หลายคนอาจเคยคุ้นหน้าคุ้นตา ปิ๊งปิ๊ง รัสริณณ์ พัฒนพลวิชญ์ จากการแข่งขันร้องเพลงในรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศทั่วประเทศ หลายคนอาจจะเคยประทับใจนักร้องรุ่นจิ๋วคนนี้บนเวทีการประกวดระดับชาติ และอีกหลายคนอาจเคยชื่นชมความสามารถของหนูน้อยเสียงใสประจำโรงเรียนที่ยืนหนึ่งแถวหน้าในทุกการแสดง
นาทีนี้เราอยากชวนทุกคนมาส่งกำลังใจให้นักร้องสาวไซส์มินิ ที่พกความสามารถรอบด้านในฐานะนักร้องนำของวงดนตรี I Love Wednesday Gen.1 แห่งโรงเรียนโยธินบูรณะ ที่กำลังขับเคี่ยวสู่รอบชิงชนะเลิศในการประกวด The Power Band ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในประเภท Class F รุ่นระดับมัธยมศึกษา
ปิ๊งปิ๊ง…ขอรัก
ความรักในการร้องเพลงของปิ๊งปิ๊งเริ่มต้นจากสายใยความรักของครอบครัว “ป๊าของหนูชอบร้องเพลง ร้องเพลงแอบเหงาให้หนูฟังตั้งแต่อยู่ในท้อง พอหนูพูดได้ปุ๊บก็ร้องเพลงแอบเหงากับป๊าเลยค่ะ ครอบครัวก็ชอบฟัง ทีนี้พอป๊าเห็นแววก็พาไปเรียนร้องเพลง หนูเรียนร้องเพลงตอน 6 – 7 ขวบ เรียนเกือบทุกวัน แบบวันนี้เรียนร้องเพลงพระราชนิพนธ์ วันนี้เรียนร้องเพลงลูกทุ่ง อีกวันเรียนร้องลูกกรุง แยกกันไปเลย
แล้วปกติทุกวันพอตื่นเช้ามา หนูจะซ้อมร้องให้ป๊าฟัง ป๊าจะคอยช่วยบอกว่าอะไรดีไม่ดียังไง ถ้ามีงานจะซ้อมตามงาม เช่นถ้าแข่งร้องเพลง เลือกตามโจทย์ว่าแข่งแนวไหน เพราะหนูร้องทุกแนว ลูกทุ่ง ลูกกรุง สากล เพลงพระราชนิพนธ์หนูร้องหมดเลย”
ความรักนี่เองที่สร้างความฝันให้เด็กหญิงตัวน้อยตั้งแต่วัยเยาว์ “โตขึ้นหนูอยากเป็นนักร้องจริงจัง แบบมีแฟนคลับ เห็นเราเป็นไอดอล อยากอยู่บนเวทีเอนเตอร์เทนคนดู อยากออกอัลบั้ม และมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง”
Suggestion
ปิ๊งปิ๊ง…ขอร้อง
เมื่อความเป็นนักร้องตัวจริงเริ่มส่องประกายจากบ้านสู่สถานศึกษา “หนูได้รับเลือกให้ทำกิจกรรมให้โรงเรียนตั้งแต่ ป.3 ความตื่นเต้นในช่วงแรกๆ ที่ต้องขึ้นเวที หนูเคยลืมชื่อเพลงในช่วงแนะนำตัวเอง จนยืนนิ่งไปเลย แม่ต้องตะโกนบอกว่าเพลงชื่อนี้ (แม่นึกว่าจะร้องไห้แล้ว) เคยมีอีกครั้งหนึ่งจะเริ่มแข่งอยู่แล้ว หนูลืมเนื้อเพลงไปเลย หันไปถามป๊า เพลงนี้ร้องยังไงนะ (หัวเราะ) เราก็ต้องทำตัวให้สบายๆ ก่อน บางทีพอได้ยินเสียงดนตรี ห้ามพูดว่าสู้ๆ ห้ามตื่นเต้นนะ ไม่งั้นจะยิ่งตื่นเต้นมาก และจะกดดันยิ่งกว่าเดิม
พอเราแข่งหลายครั้งเข้า ก็ตื่นเต้นน้อยลง แรกๆ ตอนเด็กเราก็จะคิดว่าอยากได้รางวัล เราร้องดี…ต้องชนะสิ ก็กดดันร้องไปจะไม่ดีหรือเปล่า คนดูจะหัวเราะเราไหม ช่วงหลังๆ พอแข่งไปก็เห็นว่าเออคนเก่งๆ ก็เยอะ เราก็เออไม่เป็นไร ไม่คาดหวัง เราร้องดี กรรมการอาจจะไม่ชอบก็ได้ แต่ก็อยากชนะทุกครั้ง สร้างความภูมิใจของเรา”
หนึ่งในผลงานสำคัญของปิ๊งปิ๊ง คือการเป็นผู้แทนของจังหวัดนนทบุรี เพื่อไปร่วมแข่งขันเยาวชนตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ด้านศิลปะและหัตถกรรมของนักเรียน (ระดับประถม) โดยเธอคว้ารองชนะเลิศอันดับ 1 (เพลงสากล) รองชนะเลิศอันดับ 2 (เพลงลูกกรุง) ได้ถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในการประกวดร้องเพลงพระราชนิพนธ์ (ประเภทอายุไม่เกิน 12 ปี)
“หนูภูมิใจในถ้วยพระราชทานใบแรกเมื่อตอน 9 ขวบ ตอนนั้นไม่ได้คาดหวังเลย เพราะว่ากันว่าเวทีนั้นคนที่ชนะส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ร้องเพลงลูกทุ่ง แต่หนูแข่งประเภทเพลงไทยสากล และก็มีคนแข่งจำนวนมาก แต่สุดท้ายการประกวดในปีนั้นมีคนได้รางวัล 2 คน คือหนูและคนที่ร้องเพลงลูกทุ่ง ตอนนั้นดีใจมากจริงๆ”
Suggestion
ปิ๊งปิ๊ง…ขอเล่น
นอกจากร้องเพลง ปิ๊งปิ๊งยังมีความสามารถอีกหลายสาขา ทั้งเล่นดนตรีไปจนถึงเป็นนักพากย์น้องใหม่
“หนูชอบเล่นกีตาร์คลาสสิก เริ่มเรียนกีตาร์โปร่งตอนปี 2019 เรียนแล้วเอาไปแข่งที่รายการ The Voice Thailand ที่จริงเคยเรียนอูคูเลเล่ตอน 7 ขวบ แต่คุณครูดุ หนูเลยหยุดเรียนไป เพิ่งกลับมาเรียนกีตาร์ตอน 2-3 ปี ก่อน ล่าสุดหนูได้แชมป์อูคูเลเล่ จากการประกวดออนไลน์ของฮาวาย งาน 10th Annual The International Ukulele Contest Online 2021 ด้วย เริ่มจากประกวดรายการนี้ในไทย ทีนี้พอรายการแข่งระดับโลกแบบเป็นทีม ก็เลยจับคู่กับน้องกีตาร์ (เพื่อนที่โรงเรียนดนตรี) เข้าประกวด แล้วก็ได้แชมป์
เล่นกีตาร์ด้วยร้องเพลงด้วยก็สนุกนะคะ แต่เป็นนักร้องง่ายกว่า ตั้งใจร้องอย่างเดียว เล่นกีตาร์ไปด้วยร้องไปด้วย ต้องแยกประสาท ช่วงแรกๆ ร้องเป๋ไปเลย นิ้วต้องขยับเล่นแล้วก็ต้องร้อง บางทีมีร้องประสานด้วยอีก แต่ร้องไปเล่นไปก็ยิ่งสนุกขึ้น เราจะเล่นคำเล่นจังหวะ…ก็อยู่ที่เรา”
ล่าสุดเธอคนนี้ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่ที่แค่การร้อง…และเล่น ปิ๊งปิ๊งเพิ่งก้าวเข้าสู่ทำเนียบนักพากย์น้องใหม่
“พอดีเพื่อนชวนไปเรียนพากย์เสียง หนูก็เลยไปเรียน ทีนี้มีคนชวนไปออดิชัน พอไปลองทดสอบก็ผ่าน เลยมีงานพากย์เสียงการ์ตูนและหนัง ที่มีให้ชมกันแล้วคือเรื่อง The One and Only Ivan งานพากย์นี้ก็ยากหน่อยนะคะ การพากย์การ์ตูนเสียงเราก็จะ alert ขึ้นมากว่าปกติ ถ้าเป็นหนัง ก็คล้ายเสียงใช้ปกติ แต่ต้องอ่านบทให้ทัน พูดเร็วๆ สับ สับ สับ เราก็ต้องพูดให้ทัน มีอารมณ์ร่วมในหนัง บางทีก็ต้องหัวเราะจริงๆ โกรธ กรี๊ด ก็มี การทำอารมณ์ก็ยาก ต้องอินกับตัวละคร แต่สนุกดีและช่วยการร้องเพลงด้วยค่ะ ช่วยทำให้เรามีอินเนอร์ และสนุกสุดตรงที่ตอนพากย์ได้ดูหนังก่อนคนอื่นนี่แหละ”
Suggestion
ปิ๊งปิ๊ง…ขอเป็นผู้ชนะบนเวที The Power Band
นาทีนี้ปิ๊งปิ๊งและสมาชิกทุกคนของวง I Love Wednesday Gen.1 เพิ่งผ่านรอบรองชนะเลิศของการแข่งขัน The Power Band ยิ่งไปกว่านั้นคงกำลังลุ้นสุดตัวให้ผลงานแห่งความตั้งใจส่งให้ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ
“การเข้าแข่งขัน The Power Band ครั้งนี้หนูตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการแข่งขันในฐานะวงดนตรีครั้งแรกของหนู จากปกติที่แข่งร้องเดี่ยว หรือจากที่ร้องอย่างเดียวจะง่ายกว่า เราส่งอารมณ์ให้กรรมการ ให้คนดู พอมาร้องเป็นวง ต้องเอนเตอร์เทนคนดู พูดคุยกับคนดูบ้าง ต้องทำงานกันเป็นทีมเวิร์ก สมมติวงเล่นดนตรีเสียงดังแล้วเราร้องเบา ผลงานออกมาจะดรอปไปเลย
หนูว่าการทำงานร่วมกันสนุกดี ร้องเพลงแล้วเต้นพร้อมๆ กันก็น่ารักดีค่ะ แต่เพราะโควิดพวกเราเลยรวมตัวกันซ้อมไม่ได้ ต้องส่งโน้ตมาแยกกันซ้อม แล้วนัดรวมวงกัน จนช่วงใกล้ๆ การประกวดถึงได้เริ่มซ้อมทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ซ้อมค่อนข้างหนักเลยค่ะ เพราะช่วงใกล้ถึงวันแข่ง หนูสนุกมากที่ได้ซ้อมกับพี่ๆ ในวง แต่ก็รู้สึกกังวลตอนที่มีเวลาเหลือน้อยแล้ว ตัวหนูเองคาดหวังว่าอยากเข้ารอบชิงฯ แต่ไม่อยากคาดหวังมาก กลัวผิดหวัง ยังไงก็ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ”
Suggestion
เราขอรู้จัก…ปิ๊งปิ๊งเพิ่มอีกนิด
• ปัจจุบันปิ๊งปิ๊งอายุ 13 ปี
• ในวงโยธวาทิตของโรงเรียนโยธินบูรณะ ปิ๊งปิ๊งทำหน้าที่ประจำในตำแหน่งไซโลโฟน
• เชื่อไหมว่า จนถึงตอนนี้ปิ๊งปิ๊งไม่เคยไปดูคอนเสิร์ตการแสดงสดๆ อะไรมาก่อนเลย ที่เธอชอบ คือการดูการแสดงดนตรีผ่านยูทูบ แต่ตอนนี้เริ่มอยากไปสัมผัสบรรยากาศจริงแบบนั้นบ้างแล้ว
• ธนนท์ คือ ศิลปินที่เธอกำลังชื่นชอบ เพราะร้องเพราะ ตลกด้วย คุยกับคนดูเป็นธรรมชาติ
• ชอบวาดรูปอนิเมะ Hunter X Hunter ที่เป็นการ์ตูนเรื่องโปรด
• ช่องยูทูบสุดโปรดคือ “เก๋ไก๋สไลเดอร์”
• อยากไปเยอรมนี เพราะอยากไปเล่นหิมะ
• สามารถติดตามผลงานของปิ๊งปิ๊งย้อนหลังได้ในรายการ ดันดารา, We Kid Thailand ซีซั่น1, The Voice Kids Thailand 2019, Top One ตัวจริงชิงหนึ่ง และ ร้องได้ยกกำลังซ่า
