Passion

คอปเตอร์
“เป้าหมายคือทำงาน (เพลง) ให้มีความสุข”  

เพ็ญแข สร้อยทอง 2 Sep 2022
Views: 2,702

บ่ายแก่ๆ วันเสาร์ที่ขอนแก่น เรามีโอกาสได้คุยกับ “คอปเตอร์” ระหว่างศิลปินหนุ่มเตรียมตัวขึ้นแสดงต่อหน้าแฟนๆ ที่บ้านเกิดครั้งแรกในรอบ 2-3 ปี เขาดูตื่นเต้นดีใจ หลังจากไม่ได้กลับมาเลยนับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด

และเมื่อถึงเวลา คอปเตอร์ – วิศรุต เล้าเจริญชัย นักร้อง นักแต่งเพลง วัย 22 ปีก็ขึ้นเวทีพร้อมกับกีตาร์คู่ใจท่ามกลางเสียงกรี๊ดต้อนรับจากแฟนๆ

“ถ้าไม่มีกีตาร์ ผมจะรู้สึกเขินๆ เวลาร้องเพลง” คอปเตอร์บอกเราในช่วงหนึ่งของการสนทนาซึ่งเกิดขึ้นไม่ไกลจากเวทีที่น้องๆ นักเรียนมัธยมจากหลายจังหวัดกำลังประชันฝีมือในการประกวดวงดนตรีสากล THE POWER BAND 2022 ซีซั่น 2 สนามขอนแก่น…การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2565 จัดโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย

“ตอนเด็กๆ เตอร์อยากเป็นมือกีตาร์ในวงดนตรีร็อก เพราะโตมากับเพลงร็อก แต่ตอนเรียนมัธยมไม่มีโอกาสตั้งวง พอมาเห็นน้องๆ มีโอกาสได้ทำกันเลยนึกถึงตัวเองตอนมัธยม ถ้ามีอย่างนี้บ้างก็คงจะดี ดีใจกับน้องๆ ที่โอกาสมาถึงแล้วน้องๆ คว้าไว้ ไม่ปล่อยให้หลุดมือไป

“เตอร์เองเคยประกวดกีตาร์ เป็นประกวดออนไลน์ ไม่ได้รางวัลหรือตำแหน่งอะไร เป็นการประกวดเพื่อหาประสบการณ์ แพ้ก็ไม่เป็นไร เราจะได้พัฒนาตัวเองต่อ ถ้าครั้งหน้ามีโอกาสอีก เราก็จะคว้าไว้ทำให้ดีขึ้น”

 

ABOUT หนุ่มคอปเตอร์ที่คุณไม่ค่อยรู้…

• ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์…สไตล์ศิลปินทำงานอิสระมาก

• สนใจกีฬาเอกซ์ตรีม…เคยเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์วิบากตั้งแต่ 5 ขวบ

• ชอบกอล์ฟ…ที่ไม่ใช่กีฬา แต่เป็นกอล์ฟ-ไมค์ ศิลปินคนโปรดตอนเด็กที่ทำให้ไปเรียนเต้น

• สวนสัตว์…คือสถานที่โปรดปราน ในการเติมพลังชีวิตและสร้างสรรค์

เชิญอ่านรายละเอียดและอีกหลายเรื่องน่าสนใจได้ในเรื่องยาวๆ ต่อจากนี้

 

เพลงประสบการณ์ ลายเซ็น และการทดลอง

สำหรับคอปเตอร์ ความรักความผูกพันระหว่างเขากับกีตาร์เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็ก ในความคิดฝันคอปเตอร์เห็นภาพตัวเองเป็นมือกีตาร์ให้วงดนตรีร็อก ความเป็นจริงเมื่อเติบโตขึ้นอาจจะไม่เหมือนฝัน 100 เปอร์เซ็นต์นัก แต่วันนี้คอปเตอร์ยังคงมีเครื่องดนตรีสุดรักอยู่ด้วยกับเขาเสมอบนเวทีในฐานะศิลปินเพลงป็อปขวัญใจวัยรุ่น

“ช่วงเปลี่ยนผ่าน ผมจำไม่ได้จริงๆ ว่ามันคือช่วงไหน เหมือนกับว่าเราเล่นกีตาร์มาได้ 5-6 ปี ตอนนั้นอายุประมาณ 14-15 ปี แล้วก็รู้สึกเหมือนมีเมโลดีบางอย่างเกิดขึ้นในหัวเรา เราก็ร้องเพลงในห้องคนเดียวไปเรื่อยๆ แล้วก็รู้สึกว่า เออ เราร้องเพลงเป็นด้วย เราก็ร้องเอาสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีเราก็เขียนเพลงทำเพลงขึ้นมาแล้ว”

คอปเตอร์ทำเดโมนำเสนอผลงานเพลงฝีมือตัวเองกับค่ายจนในที่สุดได้เซ็นสัญญากับมิวสิกบ็อกซ์ ในวัย 19 ปี เขาแจ้งเกิดด้วยซิงเกิล “เธอบอกว่าฉันไม่ดี” เพลงฮิตที่มียอดวิวในยูทูบมากกว่า 50 ล้านครั้ง

“เพลงนี้คือ เรื่องจริงของเตอร์ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีความรักความสัมพันธ์แล้วอกหักมา คำว่าเรายังดีไม่พอสำหรับเขา เราไม่ดีเหมือนใครเขา เราเจอมากับตัว เหมือนเป็นคำพูดแล้วก็เอาเมโลดีมาใส่ ตอนเขียนคือ อินกับเพลงนี้มาก เราเป็นคนขี้น้อยใจ ขี้ประชดประชัน แต่ก็ไม่ได้รุนแรง อาจจะประชดในหัวของตัวเอง ไม่กล้าพูด เลยระบายเป็นตัวหนังสือออกมาเป็นเพลง”

เพลงของ คอปเตอร์ เกือบทั้งหมดมาจากประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งเขาคิดว่าทำได้ดีกว่าการเขียนจากจินตนาการ “ถ้าเขียนเพลงจากพล็อตเรื่องที่แต่งขึ้นมาก็เขียนได้ แต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจริง เขียนแล้วเราไม่รู้สึกว่าเหตุและผลของเรื่องคืออะไร เรื่องราวเป็นยังไง ทุกเพลงของเตอร์จะมาจากสิ่งที่เราอึดอัดใจ เราอกหักมา เราเจ็บช้ำมา เราร้องไห้กับเรื่องนี้มา แล้วก็ระบายมันออกไปในกระดาษ

“เพลงของเตอร์จะเน้นซาวนด์กีต้าร์ สำเนียงโซโลที่พยายามเล่นหรือทำซ้ำๆ ไม่ได้มองว่ามันเป็นเอกลักษณ์ แต่มันเป็นสิ่งที่เตอร์เล่นได้ประมาณนี้ ในทุกๆ เพลงก็จะได้ยินสำเนียงประมาณนี้ อินโทรตอนขึ้นต้นเพลงจะมีกีตาร์ไฟฟ้าที่เล่นคอร์ดเป็นหลัก ไม่ได้เล่นอะไรยากครับ เพราะว่าเราเล่นได้แค่นี้ (หัวเราะ) เราเอากีตาร์ไฟฟ้ามาทำให้เป็นลิกส์ (Licks) ที่ทำให้คนจดจำ เพลงขึ้นแล้วรู้เลยว่า อ๋อ นี่เพลง ‘เธอบอกว่าฉันไม่ดี’ นะ นี่เพลง ‘แล้วไง’ นะ นี่คือ สิ่งที่เตอร์พยายามทำในทุกๆ เพลง รวมไปถึงเนื้อเพลงกับเสียงร้องของเตอร์ด้วย มันก็มีผลทำให้คนรู้สึกว่า อ๋อ นี่คือ เพลงของคอปเตอร์นะ”

“มองในมุมของเด็กต่างจังหวัด ได้เป็นนักร้อง มีเพลงของตัวเอง…มีคนมาบอกเราว่า พี่เตอร์เป็นกำลังใจในชีวิตของหนู มันฟูลฟิลเตอร์มากๆ มีความสุขมาก แต่เราก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย”

คอปเตอร์ – วิศรุต เล้าเจริญชัย
ศิลปิน นักร้อง, นักแต่งเพลง

ระหว่างการสร้าง “ลายเซ็น” ของตัวเอง คอปเตอร์ยังมีเวลาสนุกไปกับการทดลองทางดนตรี เช่นในซิงเกิลล่าสุด “เหล่ท่อ” เขาได้นำเสนอท่อนแร็ปภาษาอีสาน

“ผมชอบทำบีททำดนตรีเล่นๆ ซึ่งก็คือดนตรีของเพลงเหล่ท่อนี่แหละ แล้วเนื้อร้องก็มาของมันเอง เรามีคอนเทนต์เรื่องเหล่ท่ออยู่ในหัวอยู่แล้ว เพราะแฟนๆ ชอบมาคอมเมนต์รูป อุ้ย เหล่ท่อหรือไหล่โดนจอ พวกคำผวนทั้งหลาย ผมก็ได้คำนี้มาแล้วก็เขียนไป เหลือท่อนเวิร์ส 2 ที่โล่งอยู่ เราก็รู้สึกว่ามาลองเขียนเป็นภาษาอีสานดูดีไหม คือผมไม่ได้เป็นคนที่พูดภาษาอีสานแข็งแรง ไม่รู้ศัพท์เยอะ แต่ผมเขียนท่อนนี้เร็วกว่าเนื้อท่อนฮุกอีก แป๊บเดียวเสร็จแล้ว แล้วผมก็มาร้องดู มันก็ดูเวิร์ก ปะป๊ามาม้าฟังแล้วก็บอกว่า โอ้ย อีสานแท้ (หัวเราะ) ม่วนคักๆ แต่สิ่งที่เรากลัวคือ พี่ๆ (ค่ายบ็อกซ์มิวสิค) เขาอาจจะไม่รู้สึกว่าเหมาะกับเราขนาดนั้น แต่พอเอาไปให้ฟังเขาชอบ

“มันเป็นงานทดลอง อาจจะไม่ใช่แนวเพลงหลักของเตอร์ ทุกคนอาจจะรู้สึกว่า ซาวนด์มันไม่เหมือนเพลงอื่นๆ ที่ผ่านมา มีความดุดัน มีความร็อกมากขึ้น แต่ก็เป็นตัวตนของเตอร์ที่อยากจะเอกซ์เพรสออกมา ให้ทุกคนได้ฟังได้เห็นว่า เราก็แต่งตัวลุคนี้ได้นะ เราร้องแบบนี้ได้นะ เราโซโลแบบนี้ได้นะ เป็นงานที่ตามใจตัวเองนิดหนึ่ง ต้องขอบคุณพี่ๆ ที่ให้โอกาส”

 

เป้าหมายใกล้ๆ คือ ทำงานให้แฮปปี้

บนเส้นทางสายดนตรี คอปเตอร์คิดว่า เขาเพิ่งจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นและที่ผ่านมาก็ค่อนข้างพึงพอใจกับผลตอบรับจากคนฟัง ซึ่งต้องให้เครดิตกับอิสระในการทำงานจากทางค่ายด้วย

“ถ้ามองในมุมของเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง เราได้เป็นนักร้องอยู่กับค่ายเพลง มีเพลงของตัวเอง มีคอนเสิร์ต มีคนร้องเพลงเราได้ ลงเวทีมามีคนมาถ่ายรูป ขอลายเซ็น มีคนมาบอกเราว่า พี่เตอร์เป็นกำลังใจในชีวิตของหนูเลยค่ะ นี่คือให้พันเปอร์เซ็นต์เลย มันฟูลฟิลเตอร์มากๆ มีความสุขมาก เตอร์คิดว่าแต่เราก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย

“แฟนๆ น่ารักมาก เขาให้กำลังใจเตอร์ตลอด ทุกคนรอฟังเพลงใหม่ เป็นกำลังใจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ เตอร์อาจจะดูเป็นคนที่ไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องตัวเลขหรือว่ายอดนั่นนี่ ความจริงก็คือ คาดหวังนะ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อมองคนข้างๆ เรา ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆ ที่บ็อกซ์มิวสิค หรือว่าแฟนๆ เขาก็ให้กำลังใจเราตลอด ไม่ได้มาสนใจเรื่องตัวเลข นี่แหละคือกำลังใจที่ทำให้เรามองไปข้างหน้าเดินไปข้างหน้า”

คอปเตอร์ในวันนี้ขอทำงานอย่างมีความสุขและไม่เร่งรีบในการประสบความสำเร็จ “สำหรับศิลปิน ถ้าบีบคั้นมากจนเกินไป เราจะเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถทำงานศิลปะออกมาได้ พี่ๆ เข้าใจ เขาก็ปล่อยให้เราได้ทำงานเราเต็มที่ ไม่ได้มาเปลี่ยนหรือมากดดัน พอเราได้รับความรู้สึกตรงนี้ก็เลยตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ให้ตัวเองมีความสุขด้วย ไม่กดดันตัวเองจนเกินไป ปล่อยให้เวลาหรือโอกาสทำงานของมัน อยากทำงานเพลงของตัวเองให้ดีที่สุด

“ถามว่ามีเป้าหมายไหม เตอร์ก็อยากประสบความสำเร็จ อยากได้ไปเล่นที่นั่นที่นี่ อยากไปทัวร์ที่นั่นที่นี่ อยากมีฟูลอัลบั้มของตัวเอง แต่เตอร์รู้สึกว่า เราค่อยๆ เดินไปดีกว่า เราเพิ่งทำงานมาได้ 2-3 ปี สำหรับเด็กอายุ 22 ปี มันอีกไกลมากที่เราจะได้เดิน ได้เรียนรู้ ได้ล้ม ได้ผิดพลาด โชคดีที่เราได้เริ่มต้นเร็ว ตอนนี้ทำงานแล้วมีความสุขก่อน

“ถ้าเราทำงานแล้วคาดหวังว่าทำไมเพลงนี้ยอดไม่เป็นอย่างนี้ มันจะกลับมาทำร้ายตัวเตอร์เอง มีช่วงหนึ่งเตอร์เคยคุยกับพี่ที่บ็อกซ์มิวสิคว่า ผมแต่งเพลงไม่ได้เลย คิดอย่างเดียวว่าจะทำเพลงฮิตยังไง จะทำยังไงให้ได้เพลงฮิต เรามีแต่คำนี้ในหัว จนเรารู้สึกว่ามันเสียความเป็นตัวเอง มันเสียความสุขไปหมดเลย ตอนนี้เป้าของเตอร์ใกล้ๆ คือ ทำงานให้แฮปปี้ แล้วพี่ๆ เขาก็ไม่ได้มากดดันอะไรเรา ก็เลยแฮปปี้มากๆ”

ทุกวันนี้ คอปเตอร์เป็นศิลปินเพลงเต็มเวลา หลังลาออกจากการเรียนวิชาดนตรีในมหาวิทยาลัย ด้วยรู้สึกว่า ตัวเขาไม่เหมาะกับรูปแบบการเรียน

“เราไม่เหมาะจริงๆ เรามีแหล่งที่เราอยากจะศึกษาของเราเอง มีเรื่องที่เราอยากจะศึกษาของเราเอง เราต้องการสเปซ ต้องการอิสระในการเรียนรู้ บางอย่างเรารู้เท่านี้ก็สามารถที่จะทำงานแบบโพรเฟสชันแนลได้แล้ว รู้สึกอย่างนั้น มีความเชื่อในตัวเองประมาณนี้ รู้สึกว่าตรงนี้ไม่ใช่สำหรับเราก็รีบตัดสินใจ ก่อนที่มันจะนานไปกว่านี้แล้วมันก็จะกัดกินความสุขของเรา”

  

หนุ่มสโลว์ไลฟ์กับกีฬาเอกซ์ตรีมและสวนสัตว์!

นอกเหนือจากดนตรี สิ่งที่คอปเตอร์สนใจคือกีฬาเอกซ์ตรีม โดยเฉพาะการแข่งขันมอเตอร์ครอสหรือมอเตอร์ไซค์วิบาก “ผมเคยเป็นนักแข่งระดับประเทศตอนเป็นเด็กๆ ขับมอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนอายุ 16 แล้วก็เกิดอุบัติเหตุตอนซ้อม ก็เลยหันมาเล่นดนตรีจริงจัง ตอนนี้ก็ยังคงตามดู เวลามีแข่งขันในประเทศไทยก็ตามไปดูตลอด”

ทั้งเรื่องกีฬาและดนตรี คอปเตอร์ได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ให้ได้ลองและเรียนรู้จนกระทั่งเจอกับสิ่งที่ใช่ “ก็เหมือนคุณพ่อคุณแม่ทั่วไปที่พาลูกไปเรียนเทควันโด ว่ายน้ำ เตะฟุตบอล เล่นบาส เตอร์เคยเรียนเต้นด้วย ตอนนั้นชอบศิลปินกอล์ฟ-ไมค์ก็เลยไปเรียนเต้น สรุปว่าไม่ได้เรื่อง จนเรามาตกผลึกที่การเล่นกีตาร์ แล้วก็ตัดสินใจถูก เพราะทุกวันนี้ก็ยังเล่นอยู่ด้วยความสุขจริงๆ”

คอปเตอร์บอกว่า เขาเป็นหนุ่มสไตล์สโลว์ไลฟ์ “เราชอบใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ มันทำให้เตอร์สามารถทำงานศิลปะออกมาได้ดีมากขึ้น ไม่เครียดจนเกินไป พยายามเป็นคนไม่คิดอะไรเยอะ”

ถ้าหากว่าคิดงานไม่ออก มีเรื่องเครียด หรือถ้ามีเวลาว่างอยากจะพักผ่อน คอปเตอร์จะไปสวนสัตว์“เป็นสิ่งที่เตอร์ชอบในวัยเด็ก ไปดูเฉยๆ นั่งดูสัตว์เดินไปเดินมา ผมชอบสัตว์เลื้อยคลาน พวกงู ชอบดู มันสวย แล้วก็มีธรรมชาติใบไม้สีเขียว ชอบดูสารคดีด้วย ทำให้เราได้เห็นสัตว์ตัวเป็น ๆ อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับการแต่งเพลง

“การได้ออกไปข้างนอก ได้เห็นสิ่งที่เราชอบ พอกลับไปทำงานมันจะเฟรช ทำให้เรารู้สึกอยากคิด อยากเขียน เหมือนได้ปล่อยวาง สิ่งที่เครียดมาก็ลืมไป เหมือนที่เขาบอกว่าไปนั่งโง่ ๆ ริมทะเล แต่ของเตอร์คือ นั่งโง่ ๆ ริมสวนสัตว์ ปล่อยใจไม่ต้องคิดอะไร ปิดโทรศัพท์ ไม่ถ่ายรูปด้วย ดูด้วยตาแล้วก็เก็บไว้ในเมมโมรีในสมองของเรา มันเป็นภาพที่สวยงาม มันเติมพลังชีวิตให้เรา”

 


รู้จักและใกล้ชิดหนุ่มคอปเตอร์ภายใน
10 วิ.

คอปเตอร์ – วิศรุต เล้าเจริญชัย

นักร้องนักแต่งเพลง ค่ายบ็อกซ์มิวสิค (Boxx Music)

อายุ : 22 ปี

ภูมิลำเนา : ขอนแก่น

Facebook: Coptersmurf

Instagram: Coptersmurf

ผลงาน: ซิงเกิล เธอบอกว่าฉันไม่ดี, เดี๋ยวเธอกับเขาก็คืนดีกัน, จำได้ไหม, กลับมาทำไม…หา, ใจมันรักแต่เธอไม่รัก, แล้วไง, เป็นได้แค่เพื่อน, เหล่ท่อ ฯลฯ

จากคอปเตอร์ถึงชาวเมิร์ฟ (ชื่อกลุ่มแฟนคลับ): “ตอนนี้อย่างที่บอกคือทำงานให้มีความสุข เตอร์มั่นใจว่า เพลงต่อไปที่จะปล่อยออกมา ทุกคนก็น่าจะมีความสุขกับมัน ฟังแล้วฟิน ฟังแล้วนี่คือคอปเตอร์ที่ฉันคุ้นเคยนะ นั่นคือสิ่งที่อยากให้ทุกคนรอฟัง”

Author

เพ็ญแข สร้อยทอง

Author

เชื่อในพลังของตัวอักษรและการเล่าเรื่องเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ นอกเหนือจากบ้านแล้ว ใช้เวลาส่วนใหญ่ในร้านกาแฟ ชอบเที่ยว ชิมอาหาร อ่านหนังสือ ดูซีรีส์ ฟังเพลง แคคตัส และแมว

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ