เหมือนคนที่ชอบเรื่องรถยนต์ ไม่ต้องจบช่างหรือเรียนวิศวะ แต่ก็ศึกษาข้อมูลจนสามารถวิเคราะห์ได้ว่ารถยนต์แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร”

“มีช่วงหนึ่งเจอเกรียนคีย์บอร์ดเยอะๆ อยากเลิกทำช่องไปเลย คิดถึงขั้นว่าทำไมชีวิตเราต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย แต่ยังมีแฟนช่องที่เขาได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ เขาก็มาให้กำลังใจ สุดท้ายมองว่าสิ่งเหล่านี้มันขัดเกลาเราด้วยว่า ‘คนไม่เหมือนกัน’ และถามตัวเองว่าเรายังอยากทำสิ่งนี้อยู่ไหม เป้าหมายของเราคืออะไรกันแน่”

“ได้คำตอบว่า สิ่งที่ทำต้องสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับคนกลุ่มหนึ่ง และตลอดมาเราก็ยืนหยัดที่จะมาในแนวทางนี้ อย่างน้อยเราอยากจะเป็นพลังบวกให้กับสังคมฟุตบอล ทำให้เขามองโลกในมุมที่ต่างไป เราเลยถูกมองและล้อว่าเป็นกลุ่มโลกสวย แต่เราก็แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คนดูเขามีหน้าที่รีแอ็กกับสิ่งที่เขาดู ต่างคนต่างทำหน้าที่ของกันและกัน ขอแค่ไม่ก้าวล่วงสิทธิกันก็พอ”

 

✔ สูงสุดมันคืนสู่สามัญได้ ทุกอย่างเป็นวัฐจักร

✔ อย่าไปยึดติดหรือให้คุณค่ากับมันมากไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

 

ชีวิตก็เหมือนเกมฟุตบอล

“การดูบอล โดยเฉพาะการเป็นแฟนแมนยู ทำให้เห็นความธรรมดาของโลก สูงสุดมันคืนสู่สามัญได้ ทุกอย่างเป็นวัฐจักร แฟนแมนยูที่เริ่มดูยุค 90 เหมือนผมจะเห็นความรุ่งเรืองของทีมที่ยาวนานมาๆ แล้วอยู่ๆ ก็ร่วงรุนแรงมาก ในขณะที่แฟนบอลยุคก่อนหน้าเคยเห็นสภาพนี้มาแล้ว และก็เห็นว่าวันหนึ่งมันกลับมารุ่งเรืองได้ ไม่ต่างอะไรกับชีวิตคน ทุกอย่างเป็นเรื่องชั่วคราว อย่าไปยึดติดหรือให้คุณค่ากับมันมากไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี”

“อีกเรื่องที่มันสะท้อนได้ชัดคือ สังคมทุกวันนี้การด่ากันเป็นเรื่องปกติ การชมกันเป็นเรื่องผิดปกติ ด้วยความที่แมนยูเป็นทีมมหาชน สื่อต่างจับจ้องกันมาก นักเตะแต่ละคนได้รับความเกลียดชัง คนพร้อมจะทำอะไรก็ได้เพราะมีโซเชียลเป็นอาวุธในการใช้ทำร้ายคน มันสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อไหร่ที่คุณไม่ดีเท่าเดิม โลกและสังคมพร้อมที่จะซ้ำเติม กลายเป็นนอร์มของสังคมไปแล้วว่าคนล้มต้องกระทืบซ้ำ ความเห็นอกเห็นใจกันน้อยลงมาก”

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

 

ได้ช่วย ‘รดน้ำ’ สร้าง ‘ต้นกล้า’ กับ คิง เพาเวอร์

“รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ‘โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย’ ทำให้ผมได้เห็นภาพว่ายังมีองค์กรที่เชื่อว่าเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและทำให้เห็นว่าพวกเขาต้องการเพาะพันธุ์ต้นกล้าให้เติบโตจริงๆ

“ตอนแจกลูกฟุตบอลผมพยายามคุยกับน้องๆ เท่าที่เวลาจะอำนวย หลักๆ ผมจะถามว่าเขาเอาไปทำอะไร บางคนน่ารักมากบอกเอาไปให้น้อง บางคนพอได้ไปปุ๊บเอาไปกอดใหญ่เลย สีหน้าแววตาที่มีความสุขมันเป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ”

“ล่าสุดผมได้ไปร่วมเป็นพิธีกรในรายการ THE POWERRR GAME (เกมซ่าดวลพลัง) สนุกมากและปวดเข่ามากเช่นกันเพราะโดนปั่นจิ้งหรีด แต่ที่ประทับใจคือได้เห็นน้องๆ เยาวชนที่มาร่วมรายการมีทักษะการเล่นบอลที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากร่วมงานกับ คิง เพาเวอร์ ในการทำสิ่งดีๆ เหล่านี้ต่อไป”

ขอบคุณภาพจาก ‘อั้ม Football Genius’

 

ความรู้สึกที่ได้เป็น ‘เฟรนด์บอล เลสเตอร์’

“ขอชูฮกให้ก่อนเลยครับว่าคนที่คิดคำนี้มาโคตรจีเนียส! เขาไม่ได้ต้องการมาเข้ามาแทนที่ทีมที่เชียร์อยู่ของเหล่าแฟนบอล โดยเฉพาะแฟนบอลแมนยูผมว่ายิ่งง่าย เพราะ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ตอนนี้ไปเป็นผู้จัดการทีมให้กับเลสเตอร์ ก็คือตำนานของแมนยู เพราะเอาตั้งแต่เขาไปเป็นกุนซือให้เลสเตอร์ ทุกคนก็น่าจะตามข่าวและดูเลสเตอร์ไปโดยปริยาย อันนี้พูดในมุมของแฟนแมนยูนะ เพราะเราก็อยากจะเชียร์ตำนานของเราให้ทำผลงานได้ดี

 

‘เติมไฟ’ ด้วยการ ‘เติมฝัน’  

“ผมก็เคยเป็นนะ ถึงวัยหนึ่งที่เราทำได้ถึงเป้าหมายแล้ว จู่ๆ มันหมดพลัง เซอร์ไพรส์ตัวเองเหมือนกัน เพราะไม่เคยมีปัญหาเรื่องแรงในการเดินหน้า วิธีของผมคือ ‘ล้าก็พัก’ หาเวลาดูแลตัวเอง ระหว่างนั้นให้หาเป้าหมายต่อไป เราจะมีแรงเมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน มันอาจจะเป็นเป้าหมายทางจิตวิญญาณก็ได้ หรือถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันยกระดับได้อีกเพื่อคนรอบตัวก็ให้สิ่งนั้นเป็นเป้าหมายต่อไป ไม่ก็ลองมองเป้าหมายอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง”

“สำหรับบางคนความพยายามที่จะทำให้คนที่คุณรักปลอดภัย มันเป็นเป้าหมายที่มีพลังมากกว่าเป้าหมายของตัวเอง”

 

แพสชันอื่นของ “อั้ม Football Genius” นอกจากฟุตบอล

• การปฏิบัติธรรม จริงๆ แล้วผมนับถือศาสนาพุทธ แต่ก็นับถือพระเจ้าแบบคริสเตียนด้วย ผมสนใจเรื่องของการปฏิบัติธรรม เลยศึกษาจนเข้าใจความจริงบางอย่างของชีวิตว่าทุกอย่างเป็นเรื่องสมมติ”

• ยนตรกรรม ผมมองว่านี่คือมาสเตอร์พีชของมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ทำงานได้อย่างอัศจรรย์

• การ์ตูน ผู้ชายก็คงคิดเหมือนกันว่ามันคือเซฟโซน ทุกวันนี้ก็ยังอ่านการ์ตูนอยู่ แนะนำการ์ตูนฟุตบอลที่ดีมากๆ เรื่อง AO Ashi เพราะมันเอาแทกติกการเล่นฟุตบอลมาเล่าได้สนุกมากๆ

 

ติดตามผลงานของ “อั้ม Football Genius”ได้ทางนี้

INSTARGRAM: Football Genius
FACEBOOK: Football Genius
YOUTUBE: ฟุตบอลจีเนียส

 

คลิกชมความสนุกจากรายการที่ พี่อั้ม Football Genius ร่วมดำเนินรายการ ที่นี่

Author

อลิษา รุจิวิพัฒน์

Author

มนุษย์ที่ชอบทำงานตามโจทย์แต่ชอบใช้ชีวิตตามใจ หวั่นไหวกับของเล่น การ์ตูน ร้านหนังสือ ดิสนีย์แลนด์ และฝันว่าสักวันจะได้ไปเยือนสวนสนุกทั่วโลก

Web Editor

ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ

Web Editor

บรรณาธิการเว็บ Thaipower.co อดีตบรรณาธิการบางสำนัก นักข่าวและคอลัมนิสต์จำเป็น โกสต์ไรเตอร์...ผู้รักการเดินทาง หลงใหลกลิ่นกาแฟ และเป็นมูฟวีเลิฟเวอร์

Author

บริษัท ยานแม่ จำกัด

Photographer

เป็นโปรดักชั่น เฮาส์ ที่ไม่ได้คิดนอกกรอบ เเต่คิด...นอกโลก