เมื่อวัยรุ่นหนุ่มสาวมัธยมทั้ง 11 คนที่มีความฝัน ความมุ่งมั่น และความรักในด้านดนตรีเหมือนๆ กัน ได้มาพบเจอและรวมตัวกัน จึงเกิดเป็น “วงอุดรพิทยานุกูล” นี้ขึ้น
วงดนตรีวงนี้เกิดขึ้นมานานแล้วและลงสนามประกวดต่างๆ รวมทั้งเวที THE POWER BAND 2022 SEASON 2 จัดโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ซึ่งข้ามภาคมาลงสนามถึงเชียงใหม่ วงนี้ของรุ่นพี่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนและจังหวัดมาตลอด ในขณะที่สมาชิกของวงปัจจุบันก็คือ รุ่นน้องที่เข้ามาแทนรุ่นพี่ๆ ที่เรียนจบไป และน้องๆ ก็บอกว่า “วงนี้พี่ๆ ของเราเขาสร้างชื่อเสียงที่ดีมาตลอด พอพี่เขาเรียนจบไปก็เป็นเราที่ขึ้นมาแทน และพวกเราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะรักษาชื่อเสียงที่พวกพี่ๆ ได้ทำมาตลอด”
ดนตรีเปลี่ยนชีวิต
การที่สมาชิกแต่ละคนของวงได้มารวมตัวกันและร่วมเล่นดนตรีด้วยกันนั้นเป็นความฝันของทุกคนมาโดยตลอด เมื่อมีโอกาสได้ทำตามความฝัน จึงทำให้ทุกคนมีความสุขมาก
เราได้จับเข่าคุยกับสมาชิกส่วนหนึ่งของวงอุดรพิทยานุกูล นักร้องนำมีสองสาว ได้แก่ น้ำหยก – รตนพร เรืองผล และ ผักกาด – ภควดี สุวรรณกุศล ส่วน ยูฟ่า – นิติศาสตร์ ศิริบุตรวงศ์ นักร้องนำชาย รวมไปถึง คอปเตอร์ – นาคินทร์ ไชยยงค์ มือเบส และ จัมโบ้ – พะศทัศน์ ศรีเครือเนตร มือกลอง พวกเขาได้พูดคุยถึงการเดินทางออกนอกพื้นที่บ้านเกิดและโรงเรียน มาลงประกวดถึงสนามแข่งภาคเหนือ อย่างจังหวัดเชียงใหม่
นอกจากฝันที่เป็นจริงแล้ว หลายคนยังรู้สึกว่า การได้มาเล่นดนตรีนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญจุดหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้ อย่าง ยูฟ่า นักร้องนำชาย บอกกับเราว่า ดนตรีทำให้เขาเปลี่ยนตัวเองไปเลย “เมื่อก่อนผมเป็นคนขี้อายมาก แต่ก็ชอบฟังเพลง แล้วก็รู้สึกว่าทำไมคนนี้ถึงร้องเพลงเพราะจัง เลยเริ่มฝึกร้องเพลงมาตั้งแต่ ม.1 พอผมเริ่มจริงจังกับดนตรี เริ่มเป็นนักร้อง ผมรู้สึกว่าตัวเองกล้าพูด กล้าแสดงออกมากขึ้น ตอนขึ้นเวทีครั้งแรกตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน สั่นไปทั้งตัว แต่พอเห็นคนดูสนุกก็หายตื่นเต้น แล้วผมก็สนุกไปกับการร้องเพลงกับเพื่อนๆ”
น้ำหยก หนึ่งในนักร้องหญิงของวง ก็มีความรู้สึกคล้ายๆ กัน “หนูเป็นเด็กเรียน ชีวิตมีแต่เรียนกับเรียนพิเศษ จนเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางของเรา หนูอยากทำสิ่งที่ชอบบ้าง การร้องเพลงเป็นงานอดิเรกของหนู แต่ก็ไม่ได้ไปร้องประกวดหรือร้องโชว์ที่ไหน ขึ้นเวทีครั้งแรกของหนู เป็นเหมือนกับยูฟ่าเลยค่ะ คือมือสั่น ขาสั่น เกร็งไปหมด ไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่พอร้องไปได้สักพักก็รู้สึกว่าเราได้มาอยู่ตรงจุดนี้แล้ว จุดที่เราฝันมาตลอด ก็มีความสุขและเอนจอยไปกับมัน”
การเล่นดนตรีนอกจากจะให้ความสนุกแล้ว ยังให้มิตรภาพที่ดีกับคนอื่นและเป็นการฝึกวินัยไปในตัวด้วย เหมือนอย่างที่ ผักกาด นักร้องหญิงของวง อีกคนที่บอกว่า การได้มาร่วมในวงนี้ให้อะไรกับเธอหลายอย่าง “หนูชอบที่ตัวเองมีกิจกรรมร่วมกับคนอื่น การเล่นดนตรีก็เป็นหนึ่งในความฝันของหนู พอได้ลองทำแล้วมีความสุขมาก เพราะมันให้ทักษะ เป็นการฝึกวินัย และที่สำคัญคือเราได้มิตรภาพเพิ่มขึ้นทุกปี การเล่นดนตรีในโรงเรียนก็จะมีคนจบไป มีคนใหม่เข้ามา เราก็ได้มิตรภาพใหม่เพิ่มขึ้นมา”
เดินทางไกล เพื่อไล่ตามฝัน
วงอุดรพิทยานุกูลได้เข้าร่วมประกวด THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ในสนามที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการเดินทางไกลกว่า 10 ชั่วโมง แบบที่เรียกว่า “ข้ามภาค” เพื่อมาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เลยทีเดียว นั่นทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมวงจึงตัดสินใจมาลงแข่งที่สนามที่เชียงใหม่ ทั้งๆ ที่สนามแข่งขันแรกที่จังหวัดขอนแก่นน่าจะใกล้และสะดวกกว่า ซึ่งทางวงก็มีเหตุผลที่น่าสนใจไม่น้อย
“ปัจจัยหลักๆ ที่เราข้ามภาคมาแข่งก็คือ เราอยากเปลี่ยนบรรยากาศ วงเราเดินสายประกวดมาตลอด สนามต่างๆ ในภูมิภาคของเราก็ไปมาหมดแล้ว คู่แข่งก็เคยเจอและรู้จักหมดแล้ว เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศในการเล่นดนตรี มาเจอวงใหม่ๆ เพื่อหาเอเนอร์จีใหม่ๆ เลยลองมาสนามใหม่ๆ ดูบ้าง เมื่อก่อนเวลาที่ลงแข่งเราก็เครียดเวลาที่เห็นวงอื่นเล่น แต่มาวันนี้รู้สึกว่าเราก็แค่ดู แล้วก็สนุกกับเขาไป ก็มีความสุขแล้ว”
การเดินทางไกลของวงอุดรพิทยานุกูล ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางเพื่อมาร่วมแข่งขันเท่านั้น ยังเป็นการเดินทางมาไกลของวงและของสมาชิกแต่ละคนที่เริ่มเล่นดนตรีกันมานาน และการซุ่มซ้อมที่ยาวนานกว่า 2 ปีในช่วงที่ไม่มีการแข่งขันหรือการประกวดใดๆ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
ถึงจะมีการแยกกันซ้อมแยกกันเล่นดนตรี แต่ก็ไม่สนุกและมีความสุขเท่ากับการมาร่วมเล่นดนตรีด้วยกัน พอสถานการณ์ดีขึ้น ทุกคนกลับมารวมวงและซ้อมดนตรีด้วยกัน สมาชิกทุกคนจึงดีใจและมีความสุขมาก อย่างที่ คอปเตอร์ มือเบสของวง ได้บอกกับเรา “ได้กลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง ผมมีความสุขมากเลยครับที่ได้เล่นดนตรีกับเพื่อน ได้ไปแข่ง เพราะดนตรีก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมครับ”
และอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้วงตัดสินใจมาแข่งในรายการ THE POWER BAND 2022 เป็นเพราะพวกเขาเห็นโอกาสครั้งสำคัญ “ที่เราสนใจมาร่วมประกวดในรายการนี้ ก็เพราะว่าเป็นเวทีการแข่งขันที่เปิดกว้างมากๆ เป็นเวทีใหญ่ และเป็นโอกาสที่ไม่ได้มีมาบ่อยๆ เราก็เลยต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้”
Suggestion
มีเหนื่อยและท้อบ้าง ระหว่างการเดินทางไกล
ในทุกการเดินทาง ในทุกการทำงาน หรือการรวมกันเป็นทีมก็มักจะมีปัญหาระหว่างการทำงานร่วมกันบ้าง แน่นอนว่าระหว่างการเดินทางของวงนี้ก็ไม่ได้มีข้อยกเว้น ทางวงประสบปัญหาในการรวมวงและการซ้อมอยู่ไม่น้อย “ปัญหาอย่างหนึ่งในการซ้อมก็คือความมีระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ และไม่ตรงเวลา พอเราห่างหายจากการซ้อมด้วยกันไปนาน เราก็ลืมว่าการทำงานเป็นทีมจะต้องนึกถึงใครบ้าง และต้องมีความรับผิดชอบสูง บางครั้งก็มีท้อ เพราะมีคนที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ความตั้งใจของเราไม่เท่ากัน ก็จะเหนื่อยหน่อย”
แต่ความเป็นทีมเวิร์ก ความตั้งใจ และความรักในสิ่งเดียวกันก็ทำให้ทั้งวงต้องหันหน้ามาคุยกัน เพื่อให้ทุกคนยังคงทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมีความสุขได้ “เวลาที่มีปัญหาเราก็จะประชุมกัน นั่งล้อมวงคุยกัน โดยที่ครูจะไม่เข้ามาคุยด้วย ก็คุยกันว่ามีปัญหาอะไรตรงไหน ซ้อมตรงนี้เหนื่อยเกินไปหรือเปล่า เราจะปรับแก้กันได้หรือเปล่า มีการคุยกันแบบนี้เรื่อยๆ ทำให้เรายังคงรวมกันเป็นทีมได้เป็นอย่างดี”
ใช้จุดเด่นที่น่าจดจำ
พวกเราที่ได้ชมการแสดงของวงอุดรพิทยานุกูลในการประกวดครั้งนี้ มีสิ่งหนึ่งที่สร้างความแปลกใจให้ผู้ชมไม่น้อยคือนักร้องนำมีอยู่ด้วยกันถึง 3 คน เราจึงถามถึงเหตุผลของความพิเศษของการแสดงในครั้งนี้ “ที่เรามีนักร้อง 3 คนก็เพื่อให้เพลงมีพลังยิ่งใหญ่ขึ้น ถ้าเป็นนักร้องคนเดียว แล้วเครื่องดนตรีจำนวนมาก…เมื่อวงมีเครื่องดนตรีหลายประเภท นักร้องก็อาจจะสู้เครื่องดนตรีไม่ไหว การมีนักร้องหลายคนก็จะช่วยอุ้มวงให้ดีขึ้น มีหลายไลน์ประสานกัน เพลงก็จะเพราะมากยิ่งขึ้น”
และถ้าถามถึงจุดเด่นและเอกลักษณ์ของวง น้องๆ ตอบด้วยความมั่นใจว่า “เรามีความเป็น unity เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรามั่นใจว่าเรามีความสามัคคี เพราะเราซ้อมกันมาหนักมาก ส่วน performance…เราเชื่อว่าการที่เราเล่นแล้วจะสื่อไปถึงคนดูได้มันต้องเกิดจากเราก่อน เราต้องสนุกกับเพลงที่เราเล่น และเราจะต้องทำให้ทุกคนมีความสุขกับเพลงที่เราเล่นให้ได้”
ถึงเพื่อนๆ ที่มีความฝันเดียวกัน
การได้เล่นดนตรี ได้เป็นนักร้องถือว่าความฝันของใครหลายคน หลายคนมีโอกาสได้เดินตามฝัน มีโอกาสทำให้มันเป็นจริงได้ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้เดินตามฝันไม่ว่าจะด้วยเหตุและปัจจัยต่างๆ นานา
ในฐานะผู้ที่เดินทางตามฝันมาก่อน สมาชิกของวงอุดรพิทยานุกูล อย่าง จัมโบ้ มือกลอง จึงมีข้อคิดมาฝากเพื่อนๆ ด้วย “ถ้าคิดว่าอยากเล่นดนตรีก็ลงมือทำเลย อย่าไปกลัว ถ้าอยู่เฉยๆ ฝันก็จะไม่เป็นจริง การเล่นดนตรีจะเก่งได้ก็ต้องฝึกเท่านั้น เราก็แค่ฝึกไปเรื่อยๆ แล้วมันจะมีวันที่เราภูมิใจในตัวเอง สำหรับคนที่อยากเล่นดนตรีลงมือทำเลยครับ ไม่ต้องรอ ทุกคนที่เล่นดนตรีเริ่มต้นจากหนึ่งทุกคนครับ ไม่มีใครที่เริ่มเล่นแล้วเก่งเลย พอลงมือทำแล้วก็จะเก่ง จะสำเร็จตามที่เราฝันไว้เอง”
ไม่ว่าเส้นทางในอนาคตจะเป็นอย่างไร น้องๆ ก็ยืนยันว่าจะยังคงทำตามความฝันและจะยังคงเล่นดนตรีที่ตัวเองรักอยู่เสมอ และถ้ามีโอกาสก็จะยังคงเดินสายประกวดต่อไป “ถ้าเราผิดหวังในวันนี้ ถึงอย่างไรเราก็ยังไม่เลิกเล่นดนตรี ยังมีเวลาอีกเยอะให้เราได้ไปเริ่มใหม่ ให้พิสูจน์ตัวเอง”
ทำความรู้จักตัวแทนน้อง ๆ วงอุดรพิทยานุกูล จากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ติดตามกันได้เลย!
