Passion

โคลอี้ โซล่า
ทำทุกอย่างด้วยความรักและใจที่เป็นสุข

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว 16 Aug 2022
Views: 640

ถ้าคุณเป็นคนชอบเล่นโซเชียลมีเดีย คุณอาจเคยเห็นคลิปเด็กสาวต่างชาติคนหนึ่งพูดภาษาอีสานไฟแลบ ขัดกับบุคลิกอินเตอร์และหน้าตาฝรั่งจ๋าของเธอ หญิงสาวคนนั้นคือ โคลอี้ โซล่า สาวฝรั่งเศสวัย 21 ปี เธออยู่เมืองไทยมา 6 ปีแล้ว คลิปที่ว่านั้นมียอดวิวสูงถึง 14 ล้านวิว นั่นทำให้โคลอี้เป็นที่รู้จัก จนได้มาเป็นหนึ่งในทีมพิธีกร “รายการผจญไทย”

ในวัยเด็กโคลอี้เคยมาเที่ยวประเทศไทย เธอรู้สึกว่าประเทศนี้สวย อาหารอร่อย และคนไทยเป็นมิตร แต่เมื่อถึงวันที่พ่อกับแม่ตัดสินใจว่าจะย้ายมาอยู่ประเทศไทย โคลอี้กลับไม่อยากมาอยู่ที่นี่ เพราะเด็กหญิงในวัย 15 ปี กลัวการเปลี่ยนแปลง เธอไม่ได้อยากทิ้งเพื่อนและทุกอย่างในประเทศฝรั่งเศสบ้านเกิดที่คุ้นเคย เพื่อมาเริ่มต้นใหม่ในอีกประเทศที่ตัวเองไม่รู้จัก พูดภาษาของที่ที่ไปอยู่ใหม่ไม่ได้ การกินอยู่ใช้ชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร…แต่โคลอี้ก็ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ตรงๆ

ถ้าคิดว่าเราชอบอะไร ก็ต้องกล้าที่จะทำ

อย่ายอมแพ้ โคลอี้เองก็เคยคิดจะยอมแพ้หลายรอบ แต่มันไม่มีประโยชน์เลย

เวลาที่เราทำอะไรก็ต้องทำให้สุด

โคลอี้ โซล่า

 

แต่พอได้มาใช้ชีวิตอยู่ประเทศไทยจริงๆ โคลอี้บอกว่า “ชอบทุกอย่างที่เป็นไทย ทั้งอากาศ อาหารการกิน วัฒนธรรม โคลอี้เป็นคนชอบอาหารมาก ชอบกินเผ็ด ชอบกินส้มตำ” ทุกวันนี้โคลอี้เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และเธอนิยามตัวเองว่า “โคลอี้เป็นวิดีโอครีเอเตอร์บนโซเชียลมีเดีย”

โคลอี้มีคนติดตามใน Facebook, TikTok และ YouTube อยู่จำนวนไม่น้อยเลย และเธอยังคงมีความสุขในการสร้างสรรค์และนำเสนอคอนเทนต์ต่างๆ อยู่เสมอ

 

ภาษาคือสื่อกลางความเข้าใจ

ใครๆ ที่ได้พบปะพูดคุยหรือได้เห็นคลิปต่างๆ ของโคลอี้ ก็ต้องแปลกใจที่โคลอี้สามารถพูดภาษาไทยได้อย่างถูกต้องชัดเจนราวกับเธอเกิดและโตที่นี่ นอกจากนั้นโคลอี้ยังพูดได้อีกหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ อิตาลี สเปน หรือญี่ปุ่น แถมกำลังศึกษาภาษาจีนอยู่อีกด้วย

“โคลอี้ชอบเรียนภาษามาตั้งแต่เด็ก แรกเริ่มก็เรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่อายุประมาณ 6-7 ขวบ เพราะชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่น มีวิชาที่ชอบเรียนที่สุดคือ ภาษาอังกฤษ และตอนเด็กๆ โคลอี้คิดว่าโตขึ้นอยากเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ในโรงแรมห้าดาว เพราะชอบอะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และชอบเดินทางท่องเที่ยว เวลาไปที่ไหนก็อยากคุยกับเขารู้เรื่อง”

นอกจากภาษาไทยที่ว่าน่าทึ่งแล้ว โคลอี้ยังทำให้เราแปลกใจมากขึ้นไปอีก ด้วยการใช้ภาษาถิ่นสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นภาษาใต้หรือภาษาอีสาน หลายครั้งเราจะได้เห็นโคลอี้ล้อเล่นกับผู้ชมของเธออย่างสนุกสนานโดยการพูดภาษาฝรั่งเศสกับคนอื่นแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อคนฟังงง โคลอี้ก็จะ “แหลงใต้” หรือ “เว้าอีสาน” สร้างความแปลกใจและรอยยิ้มให้กับคู่สนทนาเสมอ “ถ้าเราพูดภาษาท้องถิ่นได้มันก็ดีกว่า เช่น คนในชุมชนหรือผู้สูงอายุ เขาพูดภาษากลางไม่ได้เลย เราก็อยากเข้าใจเขา อยากคุยกับเขาก็เลยเรียนรู้…เรียนเองจากเพื่อนๆ ค่ะ”

 

ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ     

จากการที่โคลอี้พูดภาษาถิ่นได้และคลิปที่พูดภาษาอีสานเป็นที่นิยม ทำให้ทางทีมไทย เพาเวอร์ได้ชักชวนให้โคลอี้มาร่วมเป็นพิธีกรในรายการผจญไทย

คลิปแรกโคลอี้ได้เดินทางไปเรียนรู้การทำผ้าไหมถึงจังหวัดบุรีรัมย์ ใน EP.10 ตอนผ้าไหมแพรวพราว อำเภอบ้านนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ และ EP.12 ตอนโหนดทิ้ง ซึ่งเป็นการทำกระเป๋าจากใยตาล ที่อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เป็นอีกครั้งที่โคลอี้ได้โชว์ทักษะภาษาใต้และอีสานและชิมอาหารรสจัดจ้านของทั้ง 2 ภาค

ครั้งนั้นโคลอี้ได้สัมผัสทั้งอาหารและผลงานฝีมือของชาวบ้าน ซึ่งการมาร่วมเป็นพิธีกรในรายการผจญไทย ทำให้โคลอี้มีความสุขและประทับใจมาก “โคลอี้รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้มาร่วมรายการและได้ความรู้เพิ่มเติม เพราะเราก็ไม่รู้วิธีการทำกระเป๋า การทำผ้าไหม ได้ไปเห็นคนในชุมชนเล็กๆ เห็นผู้สูงอายุมาทำก็ดีใจ เราเป็นคนต่างชาติแท้ๆ แต่ได้มาเห็นมุมเล็กๆ ของวัฒนธรรม ทำให้โคลอี้อยากรู้เรื่องอื่นๆ อีก แถมคนฝรั่งเศสรอบๆ ตัวที่ติดตามโคลอี้อยู่ ก็ได้รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ ได้เห็นขั้นตอนว่าทำอย่างไร  บางคนพอเห็นคลิปรายการก็อยากซื้อสินค้าเลย”

เราถามโคลอี้ว่ายังมีอะไรหรืองานฝีมือด้านไหนของไทยที่โคลอี้อยากรู้หรืออยากสัมผัสอีกหรือเปล่า โคลอี้ตอบเราด้วยความไวแสงแบบไม่ต้องคิดเลยว่า “เรื่องเกี่ยวกับอาหารค่ะ ถ้ามีก็อยากลอง เช่น ที่เกาะสมุยมีกะละแม แต่ถ้าเป็นที่อื่นโคลอี้ก็ไม่ค่อยรู้ว่ามีอาหารอะไรบ้าง” เชื่อแล้วว่าโคลอี้ชอบอาหารไทยมากจริงๆ

สิ่งที่เราเรียนรู้จากโคลอี้

 เราสามารถทำอะไรใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ทุกอย่างถ้าตั้งใจจริง

 มุ่งมั่นในเส้นทางที่รักและเลือกแล้ว

 การมีทีมและเพื่อนที่ดีสร้างกำลังใจและความสุขในชีวิต
และประสบความสำเร็จในการทำงาน

 ปัญหาไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม แต่เป็นแรงผลักดันให้เราสู้

 

  

ทุกสิ่งที่ทำคือความสุข

การทำคลิปและนำเสนอคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย ทำให้โคลอี้ค้นพบว่า นี่คือความสุขและสิ่งที่เธออยากทำจริงๆ  “การไปถ่ายคลิปสำหรับโคลอี้ไม่ได้เป็นการทำงาน แต่เป็นสิ่งที่เราชอบ พยายามที่จะหาอะไรใหม่ๆ มาลง เพราะเราชอบทำ ชอบคิดคอนเทนต์อยู่ตลอด ขยันในเรื่องเรียนและเรื่องงาน”

คอนเทนต์อีกรูปแบบที่โคลอี้ตั้งใจทำและเป็นประโยชน์กับคนดูมากก็คือ การสอนภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาใต้วันละคำ ที่ทำร่วมกับทีมอย่างพี่เบล (เราจะเห็นพี่เบลในคลิปของโคลอี้อยู่บ่อยครั้ง) “ในเรื่องของการสอนภาษา ก็คิดว่าจะสอนอย่างไรให้คนดูสนุก ให้คนอยากเรียน เพราะคนไทยไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ สอนอย่างไรให้เขาไม่เบื่อ ก็ดีใจที่คนดูบอกว่าไม่ต้องไปลงคอร์สหรือไปเรียนกับครู หรือบอกว่าภาษาอังกฤษของเขาดีขึ้นและได้ความรู้เพิ่มเติม หรือคลิปภาษาใต้วันละคำที่พี่เบลเป็นคนคิด คนก็ชอบดูกันมาก”

  

ตัวตนอีกมุมหนึ่ง

จากเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ทำให้เราได้รู้จักโคลอี้มากขึ้น แต่โคลอี้ก็สร้างความประหลาดใจให้เรามากยิ่งขึ้นไปอีกโดยการบอกว่า เธอคือสายมูตัวจริงคนหนึ่งเลย ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก สาวฝรั่งเศสคนนี้เป็นสายมู ทำให้เราอดถามถึงสาเหตุและจุดเริ่มต้นของความสนใจเรื่องนี้ไม่ได้

“ช่วงแรกที่โคลอี้มาอยู่เมืองไทย มีหลายอย่างที่ทำให้เราได้เห็นหรือสัมผัส เช่น ฝันเห็นคนแก่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่แน่ใจว่าคืออะไรก็เลยไปถามคนไทย เขาก็อธิบายว่าอะไรยังไง แต่ตอนนั้นเรายังไม่เข้าใจและไม่มีความรู้ด้านนี้เลย พอรู้ภาษาไทยมากขึ้นก็เริ่มศึกษา แล้วก็มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวโคลอี้ เช่น โคลอี้เคยไปร่วมพิธีครอบเศียรของพระพิฆเนศ และรู้สึกสั่น รู้สึกถึงพลังรอบตัว โคลอี้บูชาองค์ปู่เจ้าสมิงพรายกับองค์พระแม่อุมา เวลาที่ไปดูดวงคนอื่นๆ ก็บอกว่าเห็นอะไรในตัวโคลอี้หลายอย่าง เขาพูดถูกว่าเรามีองค์ปู่เจ้าที่บ้านหรือเห็นพระแม่ และว่างๆ ก็ชอบทำบุญ เวลาที่เราขอพรแล้วสมหวัง เราก็ต้องทำบุญ ต้องปฏิบัติธรรมด้วย ตอนนี้ก็พยายามศึกษาทางธรรม ตอนนี้โคลอี้ก็นับถือพุทธด้วย”

ไม่เพียงเท่านี้ โคลอี้ยังจริงจังกับเส้นทางสายมูถึงขนาดว่าในอนาคตเธออยากเปิดสำนักและขยายทิศทางของคอนเทนต์ไปในสายบุญด้วยเลย “ถ้าวันหนึ่งเราเติบโตและมีมากพอ ก็อยากช่วยเหลือคนที่ไม่ค่อยมีและทำคลิปให้คนดูว่าเราตั้งใจช่วย อาจจะเป็นรายการให้คนเห็นถึงบุญที่เราตั้งใจทำให้ อีกอย่างที่อยากทำก็คือไปแจกอาหารที่โรงพยาบาล”

ทีมซัพพอร์ตที่พึ่งพากัน

แม้ว่าเราจะเห็นโคลอี้ในหลากหลายมุมแล้ว แต่ก็ยังมีอีกมุมหนึ่งที่โคลอี้บอกว่า เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะคิดมาก โดยเฉพาะเรื่องครอบครัวที่ตอนนี้พ่อกับแม่แยกทางกัน ทำให้โคลอี้ต้องอยู่คนเดียวและดูแลตัวเอง “เวลาอยู่คนเดียวจะเป็นคนคิดมาก แต่เวลาอยู่กับคนอื่นจะเป็นคนเฟรนด์ลี่ ไม่แสดงให้ใครเห็นว่าเราเป็นคนคิดมาก” แต่โลกก็ไม่ได้ใจร้ายเกินไปนัก ตอนนี้โคลอี้ได้พบกับเพื่อนและทีมที่ดี “ทุกวันนี้สิ่งที่ทำให้โคลอี้อยากทำงานก็คือ เพื่อนที่ดี พี่ที่ดี พี่เบลเป็นคนดี ไว้ใจได้ โคลอี้ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย แต่ต้องการเพื่อนที่ไว้ใจได้ อีกคนคือคนที่ตัดต่อคลิปและผู้จัดการ พวกเราอยู่กันเป็นทีมก็มีความสุขดี”

และโคลอี้อยากบอกทุกคนว่า “อยากให้คบเพื่อนที่ดีเอาไว้ คนที่สามารถช่วยเหลือและพึ่งพากันได้ เพราะทุกวันนี้ไม่ง่ายนักที่จะหาคนที่ไว้ใจได้”

การเดินทางอาจไม่ง่ายและหนทางของโคลอี้ยังอีกยาวไกล แต่โคลอี้ยืนยันกับเราว่า ในอนาคตเธอก็จะยังคงเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์แบบนี้ต่อไปอย่างแน่นอน ติดตามชมคลิปสนุกๆ ในรายการผจญไทยของโคลอี้ได้ในช่อง YouTube King Power Thai Power พลังคนไทย

 

หรือติดตามผลงานของโคลอี้ได้ในช่องทางโซเชียลมีเดียของเธอได้

Facebook : Choloé Starquinn

Instagram : cstarquinn

 TikTok : chloestarquinn

Author

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว

Author

นักเล่าเรื่อง ผู้มีหนังสือและการเดินทางเป็นดั่งลมหายใจ นิยมชมชอบท้องฟ้า กาแฟ และแมว

Author

บริษัท ยานแม่ จำกัด

Photographer

เป็นโปรดักชั่น เฮาส์ ที่ไม่ได้คิดนอกกรอบ เเต่คิด...นอกโลก