Passion

“เอิ๊ต ภัทรวี” ก้าวข้ามความกลัว
สู่การเป็นนางเอกซีรีส์ที่ไม่มีตอนจบ

กฤษณา คชธรรมรัตน์ 4 Nov 2022
Views: 694

เอิ๊ต – ภัทรวี ศรีสันติสุข ศิลปินหญิงเดี่ยวของค่าย มิวซิกมูฟ เรคคอร์ดส ที่วันนี้แอบแซวตัวเองเล็กๆ กับเพลงใหม่“ไม่ให้เธอหายไป” กับสีสันของดนตรีที่สนุกมากขึ้น เพิ่มความสดใสให้นักร้องสาว ที่เจ้าตัวบอกว่า ตัวจริงของเธอไม่ใช่สาวหวานแบบที่คนอื่นมอง กลับเป็นคนกวนๆ นิด ติงต๊องหน่อยๆ เพลงที่ว่านี้นอกจากเผยอีกด้านหนึ่งของนักร้องสาวแล้ว เอิ๊ตเองยังมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการทำงานทั้งแต่งเมโลดี และในฐานะโปรดิวเซอร์ รวมไปถึงเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโออีกด้วย

เป็น “เอิ๊ต ภัทรวี” ที่มีความสามารถขนาดนี้ นักร้องสาวก็ยังมีวันเก่าๆ ครั้งขึ้นเวทีครั้งแรกที่เรียกว่าเธอ “สั่น” ตั้งแต่หัวจรดเท้า กลัวการถูกจ้องมองจากผู้ชม ประสบการณ์ตรงที่มาบอกเล่าและเป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่เข้าประกวดดนตรีเวที THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จัดขึ้นเพื่อค้นหาสุดยอดคนดนตรีทั้งวงนักเรียนและคนรุ่นใหม่ ให้ทุกคนสนุกทุกครั้งบนเวที และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีพื้นที่แสดงความสามารถ

“ทุกคนที่เล่นดนตรีอาจจะมีความฝันที่แตกต่างกัน…ต้องจำโมเมนต์นี้ไว้ให้ดีๆ 

ว่าจุดที่เรามีความสุขกับเพื่อนๆ ตอนเล่นดนตรีคืออะไร 

เพราะจุดต่อๆ ไปมันจะมีความทุกข์กันบ้างล่ะ มีความเหนื่อยบ้างล่ะ”

เอิ๊ต – ภัทรวี ศรีสันติสุข

 

“เอิ๊ตเป็นคนชอบดนตรี แต่บางทีก็ไม่รู้ว่าจะไปเล่นที่ไหน นักดนตรีหรือนักร้อง สำหรับเราถ้าอยากจะหายกลัวเวทีต้องขึ้นเวทีเยอะๆ ตอนขึ้นเวทีแรกๆ เอิ๊ตสั่นมาก สั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะฉะนั้นการที่มีเวทีเล่น มีพื้นที่ประกวด ให้ได้เจอเพื่อนๆ ที่มีแพสชันเหมือนกันมันสร้างความมั่นใจให้มาก”

 

TP: เอิ๊ตมองว่าดนตรีให้อะไรกับตัวเรา

เอิ๊ต: ถ้าคนที่ชอบดนตรี จะเล่นหรือไม่เล่นก็จะได้เป็นคนสัมผัสสิ่งสวยงาม (หัวเราะ) หมายถึงว่า ทั้งในระหว่างที่ทำดนตรีมันเป็นอะไรที่อะเมซิงอยู่แล้ว เรารู้สึกว่ามันคือศิลปะแบบหนึ่ง…แบบที่ไม่ว่าคุณจะมีความรู้เยอะหรือน้อยแค่ไหนในเรื่องดนตรี ข้างในมันรู้สึก เพราะฉะนั้นมันทำให้ได้สัมผัสกับความรู้สึก

 

TP: เมื่อการประกวด ต้องมีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ จะสานฝันต่อจากทั้ง 2 จุดนี้อย่างไรดี

เอิ๊ต: “สำหรับน้องๆ ที่เข้ารอบก็ยินดีด้วย หวังว่าก้าวต่อไปจะเป็นก้าวที่มีความสุขสำหรับน้องๆ ทุกคน คือน้องๆ ทุกคนที่เล่นดนตรีอาจจะมีความฝันที่แตกต่างกัน ไม่ได้มีแค่หนึ่งความฝันอยู่แล้ว ฝันของบางคนอาจจะอยากเป็นคนเบื้องหน้า หรือบางคนอยากทำงานเป็นคนเบื้องหลัง แต่ว่ามันอยู่บนพื้นฐานความสนุก

เราต้องจำให้ได้ว่าจุดแรกที่เราเริ่มต้นคืออะไร เพราะจุดต่อๆ ไปมันจะมีความทุกข์กันบ้างล่ะ มีความเหนื่อยบ้างล่ะ ก็อาจจะต้องจำโมเมนต์นี้ไว้ให้ดีๆ เลยนะว่าจุดที่เรามีความสุขกับเพื่อนๆ อย่างมากตอนเล่นดนตรีคืออะไร

ส่วนน้องๆ ที่ไม่เข้ารอบ เอิ๊ตมองเหมือนกันกับน้องที่เข้ารอบเลย คือเรายังต้องมีความสนุกแล้วก็จำโมเมนต์ที่เรามีความสนุกกับเพื่อนๆ ให้ได้ สำหรับคนที่ได้เริ่มทำ ได้เริ่มก้าวเข้ามาสู่ตรงนี้แล้ว ก็คือว่าได้ทำอะไรให้ตัวเองเยอะแล้วนะ น้องๆ เป็นกลุ่มคนที่กล้า เฮ้ย! มาประกวดเถอะ มาซ้อม มาเจอเวที เพราะฉะนั้นอยากให้ชมตัวเองเยอะๆ ว่าคุณเก่งแล้ว เวลามองกระจกตอนเช้า ๆ ก็บอกกับตัวเองว่า “เก่งมากๆ”

 

TP: ต้องไปต่อแบบ DREAM IT, DO IT กล้าฝัน! กล้าทำ! สินะ

เอิ๊ต: สำหรับทุกคนที่มีความรัก มีความฝัน ก้าวแรกที่จะทำให้เราได้ทำตามความฝันของเรา ก็คือการลงมือทำเลย เราเกิดแรงบันดาลใจได้ทุกวัน มันก็หมดไปได้ทุกวันเช่นกัน ถ้าเราไม่เริ่มทำ การลงมือทำมันอาจจะมีความเหนื่อย อาจจะมีความท้อ แต่ถ้าเราเหนื่อยก็อาจจะหยุดพักนอน แต่เราก็ยังทำมันต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่าถ้ายังลงมือทำก็จะได้ไปอยู่ในจุดที่เราอยากไปอยู่

3 ข้อคิดดีๆ จากเอิ๊ต

●  ต้องรู้จักให้กำลังใจตัวเอง
●  รู้จักความฟินของตัวเอง…เพื่อสร้างความสุข
●  ตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง เพียงแค่ทำให้ชีวิตบาลานซ์ ก็ดีมากแล้ว

TP: กลับมาที่เอิ๊ตเองบ้าง เพลงใหม่ ‘ไม่ให้เธอหายไป’ จังหวะสดใส เรียกว่าแตกต่าง…ไม่โศกอย่างที่ผ่านมา 

เอิ๊ต: เพราะเอิ๊ตเศร้ามามาก เหนื่อยกับความเศร้า มันอาจจะเกี่ยวเนื่องกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา บรรยากาศมันหมองหม่นกันมาเยอะ ตัวเองก็อยากร้องเพลงสนุกๆ อยากออกมาเล่นบนเวทีมันๆ จริงๆ แนวเอิ๊ตไม่ใช่คนเรียบร้อยแบบเพลงที่ผ่านมาก็อยากเป็นคนเท่ๆ เหมือนกัน อยากเท่แบบสวยๆ จริงๆ แล้วเป็นคนที่แอบกวนนิดหน่อย แอบติงต๊องเล็กๆ เพลงนี้ก็เรียกว่าได้เปลี่ยนตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์เลย

 

TP: ตอนนี้ได้เป็นตัวเองแล้ว…ได้ร้องเพลงที่อยากร้อง ในฐานะคนทำงานก็ยังได้ลงมือทุกขั้นตอนด้วย เอิ๊ตคิดว่าประสบความสำเร็จหรือยังในการเป็นนักร้อง

เอิ๊ต:  เอิ๊ตรู้สึกว่า คำว่าประสบความสำเร็จ มันน่ากลัวสำหรับเอิ๊ตนะ ประสบความสำเร็จเหมือนว่ามันจบแล้วนะ ในความเป็นจริงเอิ๊ตรู้สึกเหมือนกับว่ามันเพิ่งเริ่มด้วยซ้ำ อาจจะเป็นคำที่คนพูดกันบ่อย แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ รู้สึกว่า “เอาแล้ว ฉันเจอทางที่ชอบแล้ว!” ย้อนกลับไป 5-6 ปีที่แล้วก็เหมือนกัน คือรู้สึกเหมือนตัวเองรู้จักตัวเองดีขึ้นเรื่อยๆ สนุกเหมือนกับตอนทำเพลงแรกทุกครั้ง เรียกว่าความฟิน (หัวเราะ)

 

TP: ถ้าทุกครั้งที่มีเพลงใหม่ออกมาคือ “ความฟิน” อะไรที่เอิ๊ตใช้สร้างความฟินให้ตัวเอง

เอิ๊ต:  ถ้าคิดตอนนี้ก็จะเป็นแฟนๆ…แฟนคลับที่รอเพลงเรา เพราะว่า 2-3 ปีนี้เหมือนเราไม่ค่อยได้ออกไปไหน  ไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่ค่อยได้ออกไปร้องเพลงสดๆ มาปีนี้ได้กลับมาแล้ว ได้เจอผู้คน ได้ออกไปร้องเพลง แล้วมีคนร้องเพลงของเราได้ มีสายตาที่สดใสส่งกลับมา ความสุขของเอิ๊ต ถ้าลงมาจากเวทีแล้วเห็นคนดูแฮปปี เราจะรู้สึกฟิน ไม่ว่าจะเป็นงานขึ้นเวทีแบบไหน จะเป็นกลางวัน จะเป็นกลางคืน… ถ้ารู้สึกว่ามันเกิดพลังงานอะไรบางอย่างก็จะรู้สึกแฮปปี

เอิ๊ตจะชอบเข้าไปใน open chat ของแฟนคลับ ตอนแรกก็จะเข้าไปแอบดู แล้วก็ชอบมาก ดูโบ๊ะบ๊ะจัง ทุกคนแอบเล่นมุกอยู่ในนี้แล้วจะมีช่วงที่เจอกันได้ยากก็เลยเผยตัวไปเลยแล้วกันว่าตัวเราในนั้นคือเอิ๊ตเอง กลายเป็นรู้สึกอุ่นใจ เราทำเพลงแล้วมีคนรอฟังเพลงเรา อยากมาเจอกัน อยากมารับพลังงานดีๆ ที่อยากจะสร้างให้กัน รู้สึกว่านั่นคือพลังงานที่ศิลปินทุกคนได้รับแล้วรู้สึกอุ่นใจ

 

TP: คิดว่าจุดไหนจะแฮปปีที่สุด

เอิ๊ต: ไม่มี ไม่อยากให้จบเลย เอาจริงก็กลัวนะเพราะตัวเองก็เดินทางมาในเส้นทางนี้หลายปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงคัฟเวอร์เพลงในยูทูบ กว่า 11 ปีได้ ก็ยังรู้สึกว่าเราอยู่ในหนังสักเรื่อง ไม่อยากให้มันอวสาน อยากเป็นแบบซิตคอมฟอร์เอฟเวอร์ แล้วก็เชื่อว่าไม่ว่ามันจะเป็นรูปแบบไหน วันที่เราโตขึ้นกว่านี้อาจจะไม่ได้ร้องเพลงในสไตล์นี้ก็ได้ แต่แค่ได้เปล่งเสียงออกมาก็ฟิน…อยู่บ้านก็ยังร้องเพลงให้ตัวเองฟัง ปั่นจักรยานก็ร้องเพลง

 

TP: เรื่องฟินๆ ก็มีแล้ว มีเรื่องอะไรที่ไม่ฟิน ที่เป็นอุปสรรคขวางชีวิตมีบ้างไหม หลายคนจะมองว่าเอิ๊ตก็มาเรื่อยๆ แบบก้าวมาเรื่อยๆ ไม่มีหยุด ไม่มีเซ

เอิ๊ต: จริงเหรอ? เอิ๊ตรู้สึกท้อวันละ 3 เวลา จะบอกว่าที่ทำงานทุกวันนี้ เพราะมีทีมงานเอย คนรอบๆ ตัวที่คอยบิลท์อัปเยอะมาก เพราะเอิ๊ตไม่ใช่คนที่มีความมั่นใจขนาดนั้น ตัวเองก็ไม่ได้เรียนจบดนตรีมา ไม่ได้เรียนทางนี้มาโดยตรงตั้งแต่เด็ก ซึ่งมันจะมีความสงสัยในตัวเองอยู่บ่อยๆ ทุกเดือนจะมีสัก 2-3 วันที่เหนื่อยจัง แล้วมีความคิดว่าฉันเก่งพอหรือยัง…ฉันเป็นที่รักหรือเปล่า อยู่บ่อยมาก

 

TP: เรื่องไหนที่ทำให้รู้สึกแย่ที่สุด

เอิ๊ต: เอิ๊ตว่าเราอยู่ในยุคที่อุตสาหกรรมดนตรีเฟื่องฟูมากๆ มีพื้นที่ให้ศิลปิน คือตอนนี้มีศิลปินเยอะมาก ก็กลัวว่าจะเป็นคนหนึ่งที่ถูกลืม จะมีบางครั้งที่เราคิดว่ากำลังเปรียบเทียบตัวเองอยู่หรือเปล่า มันนอยด์ ซึ่งเอิ๊ตว่าศิลปินทุกคนเป็น ไม่ว่าจะดังแค่ไหนก็เป็น แต่ตัวเอิ๊ตโชคดีที่คนรอบข้างเป็นสายบิลท์ แต่ถ้าเหี่ยวมากๆ ก็แก้ไม่ได้ก็ปล่อยให้เหี่ยวต่อไป เดี๋ยวเบื่อก็ลุกขึ้นมาทำอะไรเอง

TP: เอิ๊ตมองตัวเองว่าเปลี่ยนไปแค่ไหน จากวันแรกถึงวันนี้ ลองรีวิวและให้คะแนนตัวเองหน่อย

เอิ๊ต: มองย้อนกลับไปตอนแรกสุดเลย ตัวเองเป็นเด็กน้อยมาก เป็นเด็กน้อยที่ใสมากๆ ร้องเพลงในผับครั้งแรกยังไม่มีคนรู้จักเลย ตอนนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองสู้มากๆ เหมือนผ่านชีวิตมาหลายช่วงมาก จะมีช่วงที่ไม่เข้าใจ ช่วงที่ฉันต้องเป็นตัวเองเท่านั้น ถ้าไม่เป็นตัวเองขอไม่เป็นอะไรเลย แล้วก็มีช่วงที่ฉันมีความรักในดนตรี แล้วก็ยังจะมีจุดที่เริ่มทำงานแล้วไม่อยากเป็นที่รู้จัก รู้สึกว่าการเป็นที่รู้จักมันน่ากลัว

อย่างตอนเพลง Sky & Sea ออกมาครั้งแรกเพลงเริ่มดัง เอิ๊ตเองก็ทำทุกทางให้คนจำไม่ได้ เพราะรู้สึกการเป็นที่รู้จักมันน่ากลัว พอเพลงดังปุ๊บก็ขอหยุดไม่ทำแล้ว ขอหยุดตัวเองแป๊บหนึ่ง ช็อก! ทั้งที่ก็ไม่ได้ดังมากแต่ก็ขอเบรกทุกอย่าง ไปเรียนประมาณปีหนึ่ง

มาถึงตอนนี้ก็เหมือนทุกอย่างมันพลิกไป ตอนนี้รู้สึกว่าอาชีพเรามันดีจังเลย ไม่ว่ายังไงการออกมาเล่นดนตรีคือการสร้างความสุข แล้วก็น่าอิจฉามากๆ เช่นกันที่เราก็ได้รับความสุขกลับมา กลายเป็นว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ตัวเราเมื่อ 5-6 ปีมีความคิด ว่าการออกเทปแล้วคนจำได้ต้องน่ากลัวมากๆ การขึ้นเวทีแล้วมีคนจ้องมาเป็นสายตาเดียว…ตอนเด็กๆ คือกลัวมาก “อย่ามองฉัน ให้มองไปที่อื่น (หัวเราะ)”

แล้วทุกวันนี้คือรู้สึกดีจังเลยที่เอเนอร์จีของทุกคนมารวมตรงนี้ ก็อยากจะชมตัวเอง ชื่นชมตัวเองที่ทุกวันนี้เหมือนเราก้าวข้ามความกลัว จากคนที่ร้องเพลงคัฟเวอร์อยู่ในห้องคนเดียว กับกีตาร์ กับไมโครโฟน แล้ววันนี้เรากล้าออกมาร้องเพลงกับผู้คนด้วย การก้าวข้ามความกลัว ก้าวข้ามความไม่มั่นใจในตัวเองมามาก เพราะเราไม่ใช่คนที่มั่นใจตัวเองมากขนาดนั้น

ถ้าถามถึงคะแนนที่ให้กับตัวเอง ให้ตอนนี้ได้เหรอ เพราะอาชีพเอิ๊ตยังไม่จบเลยนะ แต่ถ้าคะแนนเต็มสิบนี้ก็อยากให้ทีมงานของตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะเราเป็นพลังงานระหว่างกัน สัก 8 หรือ 8.5 เลยเมื่อมองย้อนกลับไป คือถ้าไม่มองย้อนกลับไปก็จะไม่รู้สึกภูมิใจนะ แต่พอมองย้อนกลับไป จากเราคนเดิมที่โตมาก็เก่งอยู่นะ ซึ่งเอิ๊ตว่าสำคัญมากๆ ที่เราจะชมตัวเองบ่อยๆ ชมตัวเองที่เรายังเป็นคนสดใสประมาณหนึ่ง อาจไม่สดใสเท่าตอนเป็นเด็ก ไม่เท่าตอนอายุสัก 20 แต่ก็ยังมีพลังบวก มีพลังงานที่ดี ซึ่งยุคนี้เรารู้สึกว่าอะไรหลายอย่างมันค่อนข้างอึดอัด ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองเก่งมากที่ไม่คลั่งไปก่อน (หัวเราะ)

 

TP: ปีนี้มีเพลงใหม่ ปีหน้าเป้าหมายใหม่ของเอิ๊ตจะเป็นอย่างไร 

เอิ๊ต: ปีที่แล้วตั้งใจจะลดความอ้วน (หัวเราะ) ปีหน้าก็แค่อยากเป็นตัวเองที่ดีขึ้น อย่างที่อยากจะลดความอ้วนแต่สุดท้ายเราก็ลดไม่ได้ตลอดเวลา ก็แค่มีมายด์เซตไว้ว่าขอให้มีสุขภาพที่ดี เหมือนกับสุขภาพใจ ไม่ใช่ว่าเราสามารถเพอร์เฟกต์ได้ตลอดเวลา ไม่สามารถแฮปปีได้ตลอดเวลา

เราแค่อยากมีเป้าว่าเราสามารถดูแลตัวเองได้ ดูแลใจตัวเองได้ก็พอ ให้รู้ว่าทุกข์ก็คือทุกข์ แมเนจตัวเองได้…ให้มันบาลานซ์ก็พอ ส่วนเรื่องร้องเพลงก็อยากต่อยอดจากตรงนี้ ถ้าเรามีความมั่นใจแล้ว ก็อยากทำเพลงที่ตัวเองมีความมั่นใจแบบนี้ขึ้นมาอีก

 

รู้จักเอิ๊ต…แบบก่อนหน้านี้

สาวเสียงสวยที่เริ่มต้นจากบทบาทไนท์ วงซีสเคป ในซีรีส์ “ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น” และยูทูสตาร์ที่คัฟเวอร์เพลงบนยูทูบ แชนแนล WishesOnTheEarth ก่อนจะก้าวสู่การเป็นนักร้องตัวจริงกับ ค่าย มิวซิกมูฟ เรคคอร์ดส ที่ประสบความสำเร็จระดับเคยมีภาพเธอยิ้มกว้างอยู่บน Digital Billboard ที่ Times Square ในมหานครนิวยอร์ก

Author

กฤษณา คชธรรมรัตน์

Author

นักเขียนที่ให้ความสนใจกับทุกเรื่องบนโลก อย่างละนิดอย่างละหน่อย บ่อยครั้งจึงวาร์ปไปเขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ