Summary
ทำความรู้จักกับหนุ่มหล่อมาดเข้ม นนท์ – ชานนทร์ ทิพกนก กับตัวตนที่ยืนหนึ่งเรื่องความขี้อาย แต่สุดท้ายพบจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ผันตัวมาอยู่หน้ากล้อง ในฐานะนักแสดงอาชีพกับบทบาทที่หลากหลาย พร้อมซูมอินเข้าไปอีกนิดผ่านกีฬาฟุตบอล การปฏิบัติธรรม และแชร์แง่คิดดีๆ เมื่อชีวิตต้องเผชิญกับปัญหา
เมื่อพูดถึงชื่อของ นนท์ – ชานนทร์ ทิพกนก หลายคนอาจคุ้นเคยกับบทบาทการแสดงของเขา ไม่ว่าจะเป็น หัสดิน หนุ่มเนิร์ดจากละครเรื่อง รอยมาร, หมวดพีรพัฒน์ ตำรวจหนุ่มมาดเข้ม ในละคร ศีรษะมารรีเมก และล่าสุดกับบทบาทของ อ้น ในละคร เรือนชฎานาง ที่เสิร์ฟความหลอนพร้อมกันทางหน้าจอ
“ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด รู้ดีว่าการที่มีสนามฟุตบอลดีๆ ให้เราได้เล่น
มันเจ๋งสุดๆ สำหรับน้องๆ แล้ว”
ชานนทร์ ทิพกนก ทีมก้าวคนละก้าว
นักแสดง สังกัดช่อง 8
I’m super shy, super shy
ชานนทร์ ทิพกนก เข้าสู่วงการบันเทิงผ่านการประกวดกึ่งเรียลลิตี้โชว์ใน The Idol Project เฟ้นหาดาราหน้าใหม่ มีบุคลิกภาพ รูปร่างหน้าตาดี และมีความสามารถด้านการแสดงด้วย แต่ใครจะรู้ว่าหนุ่มคนนี้เป็นคนขี้อาย
“ทุกวันนี้ที่เป็นดาราแล้ว ก็ยังขี้อายนะ แต่น้อยลงกว่าเมื่อก่อนแล้ว” พอโยนคำถามถามต่อไปว่า ขี้อายที่ว่าคืออายขนาดไหน คุณนนท์รีบตอบว่า “ขนาดที่ตอนเรียนช่วงพักเที่ยงผมไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหาร เลือกไปกินตอนเรียนจบคาบสุดท้ายทีเดียวเลย เพราะไม่ชอบเป็นจุดสนใจ ตอนนั้นเราอาจจะคิดไปเองคนเดียวก็ได้ แต่เขินจริงๆ ทำตัวไม่ถูกเวลาต้องไปไหนคนเดียว ผมก็ไม่ไปนะ ต้องมีเพื่อนไปด้วยตลอด เดินคนเดียวมันรู้สึกแปลกๆ อาจเพราะตอนเด็กเราไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองด้วย” ฟังจบแล้วสัมผัสได้ถึงระดับความเขินอายในวัยเด็กของเขาเลยทีเดียว
“แต่ประกวดครั้งนั้นทำให้เราเปลี่ยนตัวเอง เพราะต้องไปฝึกเรียนการแสดง ร้องเพลง เรียนบุคลิกภาพ เลยกล้าแสดงออกมากขึ้น หลังจากนั้นมีโอกาสทำงานในวงการบันเทิง ต้องไปแคสต์บทบทต่างๆ หน้ากล้อง เลยเริ่มอายลดลงเรื่อยๆ ครับ ประกอบกับได้เจอคนเยอะขึ้น ได้ไปหลายๆ ที่ ได้เรียนรู้มากขึ้น เพื่อนๆ ที่รู้จักกันตั้งแต่ม.ต้น – ม.ปลาย ทุกคนเซอร์ไพรส์มากที่วันหนึ่งผมกลายเป็นดารา กล้าแสดงอยู่หน้ากล้อง เพราะทุกคนรู้จักเราเวอร์ชันที่ขี้อายมากๆ (ยิ้ม)”
ทำความรู้จักชานนทร์
นิสัย: ขี้อาย
สีที่ชอบ: สีแดง (เกิดวันอาทิตย์)
ทีมฟุตบอลในดวงใจ: ลิเวอร์พูล (เด็กหงส์)
ของมันต้องมี: รองเท้าสตั๊ด
(เห็นเป็นต้องซื้อ นี่ก็แจกคนอื่นไปเยอะมากแล้ว)
ภาพจากคุณชานนทร์
Suggestion
ฟุตบอล: ส่วนผสมระหว่าง “แพสชัน & สุขภาพ”
ผู้ชมหลายคนหลงรักคุณนนท์ จากบทบาทของ แสง คนรักของคุณหลวง ในละครย้อนยุคแนวชายรักชาย “เรือนร่มงิ้ว” ซึ่งนอกจากฝีมือการแสดงที่สุดยอดจนเรียกคะแนนแบบอินกันจนน้ำตาไหลแล้ว กระแสตอบรับยังดีไม่หยุด จนเกิดแฮชแท็ก #หิวแสง ขึ้นเทรนด์ในทวิตเตอร์แซวเรื่องหุ่นและรูปร่างที่เป๊ะปังของหนุ่มคนนี้
“ผมชอบออกกำลังกายอยู่แล้วครับ อยู่ในวงการบันเทิงก็ต้องดูแลรูปร่างด้วย ฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับหนึ่งในดวงใจเลย ชอบมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะขี้อายแต่ไปเตะบอลทำให้เราได้ออกไปเจอเพื่อนๆ มีเพื่อนเยอะเป็นสิบๆ คน ก็สนุกและชอบฟุตบอลมาตั้งแต่นั้นเลยครับ”
ภาพจากคุณชานนทร์
“ในหนึ่งสัปดาห์ สัก 3 วัน ผมจะไปเล่นฟิตเนส และอีก 2 วันจะไปเตะบอลกับเพื่อนๆ เราจะมีแก๊งวันจันทร์ ซึ่งมี กอล์ฟ – อนุวัฒน์, พี่กิก – ดนัย, พี่เก่ง – ชัชวาล เป็นทีมเดียวกันที่เล่นด้วยกันมา 10 กว่าปีแล้ว นัดเตะบอลกันทุกจันทร์ครับ เมื่อก่อนเตะบอลได้ทุกวันเลยไม่มีเหนื่อย แต่ทุกวันนี้ 2 วันก็มากสุดแล้วครับ เตะวันหนึ่งปวดตัวไปสี่วัน ต้องพักร่างกายก่อน…ตามวัยเลยครับ (หัวเราะ)” เอาเป็นว่าถ้าคุณนนท์หายตัวไป ไม่ต้องแปลกใจ ตามหาได้ที่สนามบอลนั่นเอง
ชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจขนาดนี้ เมื่อ ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ มีกิจกรรมเตะบอลนัดพิเศษเพื่อมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมภายใต้ “โครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” โดย มอบสนามฟุตบอลแห่งที่ 89 ให้กับโรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ บนเกาะลิบง จังหวัดตรัง เขาจึงไม่พลาดโอกาสร่วมทีมไปกับมูลนิธิก้าวคนละก้าว
“ผมเคยมีโอกาสไปเตะบอลและไปสอนหนังสือเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราได้มามอบสนามให้กับน้องๆ รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการมอบสนามครั้งนี้ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด รู้ดีว่าสนามฟุตบอลดีๆ มันเจ๋งสุดๆ สำหรับน้องๆ แล้ว เพราะโรงเรียนในบางพื้นที่ห่างไกล มันไม่มีที่เล่นหรืออาจมีแค่สนามหญ้าปนดินแดงนิดๆ หน่อยๆ ให้เล่นก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่ทาง คิง เพาเวอร์ สร้างสนามมาตรฐานหญ้าเทียมสีน้ำเงินให้เลย ซึ่งผมว่านี่คือโอกาสอันดีที่น้องๆ ในเกาะลิบงจะได้รับไปครับ”
ทำความรู้จักชานนทร์
ชอบหนัง: หนังสงคราม ขอแค่มีทหารยิงกัน รบกันเป็นพอ
ไม่ต้องอิงประวัติศาสตร์มากก็ได้ (หัวเราะ)
สถานที่สุดโปรด: ขึ้นดอย
งานอดิเรก: ทำกระท้อนลอยแก้วตามฤดูกาล
ชื่อ “คุณนนทร์ กระท้อนลอยแก้ว”
Suggestion
หลักในการรู้จักและเข้าใจตนเอง
หากใครติดตามไอจีของหนุ่มคนนี้จะพบภาพปฏิบัติธรรม พักจิต สงบใจ ไปวัดของเขาอยู่บ่อยๆ ซึ่งคุณนนท์บอกว่า วัดที่เห็นในไอจียังไม่ได้ครึ่งที่เขาไปมา “ผมเป็นศิษย์หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรีครับ ชอบเข้าวัดอยู่บ่อยๆ แต่ว่าไม่ได้เป็นสายบูชาเครื่องรางของขลังนะ ผมไปปฏิบัติธรรม ไปกรรมฐาน 5-7 วัน ผมไปปฏิบัติธรรมช่วงปีใหม่มา 7 ปีติดกันแล้วครับ ระหว่างปีก็ไปบ่อย”
นอกจากปฏิบัติธรรม เรียนรู้หลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนาแล้ว คุณนนท์ยังนำการเจริญสติมาใช้จริงในชีวิตประจำวัน ยามมีอุปสรรคและปัญหาอีกด้วย “ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยได้ปรึกษาปัญหาคนอื่นเท่าไรผมจะพยายามมีสมาธิ มีสติอยู่กับตัวเอง เอามาคิดวิเคราะห์ ไตร่ตรองเองว่าควรจะทำอย่างไร การถามคนอื่น 100 คน ก็ได้คำตอบ 100 แบบ ความคิดเห็นแตกต่างกันไป สุดท้ายเราก็ต้องมาตัดสินใจเองอยู่ดีว่าจะเชื่อใคร ผมรู้สึกว่าทางออกที่เราคิดได้เอง มันน่าจะตอบคำถามให้กับปัญหาหรืออุปสรรคที่เราเจออยู่ได้ดีที่สุด คล้ายๆ กับการรู้จักตัวเองและเข้าใจตัวเองให้มากขึ้นครับ”
ภาพจากคุณชานนทร์
“บางทีก็ไปวัดไปทำบุญให้สมองปลอดโปร่ง บางทีก็ไปนั่งอยู่หน้าพระประธานในอุโบสถ ปล่อยใจให้สบายๆ เรียกสติกลับคืนมา พอเราเริ่มมีสติเราก็จะมองเห็นทางไปต่อได้เอง ส่วนใหญ่เลยนั่งคิดคำนวณด้วยตัวเองมากกว่า จากการเข้าวัดปฏิบัติธรรมบ่อยๆ เราก็ได้ข้อคิดหรือแนวทางตามพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้ ฟังธรรมะบ่อยๆ ก็จะรู้หลักคำสอนต่างๆ แล้วก็นำมาปรับใช้ในชีวิตจริงครับ”
มุ่งมั่น ตั้งใจ เป็นไปได้
จากเด็กขี้อายที่ไม่กล้าแม้สบตากับคนอื่นในวันนั้น กลายมาเป็นนักแสดงมืออาชีพที่ทำงานอยู่หน้ากล้อง พบปะผู้คนมากมายในวันนี้ นี่คือความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำตามความฝันของคุณนนท์ เปลี่ยนสถานะจาก “เป็นไปไม่ได้” ให้กลายเป็นคำว่า “เป็นไปได้”
“การเปลี่ยนจากคนขี้อายมากล้าแสดงออกแล้วได้ทำตามฝันในวงการบันเทิง คือสิ่งที่เป็นไปได้มากสุดสำหรับตัวผมแล้ว ผมมองว่าทุกคนก็น่าจะเปลี่ยนฝันของตัวเองให้กลายเป็นจริงได้เหมือนกัน
ในอดีตถ้าเรามีฝันอยากเป็นนักฟุตบอล เราอาจไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่สมัยนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เพราะเขามีสโมสรสำหรับเด็กโดยเฉพาะที่รับเข้าไปเล่น แล้วน้องๆ ก็ได้รับเงินเดือนเหมือนนักฟุตบอลอาชีพเลย เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากเป็นนักบอลจริงๆ อยากให้ลองพยายามไปให้สุดทางดู เพราะเรายังเป็นเด็ก ยังมีเวลาเรียนรู้ตัวเอง เรียนรู้เรื่องต่างๆ อีกมาก ลองดูคนที่เขาประสบความสำเร็จว่าเขามีการฝึกซ้อมอย่างไร ทำอย่างไรถึงไปตรงจุดนั้นได้ และลองทำตาม สักวันเราอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ เพราะโอกาสในสมัยนี้มันมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะครับ ขอแค่เรามีความพยายาม ฝึกฝน และขวนขวาย ผมว่าเป็นไปได้นะครับ”
แนะนำจุดเช็กอินเมืองตรัง
• แวะไหว้พระเสริมสิริมงคล พระอารามหลวง วัดกะพังสุรินทร์
• ปล่อยใจชิลล์ๆ กับวิวทิวทัศน์ Kachong Hills Tented Resort Trang เป็นที่พักสไตล์รีสอร์ตที่ห้องพักเกือบทั้งหมดเป็นเต็นท์ ท่ามกลางธรรมชาติและไร่กาแฟแห่งเขากะช่อง
• ร้านอาหารบ้านสวนสุดาพร ฟิลคล้ายๆ สวนอาหารมีมุมน้ำตกให้ถ่ายรูป รับประทานข้าวไปชมปลาว่ายริมน้ำ อาหารอร่อย