Passion

‘M.O.N.K.’
วงดนตรีเด็กดื้อแต่หนักแน่น

วรากร เพชรเยียน 31 Oct 2022
Views: 710

หากถามว่าวงดนตรีใน Class A วงไหนที่ดูจะแก่นเซี้ยวที่สุดบนเวทีจากสนามสงขลาในการประกวด THE POWER BAND 2022 SEASON 2 การประกวดวงดนตรีสากล โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย วงๆ นั้นคงเป็น “วงเด็กดื้อ” จากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ที่มีชื่อวงแสนยียวนอย่าง M.O.N.K. …เดินทางไกลจากกรุงเทพฯ ลงไปแข่งถึงสงขลา สนามภูมิภาคแห่งที่ 4 ของการแข่งขันปีนี้

ในการประกาศผลวงดนตรีที่ผ่านเข้ารอบเพื่อไปแข่งขันต่อในรอบชิงชนะเลิศที่จัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร วง M.O.N.K. เป็นอีกวงที่สมาชิกต่างดีใจจนดูเหมือนสติหลุดกันยกใหญ่ แต่พอได้รู้จักเรื่องราวของสมาชิกแต่ละคนของวงก็ยิ่งเข้าใจ เพราะแต่ละคนมีความฝันและความรักในเสียงดนตรีนำทางชีวิต ครั้งนี้เราได้มาคุยกับตัวแทนสมาชิกทั้งหมด…สองนักร้องอย่าง อาร์มี่ – นฤชาพงศ์ คล้ายอินทร์ นักร้อง/PER เจด้า – บุญยนุช เพียรงาม นักร้อง ไกด์ – ชาคร มาลัย คีย์บอร์ด พิว – ธันยธนัช ทองฉิม PER/กลองชุดบันไดสีแดง และ สุกี้ – ภัทรพงษ์ จิตต์หมวด PER/กลองชุดเพลงอาวรณ์ ซึ่งแต่ละคนได้ใช้ความรักในเสียงดนตรีเหล่านั้นเป็นส่วนเติมเต็มทำให้วงดนตรีนี้มีความสมบูรณ์

 

ชายฉกรรจ์กับความเกเร

เห็นชื่อวง M.O.N.K. แบบนี้ไม่ได้กำลังสื่อถึงสิ่งใดในทางพุทธศาสนา แต่ตัวอักษรแต่ละตัวที่นำมาประกอบเป็นคำนี้ มีความหมายในตัวของมันเอง เมื่อรวมกันได้แล้วออกมาเป็นชื่อวงสุดแสนจะยียวน

“คำว่า M.O.N.K. มาจาก Man of Naughty Culture แปลได้ว่า ชายฉกรรจ์ผู้มีวัฒนธรรมในการเกเร มันเริ่มต้นมาจากวงชายล้วนมาก่อน เริ่มต้นมาจากสมาชิกแค่ 5 คน ตอนแรกตั้งชื่อวงว่า Uncle เพราะพวกผมชอบทำตัวแก่กัน แต่คุยไปคุยมาก็ไปเจอคำว่า Monk” อาร์มี่ นักร้องและหัวหน้าวงเล่าให้เราฟังถึงที่มาของชื่อวง

ไม่เพียงความหมายของชื่อวงที่ฟังดูเกเรเท่านั้น แต่เนื้อในเรื่องของการทำเพลงและสมาชิกวงยังรวบรวมสมาชิกที่มีทั้งความเกเร และความรักในเสียงดนตรีเข้าไว้ด้วย ทำให้สมาชิกวงมีมากถึงสิบคน ซึ่งทุกคนก็ลงความเห็นกันว่าอยากให้วงดนตรีที่ตั้งใจปั้นและฝึกซ้อมมาประกวดในครั้งนี้เป็นวงที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงฝีมือและความสามารถของตัวเอง “เราคุยกันว่า ม.6 แล้วใครอยากเล่น และถ้าจูนกับวงติดก็มาเลย”

 

สตอรี่ชีวิตกับความรักในดนตรี

แม้วงจะเริ่มต้นมาจากกลุ่มเด็กชายและมีชื่อที่แปลว่า ชายฉกรรจ์ แต่ก็เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมและเป็นกิมมิกของวงด้วย

นั่นทำให้เจด้าได้เข้ามาเป็นนักร้องหญิง และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในวงท่ามกลางกลุ่มผู้ชาย “รู้สึกสนุกเพราะว่าเราจะได้ทำในสิ่งที่บางอย่างเราไม่กล้าทำ ได้เปิดมุมมองหลายๆ มุมที่เราไม่เคยได้คิดว่าจะทำ” ซึ่งเจด้าก็เริ่มต้นร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเด็ก “เรารู้สึกว่าการร้องเพลงเป็นสิ่งที่เรามั่นใจมากที่สุด เราได้สื่อสารสิ่งที่อยู่ในใจออกไปผ่านบทเพลง หนูร้องได้หลายแนว แต่จะชอบเพลงจังหวะสนุกๆ” แม้จะอยากเป็นศิลปิน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยังมีความรักความชอบในงานวาดภาพด้วย

นอกจากนักร้องหญิงของวงแล้ว ยังมีอาร์มี่เป็นอีกคนที่รับหน้าที่หลักของวง โดยเป็นทั้งนักร้องและหัวหน้าวงคอยควบคุมการฝึกซ้อม…ด้วยความใฝ่ฝันอยากทำงานด้านดนตรีโดยเฉพาะ แต่กว่าจะได้แรงสนับสนุนอย่างเต็มที่ ก็ต้องต่อสู้กับความเห็นและความเป็นห่วงของคนในครอบครัว “ผมอยากเรียนดนตรีเชิงพาณิชย์ ผมอยากเป็นศิลปิน แต่ไม่ใช่ว่าใครก็เป็นศิลปินได้ แต่ถ้าผมตั้งเป้าหมายไว้ไกล อย่างน้อยถ้าไปไม่ถึงก็ยังกลับมาเป็นโพรดิวเซอร์ได้ ผมรับคำถามมาเยอะว่าจบมาแล้วจะทำอะไร เลี้ยงตัวเองได้ไหม ผมก็ไฟต์ทุกอย่าง จนทุกคนเข้าใจและพร้อมซัปพอร์ต”

ไม่ใช่แค่อาร์มี่เท่านั้นที่อยากทำงานด้านดนตรี พิว มือกลองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากมุ่งมาทางดนตรีเช่นกัน ซึ่งพิวย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ จากจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วยความสามารถด้านดนตรี ทางโรงเรียนจึงเล็งเห็นความสามารถและการพัฒนา

พิวกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 เป็นมือกลองที่ดุดัน หนักแน่นของวง “ผมเริ่มต้นจากการได้เห็นพ่อเล่นกลองชุด เราก็ไปนั่งดูพ่อเล่นดนตรีในร้าน แล้วก็คิดว่าพ่อโคตรเท่เลย เราเลยมาฝึกกลอง”

แม้ตอนอยู่ที่โรงเรียนเก่าจะมีคนชื่นชมฝีมือการตีกลอง แต่ก็ไม่ได้พัฒนาในด้านนี้มากนัก การย้ายโรงเรียนในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสให้พิวได้คว้าความฝันตัวเองในอนาคต “ส่วนใหญ่คนจะไม่ค่อยเห็นค่าผมเท่าไหร่ ถ้าอยู่ในโรงเรียนตามปกติ เป็นเด็กเหลวไหล ไม่ตั้งใจเรียน ถ้าผมไม่มีดนตรี ผมก็ไม่มีอะไรแล้ว ผมก็เลยต้องผลักดันให้ตัวเองมีทักษะ มีทฤษฎีที่ดีขึ้นเพื่อให้เราสามารถหางานได้”

ความเนี้ยบแบบเด็กวงโยธวาทิต

จากสมาชิกกว่าสิบคนที่ทุกคนต่างลงความเห็นว่ามีความดื้อในแบบของตัวเอง การฝึกซ้อมจึงไม่ง่าย แต่ทั้งวงก็มีวิธีการซ้อมโดยเอาความเป็นวงโยธวาทิตมาเป็นเครื่องมือ ซึ่งสมาชิกหลายๆ คนก็เริ่มต้นมาจากการเล่นดนตรีในวงโยธวาทิต อย่างไกด์ มือคีย์บอร์ด ซึ่งเริ่มต้นจากการเล่นเครื่อง Pitched percussion “ก่อนหน้านี้ผมอยู่ในวงโยธวาทิตมาตั้งแต่อยู่ ม.1 เล่น Pitched percussion ที่มันจะคล้ายๆ คีย์บอร์ดแต่ใช้ไม้เล่น เราก็ต่อยอดมาเล่นคีย์บอร์ด ซึ่งผมมาได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์การ์ตูน เรื่อง Soul” นอกจากจะเพิ่งเริ่มเล่นคีย์บอร์ดมาได้สองปี ไกด์ก็ยังมีความตั้งใจที่อยากจะเล่นดนตรีให้ได้หลากหลายประเภท…หลายเครื่องดนตรี ด้วยความอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นน้อง

นอกจากไกด์ที่เคยเล่นในวงโยธวาทิตของโรงเรียนแล้ว ยังมีสุกี้ มือกลองอีกหนึ่งคน ที่เริ่มต้นมาจากสมาชิกวงโยธวาทิตเช่นกัน “ผมเล่นในวงโยธวาทิตมาตั้งแต่ ป.1 เล่นกลองใหญ่ จนมาขึ้น ม.1 พี่ๆ ม.6 เขาเล่นดนตรีในงานกัน ผมก็เลยได้ไปร่วมเล่นด้วย จากนั้นเลยเอามาต่อยอดเอง” ซึ่งไกด์เป็นมือกลองที่อาร์มี่เอ่ยปากชมถึงเรื่องการเล่นกลองที่มีเทคนิค ลูกเล่นมีสไตล์เป็นของตัวเองที่เหมาะกับการเล่นในเพลงอาวรณ์

ด้วยความที่สมาชิกหลายคนในวงเริ่มต้นมาจากวงโยธวาทิตมาก่อน เพอร์ฟอร์แมนซ์จึงมีความเป๊ะ   ซึ่งทุกคนลงความเห็นว่าจะนำไปเพิ่มเติมในการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่จะแข่งในกรุงเทพมหานครด้วย

 

Dream it, Do it กับการทำเพลงในแบบ M.O.N.K.

“ถ้าเราคิดไว้ว่าเราอยากได้อะไร อยากเป็นอะไร แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เราก็จะไม่ได้มันมา” คือความหมายที่พิวพูดถึงธีม Dream it, Do it ของการแข่งขันในครั้งนี้ และเมื่อดูจากความพยายามที่จะเดินทางมาแข่งไกลถึงสงขลาแล้ว ก็ยิ่งทำให้ภาพความฝัน ความทะเยอทะยานคว้าความฝันของสมาชิกทุกคนในวงชัดขึ้นมา

“ก่อนหน้านี้เราตั้งใจจะไปแข่งที่สนามชลบุรี แต่วันที่แข่งตรงกับวันที่เราต้องไปเล่นโชว์สำคัญที่ห้าง ก็เลยไม่ได้ไปแข่ง” อาร์มี่เล่าให้ฟังถึงความตั้งใจของวง ซึ่งหากไม่เข้ารอบในรอบนี้ M.O.N.K. ก็ตั้งใจจะไปลงแข่งในสนามกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสนามถัดไปด้วย เรียกว่าเป็นอีกวงที่เข้ามาเพื่อคว้าความฝันของจริง

ส่วนการทำเพลงของวงก็เริ่มต้นโดยมีอาร์มี่เป็นตัวหลัก วางโครงเพลงให้เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นแล้วปล่อยให้สมาชิกแต่ละคนทำเพลงในพาร์ตของตัวเอง “เราเหมือนแค่ปะจุดไว้ให้ ที่เหลือก็ให้ไปแต่งเติมกันเอาเอง จะสวยไม่สวยก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง” ถือว่าเป็นอีกมุมที่ให้โอกาสแต่ละคนได้ดึงความสามารถของตัวเองในด้านการทำเพลงออกมา และแม้จะมีเวลาในการฝึกซ้อมก่อนมาแข่งได้เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์กับการรวบรวมกลุ่มคนดื้อเข้าไว้ด้วยกัน พวกเขาก็สู้สุดใจ ไฟต์จนได้เข้ารอบชิง

เราอดประทับใจวง M.O.N.K. ไม่ได้ ด้วยการเป็นวงดนตรีที่มีเรื่องราวตั้งแต่การตั้งชื่อวงดนตรี ไปจนถึงการใช้ความฝันพากันเดินทางมาแข่งกันไกลถึงสงขลา เราสัมผัสได้ถึงภาคภูมิใจอยู่ในน้ำเสียงของทุกคนตลอดการพูดคุย ในความดื้อที่อาร์มี่พูดถึงสมาชิกแต่ละคนคงเป็นส่วนผสมชั้นดีที่ทำให้เพลงของ M.O.N.K กลมกล่อม เป็นอีกวงที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘ความฝันสามารถพาคนเราเดินทางไปได้ไกล’ ได้จริงๆ

 

ไปทำความรู้จักวง M.O.N.K ให้มากยิ่งขึ้นกันเลย!

Author

วรากร เพชรเยียน

Author

อดีตแอร์โฮสเตสผันตัวมาเป็นนักเขียน ผู้หลงใหลศิลปะและการเดินทาง นิยมการบอกรักประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ