Passion

เคมีดนตรีที่ลงตัวกัน
ของ 18.00 น….วงคนเท่

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว 6 Sep 2024
Views: 738

Summary

18.00 น. วงดนตรีชื่อแปลก วงที่รวบรวมคนรักดนตรีที่มีฝันเดียวกัน เคมีเข้ากัน คุยกันรู้เรื่อง แม้บางคนเพิ่งจะเจอกันเพียง 4 ครั้ง!!! วันนี้พวกเขาก้าวลงสนามอีกครั้งเพื่อสร้างแพสชันใหม่ๆ ในชีวิต การรวมตัวครั้งนี้มีทั้งความบังเอิญ ความตั้งใจ ความตื่นเต้น ความเป็นไปได้ และเป็นไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาถอยไม่ได้แล้ว ต้องลุยเท่านั้น

เวลา 18.00 น.พอดีเป๊ะกับที่วงดนตรีนามว่า 18.00 น. ได้ยินประกาศชื่อวงตัวเองผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ช่างเป็นความบังเอิญที่เหมือนชะตาฟ้าลิขิต แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่เหมือนจะบังเอิญเรื่องเดียวที่เกิดขึ้นกับวงนี้ แต่จะมีเรื่องอะไรอีกนั้น เดี๋ยวพวกเขาจะเล่าให้ฟัง

ณ เวที THE POWER BAND 2024 SEASON 4 “เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี” เวทีประกวด    วงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในธีม “Let The Music Power Your World ที่สนามเชียงใหม่ เราได้เจอวงดนตรีคุณภาพอีกวง ที่มาท้าทายตัวเอง เพื่อตามหาและสนองแพสชันของตัวเองเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้

 

“You Only Live Once คุณมีชีวิตเดียว

มันคอยเตือนเพราะไม่รู้ว่าเราจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน

อยากรู้จักใคร อยากทำอะไรก็ทำเลย

วง 18.00 น. (เชียงใหม่)
รุ่นบุคคลทั่วไป: เส้นทางสู่ศิลปิน (Professional Class: Road to Artist)
THE POWER BAND 2024 SEASON 4 สนามเชียงใหม่

ไอซ์ (ร้องนำ)

ฟรองซ์ (กลอง) – จ็อบ (คีย์บอร์ด) – เฟิร์ส (เบส)

ต้าร์ (กีตาร์)

 

การรวมตัวของผู้คนที่หลากหลายแต่มาด้วยใจทุกคน

วง 18.00 น. เพิ่งรวมตัวกันได้ไม่นาน เรียกว่ารวมตัวกันเพื่อภารกิจ THE POWER BAND เลยก็ว่าได้ แต่ดีกรีประสบการณ์ทางดนตรีสายอาชีพเต็มเปี่ยม…ต่างคนมาจากต่างที่ ทั้งลำพูน เชียงราย เชียงใหม่ อุบลราชธานี พอมีคนเริ่มชวนปุ๊บ คนอื่นๆ ก็ตอบตกลงมาด้วยกันปั๊บในเสี้ยววินาที เพราะแต่ละคนต่างมีความฝันเดียวกัน จูนกันลงตัว พร้อมจะเดินไปด้วยกัน ก่อนอื่นไปรู้จักสมาชิกแต่ละคนกันดีกว่า

ไอซ์ – ณัฏฐ์ลิตา พึ่งเพียร (นักร้อง) สาวสวยเพียงหนึ่งเดียวของวง เล่าถึงชีวิตตัวเองว่า เธออยู่กับดนตรีก่อนที่จะรู้ตัวเสียอีก เพราะตอนเด็กๆ ถ้าไอซ์งอแงพ่อจะเปิดเพลงหรือไม่ก็ซื้อไมค์ของเล่นมาให้แล้วเธอจะเงียบ พอโตมาไอซ์ก็ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับดนตรี ไม่ว่าจะเล่นเมโลเดี้ยนในวงโยธวาทิต ระดับประถม ร้องเพลง อยู่วงโปงลาง วงลูกทุ่ง วงดนตรีไทย และวงสตริง “เราคลุกคลีและอยู่แบบนี้มาตลอด จนร้องเพลงเป็นอาชีพหลักถึงวันนี้”

ต้าร์ – กฤตภาส เนตรนิลพฤกษ์ (กีตาร์) เริ่มเล่นกีตาร์มาตั้งแต่ 10 ขวบจนถึงทุกวันนี้ “ผมก็อยากลองเล่นเครื่องดนตรีหลายอย่างนะ แต่ตอนนี้ยังฝึกแค่กีตาร์อยู่ อยากทำตรงนี้ให้สุดก่อนที่จะไปเริ่มอย่างอื่น”

จ็อบ – อนุชา เมืองวงค์ (คีย์บอร์ด) เริ่มต้นจากการเล่นดนตรีพื้นเมืองของภาคเหนือ ตอนขึ้น ม.ต้น จ็อบก็เข้าชมรมลูกทุ่งและได้เล่นคีย์บอร์ดเป็นครั้งแรก ส่วนเหตุผลที่เลือกคีย์บอร์ดน่ะเหรอ… “ตีกลองมันดูเหนื่อย เสียงดัง ซ้อมเองที่บ้านก็ไม่ได้ ดีดกีตาร์ก็เจ็บนิ้วครับ นิ้วจะด้าน แถมต้องตั้งสายบ่อย ผมว่าคีย์บอร์ดแค่เสียบปลั๊กแล้วเล่นได้เลย ไม่ต้องใช้แรงก็เลยชอบ” เอาจริงดิ

ฟรองซ์ – ธนดล คำใส (กลอง) ก็เริ่มเล่นดนตรีจากดนตรีพื้นบ้านมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยตีฉาบก่อนเลย และเริ่มมาตีกลองเพราะเห็นพี่เฟิร์ส (พี่ชายแท้ๆ) ซื้อซีดีของวง Silly Fools มาเปิดที่บ้าน “ผมเห็นพี่ต่อมือกลองของวง เขาเท่มาก ผมก็เอาถัง เอาตะกร้าแม่มาตี แล้วให้พี่เฟิร์สวาดรูป Silly Fools มาติดหน้าตะกร้าให้”

เฟิร์ส – ธนบดี คำใส (เบส) เริ่มเล่นดนตรีมาตั้งแต่อายุ 14 จนตอนนี้อยู่กับดนตรีมาเกือบ 20 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นจากเบสและเป็นเครื่องดนตรีเดียวที่ทุ่มเทกับมันเต็มที่ ส่วนที่ต้องเป็นเบสก็เพราะ “ผมเข้าห้องซ้อมดนตรีครั้งแรกกับเพื่อน เห็นว่าเบสมันมีแค่ 4 สายน่าจะเล่นง่าย ก็หยิบมาลองฝึกเองเลย” โอ๊ย เหตุผลไม่ต่างจากจ็อบ

และเหตุผลที่วงชื่อ 18.00 น. ก็เพราะพวกเขาอัดคลิปส่งประกวดเสร็จและกดปุ่มส่ง ณ เวลานั้นนั่นเอง

“ผมเชื่อในพลังของการทำซ้ำ ผมไม่รู้ว่าลูกดอกที่ปาไปนั้นมันจะถูกตรงกลางเป้าหรือเปล่า

แต่ผมจะปาบ่อยๆ ถ้าเรามีลูกดอกในมือ 100 อัน มันต้องถูกเป้าสักอันแหละ”

วง 18.00 น.(เชียงใหม่)

หรือนี่จะเป็น “ลาง” (ดี) บอกเหตุ

วง 18.00 น. ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เรียบร้อย เราขอแอบล้วงลึกถึงแผนขั้นต่อไปของวงสักหน่อย จ็อบรีบบอก “ผมเคยพูดไว้ว่าถ้าเราเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ ผมจะซื้อคีย์บอร์ดใหม่ เพราะคีย์บอร์ดผมพัง”

เหตุเพราะจ็อบลืมรูดซิปกระเป๋าตอนขับมอเตอร์ไซค์ ทำให้คีย์บอร์ดตกและเป็นรู “เมื่อตอนที่เราซ้อมอยู่ เพื่อนของต้าร์ทักมาถามจะขอซื้อคีย์บอร์ดตัวเก่าของผม เพราะเขาชอบสตอรี่ที่มันเป็นรู ผมเลยคิดว่าหรือนี่จะเป็นลาง(ดี) ที่เราจะได้ซื้อคีย์บอร์ดใหม่ ตอนนี้ผมได้ซื้อคีย์บอร์ดใหม่จริงๆ แล้ว” เอ๊ะ หรือนี่จะเป็นเรื่องบังเอิญอีกครั้ง

นอกจากเรื่องซื้อคีย์บอร์ดแล้ว ทางวงยังไม่ได้มีแผนอะไร เพราะการเข้ารอบชิงชนะเลิศนั้นอยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน “เราคิดไม่ถึงว่าจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศ เราทำแต่ละรอบตามขั้นตอน ก็เผื่อใจไว้ตลอด เพราะไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร”

คีย์บอร์ดที่พังอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

 

ความรู้สึกสดใหม่อีกครั้งบนเวที

แม้สมาชิกวงนี้จะเป็นนักดนตรีอาชีพกันทุกคน แต่การกลับมาขึ้นเวทีประกวดอีกครั้งก็ตื่นเต้นกันไม่น้อย ต้าร์บอกว่า “ผมงี้มือสั่นไปหมด ดีใจที่ได้มาเล่นกับพี่ชาย เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เราไม่เคยเล่นดนตรีด้วยกันเลย ผมแค่อยากมาเล่นกีตาร์ที่มีพี่ฟรองซ์ตีกลองให้แค่นั้น” ตื่นเต้นแค่ไหนดูได้จากการที่วงตกลงกันว่าให้ต้าร์ตะโกนคำว่า Let’s go บนเวที แต่ความตื่นเต้นทำให้ต้าร์ลืม เลยตะโกนว่า “อ๊ากกกกกกกกกก” ทำเอาคนตกอกตกใจกันทั่วทั้งงาน

ส่วนไอซ์นั้นใจฟูเพราะว่า “เราได้ทำอะไรใหม่ๆ มีแพสชันใหม่ๆ มันเติมไฟให้เรา บางทีทำงานประจำมันก็เบื่อๆ แล้วพอมาทำอะไรแบบนี้มันรู้สึกได้ปลดปล่อย ยิ่งได้เข้ารอบลึกๆ มันยิ่งฮึบ”

“ผมรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันผลิดอกออกผลจากที่ปลูกที่ซ้อมกันมา แล้วผลตอบรับมันดีเกินคาด เราซ้อมกันมาหลายชั่วโมง เพื่อตรงนี้ เพื่อ 10 นาทีในการโชว์ครั้งนี้ เราตั้งใจมาสนุกด้วยกันมากกว่า เคมีของคนในวงมันตรงกัน พอได้มาทำดนตรีด้วยกันก็สนุก” จ็อบบอกความรู้สึกหลังได้ปล่อยพลังบนเวทีไปแล้ว พี่เฟิร์สก็เห็นด้วยกับจ็อบและเสริมว่า “รู้สึกดีที่ได้ขึ้นเวทีนี้ เราตั้งใจกันมาก”

“และนี่เป็นครั้งแรกที่พี่เฟิร์สและฟรองซ์ได้เล่นดนตรีด้วยกัน เป็นพี่น้องกันไม่เคยเล่นดนตรีด้วยกันเลย มาอยู่วงเดียวกันครั้งแรกก็คือกการประกวดนี้” จ็อบเล่าให้ฟัง

การที่คนที่มีเป้าหมายและความฝันแบบเดียวกันมาเจอกันน่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะ

 

เพลงที่ช่วงนี้ 18.00 น. กำลังอิน

เฟิร์ส: เพลง ‘Situationship’ (4EVE)

ต้าร์: เพลง ‘รจนา’ (TaitosmitH)

จ็อบ: เพลง ‘IU’ ทั้งอัลบั้ม

ฟรองซ์: เพลง ‘Too Sweet’ (Hozier)

ไอซ์: เพลง ‘Sad Song’ (We The Kingsfeat. Elena Coats)

ต้องที่นี่และเพื่อสิ่งนี้เท่านั้น

เมื่อปีที่แล้วมีคนมาเล่าให้ฟังว่าการได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของ THE POWER BAND แล้วได้ไปเข้าแคมป์ที่ได้ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับดนตรี มาปีนี้เฟิร์สจึงไปอยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบนั้นบ้าง จึงเริ่มชวนจ็อบ “เราค่อยๆ หาคนมาเติมในวง วันที่เราจะอัดคลิป ผมขับรถมาจากเชียงรายล่วงหน้า 1 วัน เพื่อมาซ้อมกับวง อีกวันก็ซ้อมอีกแล้วก็อัดคลิปส่งเลย ก่อนหน้ารอบแสดงสด ผมก็ขับรถมาก่อน 1 วัน มารวมตัวกันซ้อม 3-4 ชั่วโมง เพื่อวันนั้น” จ็อบเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการรวมตัว

“หนูก็อยากลองไปแคมป์ อยากไปรับอะไรใหม่ๆ เพื่อกลับมาทำงานของเรา” ไอซ์บอก “มันดีจริงๆ นะ” พี่เฟิร์สกระซิบเบาๆ “เขาก็มาอวดผมแบบนี้เหมือนกัน ผมนี่เนื้อเต้นมาก ผมชอบดนตรี ชอบหาความรู้ เราเลยมาทำวงกัน” จ็อบก็อยากไปแคมป์

“ตอนเข้าแคมป์มันเปิดโลกให้เห็นถึงอุตสาหกรรมดนตรีที่เราไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากการเล่นดนตรีกลางคืน เลยเป็นสิ่งที่จุดประกายให้ผมอยากทำสิ่งนี้” เฟิร์สผู้ที่เอาแคมป์มาหลอกล่อ

ส่วนฟรองซ์ผู้ที่เคยผ่านทั้งเวทีนี้และแคมป์มาก่อน ก็ชักชวนสมาชิกด้วย “ผมเอาชื่อโบกี้ไลอ้อนที่เคยมาแคมป์ชักจูงเพื่อนครับ ยิ่งปีนี้มีคุณอิ้งค์ด้วย เพราะจ็อบเป็นติ่งอิ้งค์ วรันธร” “หนุ่มๆ อยากเจอคุณอิ้งค์หมดเลยค่ะ” ไอซ์แซวสมาชิก

การที่วงมารวมกันที่เวทีแห่งนี้เพื่อการประกวดครั้งนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกเหมือนกัน

“ผมว่าดนตรีมันเหมือนมายากล ตอนที่เราเป็นเด็กธรรมดามันก็ไม่มีอะไร แต่พอเราเล่นดนตรีอยู่บนเวทีมันจะดูเท่ขึ้นมา” จ็อบปิดท้ายอย่างคนเท่ ใช่ เราเห็นด้วย พวกนายเท่จริงๆ เท่ที่ทุ่มเทให้กับสิ่งที่เลือกและสิ่งที่รักอย่างสุดพลัง สุดหัวใจ

 

ฝากอะไร

ถึงคนที่รักดนตรีเหมือนกันหน่อย

ต้าร์: ฝึกเยอะๆ และต้องมีวินัยกับตัวเอง

ฟรองซ์: ฝึกเยอะๆ อย่าไปท้อ เดี๋ยวก็เก่งเอง

ไอซ์: เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด

เฟิร์ส: ถ้าชอบก็ลองเล่นเลย
แม้ไม่ได้ทำเป็นอาชีพหลัก ก็ทำเป็นงานอดิเรก
เป็นการผ่อนคลาย ทำให้เรามีความสุข

จ็อบ: ดนตรีไม่มีถูกผิด ไม่มีกติกา ไม่มีสูตรตายตัวด้วย
ทำให้มันมีความสุขที่สุด นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง

Author

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว

Author

นักเล่าเรื่อง ผู้มีหนังสือและการเดินทางเป็นดั่งลมหายใจ นิยมชมชอบท้องฟ้า กาแฟ และแมว

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ