จากการที่ได้พบเห็นงานศิลปะที่สวยงามด้วยฝีมือชาวรั้วชาววังจากคุณยายข้างบ้านมาตั้งแต่เด็ก เป็นการปลูกฝังความรักและความสนใจด้านงานศิลปะและการประดิดประดอยลงในใจของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
รวมถึงการอาศัยอยู่ในชุมชนชาวจีนที่ทุกหลังคาเรือนมีอาชีพค้าขาย ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ น้อยหน่า ฐานิตารัชต์ พงศ์พิสุทธิ์ ผู้ก่อตั้งผลิตภัณฑ์ต่างหูแบรนด์ Nany ฝันว่าสักวันหนึ่งฉันจะมีอาชีพค้าขายเพื่อหารายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวบ้าง แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงแอบเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ในใจก่อน จนกระทั่งได้มาเรียนคหกรรม ไฟที่อยู่ในใจจึงลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
“ตอน ม.ปลาย อาจารย์ที่สอนคหกรรมเรียกเราไปชม บอกว่าเรามีแววทางนี้ มีพรสวรรค์ ทำงานออกมาได้ดี งานสวย เป็นการประดิษฐ์ดอกไม้ผ้า ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในสมัยนั้น อาจารย์ให้ไปสังเกตดอกไม้จริงในธรรมชาติ แล้วแกะรายละเอียดออกมาให้เหมือนจริงที่สุด เราเป็นคนชอบดอกไม้อยู่แล้ว เลยยิ่งสนใจมากขึ้น”
แต่น้อยหน่าในวัยนั้นมองว่าการทำงานนี้เป็นอาชีพเพื่อหารายได้ยังคงเป็นแค่ความฝัน จึงกลับเข้าสู่ระบบการเรียนและเมื่อเรียนจบก็ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงานทันที
ความฝันยังคงอยู่ในใจเสมอ
แม้จะทำงานเป็นสาวออฟฟิศ แต่น้อยหน่าก็ไม่เคยทิ้งความฝันและความชอบในการทำงานศิลปะและงานปั้น ยังคงนึกถึงความสวยงามของดอกไม้งานฝีมือของคุณยายเสมอ
“ดอกบัวของคุณยายเป็นดอกบัวที่ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้ว เคยเห็นของเขาคนเดียวเท่านั้น ดอกเป็นสีชมพูมีประกายวาวๆ ใบสีเขียวสะท้อนแสง แล้วก้านดอกก็อ่อน ไหวไปมาเหมือนดอกไม้จริง เพราะทำจากกระดาษที่มาจากเมืองจีน คุณยายจะทำเพื่อติดชุดสังฆทานไปถวายวัดช่วงเข้าพรรษาและทำขายด้วย นั่นทำให้เรารู้ว่างานฝีมือแบบนี้ก็สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้”
ในวันหยุดที่ว่างเว้นจากการทำงาน น้อยหน่าก็จะไปเรียนการประดิษฐ์ดอกไม้หรืองานฝีมือ DIY ประเภทต่างๆ เพราะได้แรงบันดาลใจจากหนังสือ DIY ของญี่ปุ่นเล่มหนึ่ง หนังสือภาพสวยๆ แบบนี้ในตอนนั้นราคาค่อนข้างสูง น้อยหน่าก็เก็บเงินซื้อ และแล้วในวันหนึ่งฟ้าก็เปิดทาง “ตอนนั้นมีอาจารย์ชาวญี่ปุ่นมาเปิดสอนการปั้นดินญี่ปุ่นที่ใกล้ๆ ที่ทำงาน แต่ค่าเรียนแพงมาก แถมสอนวันธรรมดา เลยไม่มีโอกาสได้เรียน”
แต่โอกาสงามๆ ไม่ได้หมดลงเพียงแค่นั้น “วันหนึ่งเพื่อนมาบอกว่าที่ห้างสรรพสินค้ามีเปิดสอนการปั้นแป้งปังนะ (แป้งปัง คือ การเอาขนมปังมาป่น นำไปตากให้แห้ง แล้วผสมกับกาวและครีม) ก็ไปเรียนแล้วปั้นดอกหน้าวัวมาให้แม่ แม่ชอบมากถึงขนาดเอาไปไว้ที่หัวนอน เราก็ยิ่งมีแรงบันดาลใจจากที่แม่ชอบงานของเรา” ตอนนั้นเธอมีความคิดจะลาออกจากงาน เพื่อมาสร้างงานศิลปะและเปิดกิจการของตัวเอง แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเงินทุน โครงการนั้นจึงถูกพับเก็บอีกครั้ง
เรียนรู้จากวิกฤต พลิกให้เป็นโอกาส
แต่แล้วในปี 2540 เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ และทางบริษัทเสนอให้พนักงานสมัครใจลาออกพร้อมเงินก้อน นั่นจึงเป็นโอกาสให้คุณน้อยหน่าสมัครใจและมีเงินทุนสำหรับกิจการในฝัน แถมยังได้เรียนกับอาจารย์ชาวญี่ปุ่นตามที่ตั้งใจไว้อีกด้วย
“ตอนนั้นไม่ได้ปรึกษาใครเลย คิดอยู่คนเดียว ถ้าปรึกษาพ่อแม่เขาก็คงไม่อยากให้เราออก”
น้อยหน่าจึงเริ่มต้นคว้าฝันด้วยการกลับไปหาอาจารย์ที่สอนคหกรรม ไปช่วยงานอาจารย์ก่อน ประกอบกับในช่วงนั้นมีห้างสรรพสินค้าเปิดตามชานเมืองและมีพื้นที่ให้เช่าเยอะ การออกบูทเพื่อสอนการปั้นดินไทยจึงกำเนิดขึ้น
“ในระยะแรกยังไม่มีใครรู้จักศิลปะการปั้นดินมาก่อน เป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก ไปที่ไหนคนก็สนใจและของก็ขายหมดตลอด เวลาตอนนั้นงานนี้ยังใช้ชื่อว่า ‘หัตถศิลป์ดินไทย’ ซึ่งเป็นชื่อแบรนด์ของทางอาจารย์ที่เราไปขอความอนุเคราะห์สืบสานและสืบทอดแบรนด์ของอาจารย์ และชื่อนี้ผู้ใหญ่ทางททท. เป็นคนตั้งให้”
Suggestion
จากตัวตนถ่ายทอดสู่…ผลงาน
หลังจากที่สร้างชื่องานปั้นดินในนามของหัตถศิลป์ดินไทยมานาน ในปี 2549 น้อยหน่าก็มีโอกาสได้เข้าไปอบรมกับกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และเรียนรู้เพิ่มขึ้นในส่วนของการออกแบบ การเป็นดีไซน์เนอร์ การนำกิจการออกสู่ตลาดไทยและตลาดสากลมากขึ้น พร้อมทั้งจดทะเบียนบริษัท และในปี 2551ชื่อ Nany จึงถือกำเนิดขึ้น เพราะการก้าวสู่ตลาดสากลนั้น ชื่อต้องเป็นที่จดจำและชาวต่างชาติสามารถเรียกได้ง่าย
“นานี่” มีที่มาจากชื่อน้อยหน่า ทุกอย่างของ Nany จึงมาจากตัวตนของผู้สรรค์สร้าง “ตัวตนของ Nany นั้นจะเป็นผู้หญิงสวย นิสัยหวานๆ มีความเพ้อฝัน มองโลกสวยงาม มีพลังบวก และมีความเป็นนิรันดร์ เพราะศิลปะนั้นไม่มีวันตาย” และสิ่งที่ Nany เน้นอยู่เสมอก็คือ คุณภาพที่ดีของดินและอัตลักษณ์ของแบรนด์เรา ต่างหูก็เน้นทรงเรขาคณิตกับงานธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ เน้นสีสันตามเทรนด์ในแต่ละช่วง ต้องถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกออกมาในงานศิลปะแต่ละชิ้นให้ได้
“ทุกวันนี้ความสุขคือได้ทำงานที่เรารัก ถ้างานยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย และมีความสุขที่ได้ทำ และมีความสุขที่งานที่เราทำนั้นเลี้ยงชีพเราได้…แรงบันดาลใจของการออกแบบมาจากสิ่งรอบตัว ต้นไม้ใบหญ้า ธรรมชาติ…”
น้อยหน่า ฐานิตารัชต์ พงศ์พิสุทธิ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Nany
ใส่ใจในทุกขั้นตอนของการสร้างงาน
ในการสร้างสรรค์ต่างหูขึ้นมาสักคู่หนึ่งก็มีขั้นตอนและรายละเอียดเยอะ “วิธีการทำต่างหู เราก็จะออกแบบก่อน ดูว่าเทรนด์ตอนนี้เป็นอย่างไร คนสนใจอะไร นิยมสีอะไร ดูแฟชั่นโชว์ ว่าตอนนี้คนเขาแต่งตัวกันอย่างไร ดูไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต แรงบันดาลใจของการออกแบบมาจากทุกสิ่งรอบตัว ต้นไม้ ใบหญ้า ธรรมชาติ และเอาความเป็นธรรมชาติมาผสมกับตัวตนของ Nany ออกแบบมาเป็นผลงานในแต่ละซีซั่น ในหนึ่งซีซั่นอาจจะมีสัก 10 แบบ จะออกวางขายประมาณ 2 เดือน แต่ก่อนในหนึ่งเดือนจะออกมาหลายแบบ แต่ช่วงนี้จะขายได้ช้าลง เราก็ลดการผลิตลง”
Nany นำรูปทรงของดอกไม้มาผสมผสานกับการออกแบบ ถ้าเป็นต่างหูก็จะต้องลดทอนรายละเอียดลง ยังคงให้เห็นรูปทรงว่าเป็นดอกไม้ชนิดไหน แต่จะเน้นสีสันที่สวยงามมากกว่า
“ต่างหูของ Nany จะมี 2 รูปแบบ คือดอกไม้และรูปทรงเรขาคณิตหรือลายกราฟิก สาวๆ จะชอบลายดอกไม้มากกว่าลายเรขาคณิต ส่วนลายกราฟิกจะเป็นวัยรุ่นที่ชอบแต่งตัวไม่เหมือนใคร คิดนอกกรอบ สำหรับดอกไม้ก็จะเป็นผู้หญิงหวานๆ สาวออฟฟิศ คนชอบแต่งตัว ชอบความสวยงาม หรือคนใส่ต่างหูเพื่อเพิ่มความสวยงาม เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง”
Suggestion
ปัญหาไม่ได้ทำให้ท้อ แต่ผลักดันให้ก้าวต่อไป
ทุกการทำงานย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอ แม้เธอจะบอกว่าไม่ได้ซีเรียสกับปัญหามากนัก เพราะแบรนด์สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่ปัญหาในเรื่องคนต่างหากที่ทำให้เธอเสียศูนย์ไปไม่น้อย
“ตอนนี้เราไม่ได้เปิดสอนอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะมีคนไม่ให้เกียรติแบรนด์ของเรา ไม่ได้บอกว่าได้ความรู้มาจากไหน และจากการที่ออกบูทบ่อยๆ มีคนมาก็อปปี้งานของเราแล้วบอกว่าเป็นงานของเขา แต่ถ้าคนที่ใจรักจริงๆ ก็รวมกลุ่มกันมาปาร์ตี้กันแล้วเราจะสอนไปด้วย มานั่งเล่นพบปะพูดคุยกันดีกว่า หรือมีบริษัทเชิญเราไปสอนให้พนักงานเป็นงานอดิเรก หรือให้พนักงานที่ตกงานหรือต้องการออกจากงาน จะได้มีอาชีพเสริมมีรายได้ หรือเป็นวิทยากรพิเศษก็ยังยินดีจะสอนอยู่ เพราะเราไม่ปิดกั้นความรู้ ผู้ที่อยากมาเรียนเรายินดี ไม่ปฏิเสธ เราให้ใจกับเขา สอนทุกคนเท่าเทียมกัน เรามีใจเท่าไรก็ให้ผู้เรียนเท่านั้น จะถ่ายทอดพลังให้ทั้งหมด”
ดินไทย ปั้นเครื่องประดับไทย สไตล์อินเทรนด์
ความเป็นไทยที่อยู่ในหัวใจและผลงาน ในระยะแรกที่คนเริ่มรู้จักศิลปะการปั้นดอกไม้และเครื่องประดับจากดิน ก็จะรู้ว่าเป็นงานปั้นดินโดยใช้ดินญี่ปุ่น แต่ทางหัตถศิลป์ดินไทย ก็ทำให้คนทั่วไปได้รู้ว่าดินไทยนั้นมีคุณสมบัติที่ดีไม่แพ้ดินญี่ปุ่น และยังมีการผสมผสานให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย โดยเฉพาะกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
“ผู้ที่มาเรียนหรือลูกค้าประจำจะจำได้เลยว่าดินนี้เป็นของเรา เพราะดินของเรามีความหอมเฉพาะตัว และเรายังอยากแนะนำดอกไม้ไทยให้ผู้คนได้รู้จักผ่านดินปั้นและเครื่องประดับสวยๆ และถ้ามีโอกาสได้ไปยังตลาดต่างประเทศ ก็อยากให้ดอกไม้และศิลปะแบบไทยๆ เป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น”
ผลิตภัณฑ์ชิ้นสำคัญพร้อมรางวัลการันตี
ผ่านการเดินทางภายใต้แบรนด์ Nany มาหลายปี ผ่านบทพิสูจน์และเป็นการันตีคุณภาพของงานได้ดี นอกจากความเชื่อมั่นและความศรัทธาของลูกค้าที่สนับสนุนกันมานานจนกลายมาเป็นเพื่อนกัน Nany ก็ยังได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น “การคัดสรรงาน OTOP ระดับประเทศ รางวัล Bangkok Brand ที่ทางกทม.เลือกผลิตภัณฑ์ขึ้นมาประกวดสำหรับผู้ประกอบการ และรางวัล SME ดีเด่น อันดับหนึ่งของกทม. ในปี 2020 และเราผ่านมาตรฐานทุกอย่าง เช่น ของ Green Industry เคยได้รางวัลของ Carbon Footprint ผ่านมาตรฐาน ISO 4001 เป็นการการันตีว่าสินค้าของเราได้มาตรฐาน ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้าของเราเน้นทางด้าน ECO มาก”
และอีกหนึ่งโอกาสที่ทาง Nany ภาคภูมิใจมาก คือการได้เข้าอบรมด้านการพาณิชย์และอุตสาหกรรม และทางคิง เพาเวอร์ก็มีงานประกวดเกี่ยวกับการประกอบการด้านออนไลน์ Nany ก็ไปเข้าร่วมคอร์สนั้น และยังได้รับการคัดเลือกด้วย ในปี 2562 Nany จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแพลตฟอร์มออนไลน์ของคิง เพาเวอร์ “การได้มาเจอกับคิง เพาเวอร์เหมือนโซลเมท และเราได้อมรมผ่านโปรแกรม Zoom เป็นครั้งแรกก็ที่นี่ ให้โอกาสเราได้เรียนรู้ตรงนี้ด้วย ต้องขอขอบคุณมากๆ ค่ะ”
Suggestion
ความสุขในทุกวันของชีวิต
แต่รางวัลทั้งหมดที่ได้มานั้น ยังไม่เท่ากับความสุขที่ได้รับจากการได้ทำงานที่รัก และคุณน้อยหน่ายังบอกว่าเธอภูมิใจกับงานและแบรนด์มาก
“ทุกวันนี้ความสุขคือได้ทำงานที่เรารัก แต่ก่อนทำงานออฟฟิศเครียดมาก ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไป เพราะได้มาทำงานที่เรารัก ถ้างานยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย และมีความสุขที่ได้ทำให้หัตถศิลป์ดินไทย และ Nany ยังมีตัวตนอยู่ ได้ส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าให้กับผู้รับ และเขาเก็บรักษาสิ่งนั้นเอาไว้ และมีความสุขที่งานที่เราทำนั้นเลี้ยงชีพเราได้”
แม้ตอนนี้น้อยหน่าจะบอกกับเราว่า เกษียณจากการทำงานหนักมา 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่อีก 50 เปอร์เซ็นต์ยังคงทำงานที่รักอยู่ทุกวัน เพราะการทำงานปั้นและสร้างงานศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของเธอไปแล้ว “เวลาที่เห็นคนที่ชอบงานเรา เราก็มีความสุข เราจะไม่ยอมให้งานเราหายไป คนจะต้องเห็นงานของเราอยู่เสมอแม้ว่าเราจะไม่อยู่แล้วก็ตาม และอยากที่จะถ่ายทอดความรู้นี้ให้กับผู้ที่มีใจรักจริงๆ เพราะงานศิลปะในลักษณะนี้เป็นงานที่ไม่ตาย มันสามารถต่อยอดไปได้เรื่อยๆ”
ในวันนี้คุณน้อยหน่าและ Nany ยังคงมีความฝันว่าอยากจะโกอินเตอร์ ยังมองหาโอกาสและช่องทางการตลาดอยู่เสมอ ยังไม่หมดแรง ยังมีไฟและมีความท้าทายอยู่ ยังฝันว่าสักวันดินไทยและดอกไม้ของไทยเราจะต้องไปสู่ตลาดโลก… และนั่นคือความรักและความจริงใจในสิ่งที่ Nany ทำมาอยู่เสมอ
ถอดรหัสความสำเร็จของ Nany
- ไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาสินค้าให้แปลกใหม่และดึงดูดความสนใจลูกค้าเสมอ
- มองหาช่องทางและโอกาสใหม่ๆ ในการนำเสนอสินค้าให้เป็นที่รู้จัก
- ถ่ายทอดความรู้เพื่อสืบสานงานศิลปะและงานปั้นดินให้ยังคงเป็นงานที่มีชีวิต และเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน
- สร้างสรรค์งานด้วยความสุข ด้วยใจรักในงานศิลปะและความภูมิใจในแบรนด์ เป็นสินค้าที่ผู้ซื้อจะได้รับความสุขไปด้วย
- ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีอัตลักษณ์ตัวตนที่ชัดเจน
NANY
ที่ตั้ง : 335 ซอยอ่อนนุช 35 ถนนอ่อนนุช แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
Facebook: NANY
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: NANY
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา