มาถึงโค้งสุดท้ายแล้วของสนามภูมิภาคที่ 5 สนามกรุงเทพฯ และปริมณฑล สำหรับ THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ค้นหาสุดยอดวงดนตรีเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ มีวงดนตรีจากจังหวัดข้ามภาคมาประกวดหลายวงด้วยกัน ทั้งจากจังหวัดไกลน้อยอย่าง ชลบุรี สมุทรปราการ…ไปจนถึงจังหวัดมาไกลมากหน่อยอย่าง กระบี่และชุมพร!
ดนตรีที่หลากหลายคือหัวใจของการแข่งขันจากสนามนี้ นอกจากนั้นการแสดงดนตรีของแต่ละวงยังเต็มไปด้วยศักยภาพ การซ้อมมาอย่างเต็มที่ และความสร้างสรรค์ในการเรียบเรียงดนตรีสำหรับเพลงต้นฉบับที่พวกเขาเลือกมาแสดง เพื่อแสดงตัวตนของแต่ละวงกันอย่างสุดพลัง
นับว่า เดือดสุด! ปิดท้ายรอบคัดเลือกก่อนจะสู่รอบ Final ของการประกวดวงดนตรีสากล THE POWER BAND 2022 SEASON 2 การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2565 จัดโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ประจำสนามกรุงเทพฯ สมศักดิ์ศรีสนามสุดท้ายที่มีวงดนตรีคุณภาพตบเท้าเข้าร่วมชิงชัยเพื่อลุ้นเข้าสู่เพื่อไปสู่รอบสุดท้ายสนามระดับประเทศมากที่สุด
เหมือนอยู่ในมิวสิกเฟสติวัล
ที่สำคัญทั้ง 16 วงที่ผ่านการคัดเลือกจากคลิปมาขึ้นโชว์ในรอบนี้ จัดเต็มสุดฝีมือ เสิร์ฟความหลากหลายทางดนตรี สร้างทั้งความตื่นเต้นให้กับผู้ชม ราวกับกำลังสนุกอยู่ในเทศกาลดนตรี
ในขณะเดียวกันก็สร้างความหนักใจสุดๆ ให้กับคณะกรรมการทั้ง 3 ท่าน ทั้งคุณวิโรจน์ สถาปนาวัตร (J-Pap วง Infinity) อาจารย์พิเศษ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาดนตรีสมัยนิยม คุณกฤษติกร พรสาธิต (ติ๊ก วง Playground) ผู้บริหารค่าย Home Run Music และคุณไพสิฐ คำกลั่น (Pae Sax) ศิลปินและโพรดิวเซอร์ ค่าย Melodic Corner แม้ทั้งหมดจะเอ่ยปากเป็นเสียงเดียวว่าการแข่งในรอบนี้ “สนุกถึงใจเหมือนอยู่ในมิวสิกเฟสติวัล” ก็ตาม
“ทั้ง 16 วงมีความหลากหลายทางดนตรีมาก เอาทุกแนวเข้ามาประกวดได้ สร้างความตื่นเต้น และความยากลำบากในการให้คะแนน” คุณวิโรจน์ใช้ทั้งสายตาศิลปินและมุมมองทางวิชาการของอาจารย์ดนตรีเก็บรายละเอียดของวงผู้เข้าประกวด พร้อมให้คำแนะนำที่หวังจะเป็นประโยชน์กับวงในการซ้อมของโค้งสุดท้าย
“สนามกรุงเทพฯ เข้มข้น หนักแน่น หลากหลายมาก ทั้ง แจ๊ส พังก์ เร็กเก มาทุกแขนงทางดนตรี ดีใจที่น้องๆ เก่งขนาดนี้” คุณไพสิฐ ชื่นชมในฝีมือของผู้เข้าแข่งขันสนใจทั้งการเล่นเครื่องเป่าและความลงตัวของทั้งวง เช่นเดียวกับคุณติ๊ก Playground ที่เน้นภาพรวมการร้องและการทำโชว์บนเวที ทั้งสองต่างก็เห็นผู้ผ่านเข้ารอบกันมาจนครบทุกสนามแล้วที่กรุงเทพฯ “คาดไว้ว่าที่นี่จะเป็นสนามที่เข้มข้น แล้วก็เข้มข้นตามที่คาดไว้จริงๆ” จนเมื่อสิ้นสุดการประลองกำลังทางดนตรี เราก็ได้ตัวแทน 6 วง จากทั้ง Class A (รุ่นมัธยมศึกษา) และ Class B (ระดับบุคคลทั่วไป)
วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
จากสนามกรุงเทพฯ ได้แก่
CLASS A
วง หางนกยูง โรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร (ชุมพร)
วง I Love Wednesday โรงเรียนโยธินบูรณะ (กทม.)
วง JollyJolly! โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี (กทม.)
CLASS B
วง ArtRig (กทม.)
วง CUT-TO (ชลบุรี)
วง Jazz Passion (กทม.)
Suggestion
เต็มที่!…มุ่งสู่ฝันที่เป็นจริง
แต่ละวงใน Class A (รุ่นมัธยมศึกษา) ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ต่างแสดงบนเวทีแบบเชือดเฉือนฝีมือกันสุดฤทธิ์ วงหางนกยูง โรงเรียนศรียาภัยฯ ที่เดินทางมาไกลจากจังหวัดชุมพร และทำให้เราได้ฟังเพลงเอาปากกามาวง ของ BELL WARISARA แบบมันๆ แนวชาวร็อกโยกหัวพร้อมยกกำปั้นขวา…ปิดท้ายด้วยแร็ป จนได้คะแนนจากกรรมการด้วยฝีมือร้องและเล่นดนตรีในแนว Progressive Rock สุดหนักแน่น ติดอาวุธเด็ดด้วยมือกีตาร์ถึงสองคน “เราฝันจะประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ฟอร์มวงขึ้นมาเราแข่งหลายที่มาก ยังไม่เคยได้แชมป์สักครั้ง…ยังไม่ถึงที่สุดสักครั้ง พวกเราเลยฝันจะมาให้ถึงที่สุดกันกับเวทีนี้ บอกเลย…เราไม่กลัวอยู่แล้ว รอบสุดท้ายจะใส่ความเป็นร็อกให้หนักขึ้นอีก และอาจมีบางอย่างที่จะเซอร์ไพรส์กรรมการด้วย”
ในขณะที่วง I Love Wednesday โรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพฯ ที่เข้ารอบสุดท้ายไปเมื่อการประกวดครั้งแรก แต่ยังไม่ได้คว้ารางวัลให้สมใจ จึงกลับมาลงสนามประกวดนี้อีกครั้ง ใช้ความสดใส ความสนุกสนาน เป็นพลังที่ส่งวงนี้ผ่านเข้าสู่รอบ Final ทั้งการร้อง…เล่นดนตรีของทั้งวงคือความสามัคคีพร้อมเพรียง “รอยยิ้ม และการเอนเตอร์เทนให้คนดูสนุกไปด้วย คืออาวุธของพวกเรา วันนี้เราสำเร็จแล้ว แต่ยังไม่สูงสุด ต้องมารอดูรอบชิงชนะเลิศในคราวหน้า” บอกเลยตอนช่วงเพลงอาหมวยหาย จากต้นฉบับของศิลปิน The Toys ที่วงนำมาแสดง คนดูแทบจะอดใจเต้นตามไปด้วยไม่ได้
สำหรับวง JollyJolly! โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี กรุงเทพฯ ที่มาพร้อมซาวนด์เทรนดี้เต็มไปด้วยสีสันทันสมัย ให้กับเพลงคนไกลของ Patrikananda และเพลงทราบแล้วเปลี่ยนของ Bowkylion ในแบบของวงเอง สร้างความเพลิดเพลินให้คนทั้งฮอลล์ “เวทีนี้เป็นเวทีที่ใหญ่เราก็อยากจะทำมันให้เต็มที่ ทำให้มันเป็นจริง ถ้าอยากเป็นแชมป์ มันคือโอกาสเดียวที่เราจะทำได้ สิ่งที่กรรมการติเราจะแก้ไข ครั้งหน้ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก และสิ่งที่กรรมการชมเราก็จะนำไปทำให้มันดีขึ้น ทำให้โชว์มันดูน่าดึงดูดมากขึ้น และในรอบชิงพวกเราก็คงใส่เต็มอย่างแน่นอน”
สนุกเข้มข้น! แบบมืออาชีพ
ส่วนการแสดงของ Class B (ระดับบุคคลทั่วไป) มีทั้งแนวหนักแน่นอย่างร็อก มีทั้งแจ๊สที่สร้างความสนุกแบบนุ่มนวล มีดิสโก้…ป็อปแบบผสมผสาน วงที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศเรียกว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
วง ArtRig กรุงเทพฯ วงสุดโพรเฟสชันแนล ที่โดดเด่นทั้งการร้องและการเล่นดนตรี สมกับที่มีสมาชิกหลายคนเป็นวงแบ็กอัปให้กับศิลปินชั้นนำของบ้านเรา “การแข่งขันในวันนี้ เปิดโอกาสให้เราได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และความตื่นเต้น ความคิดถึงเวทีประกวด ที่เราไม่แข่งด้วยกันมานานแล้ว คือสิ่งที่ทำให้เราชนะในวันนี้”
“ใครๆ ก็ฝันได้ แต่ว่าการที่เราจะไปให้ถึงฝันเราต้องกล้าที่จะเดินออกจากกรอบของความกลัว และเรากล้าที่จะทำให้ถึงฝันแม้ว่าเราจะกลัว และในรอบชิงชนะเลิศ เราจะเป็นตัวเราเองในแบบที่ดีที่สุด การแข่งขันเราก็ต้องแข่งกับวงอื่น ตามกติกา แต่ว่าการที่เราทำมันออกมาให้ดีที่สุด คือการที่เราต้องแข่งกับตัวเอง และจะพยายามซ้อมให้หนักขึ้น เพราะโชว์ที่ดีจะมาจากการซ้อม” วง CUT-TO (คัต-ทู) ที่เดินทางมาจากชลบุรีและไม่พลาดที่ได้ทำฝันให้เป็นจริงอีกก้าวหนึ่ง คือวงที่สร้างความร้อนระอุให้ความสนุกของทุกคนพุ่งไปถึงขีดสุด ก่อนจะพุ่งไปต่อสู่รอบสุดท้าย
สุดท้ายวง Jazz Passion กรุงเทพฯ ที่โชว์แจ๊สท่ายาก ผสานหลายสายพันธุ์ดนตรี จนคว้าตั๋วใบสุดท้ายสู่รอบชิงชนะเลิศไปสำเร็จ ทิ้งท้ายความเห็นที่น่าสนใจในการคว้าโอกาสของพวกเขาเอาไว้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพวกเขา และความสำเร็จอีกก้าว…การได้ไปต่อคือรางวัลนั้น “ถ้าเรากล้าที่จะฝัน อย่าลืมกล้าที่จะทำด้วย เวที THE POWER BAND นี้เปิดโอกาสให้กับทุกคนอยู่แล้ว เพราะพวกเรากล้าที่ลองทำอย่างอื่นด้วย และทีเด็ดของเราบนเวทีนี้คงจะเป็นดนตรีในแนวฟิวชันที่ชัดเจน เป็นสีสันบนเวที รวมถึงความเป็นธรรมชาติ ที่ดื้อๆ ซนๆ ของวงเราที่กระโดดโลดเต้นบนเวที แต่เราก็จะเอาคอมเมนต์ของกรรมการไปปรับใช้ เพื่อให้การแสดงของเราปั๊วะปังขึ้นอีกในรอบชิงชนะเลิศ”
Suggestion
ก่อนจะร่วมฉลองกับผู้ชนะในวันนี้ด้วยมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำที่เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์ จากทั้งหนุ่มน้อย MEKJACK ศิลปินใหม่จาก Muzik Move คู่หูดูโอ Serious Bacon 3 สาว 3 สไตล์มีทั้งศิลปิน Earth Patravee ศิลปิน Bell Warisara และศิลปิน Bean Napason ปิดท้ายด้วยสามหนุ่มวง SLAPKISS ที่ส่งทุกเพลงฮอตฮิตปิดเวทีอย่างสวยงาม
เตรียมพบกับความตื่นตาตื่นใจของการแสดงที่เกือบ 30 วงดนตรีต้องเตรียมทำเพลงพิเศษ ตัวแทนของทั้ง 5 สนาม ในรอบชิงชนะเลิศ THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ในวันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายนนี้ เตรียมชม! เชียร์! และติดตาม LIVE ทางช่องทางของการประกวดกันได้
วงทั้งหมดที่ผ่านเข้ารอบ Final ชิงชนะเลิศ
สนามขอนแก่น ได้แก่ CLASS A 1. วง HUUKI HUUDA โรงเรียนเลยพิทยาคม จังหวัดเลย 2. วง Little Wings โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย จังหวัดศรีสะเกษ 3. วงหน้าโรงเรียน โรงเรียนสตรีสิริเกศ จังหวัดศรีสะเกษ CLASS B 4. วงคากะจะ (ศรีสะเกษ)
สนามชลบุรี ได้แก่ CLASS A 5. วง Success (ชลบุรี) โรงเรียนพนัสพิทยาคาร 6. วงเพี้ยน (บุรีรัมย์) โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม 7. วงอะไรดังกว่าระเบิด (ชลบุรี) โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา CLASS B 8. วง Different (ชลบุรี) 9 วง The Pump (กทม.) 10. วงตัณหา (บุรีรัมย์)
สนามเชียงใหม่ ได้แก่ CLASS A 11. วง Belebt (เชียงราย) โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย 12. วง The Piclic Band (เชียงใหม่) โรงเรียนวชิราลัย 13. วงอุดรพิทยานุกูล (อุดรธานี) โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล CLASS B 14. วง 1 DAY (เชียงใหม่) 15. วง Paraa (เชียงใหม่) 16. วงจะไป FUNK (เชียงใหม่)
สนามสงขลา ได้แก่ CLASS A 17.วง The Humble โรงเรียนมหาวชิราวุธ (สงขลา) 18.วงมอซอ (ภูเก็ต) โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ 19.วง M.O.N.K (กทม.) โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี CLASS B 20.วง Umbrella down (ภูเก็ต) 21.วง Perfect Child Band (สงขลา)
สนามกรุงเทพฯ ได้แก่ CLASS A 22.วง หางนกยูง (ชุมพร) โรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร 23.วง I Love Wednesday (กทม.) โรงเรียนโยธินบูรณะ 24.วง JollyJolly! (กทม.) โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี CLASS B 25.วง ArtRig (กทม.) 26.วง CUT-TO (ชลบุรี) 27.วง Jazz Passion (กทม.)
