‘สิงหา LEELAFAI’ ผ้าหมักโคลน
บ่มสุขส่งต่อรัก ผ่านใบไม้พลิ้วไหว
เรื่อง วรากร เพชรเยียน / ภาพ LEELAFAI
น้อยคนนักที่จะรู้ว่าวัตถุดิบจากธรรมชาติบางอย่างที่ถูกมองข้ามไป จะสามารถถนอมผิวผ้าและช่วยให้เนื้อผ้านุ่มได้ หากนำไปตัดเป็นเสื้อผ้าชุดสวยก็สวมใส่สบาย แถมยังเพิ่มสีสันให้ผ้าผืนเดิมแปลกตาและสร้างความสุขทางใจที่ได้สวมใส่สินค้าจากฝีมือคนไทยด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ
คุณสิงหา พวงอ้อ แห่ง ‘ลีลาฝ้าย’ มองเห็นความพิเศษของโคลนทะเลจากจังหวัดระยองที่บ้านเกิด นำของดีที่ท้องถิ่นมีอยู่ มาพัฒนาเป็นแบรนด์ลีลาฝ้ายที่พลิ้วไหวและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเหมือนธรรมชาติที่ปรับตัว ซึ่งผ้าทุกผืนใช้เวลา ลงแรง ลงใจในการหมัก ทำ Eco Printing จัดวางใบไม้ม้วนไว้อย่างดี เพื่อให้สีจากใบไม้เหล่านั้นประทับลงบนผ้า จนเกิดเป็นผ้าหมักโคลนที่แตกต่างจากที่อื่นที่สร้างความสุขให้ทั้งในระหว่างที่ทำ และความสุขที่ได้มองเห็นลูกค้ามีความสุขกับผ้าผืนงามที่ผลิตขึ้นจากสองมือ หัวใจ และแพสชันแรงๆ ของตัวเอง
“มันสร้างความสุขให้เราในการทำสินค้าออกมาในทุกวัน
แล้วความสุขที่สุดคือการที่ลูกค้าซื้อไปแล้วเขาโอเคกับสินค้าของเรา”
สิงหา พวงอ้อ เจ้าของแบรนด์ ‘ลีลาฝ้าย’
เรียนก่อสร้างมาทำผ้าหมักโคลน
“จริงๆ แล้วผมไม่ได้เรียนจบด้านการออกแบบดีไซน์เนอร์ แต่เรียนจบด้านก่อสร้าง จบ ปวส. มาทางสายช่างก่อสร้าง จากนั้นช่วงอายุ 24-25 จนมาถึงจุดหนึ่งที่อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เหมือนรู้สึกว่าทำงานแล้วมันไปไม่สุดก็เลยทดลองมาขายของ”
จากสายวิชาที่คุณสิงหาเรียนจบมา ถึงจะไม่ได้มีความใกล้เคียงกับงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่ด้วยความตั้งใจที่อยากจะทำงานอิสระและมีอาชีพของตัวเอง จึงตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำมาได้เพียงไม่กี่ปีเพื่อมาลองจับธุรกิจขายผ้าไทยที่ตอนนั้นกำลังได้รับความนิยม จากนั้นจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าด้วยการนำภูมิปัญญาความรู้การหมักโคลนมาประยุกต์ใช้
“คุณแม่ของแฟนเขาทำผ้าทอมือเองแล้วก็ทำผ้าหมักโคลน ผมก็ไปอยู่คลุกคลีกับเขาเพื่อให้รู้จักและเข้าใจว่าการทำผ้าพื้นถิ่นแบบคนอีสานเขาทำกันยังไง ทำอยู่หลายปีจนรู้สึกว่าตัวเองชำนาญพอที่จะแตกไลน์มาทำธุรกิจของตัวเองได้”
จากนั้นจึงเอาวัตถุดิบที่หลายคนมองข้ามอย่างโคลนทะเลจากจังหวัดระยอง จังหวัดบ้านเกิดมาทดลองหมักโคลน โดยคุณสิงหาใช้วิธีการกรองโคลนก่อน แล้วจึงนำเอาผ้าไปหมัก
การได้ทำผ้าหมักโคลนนี้ คุณสิงหานำเอาความรู้การก่อสร้างมาใช้ด้วย อย่างการคำนวณ เรื่องความเป็นกรด-ด่าง ของน้ำ และแร่ธาตุของโคลนที่ใช้ ซึ่งโคลนในทะเลมีสารแทนนิน เป็นเสมือนสารช่วยย้อมให้สีติดผ้าได้ดียิ่งขึ้น ผ้าที่ได้จึงเป็นส่วนผสมทั้งจากความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา การศึกษาค้นคว้าหาความรู้และการทดลองสิ่งใหม่ของคุณสิงหาเอง
ลีลาฝ้ายที่เคลื่อนไหวไปตามเวลา
“คำว่า ลีลาฝ้าย คือทุกช่วงเวลามันเปลี่ยนลีลา เปลี่ยนการกระทำไปตลอด ไม่ได้หยุดอยู่ที่การทำผ้าหมักโคลน แต่ว่าเราทำสินค้าออกมาตามความรู้สึกตลอดเวลา คือวันนี้เราทำอะไร พรุ่งนี้เราทำอะไร” ความหมายของลีลาฝ้ายจึงเปิดกว้างให้กับคุณสิงหาได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างไม่มีข้อจำกัด ซึ่งผ้าผืนแรกๆ เริ่มต้นมาจากการหมักโคลนผ้าลายสกอตที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้น
“ตอนนั้นลายสกอตเริ่มเป็นที่นิยมของคนไทยมากขึ้น เราก็หยิบผ้าลายสกอตมาทำหมักโคลน สมัยนั้นยุคแรกๆ ที่ทำส่ง คิง เพาเวอร์ ก็เป็นลายสกอตเลย” นอกจากผ้าลายสกอตที่นำมาหมักโคลนแล้ว ผ้าพิมพ์ใบไม้ก็จะเป็นต้องใช้ผ้าสีพื้นเพื่อให้สามารถสร้างสรรค์ลวดลายใบไม้ลงบนผืนผ้าได้ จุดนี้คุณสิงหาก็ใช้วิธีการกระจายรายได้ให้กับชาวบ้าน กลุ่มชุมชนทอผ้าให้ทอผ้าลายสวยให้กับแบรนด์
“เราใช้ผ้าทอจากชาวบ้าน กลุ่มชุมชนที่เขามีความถนัดทอผ้า เราก็ส่งต่อเรื่องของรายได้ แล้วก็การเปลี่ยนแปลง อย่างตอนนี้เราต้องการใช้ผ้าแบบไหน ลูกค้าต้องการแบบไหน เราก็จะบอกชาวบ้าน เขาก็จะพัฒนาไปพร้อมกับเรา” ความพลิ้วไหว เติบโตอย่างลีลาฝ้ายจึงไม่เพียงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ แต่ยังน่าจะหมายถึงการเคลื่อนไหว การเรียนรู้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทั้งกับตัวคุณสิงหาและกับชาวบ้านทอผ้าที่เป็นส่วนสำคัญให้ลีลาฝ้ายมีผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย
ของที่ดีที่สุดอยู่รอบตัว
นอกจากความตั้งใจที่อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว ความหลงใหลในวัตถุดิบธรรมชาติก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลีลาฝ้ายมีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งเกิดจากการมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัวในอำเภอบ้านฉาง แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลที่มีโคลนทะเลอยู่เต็มไปหมด “ธรรมชาติมันจับต้องง่าย อยู่รอบตัวเรา หยิบตรงนู้นมาใช้ ตรงนั้นมาใช้ แล้วเราลดการใช้สารเคมี มันก็จะดีกับเรา ดีกับคนใช้ด้วย แล้วธรรมชาติก็หาง่ายมาก”
ไม่เพียงคุณสมบัติที่ดีของโคลนทะเลที่ช่วยให้ผ้านุ่ม แต่โคลนทะเลช่วยเพิ่มสีสันให้กับผ้าสีพื้นธรรมดาได้ด้วย ซึ่งก็ถือเป็นงานศิลปะอีกอย่างหนึ่งที่คุณสิงหารักที่จะทำต่อ
“ถ้ามองในแง่ศิลปะ โคลนมันเป็นสีเทาๆ ซึ่งสร้างอารมณ์ได้หลากหลาย มันทำให้คนใช้รู้สึกสบาย คนทำเองก็รู้สึกสบาย เราถ่ายทอดสีที่เป็นธรรมชาติให้คนใส่ได้เข้าถึงทั้งเรื่องของความเป็นท้องถิ่นของจังหวัดระยองซึ่งเป็นโคลนทะเล”
นอกจากผ้าหมักโคลนทะเลที่เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติและสะท้อนภาพจังหวัดระยองแล้ว ใบไม้ พืชนานาพันธุ์ที่พบเห็นได้ทั่วไป อย่างใบหูกวางและดอกผักบุ้งทะเลยังถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับพิมพ์ลายด้วย ซึ่งหลังจากลอกใบไม้ออกจากผ้าที่นำไปหมักจนเกิดลายแล้ว ใบไม้เหล่านั้นก็ไม่สูญเปล่าไปไหน คุณสิงหาพยายามลดการทิ้งของธรรมชาติและใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุด
“ใบไม้ที่เหลือส่วนมากก็จะเอาไปทำเป็นปุ๋ย ส่วนใบไม้บางชนิดที่มีความแข็งจะเอาไว้ใช้สำหรับทำเป็นการ์ด และอีกส่วนคือใบไม้ที่คายสีออกไม่หมดก็นำไปสกัดเอามาทำเป็นสีย้อมสำหรับครั้งต่อไปได้ เราพยายามที่จะไม่ทิ้งอะไร”
ความรัก ความใส่ใจ ความสุขที่ได้ทำ
“การทำสินค้าบางคนอาจจะไปมองภูเขา น้ำ เรามองถึงลูกค้ามากกว่า ว่าจริงๆ แล้วลูกค้าที่เราจะขายของให้ ลักษณะของเขาเป็นยังไง เขาชอบแบบไหน โทนสินค้า”
สำหรับแบรนด์อื่นๆ สินค้าแต่ละชิ้นอาจเกิดจากความคิดหรือคอนเซปต์ที่เจ้าของเป็นผู้อยากถ่ายทอด แต่สำหรับคุณสิงหากลับไม่ใช่อย่างนั้น กลับเลือกที่จะนึกถึงผู้ที่สวมใส่เป็นสำคัญ แล้วค่อยให้ความรักในงานที่ทำสะท้อนผ่านการวางลวดลายออกมาแทน งานผ้าแต่ละชิ้นจึงมีความประณีต ในขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไปด้วย
นอกจากการรับฟังความเห็นของลูกค้า หยิบเอาไอเดียใหม่ๆ ที่ลูกค้านำเสนอมาทดลองแล้ว คุณสิงหาเล่าว่า ลีลาฝ้ายยังขับเคลื่อนไปด้วยความรักในงานที่ทำและไม่กลัวที่จะทดลองทำสิ่งใหม่ๆ “สมัยก่อนการทำผ้าลายใบไม้ของเราแรกๆ เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว มันก็คือผ้าขี้ริ้วชิ้นหนึ่งที่เราห่อผ้าเลอะๆ ไปขายลูกค้า ลูกค้าจะถามว่ามันคืออะไร ทำไมเปรอะๆ เลอะๆ ถ้าตั้งแต่วันนั้นเรากลัวลูกค้าตำหนิ วันนี้ก็ขายไม่ได้ เพราะเรากลัวตั้งแต่ทีแรก”
จากความสำเร็จในการทดลองทำสิ่งใหม่ๆ ออกแบบลวดลายและใช้ความรักในการผลิตออกมาแต่ละชิ้น ลีลาฝ้ายได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี วางจำหน่ายสินค้าที่บอกเล่าเอกลักษณ์ของจังหวัดระยองให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้รู้จัก โดยเฉพาะกับคนไทยที่ชื่นชอบในงานที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ
นอกจากนี้คุณสิงหายังใช้ความแพสชันและความรู้ในงานหมักโคลนเปิดสอนให้ความรู้กับเด็กๆ สนับสนุนให้เกิดเป็น “กลุ่มลีลาฝ้าย ยัง โอท็อป” ให้เด็กรุ่นใหม่มีความรู้และสามารถต่อยอดผลิตสินค้าของตัวเอง เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะส่งต่อความรู้และกรรมวิธีการหมักโคลนให้ยังคงอยู่ต่อไป
“มันสร้างความสุขให้เราในการที่ทำสินค้าออกมาในทุกวัน แล้วความสุขที่สุดคือการที่ลูกค้าซื้อไปแล้วเขาโอเคกับสินค้าของเรา”
สำหรับคุณสิงหา ความหลงใหลอย่างถึงที่สุดน่าจะเป็นความสุขทั้งในระหว่างทำงานและความสุขที่ได้เห็นผู้รับมีความสุขที่ทำให้ลีลาฝ้ายยังคงสามารถพัฒนา เป็นลีลาฝ้ายที่พลิ้วไหวและเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เหมือนต้นไม้ที่แตกยอดกิ่งใบออกไปไม่รู้จบ
ถอดรหัสทำสิ่งที่รักให้สำเร็จในแบบของ “สิงหา จาก ลีลาฝ้าย”
• รักในสิ่งที่ทำ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเงินหรือกำไรเป็นหลัก เพื่อให้สามารถพัฒนาสินค้าไปได้มากขึ้น
• ค้นคว้า หาความรู้ และรู้ลึกในสิ่งที่ตัวเองทำ
• ทดลองสิ่งใหม่ๆ เสมอ เพราะการทดลองจะเปิดโอกาสให้งานสามารถแตกยอดออกไปได้
• นึกถึงความต้องการของผู้รับมากกว่าความต้องการตัวเอง แต่ใช้ฝีมือในการถ่ายทอดงานออกมา
• ไม่กลัวที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองออกมา และไม่หวั่นไหวต่อคำติ นำเอาคำติชมมาปรับใช้
LEELAFAI
ที่ตั้ง : กลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปลีลาฝ้าย 5/320 ม.5 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง 21130
Facebook : LEELAFAI
สนใจสินค้าพลังคนไทย
คลิก : LEELAFAI