Summary
• ดี เจอร์ราร์ด (D Gerrard) D มาจากนามสกุลดอนกาเบรียล ส่วน Gerrard มาจากชื่อจริงของเขา “ไบรอัน เจอร์ราร์ด อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล” ซึ่งเป็นชื่อที่คุณพ่อชอบเรียก
• นอกจากงานเพลง เขายังรับบทนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องแรกคือ 4KINGS
• กาแล็กซี GALAXY ft. Kob The X Factor เป็นเพลงที่มียอดวิวมากกว่า 237 ล้าน
• เขาเคยร่วมงานกับศิลปินอาร์แอนด์บีชื่อดังจากเกาหลี บอมคีย์ (BUMKEY) ในเพลง “Come Back To Me”
• ซิงเกิล “Paradise Online” เป็นเพลงทีเขียนขึ้นมาในช่วงที่คุณพ่อของเขาป่วยหนักก่อนจะเสียชีวิต กับคำถามว่าคุณพ่อจะพบสรวงสวรรค์ที่ตามหาไหม
เรารู้จัก D Gerrard ครั้งแรกจากเวทีแข่งขันรายการ “ดิ เอ็กซ์ แฟกเตอร์ ไทยแลนด์” (The X Factor Thailand) 2017 กับ “ไม่เหมือนใคร” (Unique) เรารู้จักเขาเพิ่มขึ้นในฐานะศิลปินแถวหน้าของค่าย เวย์เฟอร์ เรคอร์ดส์ (Wayfer Records) ภายในรั้ววอร์นเนอร์ มิวสิก ประเทศไทย เจ้าของเพลง “กาแล็กซี (GALAXY)” ที่ฮิตติดชาร์ตและฮิตมากในการแข่งขัน THE POWER BAND 2023 SEASON 3 ที่หลายวงเลือกเพลงของเขาขึ้นมาโชว์ฝีมือบนเวที (ตัวเขาเองก็ขึ้นโชว์มินิคอนเสิร์ตที่เวทีสนามขอนแก่นด้วย) หนังเรื่อง 4KINGS!! ที่เขาร่วมแสดง ใกล้จะออกฉาย
และเรากำลังจะได้รู้จักเขามากขึ้นไปอีกเลเวลพร้อมกันกับการพูดคุยต่อไปนี้…
“ผมอยากให้เพลงไทย ถูกจัดอยู่ชาร์ตของต่างประเทศบ้าง
อยากให้เพลงไทยเป็นมาตรฐานสากลครับ แทนที่เราจะต้องไปตามสากลที่เป็นมาตรฐาน
ผมอยากสร้างจุดยืนให้กับประเทศไทย”
Thaipower.co: ถ้าอยากทำความรู้จัก D Gerrard เราควรเริ่มจากเพลงไหนดี
D Gerrard: จริงๆ แล้วเพลงของผมทุกเพลง แทบจะอธิบายเรื่องราวและตัวตนของผมได้ดีมากๆ เลย แต่ละเพลงก็จะเป็นการนำเสนอมิติของดี เจอร์ราร์ดในแต่ละบริบท แต่ถ้าถามว่าเพลงไหนนำเสนอความเป็นดี เจอร์ราร์ดได้มากที่สุด ถ้าในอดีตผมมองว่ามันคือเพลง “ไม่เหมือนใคร”
“คุณคงไม่เคยเจอ กับใครต่อใครที่คล้ายผม
เพราะผมไม่เหมือนใคร
That’s what we’re talking about
ขื่นขมตั้งเท่าไร กับพวกผู้ชายเย็นชา
แต่ว่าผมนั้นไม่เหมือนใครเหล่านั้น”
ทุกวันนี้ผมพยายามสร้างบทเพลงที่จะตอบโจทย์นี้ให้ชัดขึ้น นอกจากความไม่เหมือนใครแล้ว สิ่งที่ผมเป็นมันขยายความได้มากกว่านั้นยังไงได้บ้าง พอพูดว่าไม่เหมือนใครก็จะได้คำถามต่อมาว่าไม่เหมือนยังไง เลยได้คำตอบว่า อ๋อเราต้องขยายความเพิ่มเติมด้วย ก็เลยเกิดมาเป็นเพลงต่อๆ มาหลายเพลง
ดี เจอร์ราร์ดที่เรา(อาจ)ไม่รู้
• ผมมีความรักอยู่เสมอครับ มันเป็นความรักที่มีความรักต่อทุกๆ อย่าง และผมอยากให้ทุกคนเรียนรู้ที่จะมอบความรักให้กันนะ อยากให้ทุกคนลองมองคนอื่นโดยคิดว่าเป็นตัวเราบ้าง ว่าเขาเป็นยังไงเขาเครียดมาไหม เขารู้สึกยังไงบ้าง บางทีคุณอาจเป็นคนที่ช่วยให้เขายิ้มได้ก็ได้นะ
TP: งั้นความเป็นดี เจอร์ราร์ดในขณะนี้คือ…
D Gerrard: ในขณะนี้ ต้องเป็นเพลงที่ชื่อว่า “พาราไดซ์ออนไลน์” ครับผม เป็นเพลงที่เหมือนเป็นหมุดหมายที่ปักไว้ว่า ตอนนี้ ดี เจอร์ราร์ด เป็นอย่างนี้แล้วนะในปัจจุบัน มันเป็นการยกระดับ ให้ภาพที่คุณเคยเห็นหรือได้ยินถูกยกระดับจากสิ่งที่เป็น เหมือนกับว่าผมเคยทำข้าวกะเพรา ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทำเมนูอื่นนะ ผมทำข้าวกะเพราเนื้อวากิว
TP: และในแง่มุมหนึ่ง เพลงนี้ยังมีที่มาจากการเสียชีวิตของคุณพ่อ
D Gerrard: ก่อนคุณพ่อจะเสียท่านอยู่ใน Vegetable stage ผมเกิดคำถามในใจว่า คุณพ่อที่หลับเป็นผักอยู่นั้นจะมีความสุขไหม จะได้พบสรวงสวรรค์เหมือนที่คุณพ่อตามหามาตลอดรึเปล่า ด้วยความกังวลนี้ผมเลยคิดว่างั้นเป็นไปได้ไหมที่จะสร้างสรวงสวรรค์สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ขึ้นมาเพื่อที่จะไม่ต้องมีใครต้องไปรอลุ้นเอาตอนตายอีกว่าจะได้ไปสวรรค์รึเปล่า”
“ก็รอยยิ้มของเธอมันช่างดึงดูด
ฉุดให้คิดถึงเพียงแต่เธอ..แม้ยามฟื้นตื่น
(I will miss you)
จะยอมแลกทุกสิ่ง เพื่อให้ค่ำคืนนี้อยู่ชั่วนิจนิรันดร์
จะยอมทิ้งทุกอย่าง แล้วนอนหลับลึกดำดิ่งสู่ภวังค์”
Suggestion
TP: เพลงฮิปฮอปมักนำเสนอดาร์กไซด์ แต่ดูเหมือนคุณเป็นฮิปฮอปที่อยากโชว์ด้านที่สวยงามสว่างไสว
D Gerrard: ในทุกๆ อย่างมันมีทั้งดีทั้งไม่ดี ฮิปฮอปก็มีทั้งดีทั้งไม่ดี แต่มันถูกนำเสนอในด้านดาร์กมาก เลยกลายเป็นภาพติดตา ผมอยากจะให้เห็นด้านดีของมันบ้าง
จริงๆ แล้วโลกสวยงามนะครับ ผู้คนน่ารัก มีความสวยงามในทุกๆ คน เรามีความดีอยู่ในตัวเรา เพียงแต่เราเลือกนำเสนอด้านไม่ดี อาจจะเพราะว่าอารมณ์มันพาไปบ้าง
โลกเราก็เหมือนเพลงฮิปฮอปครับ ถูกนำเสนอในด้านไม่ดีเยอะเกินไป แล้วคนก็คิดว่าสิ่งที่เราทำไม่ดี มันเป็นเรื่องปกติ ถูกมองเป็นแบบนั้นไป ผมมองว่าวันหนึ่งเขาอาจะได้เรียนรู้สิ่งที่ดีกว่าก็ได้ เพราะว่าถ้าเราไม่เคยตกนรก เราจะรู้ได้ยังไงว่าสวรรค์เป็นยังไง ถ้าเราไม่เคยฝันร้าย เราจะตื่นได้ยังไง
และในขณะที่ทุกคนเขาทำแบบดาร์กมาหมดแล้ว ผมทำฮิปฮอปขาวมันเลยดูจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ เพราะว่ามันโดดเด่นกว่า ในขณะที่ทุกอย่างมันมืดไปหมดแล้ว
ดี เจอร์ราร์ดที่เรา(อาจ)ไม่รู้
• ผมเป็นคนชอบพูดคุย แต่ว่าคนอื่นคิดว่าผมชอบอยู่เงียบๆ
• ผมไม่ค่อยเล่นโซเชียลมีเดีย
• ผมเลี้ยงแมว ที่บ้านตอนนี้จะเลี้ยงตัวหนึ่งสีดำ ชื่ออามาเตราสึ แปลว่าเทพีแห่งดวงอาทิตย์ โดนพระอาทิตย์จนเกรียมเลย
TP: คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง
D Gerrard: ถามว่าประสบความสำเร็จไหม เดี๋ยวผมจะอธิบายก่อน ความสำเร็จที่ผมคิด มันยิ่งใหญ่มากครับ แต่ก้าวที่จะเดินไปตรงนั้น มันเกิดจากความสำเร็จเล็กๆ ที่หลอมรวมกันเพื่อให้เกิดความสำเร็จใหญ่
ภาพใหญ่ที่ว่าก็คือ ผมอยากจะให้เพลงไทย ถูกจัดอยู่ชาร์ตของต่างประเทศบ้าง ถูกจัดอยู่ในบิลบอร์ดของอเมริกาบ้าง อยากให้เพลงไทยเป็นมาตรฐานสากลครับ แทนที่เราจะต้องไปตามสากลที่เป็นมาตรฐาน ผมอยากสร้างจุดยืนให้ประเทศไทย เพื่อเป็นคำพูดให้คนรุ่นหลังว่า ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยอยู่ในจุดที่ทุกคนจะเคารพนับถือในฐานะประเทศที่สร้างผลงานเพลงที่ดีออกมา
ซึ่งถ้าถามว่าที่ผมทำอยู่ ผมคิดว่ามันสำเร็จหรือยัง ถ้าภาพใหญ่ยังไม่สำเร็จ แต่ภาพเล็กที่คนอื่นเห็นว่าสำเร็จก็อาจจะใช่ครับ
TP: จากสกอร์เต็ม 10 คุณให้คะแนนชีวิตตัวเองเท่าไร
D Gerrard: โห ชีวิตนี้มีความสุขมากเลยนะ ผมสนุกมากเลย ทั้งสิ่งที่ไม่สวยก็มีความสุข เพราะเรามองหาข้อดีของความไม่สวยเจอแล้ว ว่ามันทำให้เราเห็นว่าเราจะทำสิ่งที่สวยกว่าได้ยังไง
ผมเลยรู้สึกว่าชีวิตต่อจากนี้มันค่อนข้างจะสมบูรณ์ครับ เหมือนกับพระอาทิตย์ฉายแสงลงมาหาผม เอาเป็นว่าช่วงชีวิตของผมที่ผ่านมาก็มีทั้งกลางวันกลางคืนใช่ไหม แต่กลางคืนอาจจะยาวมากหน่อย จนมาถึงช่วงนี้มันเป็นพระอาทิตย์กลับมาอีกครั้งแล้ว เป็นช่วงเช้าที่กำลังจะไปเที่ยง และถ้าไปถึงเที่ยงได้นี่ดีเลย มันก็จะสว่างเจิดจ้าที่สุด ซึ่งมันยากมากเลยที่จะไปตรงนั้น ผมกำลังคิดอยู่ว่าเราก็มีความสุขกับตรงนี้ไปเรื่อยๆ ก็เลยมองว่าตรงนี้มันคือสิบแล้ว ต่อไปถ้ามันจะดีกว่านี้ก็สิบ และต่อไปถึงมันจะแย่กว่านี้ ผมก็ยังให้สิบอยู่
ดี เจอร์ราร์ดที่เรา(อาจ)ไม่รู้
• ผมชอบฟังคลาสสิกครับ ทำให้ผมอารมณ์ดี คลาสสิกเป็นมารดาแห่งดนตรีทั้งมวล
เพราะว่าดนตรีต่างๆ ที่แตกแขนงมาในยุคปัจจุบันก็ดั้งเดิมมาจากคลาสสิก
เวลาที่ฟังคลาสสิกก็เหมือนมาหาแม่ ผมคิดถึงแม่ครับช่วงนี้ก็เลยฟังคลาสสิกบ่อย
• ผมเพิ่งอ่านเต้าเต๋อจิง หนังสือที่เกี่ยวกับลัทธิเต๋าจบไป
ตอนนี้ผมอ่านหนังสือชื่อว่า “คุณคือพลาซีโบ”
TP: ดูคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดี
D Gerrard: ตั้งแต่เกิดเลยครับ แต่มันเปลี่ยนตอนผมเห็นความจริงของโลกนี้ว่ามันไม่ได้สวยงามอย่างที่ผมเห็น ทำให้ผมอยากทำโลกนี้ให้สวยขึ้น เหมือนแบบที่มันควรจะเป็น
TP: อุปสรรคอะไรที่รู้สึกว่ากว่าจะผ่านมาได้มันยากมาก
D Gerrard: ชีวิตมันคือการพิสูจน์ตัวเองตลอดเวลาครับ ถ้าอยากจะได้รับอะไร เราต้องคู่ควรกับมัน ฉะนั้นถ้าเราไม่พิสูจน์ตัวเอง มันก็ไม่มีความหมาย ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าคุณเก่งมาจากไหน ตัวเราเราจะรู้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นถ้ายิ่งเป็นเรื่องเลวร้ายยิ่งต้องพิสูจน์เลยครับว่ามันไม่จริง ไม่งั้นความชั่วร้ายจะชนะครับ
TP: เคยรู้สึกอยากกลับไปแก้ไขอดีตบ้างไหมคะ
D Gerrard: ผมว่าผมกลับไปแก้ไขอดีตตลอดเลยนะ ผมไปในความคิดฮะ เรามีความทรงจำของสิ่งที่เราทำพลาดไปในอดีต มันจะกลับมาเสมอ ถ้าเราไม่เรียนรู้บริบทแค่ต่างกัน ฉะนั้นผมกลับไปแก้ไขอดีตในความทรงจำผม เพื่อให้อนาคตที่จะเกิดสิ่งไม่ดีไม่เกิดขึ้นซ้ำ เพื่อทำให้ปัจจุบันและอนาคตดีขึ้น
TP: มีคำพูดหนึ่งว่า ทุกสิ่งบนโลกนี้ล้วนเป็นไปได้
D Gerrard: ผมเชื่อนะครับ อย่างตอนนี้ ที่ผมมานั่งสัมภาษณ์อยู่ตรงนี้ได้ยังไง ถ้าผมไม่ทำในสิ่งที่ผมทำมาแล้วจนมันเป็นไปได้ ถ้าผมไม่ลุกขึ้นมาเล่นกีตาร์ ร้องเพลง เล่นดนตรี พิสูจน์ตัวเองจนมาถึงวันนี้ที่ผมมานั่งสัมภาษณ์อยู่นี้มันจะไม่เกิดขึ้น และถ้าคุณอยากให้เรื่องในอนาคตเป็นไปได้ คุณต้องทำตั้งแต่ตอนนี้ครับ
Suggestion
TP: มีจุดสะดุดหรือมีจุดเปลี่ยนในชีวิตบ้างไหม
D Gerrard: ทุกวันเลยครับ จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นตลอด เพียงแต่เราต้องสังเกตอยู่ตลอด และเมื่อคุณตระหนักในสิ่งต่างๆ จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนขึ้นมาและจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณตระหนักก็เกิดจากฝันร้าย ความสุขก็ทำให้คนเปลี่ยน ความรักก็ด้วย…เป็นสิ่งที่สวยงามครับ เราเปลี่ยนเป็นคนดีได้เพราะว่าเรารักใครบางคน ก็มีนะ
TP: อยากให้คนจดจำคุณอย่างไร
D Gerrard: เป็นเพื่อนที่แสนดีครับ ผมอยากให้บ้านเราเป็นครอบครัวเดียวกัน อยากให้คนได้เห็นว่าทั้งโลกคือครอบครัวเดียวกัน แล้วผมก็เป็นเพื่อนคุณคนหนึ่งเท่านั้นเอง เราชอบคิดว่าครอบครัวเป็นแค่นี้ แค่ที่เรามีอยู่ แต่จริงๆ ครอบครัวคือทั้งโลกนี้ และผมอยากเป็นเพื่อนกับทุกคนครับ