หลายครั้งที่ใบบัวบกถูกพูดถึงในฐานะน้ำแก้อาการช้ำในจากการอกหัก หรือรู้สรรพคุณเพียงคร่าวๆ ว่ามีฤทธิ์เย็น ช่วยรักษาแผล แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าบัวบกนั้นสามารถนำมาเป็นส่วนผสมสำคัญในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าได้ ลาวิตต้า แบรนด์สกินแคร์ไทยหยิบจับภูมิปัญญาสมุนไพรไทย เลือกใช้บัวบกมาเป็นส่วนประกอบหลักนำมาผ่านกระบวนการและขั้นตอนที่ได้มาตรฐาน ผลักดันสกินแคร์ไทยให้มีความเป็นสากล ด้วยมาตรฐานระดับโลก
ลาวิตต้า เริ่มต้นกระบวนการผลิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยมีคุณรัชดา ตันติธาดาพิทักษ์ เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์และดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ หยิบจับภูมิปัญญาสมุนไพรไทยบัวบกมาผลิตเป็น สกินแคร์ที่ได้มาตรฐาน ปัจจุบันมีคุณเจ ณิชมน ธรกีรติกุล General Manager คอยดูแลในส่วนต่างๆ
ลาวิตต้าค่อยๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์จนสามารถลงขายในร้านค้าต่างๆ รามาเฮลท์ช็อป และคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ที่เพิ่งได้นำเข้ามาวางจำหน่ายได้เพียงสองปีกว่า แม้จะเป็นแบรนด์สกินแคร์ไทย แต่ก็สามารถประกาศตัวได้อย่างสมศักดิ์ศรี มาพร้อมกับความน่าเชื่อถือด้วยงานวิจัยที่มีอยู่ในมือ
สกินแคร์จากบัวบก วิธีสกัดสารลิขสิทธิ์เดียวจากจุฬาฯ
กว่าจะได้หยิบผลิตภัณฑ์สารสกัดจากธรรมชาติขึ้นมาใช้ ลาวิตต้าผ่านกระบวนการคิดและทดลองมาอย่างยาวนาน โดยมีจุดเริ่มต้นจากคุณรัชดา ตันติธาดาพิทักษ์ ที่ในอดีตเคยเป็นนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีความสนใจในพืชสมุนไพรและธรรมชาติ จนกระทั่งได้มาจับมือกับเพื่อน รศ.ดร. มยุรี ตันติสิระ ในขณะนั้นทำงานวิจัยโครงการศึกษาฤทธิ์และความเป็นพิษของสารสกัดมาตรฐานบัวบกและได้จดสิทธิบัตรกระบวนการเตรียมสารสกัดมาตรฐานบัวบก โดยตั้งชื่อว่า ECa 233 จากนั้นจึงได้พัฒนามาเป็นแบรนด์ La Vita การรวมความหมายของคำว่า La หมายถึง ผู้หญิง และ Vita แปลว่า มีชีวิตชีวา และจดแจ้งในชื่อแบรนด์ La Vitta ในเวลาต่อมา
ลาวิตต้าเลือกใช้นวัตกรรมสารสกัดบัวบกมาเป็นส่วนประกอบสำคัญตั้งแต่ผลิตภัณฑ์แรกที่เปิดตัวด้วยคุณสมบัติพิเศษของสมุนไพรไทย “การสกัดสารใบบัวบกที่สกัดมาแล้วทำให้ได้สาระสำคัญสองตัว คือ เอเซียติโคไซด์ (Asiaticoside) และมาเดคาสโซไซด์ (Madecassoside) สารสองตัวนี้มีคุณสมบัติในเรื่องกระตุ้นคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ลดการอักเสบของผิว”
บัวบกจึงเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในสกินแคร์ ด้วยคุณสมบัติที่มีสารออกฤทธิ์ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบจากสิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวและลดเลือนริ้วรอยจึงได้พัฒนามาเป็นเซรั่ม Anti Malasma Spot และ Vital Bright Facial Serum และ ผลิตภัณฑ์สร้างชื่อให้กับแบรนด์ และเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ประเภทอื่นๆ เคล้าคลอไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากธรรมชาติชนิดอื่น อย่างสารสกัดจากมังคุด ที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
Suggestion
สนับสนุนเกษตรกรไทย เพิ่มมูลค่าบัวบก
“ใบบัวบกเรารับมาหนึ่งตัน เราสกัดออกมาได้สารสำคัญแค่หนึ่งกิโลกรัม”
ไม่เพียงพัฒนาสินค้าเป็นสกินแคร์ผลักดันสู่มาตรฐานระดับโลกเท่านั้น ระหว่างทางลาวิตต้าก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับใบบัวบกที่เคยถูกนำมาใช้เพียงแค่ประกอบอาหารในครัวเรือนหรือเป็นยารักษาแผลตามภูมิปัญญาดั้งเดิม “ใบบัวบกเราจะให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นน้ำ เป็นโรงงานในเครือของเรา บัวบกก็เป็นบัวบกไทย และมีลูกฟาร์มในไทย แต่เราควบคุมมาตรฐานในการปลูก น้ำ อากาศ แล้วเราก็รับมา”
บัวบกที่ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญเดินทางมาจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ ระยอง ปราจีนบุรี นครปฐม นนทบุรี และอ่างขาง คัดเลือกเฉพาะสายพันธุ์บัวบกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังถ่ายทอดความรู้ในการปลูกบัวบกเพื่อให้ได้บัวบกที่มีคุณภาพตามที่ตั้งไว้ จากนั้นจึงไปผ่านกระบวนการผลิตเพื่อสกัดออกมาเป็นสารสกัดบัวบกที่มีคุณภาพ
หากคำนวณจากความสำเร็จของลาวิตต้าแล้ว บัวบกปริมาณมากเช่นนี้คงเป็นอีกหนึ่งทางว่าที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในประเทศไทยไปในตัวและยังสามารถเพิ่มมูลค่าบัวบกคุณภาพสูงให้มีราคามากขึ้นด้วย และนอกจากบัวบกแล้ว สารสกัดชนิดอื่นก็ยังเลือกใช้ผลิตผลของเกษตรกรในประเทศเป็นหลัก มีเพียงสารสกัดบางตัวที่ลาวิตต้าเลือกใช้จากต่างประเทศ อย่างไฮยาลูรอนิก ที่เป็นสารสำคัญอีกอย่างหนึ่งเท่านั้น
ผลักดันสกินแคร์ไทยมาตรฐานระดับโลก
ความโดดเด่นของลาวิตต้า ไม่เพียงอยู่ที่สารสกัดบัวบกที่ได้รับลิขสิทธิ์เพียงเจ้าเดียวเท่านั้น หากแต่ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นยังเต็มเปี่ยมไปด้วยข้อมูลจากงานวิจัย “บางทีสารสกัดที่แบรนด์อื่นใช้อาจจะไม่สามารถทราบปริมาณการออกฤทธิ์ ไม่รู้ว่าใส่ปริมาณเท่าไรถึงจะได้เอฟเฟ็กต์ดี ลาวิตต้ามีเปเปอร์รับรองว่าจะต้องใส่กี่เปอร์เซ็นต์ กี่โดสจึงจะช่วยได้” การนำเอาภูมิปัญญาไทยมาผสมผสานร่วมกับวิทยาศาสตร์จึงทำให้ผลที่คาดว่าจะได้มีความน่าเชื่อถือและมีหลักแหล่ง สามารถรับรองผลได้
นอกจากสารสกัดที่ใช้จะต้องมี COA หรือ Certificate of Analysis แล้ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวยังจะต้องถูกนำมาทดลองในห้องทดลองเพื่อทดสอบการแพ้จากสถาบัน Dermscan Asia ก่อนนำออกมาจำหน่าย นับว่าเป็นจุดแข็งของลาวิตต้าที่ช่วยพลิกโฉมหน้าผลิตภัณฑ์สกินแคร์ไทยที่ใช้ภูมิปัญญาสมุนไพรไทยท้องถิ่น ให้มีความเป็นสากลและมีการรับรองที่น่าเชื่อถือ จนสามารถนำไปจัดจำหน่ายในห้างร้านต่างๆ ร้านรามาเฮลท์ช็อป ซึ่งจะต้องได้รับการยอมรับจากแพทย์ รวมถึงการเข้ามาจัดจำหน่ายในคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ที่สามารถช่วยต่อยอดแบรนด์ให้เป็นสินค้าสร้างชื่อให้กับคนไทยสู่สายตานักท่องเที่ยวได้
Suggestion
มาตรฐานเทียบเคียงกับแบรนด์นอก คุณภาพชนะแบรนด์ไทย
แม้ว่าลาวิตต้าจะเกิดขึ้นมาได้เกือบสิบปีแล้ว แต่ในปัจจุบันที่อุตสาหกรรมการผลิตสกินแคร์เพื่อความงามเป็นที่นิยม ลาวิตต้าในฐานะแบรนด์ไทยก็ต้องเข้ามาต่อสู้ในเรื่องการแข่งขัน แม้จะมีข้อเสียเปรียบที่ไม่สามารถจดทะเบียนเป็นเวชสำอางได้เพราะไม่มีอยู่ในทะเบียน อย. แต่ก็ต่อสู้ในฐานะของการเป็นเครื่องสำอางบำรุงผิว และใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในมือเป็นตัวชูให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นมีความน่าเชื่อถือในระดับสากลเทียบเคียงกับสินค้าแบรนด์นอก
นอกจากคุณภาพแล้วยังโดดเด่นด้วยการเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจปัญหาผิวของผู้หญิงไทยในด้านต่างๆ จึงทำให้สินค้าตอบโจทย์ความต้องการ “เราพยายามตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวของคนไทย จะแบ่งออกเป็นความกังวลของคนไทยอย่างริ้วรอย และเรื่องของจุดด่างดำ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ มอบความชุ่มชื่น และคนที่มีปัญหาเรื่องสิว” ปัญหาสำคัญของคนไทยถูกให้ความสำคัญพร้อมกับการนำเสนอคุณค่าจากสมุนไพรไทยบัวบกให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ยังได้รับรางวัลจากกรมการแพทย์แผนไทย และรางวัล International Innovation Awards 2019 ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้สามารถเข้ามาวางขายในคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีเพราะผ่านมาตรฐานสูงของที่นี่ได้
“อยากให้เป็นสินค้าของไทยที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพที่ดีในราคาที่จับต้องได้” ทางแบรนด์ทิ้งท้ายด้วยความภูมิใจ
ทั้งนี้ สิ่งที่ทางลาวิตต้ามุ่งมั่นเสมอต่อการค้นคว้าสรรพคุณเฉพาะของใบบัวบกไทย แล้วนำมาต่อยอดให้เป็นโปรดักต์ที่มีความโดดเด่นสำหรับสกินแคร์ ประกอบกับการที่ได้อยู่ในคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ยิ่งช่วยทำให้สกินแคร์ไทยแท้ เป็นที่รู้จักไปในกลุ่มของชาวต่างชาติได้ดี อย่างที่ไม่น้อยหน้าแบรนด์นอกเลย
ในยุคที่หลายคนมองหาผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเมืองนอกและคิดว่าสินค้าจากแบรนด์นอกจะมีคุณภาพมากกว่าสินค้าแบรนด์ไทย ลาวิตต้าพยายามก้าวข้ามความคิดนั้นแล้วโชว์ศักยภาพของสินค้าที่มีอยู่อย่างฉลาด กระจายข้อมูลให้ได้มากที่สุดในยุคที่การสื่อสารครองเมือง และหยิบเอาความเป็นไทยมาผสมผสานในผลิตภัณฑ์ทุกชนิด มัดใจชาวไทยและสื่อสารไปยังคนต่างชาติให้ได้รับรู้ นับว่าเป็นแบรนด์ไทยที่หยิบเอาภูมิปัญญาสมุนไพรไทยมาผสานเข้ากับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว
La Vitta
ที่ตั้ง : 1194 ซอยวชิรธรรมสาธิต 57 ถ.สุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260
Facebook: LA VITTA
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: LA VITTA
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา
ปักหมุดจุดเช็กอิน–แชะรูป–ท่องเที่ยวใกล้เคียง
• Goja Gallery สายอาร์ตและคอกาแฟห้ามพลาด ชวนไปเสพงานศิลป์ ผลงานศิลปะร่วมสมัยจากการจัดแสดงนิทรรศการของศิลปินในบรรยากาศสบายๆ ภายในร้านยังมีส่วนที่เป็นคาเฟ่ เสิร์ฟกาแฟดริป กลิ่นหอม อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนง
• Okinawa Kinjo ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ เหมือนหลุดออกมาจากย่านโอกินาวาในสไตล์อิซากายะ ร้านอาหารสุดฮิตประจำย่าน
• วัดมหาบุศย์ อีกชื่อหนึ่งคือ วัดแม่นาคพระโขนง ตั้งอยู่ริมคลองพระโขนง สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในมีศาลย่านาคให้ผู้คนได้มาสักการะ เป็นที่พึ่งทางใจด้วย
