“กีฬาเป็นอะไรที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองจริงๆ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกำลัง ความอดทนของเราที่ต้องทำด้วยตัวเอง” มุมมองของดาร์ลิ่ง – อารดา อารยวุฒิ สาวสวยที่เป็นทั้งศิลปินนักร้องมีผลงานการแสดงมากมายแบ่งปันกับเรา
ปัจจุบันนี้เธอยังปลีกเวลาตามความชอบของตัวเองมา “สายสปอร์ต” เป็นนักกีฬาเต็มตัว ซึ่งสิ่งนี้ที่รัก…เธอเริ่มต้นมาจากการเป็นนักกีฬาโรงเรียน และยังเล่นกีฬาได้หลากหลายประเภท ค่อยๆ พัฒนามาเป็นการแข่งวิ่งไปจนถึงไตรกีฬา เป็นแพสชันสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
จากแพสชันทางด้านกีฬา ดาร์ลิ่งยังได้มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายแฟชั่นเซ็ต คอลเลกชัน ‘LCFCxThai Song Dum (ไทยทรงดำ)’ จากภูมิปัญญาชาวบ้านจากบ้านดอนมะนาว อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่ง คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ของที่ระลึกพิเศษที่ Fanstore เลสเตอร์ ซิตี้ เพื่อยกระดับสินค้าและเผยแพร่ภูมิปัญญาไทยสู่ระดับสากล ซึ่งเธอก็ได้ร่วมเดินทางไปยังสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงเปิดตัวคอลเลกชันที่ผ่านมา และไปร่วมซีนกีฬายิ่งใหญ่ครั้งนั้นด้วย นับเป็นประสบการณ์ชีวิตที่สร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนให้เธออมุ่งมั่นด้านการเล่นกีฬาต่อไป
มุมมองชีวิตดีๆ จากดาร์ลิ่ง อารดา
• ทุกคนมีเวลาเท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะจัดสรรเวลาให้ตัวเองได้ยังไง
เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากที่สุด
สำหรับดาร์ลิ่ง กีฬาควรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
• ออกจากกรอบเดิมของตัวเอง
พาตัวเองไปเจอกับสังคมใหม่ๆ ช่วยพัฒนาความสามารถของตัวเองได้
• วินัยในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ
หากใช้ชีวิตอย่างไม่มีแบบแผนมากจนเกินไป อาจทำให้ติดเป็นนิสัย
และไม่สามารถทำงานสำคัญได้สำเร็จหรือมีประสิทธิภาพ
• กำลังใจจากคนรอบตัวเป็นเรื่องสำคัญ
อาจเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันในชีวิตได้อย่างดี
• สำคัญที่สุดคือการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีใครทำได้ดีมาตั้งแต่ต้น และกว่าจะประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นต้องใช้เวลา
จากศิลปินดาราสู่เส้นทางสายกีฬา
หลายคนคงคุ้นใบหน้าสดใส หวานละมุนของคุณดาร์ลิ่ง จากวงดนตรี Sugar Eyes รวมไปถึงงานแสดงทางหน้าจอโทรทัศน์ แต่น้อยคนจะรู้ว่าเธอคนนี้รักการเล่นกีฬามาตั้งแต่ยังเด็ก “ดาร์ลิ่งเริ่มมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ เนื่องจากดาร์ลิ่งเกิดก่อนกำหนดทำให้ปอดไม่แข็งแรง คุณหมอเลยแนะนำว่าให้ออกกำลังกายไม่อย่างนั้นปอดจะไม่แข็งแรงอย่างเต็มที่ พอดีเราเป็นคนที่ต้องพกยาหอบหืดติดตัวไปตลอด คุณแม่ก็เลยให้ทำกิจกรรมออกกำลังกาย”
นอกจากเรื่องของสุขภาพแล้ว การมีครอบครัวที่ซัปพอร์ตด้านกีฬาก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เธอได้มีโอกาสเล่นกีฬาหลากหลายประเภท “เริ่มต้นจากว่ายน้ำเลยค่ะ เพราะคุณพ่อเคยเป็นนักกีฬาเยาวชนอยู่เชียงใหม่ เขาเลยสอนเราว่ายน้ำเป็นอย่างแรก ต่อมาพอเข้าโรงเรียนนานาชาติก็มีกีฬาหลากหลายประเภทให้เล่น หลังจากนั้นเรามาเริ่มเล่นแบบระยะไกลขึ้น ก็เลยเป็นวิ่งฮาล์ฟมาราธอน วิ่งมาราธอนแล้วก็มาลงแข่งไตรกีฬา”
จนถึงตอนนี้ไลฟ์สไตล์ของเธอชัดเจนมากยิ่งขึ้นในเส้นทางด้านกีฬา จึงทำให้งานที่ติดต่อเข้ามาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามไลฟ์สไตล์จากเดิมที่เป็นงานด้านบันเทิง งานที่ทำในวันนี้จึงไม่เพียงเป็นงานที่ตัวเองรัก แต่ยังเป็นงานในเส้นทางที่ตัวเองกำลังหลงใหลอย่างถึงที่สุดด้วย
นางแบบไทยทรงดำ พาความเป็นไทยไปโชว์ต่างแดน
จากความรักในงานกีฬา ไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจนกับการเล่นกีฬาหลากหลายประเภท คุณดาร์ลิ่งยังได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันใหม่ล่าสุด LCFC x Community Power ภายใต้ชื่อ THAI SONG DUM (ไทยทรงดำ) โดยมาเป็นนางแบบแฟชั่นเซ็ตให้กับคอลเลกชันนี้
“ก่อนหน้านี่ดาร์ลิ่งไม่ทราบเรื่องราวของไทยทรงดำเลย แต่พอได้มาร่วมงานกับคอลเลกชันไทยทรงดำ เรารู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าแค่เสื้อผ้า มันโชว์ประวัติความเป็นมาในการแต่งตัวที่นำมาประยุกต์มาเป็นเสื้อ เรารู้สึกภูมิใจนะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยโพรโมตเรื่องราวของคนกลุ่มนี้หรือผ้าเหล่านี้ ภูมิใจที่ได้นำเอาความเป็นไทยไปถึงประเทศอังกฤษ”
คอลเลกชันไทยทรงดำนี้ ได้นำไปจัดวางจำหน่ายและโชว์ที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ซึ่งคุณดาร์ลิ่งได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับคุณเต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ และทีมงานเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศ ซึ่งงานนี้เธอได้รับแรงบันดาลใจและแรงผลักดันในเส้นทางกีฬาของตัวเองด้วย “มันเป็นอะไรที่ใหญ่กว่าตัวเรามากๆ เลย แล้วรู้สึกถึงพลังของเลสเตอร์ ซิตี้ ได้เห็นถึงพลังของ คิง เพาเวอร์ ที่คอยสนับสนุน ได้เห็นนักกีฬาทั้งตัวจริง และทั้งทีมที่อายุต่ำกว่า 21 ปี แค่เห็นเขาเดินไปเดินมาก็ประทับใจมากๆ”
การได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้เห็นการใช้ชีวิตจริงของทีมนักกีฬา ได้เห็นสนามฝึก รวมไปถึงการได้รับรู้เรื่องราวความเข้มข้นของการฝึกซ้อม ก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้เธอยิ่งมุ่งมั่นอยากเดินต่อในเส้นทางสายกีฬาที่เธอเองรัก โดยเฉพาะกับการเป็นนักกีฬามาราธอน และไตรกีฬาที่เธอได้ลองทำแล้วติดใจ จนตั้งใจอยากจะคว้าชัยให้ได้ครบทั้ง 6 รายการทั่วโลก
“สังคมของนักกีฬาเป็นอะไรที่หาไม่ได้จากที่อื่น เรามีกีฬาเป็นจุดเชื่อม ทุกคนรู้แพ้รู้ชนะ
สมมติแข่งกัน เขาก็ยังให้คำแนะนำ เพราะที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับว่าคุณจะไปซ้อมมายังไง”
ดาร์ลิ่ง – อารดา อารยวุฒิ นักไตรกีฬา
Suggestion
มาราธอน การเดินทางแสนยาวไกลวัดพลังใจ
“ดาร์ลิ่งเริ่มด้วยการไปวิ่งกับพี่สาว เราได้ลองลงงานวิ่ง ได้ขึ้นไปถ่ายรูปสะพานสวยๆ ในเมืองไทย แต่มันดันจบแค่สิบกิโลฯ จากนั้นเราก็เลยค่อยๆ เพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆ” จากงานวิ่งเล็กๆ ภายในประเทศผสานกับความรักในกีฬาเป็นทุน คุณดาร์ลิ่งจึงเริ่มลงแข่งมาราธอน จนล่าสุดเธอได้ไปเป็นฟินิสเชอร์ในรายการเวิลด์ มาราธอน เมเจอร์ส ที่นิวยอร์ก แม้ว่ารายการเวิลด์ มาราธอน เมเจอร์ส ที่นิวยอร์กจะไม่จำเป็นต้องคัดตัว แต่ก็ต้องใช้ดวง เพราะการจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในนั้นต้องได้รับเลือกจากการส่งชื่อเข้าไปชิงล็อตโต้ และเธอก็ได้เป็นหนึ่งในผู้โชคดีคนนั้น
ซึ่งก่อนหน้าที่เธอจะเดินทางไปร่วมแข่งมาราธอนถึงนิวยอร์กก็ต้องฝึกซ้อมอยู่หลายเดือน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับงานใหญ่ “งานมาราธอนส่วนใหญ่มีระยะทางวิ่ง 42 กิโลเมตร ดาร์ลิ่งต้องซ้อมห้าถึงหกวันต่อสัปดาห์เลย มันเหนื่อยมากๆ แล้วก็ใช้เวลาเยอะมากๆ แต่ทุกครั้งที่แข่งเสร็จ เราได้กลับมาเห็นว่าทุกวันที่เราซ้อมมันส่งผล มันก็รู้สึกดี
การเป็นนักกีฬามาราธอนและได้ลองลงแข่งไตรกีฬา เป็นกิจกรรมที่ไม่เพียงต้องใช้พลังกายอย่างมหาศาลเท่านั้น แต่ยังต้องใช้พลังใจเข้าช่วยด้วย การฝึกฝน ฝึกซ้อมนั้นช่วยยกระดับจิตใจรวมไปถึงสร้างความภูมิใจให้ตัวเองได้
“ดาร์ลิ่งเคยไปแข่งงานไตรกีฬาของไตรนาวี เมื่อปี 2020 ตอนเช้าดาร์ลิ่งลงแข่งแบบเดี่ยว พอแข่งของตัวเองเสร็จก็ไปแข่งให้ทีม ก็คือว่ายน้ำในระยะที่ไกลมากขึ้น แล้วเราทำได้ที่หนึ่งทั้งสองการแข่งขันเลย นั่นทำให้เรารู้ว่าการข้ามลิมิตได้ของคนเรามันมีมากกว่าที่ตัวเองวางไว้เยอะมาก” ในแต่ละครั้งที่เธอได้ลงสนาม ตั้งแต่ระยะครึ่งทาง ไปจนถึงเกือบถึงเส้นชัย คุณดาร์ลิ่งจึงมีรอยยิ้มและน้ำตาคลอเสมอด้วยความตื้นตันและความภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ละความสำเร็จพิสูจน์ให้เห็นว่าลิมิตของมนุษย์นั้นเป็นอนันต์
ความหลงใหลที่มาพร้อมกับเรื่องราวดีๆ
จากการเล่นกีฬาอย่างหนักหน่วง ในหลากหลายประเภททั้งแบบทีม อย่างการเป็นนักกีฬาของโรงเรียนและระดับมหาวิทยาลัย และแบบเดี่ยวอย่างมาราธอน หรือว่ายน้ำ กีฬาได้มอบอะไรหลายอย่างให้กับคุณดาร์ลิ่ง เป็นสิ่งที่เป็นมากกว่าสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงที่ทำให้เธอประทับใจ “สังคมของนักกีฬาเป็นอะไรที่หาไม่ได้จากที่อื่น อาจเป็นใครที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย แต่มาให้กำลังใจกัน บางคนเป็นโค้ชระดับประเทศที่มีคำแนะนำดีๆ ให้ เรามีกีฬาเป็นจุดเชื่อม ทุกคนรู้แพ้รู้ชนะ สมมติแข่งกีฬาชนิดเดียวกัน ประเภทเดียวกัน รุ่นอายุเดียวกัน เขาก็ยังให้คำแนะนำ เพราะที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับว่าคุณจะไปซ้อมมายังไง”
ซึ่งการฝึกซ้อมของกีฬาแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกัน กีฬาที่เล่นเป็นทีมก็มีความสนุกเข้ามาเพราะมีเพื่อนร่วมทีมบากบั่นฝึกซ้อมไปพร้อมกัน การเล่นกีฬาประเภทเดี่ยวก็มีความท้าทายในอีกรูปแบบหนึ่ง “การเล่นกีฬามันสอนอะไรเราหลายอย่าง สอนให้เราเป็นคนมีวินัย ทั้งด้านเวลา การซ้อมต้องเป๊ะ มีกิจวัตรประจำวัน ดาร์ลิ่งเป็นคนโก วิท เดอะ โฟลว์ มากๆ ทำอะไรก็ได้ให้เรามีความสุขในทุกวัน แต่พอเล่นกีฬาเรารู้สึกว่าชีวิตมีโครงสร้างมากขึ้น มีแบบแผน มีเป้าหมายในแต่ละวัน เป็นสเต็ปเล็กๆ ที่เราจะทำไปให้ถึงเป้าหมายใหญ่”
นอกจากคอมมูนิตี้ของนักกีฬา และความภาคภูมิใจในตัวเองแล้ว กีฬายังมอบหลายสิ่งให้กับเธอด้วย ซึ่งการได้รับพลังงานดีๆ นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณดาร์ลิ่งอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและผลักดันให้กับคนอื่นได้มองเห็นข้อดีของการเล่นกีฬา สร้างสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดีโดยไม่รอเวลา เพราะเธอเองก็ใช้ชีวิตแบบทำงานไปพร้อมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาตลอดเช่นกัน
“ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมด แล้วแต่ว่าเราจะแบ่งให้อะไรบ้าง และรู้สึกว่าอะไรสำคัญ สำหรับดาร์ลิ่งรู้สึกว่าสุขภาพสำคัญและควรจะมีกีฬาเป็นพาร์ตหนึ่งในชีวิต”
หลายครั้งที่พูดถึงการเล่นกีฬา เราอาจคิดถึงสุขภาพร่างกายที่ดี แต่เรื่องราวของคุณดาร์ลิ่งนั้นให้มุมมองที่กว้างยิ่งขึ้นเกี่ยวกับกีฬา เป็นความภาคภูมิใจในตัวเองที่เป็นรางวัลจากความมุ่งมั่นตั้งใจ เป็นสิ่งซึ่งนำพามิตรภาพดีๆ มาให้ และบางครั้งอาจเป็นโอกาสดีๆ ในชีวิต
ติดตามแรงบันดาลใจจากตัวดาร์ลิ่งได้จาก
Instargram: DarlingArada
ชมเบื้องหลังแฟชั่นเซ็ตพิเศษและสารคดีคอลเลกชัน LCFCxไทยทรงดำ งานฝีมือคนไทยอันทรงค่า
