ย้อนไปเมื่อสัก 2- 3 ปีก่อน หนังปลาทอดกรอบรสไข่เค็มคือของขบเคี้ยวที่มาแรงจัด จนก่อให้เกิดกระแสหนังปลากรอบ+ไข่เค็มฟีเวอร์ ชนิดที่หันไปทางซ้ายก็เจอผลิตภัณฑ์จากหนังปลาสารพัดสปีชีส์ หันไปทางขวาก็เจอกองทัพโปรดักต์ตั้งแต่ของคาวยาวไปถึงของหวานที่ตบเท้าฟีเจอริงกับไข่เค็มเพื่อจับกระแสนี้ให้ทัน
การรวมตัวของหนังปลาและไข่เค็มในเทรนด์ของวันนั้น ยังจุดประกายให้เกิดธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์ “เพลินดี” หนังปลาแซลมอนทอดกรอบ ที่ชูธงความอร่อยแบบไทยๆ เข้าร่วมสู้ศึกสแน็กระดับอินเทอร์ โดยมี คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เป็นสถานที่ประเดิมสนามแข่งขันแรก ส่งความอร่อยแบบเพลินดี…สมชื่อ เป็นเอกลักษณ์และคุณสมบัติสำคัญของแบรนด์
ชิมเพลินจนเกิดเป็นเพลินดี
เพลินดี หนังปลาแซลมอนทอดกรอบสัญชาติไทย เริ่มต้นจากที่มาง่ายๆ ด้วยคำว่า “ชอบชิม” ของเจ้าของแบรนด์ ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางที่ต้องเรียกว่าเข้าขั้นยาก…กว่าจะได้เป็นความอร่อยฉบับไทยที่ไม่เหมือนใคร
“ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นจะมีหนังปลาแซลมอนเจ้าที่ดังๆ ของสิงคโปร์ เวลาเราไปเที่ยวก็ชอบไปซื้อกลับมา” พลอยนภัส ศิริเรืองวรากุล นักชิมขั้นเทพของเพื่อนๆ เริ่มเล่าให้เราฟังถึงการเกิดขึ้นของ “เพลินดี” หนังปลาแซลมอนกรอบแบรนด์ของไทย สำหรับเพื่อนๆ เธอคือคนที่ถ้าใครจะทำกิจการเกี่ยวกับอาหารใดๆ เป็นต้องมอบหมายให้เธอทดลองความอร่อยก่อนปล่อยสู่ตลาด ความสามารถและความชื่นชอบนี้ทำให้เธอผันตัวมาเป็นผู้ก่อตั้งเพลินดีอย่างเต็มตัว
เธอยังคงเล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจในการ “สร้าง” หนังปลากรอบในแบบฉบับของเพลินดีเองว่าเป็นเพราะเมื่อกินหนังปลากรอบของยี่ห้อนั้นแรกๆ ก็รู้สึกว่าอร่อยจังเลย แต่เมื่อกินไปเยอะๆ แล้วจะรู้สึกเลี่ยน ได้ลองชิมอยู่หลายยี่ห้อแล้ว ยังไม่เจอตัวที่รู้สึกว่ามันไลต์…มันไม่เลี่ยน นั่นจึงเป็นที่มาให้อยากทำแบรนด์ของตัวเอง ให้เป็นหนังปลาแซลมอนที่กินแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน ไม่รู้สึกว่าอมน้ำมัน
“เลยคุยกับทางโรงงาน หาสูตร คิดค้น สูตรเฉพาะของแบรนด์เพลินดี ในแบบที่เรียกว่า บางกรอบ ไม่รู้สึกถึงน้ำมัน กินได้เรื่อยๆ ไม่มีความเลี่ยน…ทั้งหมดเราใช้เวลาคิดค้นอย่างน้อย 5-6 เดือน หนังปลากรอบของเรา เวลากินก็จะรู้สึกแตกต่าง เราก็มีกรรมวิธีที่อาจจะไม่เหมือนคนอื่นนิดหน่อย ใช้การทอดเหมือนกันแต่ว่าอุณหภูมิแล้วก็เทคนิคการทอดแบบพิเศษ ทำให้หนังปลาออกมาแตกต่าง ส่วนน้ำมันที่ใช้ทอดก็เปลี่ยนทุกรอบ ไม่เคยใช้ซ้ำเลยด้วย
ถ้าเอามาเปรียบเทียบกัน หนังปลาของเราจะบางกรอบและไม่เหม็นหืน อันนี้เห็นได้ชัดเพราะลองมาหมดแล้ว และเราไม่ได้พูดเอง แต่ลูกค้า เพื่อน และคนที่ได้ชิมก็จะพูดเหมือนกันหมด
แบรนด์เพลินดีก็เป็นชื่อที่ดี มันบอกความตัวเราได้มากที่สุก ก็คือกินได้เรื่อยๆ อร่อยเพลินจนหยุดไม่ได้…เป็นชื่อที่มีความหมายดีและสื่อในความเป็นของขบเคี้ยวได้ชัดเจน”
เปิดตัวด้วยความแตกต่าง
แม้จะมีหนังปลาทอดกรอบในตลาดอยู่หลายแบรนด์ แต่เพลินดีก็คิดค้นและพัฒนา ทั้งรสสัมผัสและรสชาติของหนังแซลมอนทอดกรอบอันเป็นเอกลักษณ์ที่อร่อยเพลินจนเกินจะหยุด
“ความพิเศษของแบรนด์เรา คือวัตถุดิบที่มีคุณภาพ อย่างตัวหนังปลาแซลมอน ซึ่งจะมีหลายส่วนด้วยกัน แต่เราจะคัดแบบที่มีคุณภาพ เกรดดี ชิ้นใหญ่ คัดเฉพาะส่วนที่ไม่หนา เพื่อให้ทอดแล้วสีเหลืองทองและบางกรอบ ไม่แข็ง ไม่ใช้เศษหนังปลาชิ้นเล็กๆ อย่างที่เรามักจะเจอเวลาไปกินก๋วยเตี๋ยว ซึ่งแบบนั้นจะเอาเศษหนังปลาจากโรงงานมาใช้ แต่ของเราไม่ใช่ เราเอาหนังปลาจริงๆ ส่วนที่จะนำมาประกอบอาหาร เป็นเกรดดีที่คัดมาเป็นพิเศษ
ใครที่เคยชิมผลิตภัณฑ์ของเพลินดี แค่แกะออกมาก็จะเห็นว่าหนังปลาของเราชิ้นใหญ่ เคี้ยวได้เต็มคำ เราทำการบ้านเยอะหน่อยในการเลือกวัตถุดิบ ไปติดต่อโรงงานหลายที่ บอกว่าเราต้องการแบบนี้ เขาทำมาให้ชิมก็ยังไม่ถูกใจ ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเจอที่ใช่ ที่ทำได้ถูกใจ ซึ่งถ้ามันยังไม่แตกต่างจากเจ้าอื่น ยังไม่ตรงกับที่เราต้องการที่อยากให้ผลิตภัณฑ์ของเราออกมาเป็นแบบนั้น ยังไงก็ไม่เอา เรายอมเสียเวลาและยอมเสียเงินจนกว่าจะได้สิ่งที่ตรงกับที่ตั้งใจไว้จริงๆ
แล้วจนที่สุดแบรนด์เราก็ได้โรงงานที่ได้มาตรฐานและชำนาญในการผลิตหนังปลาทอดกรอบ โดยมีเพลินดีเป็นแบรนด์พรีเมียมหนึ่งเดียวของโรงงาน”
อร่อย…ไม่ซ้ำและไม่มีใครเหมือน
เพลินดี เอาใจคนชอบ(ขบ)เคี้ยว ด้วยสแน็ก 2 รสชาติ ที่อาจหาไม่ยากในท้องตลาด แต่เชื่อเถอะว่าที่เพลินดีเขายกมาเสิร์ฟจะถูกใจและถูกปากมากกว่า ด้วยความเฟ้นหาสิ่งที่ใช่…จากคนที่ช่างเลือกช่างกินอย่างแท้จริง
เธอเล่าให้เราฟังว่าเริ่มแรก เพลินดีผลิตหนังปลากรอบออกมา 2 รสคือ รสไข่เค็มกับรสต้มยำ แต่เพราะในตอนเริ่มต้นนั้นหนังปลารสไข่เค็มฮิตเอามากๆ ฮิตมากจนไม่มีไม่ได้ ในขณะที่รสต้มยำนั้น ทางเพลินดีเลือกทำเพราะต้มยำเป็นสิ่งที่บอกความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ประกอบกับรสชาติของต้มยำแบบไทยๆ ก็เข้ากับอาหารทะเลได้ดี
“ที่จริงตอนนั้นเรามีแผนที่จะต่อยอดไปอีกหลายรสชาติ เช่น หม่าล่า ฯลฯ แต่มาเจอโรคระบาดเสียก่อน ทำให้ต้องหยุดทำรสชาติอื่นเพิ่มไปก่อน
ความโดดของรสไข่เค็มที่ตั้งใจอยากจะให้ออกมาละมุน ไม่เลี่ยน เท่าที่ตัวเองได้ลองชิมมาทุกแบรนด์ บางเจ้าหนังปลาจะหนาและอมน้ำมัน พอใส่ไข่เค็มลงไป ตัวไข่เค็มจะไปติดอยู่ที่หนังปลาเยอะมาก เกาะแน่น กินไปคำแรกอาจจะรู้สึกเข้มข้น รู้สึกอร่อย แต่พอกินไปสักครึ่งถุงจะรู้สึกเลี่ยน และเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ
โจทย์ของเราก็ต้องการให้หนังปลากรอบนี้อร่อยแบบไลต์ ให้รสชาติละมุน ไม่เลี่ยน ให้กินไปได้เรื่อยๆ แบบที่เราว่าน่าจะตรงใจคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ และตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตอนนี้ก็เปลี่ยนจากขนมที่รสจัดมาเป็นแบบรสชาติกำลังพอดีๆ”
นอกจากอร่อยถูกใจแล้ว เพลินดียังตั้งใจส่งความอร่อยสไตล์ไทยให้ถูกใจนักชิมทั่วโลก เรื่องนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นการทำการบ้าน คิดและตั้งใจทำมาเป็นอย่างดี
“เพราะเรามองถึงลูกค้าต่างชาติ เช่น คนจีน จึงวางให้รสต้มยำของเราออกมาแบบเน้นความหอมของกลิ่นต้มยำจริงๆ แต่รสชาติไม่เผ็ด ไม่เปรี้ยวโดด เน้นความกลมกล่อม ถึงเครื่องต้มยำ ไม่เน้นไปในทางจัดจ้านมากจนกินแล้วหิวน้ำ คือเน้นความเบาแต่อร่อย ไม่ใช่เบาแล้วจืด ซึ่งกว่าจะหารสชาติที่ออกมาได้ตรงใจก็ใช้เวลาไปครึ่งปี และที่ใช้เวลานานกว่านั้นคือการผลิตที่ใช้เวลาอีกนานนับปีจึงสำเร็จตามต้องการ”
ประกาศตัว สู่สนามระดับโลก
สำหรับเพลินดี ไม่มีสนามไหนจะกว้างใหญ่พอให้ประกาศถึงความอร่อยที่ตั้งใจสร้างสรรค์ได้เหมาะเท่ากับที่ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จุดนัดพบของนักเดินทางทั่วโลกอีกแล้ว
“เราเริ่มออกวางขายมา 2 ปีแล้ว โดยวางขายที่ คิง เพาเวอร์ เป็นที่แรก ต้องบอกก่อนว่าก่อนจะเป็นหนังปลาแซลมอน เรามีผลิตภัณฑ์อื่นที่วางขายที่นี่อยู่แล้ว เป็นกุ้งกรอบ โดยเริ่มแรกได้โจทย์มาจากทาง คิง เพาเวอร์ ว่ากำลังมองหาสินค้าที่เป็นอาหารทะเลแปรรูป เพราะสินค้าส่วนใหญ่ที่อยู่ในนั้นจะเป็นผลไม้ ขนมไทย แต่ยังไม่มีตัวที่เป็นอาหารทะเล เราก็เลยเริ่มจากการทำกุ้งก่อน ทำเป็นกุ้งเสียบปรุงรสพร้อมรับประทาน เป็นของขบเคี้ยวกรอบๆ จากกุ้งตัวเล็กๆ แล้วก็ต่อยอดมาเป็นหนังปลาแซลมอนในเวลาต่อมา”
แต่ก่อนหน้าที่จะได้ส่งตรงถึงมือนักชิมจากทุกมุมโลก เพลินดีต้องสอบให้ผ่านด่านยักษ์จากคิง เพาเวอร์เสียก่อน ด้วยมาตรฐานด้านต่างๆ ที่กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน ทำให้หนังปลาแซลมอนกรอบที่ตั้งใจเติมรสชาติไทยๆ ลงไปให้กลายเป็นของอร่อยติดมือนักท่องเที่ยว ต้อง “เช็กลิสต์” คุณสมบัติของสินค้าให้พร้อมลงสนามใหญ่ต่อไป
“หลังจากที่ไปเสนอสินค้ากับทาง คิง เพาเวอร์ แล้วเราก็ต้องทำผลิตภัณฑ์ที่มีผ่านมาตรฐานที่สูงมากของ คิง เพาเวอร์ให้ได้ เราต้องทำให้ผ่านมาตรฐานทุกขั้นตอนตามที่เขากำหนด เช่น อายุสินค้า ผ่าน อย. หรือข้อกำหนดอื่นๆ ที่ต้องทำให้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ แต่เราผ่านตั้งแต่รอบแรกตามโจทย์ที่เขาให้มาทุกอย่าง
“บรรจุภัณฑ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ” นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เพลินดีใส่ใจอย่างยิ่ง “มีการออกแบบฟอยล์ให้หนาพอที่จะเก็บความสดและกรอบไว้ เพราะเราไม่ใส่วัตถุกันเสียเลย การวางสินค้าคือจะต้องมีอายุเป็นปีเป็นอย่างต่ำ เราต้องทำอย่างไรให้ของกินที่อยู่ในนั้น แกะออกมาแล้วต้องไม่เหี่ยว ไม่นิ่ม ไม่เหม็นหืน บรรจุภัณฑ์ต้องได้มาตรฐานว่าตัวนี้ต้องใช้กี่ไมครอน ต้องทึบแสง แสงลอดผ่านไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นตัวหนังปลาจะนิ่ม จะเก็บไม่ได้นาน ซึ่งตรงนี้ต้นทุนก็จะสูง แต่เป็นรายละเอียดที่ต้องใส่ใจ เพราะสินค้าเราเป็นสินค้าที่ต้องรักษาความสด ความกรอบไว้ให้นานที่สุด”
Suggestion
ก่อนจะถึงความสำเร็จ
แค่เพียงปีแรกที่วางขายใน คิง เพาเวอร์ เพลินดีก็ได้ผลตอบรับดี วางขายทุกครั้งก็หมดทุกครั้ง มีรายการสั่งซื้อใหม่มาตลอด แต่โชคไม่ดีตรงที่ความสำเร็จเกิดได้แค่ปีเดียวก็พบกับอุปสรรคที่ชื่อ โควิด-19
“แม้ว่าเราจะไม่ได้ติดอันดับสูงๆ ในหมวดสินค้าขายดีของ คิง เพาเวอร์ เพราะยอมรับว่าสินค้าของเรามีราคาค่อนข้างสูง นักเดินทางก็จะไปเน้นผลไม้อย่างมะม่วง มะพร้าว หรือทุเรียนมากกว่า แต่ก็พอขายได้ แบบเอาไปวางขายคือหมดทุกรอบมาโดยตลอด
ส่วนใหญ่ลูกค้าของเพลินดีเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน เวลาเราเดินทางเองก็จะแอบไปดูในสนามบิน ทำเป็นเหมือนลูกค้า แอบไปถามพนักงานว่าขายเป็นอย่างไร อร่อยไหม ขายดีไหม พนักงานก็บอกว่าขายได้เรื่อยๆ…รสชาติไหนขายดี หรือตอนที่เห็นลูกค้าซื้อ เราก็รู้สึกดีใจ
มีครั้งหนึ่งเห็นนักท่องเที่ยวมองๆ อยู่ เราก็แอบบอกว่าอันนี้อร่อยนะ (หัวเราะ) เหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่พอมาเจอโควิดก็ชะงักไป แต่เราก็ยังได้ขายใน คิง เพาเวอร์ออนไลน์ ซึ่งทำให้ยังพอขายได้อยู่”
น้องใหม่ของเพลินดี
แม้จะยังต้องสู้กับวิกฤติจากโรคระบาดไม่ว่าจะระลอกไหน ดูเหมือนเพลินดีก็ไม่ได้หยุดนิ่ง แต่ยังคงทดลองออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเอาใจคนช่างเคี้ยวเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว ซึ่งครั้งนี้ทางแบรนด์เลือกหยิบของ “หวาน” แทนที่จะเป็นของคาวอย่างที่ผ่านมา ด้วยการใช้วัตถุดิบผลไม้ยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งของไทย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่เราอยากชิม ด้วยรสชาติและคุณภาพที่แตกต่างจากท้องตลาดของแบรนด์…ไม่ต่างไปจากผลงานดีๆ ของเพลินดีที่ผ่านมา
“เราเพิ่งทำกล้วยทอดกรอบหรือกล้วยฉาบ พอดีมีหุ้นส่วนคนหนึ่งเป็นคนใต้ เขาเอามาให้ชิม พอชิมแล้วเราก็เกิดความคิดแบบ ‘ต้องทำแล้ว’ อันนี้เป็นความโชคดีที่จับพลัดจับผลูมา ต่อจากนี้ไปก็จะเป็นอีกความพิเศษของแบรนด์เพลินดีที่ไม่เหมือนใครอีกเหมือนกัน รับรองว่าเป็นกล้วยฉาบที่อร่อยที่สุดที่ทุกคนเคยกินมา
ตอนนี้เพลินดีพัฒนาสูตรเรียบร้อยแล้ว และเราก็พัฒนากล้วยต่อไปก่อน เพราะสินค้าตัวนี้แทบไม่ต้องพึ่งตลาดต่างประเทศเลย แค่ในประเทศ แค่ปากต่อปากก็ขายได้เรื่อยๆ แล้ว คือเรายังไม่ได้ผลิตเป็นโรงงาน ทดลองทำจากในบ้าน กำลังการผลิตก็เลยน้อย ตอนนี้จึงพยายามหาโรงงานผลิตที่ลงตัวอยู่
ถึงแม้ตอนนี้เพลินดียังไม่มีวางขายต่างประเทศ แต่ในอนาคตจะมีแน่นอน เราอยากวางขายในเอเชียก่อน จริงๆ ก็อยากทำไปหมด ถ้ามีโอกาสทำได้ และถ้ากำลังเราเพียงพอในการไปตลาดโลก ซึ่งเรามองว่าตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์กุ้งกับหนังปลาในยุโรปอาจยังไม่ได้กว้างขนาดนั้น แต่สำหรับกล้วยของเพลินดีน่าจะมีความเป็นไปได้สูงกว่า ซึ่งที่สุดแล้วก็คงต้องเริ่มจากในประเทศและเริ่มจากที่ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีก่อน”
ใครที่อยากลองเพลินไปกับผลิตภัณฑ์ของเพลินดี แม้ยังไม่มีโอกาสเดินทาง ก็สามารถคลิกเข้าไปซื้อทางออนไลน์ ให้ความอร่อยส่งตรงมาถึงที่บ้านได้เช่นกัน
เพลินดี หนังแซลมอนกรอบ
140 ถนนมหาราช ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 81000
Instagram: PLERN DEE
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: PLERN DEE
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา
ปักหมุดจุดเช็กอิน–แชะรูป–ท่องเที่ยวใกล้เคียง
• อ่าวมาหยา หลังจากปิดให้ธรรมชาติฟื้นฟูไป 3 ปี ในที่สุดก็เพิ่งกลับมาอวดความงดงามของทะเลไทยอีกครั้งช่วงต้นปี 2565 แต่นับจากนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยือนชายหาดที่ติดอันดับสวยงามระดับโลกจะต้องจองล่วงหน้าในแอป QueQ เท่านั้น รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในหมู่เกาะพีพี ซึ่งถือว่าอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราด้วยเช่นกัน
• ร้านอาหารบ้านมะหญิง กระชังปลา นั่งเรือไปเกาะกลาง เพื่อลองลิ้มชิมรสอาหารทะเลสดๆ สดจากกระชังของร้าน นำมาปรุงเป็นอาหารใต้รสจัดจ้าน ทีเด็ดสำคัญคือหอยชักตีน อีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อของจังหวัด
• เขาทองฮิลล์ จุดชมพระอาทิตย์ตกที่กำลังมาแรง จิบกาแฟสุดชิล รอชมวิวสุดอลังการ ของพระอาทิตย์ดวงโตที่ค่อยๆ ลับหายไปหลังขุนเขาและท้องทะเล