Summary
ตั้งชื่อวงได้ชวนอร่อยว่า Banana Grill หรือ กล้วยปิ้ง วงลูกผสมระหว่างครูฝึกสอน+นักเรียนดนตรี จากโรงเรียน บรบือวิทยาคาร จังหวัดมหาสารคาม ปั้นวงมาแข่ง THE POWER BAND 2024 เพราะมีเป้าหมาย “อยากเป็นศิลปิน” เลยขอมาวัดฝีมือประกวดดนตรีกันก่อน ในที่สุดก็เปิดใบผ่านทางด่านแรกได้สำเร็จตามฝัน !!
ถึงจะมาไกลจากภาคอีสาน แต่เป็นการมาที่ไม่สูญเปล่าจริงๆ เพราะตั๋ว Professional Class ใบสุดท้ายจะเข้าไปสู่รอบ Final จากสนามนครปฐม ได้ตกเป็นของวง Banana Grill เป็นที่เรียบร้อย ในการแข่ง THE POWER BAND 2024 SEASON 4 “เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี” เวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ร่วมกับ วิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้คอนเซปต์ “Let The Music Power Your World”
เวฟ (คีย์บอร์ด) – ฟอร์ด (กีตาร์) – เนคไท, ดอม (ร้องนำ) – เติ้ล (เบส) – ดิว (กลอง) – ต้าหมิง (กีตาร์)
สมาชิกวง Banana Grill
เป็นวงดนตรีที่ผ่านเข้ารอบมาแบบม้ามืด จนกรรมกรรมการออกปากชมเปาะ ในเรื่องการคอนโทรลเสียงร้องได้ดีและมีอะเรนจ์เมนต์ที่กลมกลืนกัน พวกเขาคือวง Banana Grill กับสมาชิกที่มีทั้งหมด 7 คน ได้แก่ ดอม จตุพล กลมลี (ร้องนำ) เนคไท อรุสรณ์ สีพั้ว (ร้องนำ) ดิว ดนุวัศ วงชารี (กลอง) ฟอร์ด พีรพัฒน์ ศรีตระกูล (กีตาร์) ต้าหมิง ปฏิภาณ พัตรภักดิ์(กีตาร์) เติ้ล ชญานนท์ ภูมิภักดิ์ (เบส) และ เวฟ เสฏฐวุฒิ โคตรประทุม (คีย์บอร์ด) ในวันที่เจอกัน เสียดายที่เนคไท นักร้องนำอีกคนไม่ได้อยู่คุยเพราะไม่สบาย ถึงจะไม่ครบองค์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เอเนอร์จีของสมาชิกที่เหลือลดลง …เรามาปอกเปลือกความฝันหนุ่มๆ วง Banana Grill กันเถอะ
อธิบายความเป็น Banana Grill ให้รู้จักภายใน 6 ข้อ !!
1. ดิว มือกลอง และ ดอม นักร้องนำ
เป็นพี่น้องกัน (ดิวเป็นพี่/ดอมเป็นน้อง)
2. ที่ตั้งชื่อวง Banana Grill
เพราะ ดิว ชอบกินกล้วยปิ้ง แล้วชอบซื้อกล้วยปิ้งมาฝากน้องๆ ตอนซ้อม
แต่จะใช้ชื่อวง กล้วยปิ้ง ก็ดูไทยเกินไป เลยใช้ชื่อภาษาอังกฤษแทน
3. เนคไท กับ ดอม สองนักร้องนำ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม
และยังเรียนดนตรีด้วยกันที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ตอนนี้เป็นครูฝึกสอนดนตรีที่โรงเรียนบรบือวิทยาคาร
4. ดิว เรียนจบสาขาดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ก่อนหน้านี้เคยรับจ้างเล่นดนตรีทั่วไป และเล่นดนตรีกับ ดอม
5. ฟอร์ด / เวฟ / ต้าหมิง / เติ้ล เป็นนักเรียน ม.ปลาย โรงเรียนบรบือวิทยาคาร
พวกเขาเล่นดนตรีด้วยกันในวงของโรงเรียน มี ต้าหมิง เป็นหัวหน้าวง
6. ต้าหมิง / ฟอร์ด / เวฟ เคยมาแข่ง THE POWER BAND 2023 SEASON 3
ปีนี้ก็ลงแข่ง THE POWER BAND 2024 SEASON 4 ที่สนามขอนแก่นกับวง Reborn แต่ตกรอบ
(ใน SEASON 4 เพื่อนๆ วง Reborn ก็มาลงแข่งสนามนครปฐม รุ่นมัธยมศึกษา แต่ไม่ได้ไปต่อ)
ตอนนี้เลยมาอยู่วง Banana Grill และลงแข่งรุ่นบุคคลทั่วไป
Suggestion
ปลูกความฝันบนสนามประลองดนตรี
แม้จะเคยพาลูกศิษย์มาแข่งใน THE POWER BAND 2024 SEASON 4 สนามที่ 2 จังหวัดขอนแก่น มาแล้วในฐานะครูฝึกสอนดนตรี แต่การมาสนามที่ 5 คือครั้งแรกที่ ดอม ดิว และ เนคไท มาร่วมลงสนามกับลูกศิษย์ในนามวง Banana Grill กับเป้าหมายที่พวกเขาตั้งไว้อย่างจริงจัง
“ตอนแรกเราส่งแค่วงนักเรียนลงแข่งที่ขอนแก่นก่อน แล้วนักเรียนไม่ได้ไปต่อ พอผมได้ดูเด็กแข่ง ก็รู้สึกว่าทำไมตอนที่เราเรียนอยู่มัธยม เราไม่ได้มีโอกาสแบบนี้บ้าง (หัวเราะ) ก็เลยลองชักชวนเพื่อนแล้วก็พี่ชายมาทำวงกัน เพราะเราก็มีพาร์ตดนตรีที่ครบอยู่แล้ว พอมาสนามนครปฐมก็เลยลงทั้งสองรุ่นเลยครับ” ดอมบอกสิ่งที่คิด
การมาลงแข่ง THE POWER BAND ในรุ่นบุคคลทั่วไปก็เพราะอยากวัดใจและท้าทายฝีมือตัวเอง บนเวทีการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศไปเลย เพราะรุ่นนี้มีคะแนนโชว์สร้างสรรค์แบบศิลปินด้วย “เวลาเราเห็นศิลปินที่เราชอบเล่นคอนเสิร์ต เราก็อยากจะเป็นแบบเขาบ้าง อยากไปอยู่ในจุดจุดนั้นบ้าง อยากมี FC เยอะๆ ครับ” ต้าหมิง บอกเขินๆ
ดอมมาบอกความตั้งใจอีกครั้ง “การตั้งวงนี้ขึ้นมา เรามีเป้าหมายอยากที่จะเป็นศิลปินจริงๆ ครับ ไม่ว่าการแข่งขันหลังจากนี้จะประสบความสำเร็จ หรือไม่ประสบความสำเร็จ เราก็จะทำความฝันนี้ให้เดินต่อไป เพราะเราอยากให้วงนี้มันยืนยาวไปเรื่อยๆ เป้าหมายของพวกเราอีกเรื่องก็คืออยากเล่นดนตรีร่วมกัน ตอนนี้วงก็มีรับงานกันบ้างแล้ว”
ปรุงดนตรีให้กล่อมใจในรส Banana Grill
ด้วยหน้าที่ครูผู้หนุนหลังดนตรีให้เด็กๆ และตัวเองก็เล่นดนตรีอยู่ประจำ ดอมเลยเป็นหัวเรือสำคัญในเรื่องการจัดระบบงานทั้งหน้าและหลังบ้านในวง เจ้าตัวเล่าถึงการเลือกเพลงมาแข่งในรอบโซนนิ่ง “อันดับแรก ผมจะคอยหาเพลงว่ามันตรงกับสไตล์ของวงเราหรือเปล่า พอเจอเพลงเราก็ลองหยิบมาใช้ แล้วก็จะดูที่ความไพเราะของเพลงด้วย ว่าเข้าถึงอารมณ์เพลงได้แค่ไหน ศิลปินที่เลือกมาก็ต้องเป็นวงเราชอบด้วย”
ฉะนั้นเพลง ‘Dejayou’ ของศิลปิน PiXXiE และเพลง ‘ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง’ ของเจฟ ซาเตอร์ คือสองเพลงที่พวกเขาเลือกแล้วว่าเหมาะจะนำมาอะเรนจ์ดนตรีใหม่ เพื่อปรุงรสชาติให้ออกมาในสไตล์ Banana Grill ได้มากที่สุด
“อย่างแรกก็จะไปศึกษาใน YouTube ก่อนว่าศิลปินเขาเล่นกันยังไง แล้วผมจะเอามาวางให้วงลองแกะตามดู พอมาซ้อมรวมวง ถ้าพาร์ตไหนมันยากเราก็อาจจะผ่อนลง หรือไปหาเวอร์ชันที่โอเคกับเรามาแทน จากนั้นก็จะเติมแต่งเมโลดี้เข้าไปเรื่อยๆ” ดอมบอกวิธีการ
ดิวเสริมตาม “ถ้าเป็นท่อนยากๆ ดอมจะชอบส่งมาให้ผมรีอะเรนจ์ใหม่ (หัวเราะ) ผมก็จะดู reference จากเขาใน YouTube ก็จะเอามานิดเดียว แล้วก็ค่อยๆ เอามาปรับ ค่อยๆ ตีในสไตล์ของเรา”
“เวลาครูส่งมาส่วนใหญ่จะยากหมดครับ (หัวเราะ) แต่ผมก็อยากเล่นให้ได้ เพราะว่ามันเท่ มันท้าทายดี” เวฟบอกความรู้สึก
“ตอนแรกที่แกะเพลงมันก็จะยากพน่อย แต่พอเราฟังบ่อยๆ แล้วซ้อมเยอะๆ ก็จะคุ้นชินกับเพลงมากขึ้น จากนั้นเราก็เอามาปรับให้เป็นสำเนียงตัวเองได้ เติมลูกเล่นในแบบของเราเข้าไปอีกได้ครับ” เติ้ลบอกปิดท้าย
เมื่อพุ่งเป้าว่าจะศิลปินอาชีพจริงๆ 4 สมาชิกที่ยังเรียนมัธยมปลาย แบ่งเวลาเรียนกับซ้อมดนตรีกันยังไง ?
ฟอร์ด: ผมจะซ้อมดนตรีตอนเลิกเรียน ประมาณ 4 -6 โมงเย็น เวลา 1-2 ทุ่มก็จะทำการบ้านครับ 3 ทุ่มอ่านหนังสือ 4 ทุ่มเข้านอน ผมทำแบบนี้จริงจังทุกวันเลยครับ
เวฟ: สำหรับผมจะแบ่งเป็นวันเอาครับ อย่างเช่นถ้าวันนี้แกะเพลง อีกวันก็จะทำการบ้าน อ่านหนังสืออย่างเดียวเลย เพราะมันจะได้โฟกัสกับสิ่งที่ทำจริงๆ
ต้าหมิง: ผมจะพยายามทำงานให้เสร็จในเวลาเรียนเลยครับ พอถึงเวลาซ้อมดนตรีก็จะได้ซ้อมเต็มที่
เติ้ล: (ทำหน้าอึกอักๆ จนดอมแซวเป็นภาษาอีสาน “ให้ครูเล่าบ่” ขำคิกคักกันสักแป๊บ เจ้าตัวรีบเปิดปาก) ผมจะซ้อมตอนเที่ยงๆ ครับ เพราะตอนเช้าจะต้องแก้ข้อสอบ เอ๊ย เคลียร์งานให้เสร็จครับ (เพื่อนๆ รีบฟ้องว่า “เติ้ลไม่ส่งงานครูครับ เลยต้องแก้ข้อสอบ” แล้วก็ฮากันไปหนึ่งยก)
ดอม – เนคไท คู่หูพาร์ตร้องสุดโดดเด่น
พอถามพวกว่าจุดเด่นของ Banana Grill คืออะไร ดอมรีบตอบทันที “จุดเด่นของวง ณ เวลานี้คือนักร้องครับ” และเหตุผลที่ร้องสองคน “เราอยากเพิ่มความหลากหลายในการร้องครับ สมัยที่เรียนด้วยกัน เราก็จะเป็นนักร้องดูโอ้อยู่แล้ว พอมาร้องด้วยกันตอนนี้ก็จะเพิ่มพวกไลน์ประสาน แล้วก็เพิ่มลูกโชว์อะไรต่างๆ ทำให้มันมีมิติ แล้วก็มีความยากมากขึ้นด้วย”
การแบ่งพาร์ตร้องกับเนคไทก็เป็นอีกเรื่องสำคัญ “คือเราจะแกะเพลงทั้งหมดก่อน แล้วก็มาดูว่าตรงนี้อยากจะโชว์อะไร ตรงนี้อยากจะประสานไหม พอมาดีไซน์การร้องมันก็ไม่ยากเท่าไรครับ เพราะเสียงผมเรนจ์มันจะสูงอยู่แล้ว สมมติอย่างร้องเพลงของเจฟ สำเนียงเจฟนี่ร้องยากมากๆ ผมก็เลยใช้วิธีปรับสำเนียงเจฟมาเป็นของเรา (หัวเราะ) เพื่อจะให้ร้องแล้วเป็นตัวเราที่สุดครับ”
ถ้าให้ Featuring กับศิลปินที่มีอิทธิพลดนตรีต่อตัวเอง อยาก Feat.กับใคร
• ดอม: แบงค์ ปรีติ กับ เจฟ ซาเตอร์
• ดิว: ไหมไทย ใจตะวัน กับ มนต์แคน แก่นคูน
• เติ้ล: ไททศมิตร หรือ 4EVE
• ต้าหมิง: Bodyslam
• เวฟ: Bruno Mars กับ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์
• ฟอร์ด: Tattoo Colour
Suggestion
รวมพลังแล้วออกไปลุยกับความฝันให้สำเร็จ
ถึงวงจะมารวมตัวกันไม่นาน และมีเวลาซ้อมด้วยกันจริงๆ แทบไม่ถึงเดือน ในมุมมองของผู้นำอย่างดอม เขาได้เห็นความตั้งใจเกินร้อยของทุกคนที่กำลังต่อสู้เพื่อความฝันของตัวเอง “จากวันแรกที่เรารวมวงจนมาถึงวันนี้ ผมได้มองเห็นความสามารถของเด็กๆ แล้วก็ของตัวเองมากขึ้น มันทำให้ผมรู้สึกว่า ถ้าปล่อยให้เด็กๆไม่มีพื้นที่แสดงความสามารถ มันคงน่าเสียดายมาก ที่สำคัญผมก็เสียดายพวกผมเองด้วยครับ” ดอมหัวเราะกับสิ่งที่บอก
ซึ่งพลังงานความสำเร็จครึ่งแรกที่ได้มา คือแรงผลักที่จะทำให้พวกเขา พากันต่อสู้เพื่อความฝันจนสุดตัว อาจสมหวังในวันใดก็วันหนึ่ง และถ้าวันนั้นมาถึง เตรียมรับความอร่อยที่ Banana Grill รอเสิร์ฟแบบล้นเตากันได้เลย
“พลังของดนตรีพาเราไปพบกับความสุข เราได้เจอกับสังคมใหม่ๆ ได้เจอศิลปินที่ชื่นชอบ เจอแนวเพลงที่ไม่เคยรู้จัก เจอผู้คนที่มีความคิดความฝันในแบบเดียวกัน ดนตรีเปิดโลกให้พวกเราได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วก็ทำให้เจอแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตด้วย” วง Banana Grill