หลายคนคงรู้จักกับ “พี่โด๋ว” “ดีเจโด๋ว” หรือ “โด๋ว มรกต” ในบทบาทที่แตกต่างกัน เพราะตลอดระยะเวลาการทำงานของผู้ชายคนนี้ เขาทำงานมาแล้วหลากหลายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นบทบาทที่เราคุ้นเคยกัน อย่างนักจัดรายการวิทยุ ล่าสุดกับการกลับมาของคลื่น FM98 Smile Radio พิธีกรรายการอาหาร อย่าง “รสโอชา” โดย มรกต โกมลบุตร และ “จักรยานคนซน” รายการที่พาเราไปตระเวนชิมอาหารอร่อยๆ หรือแม้แต่การเป็นนักดนตรี ที่มีวง และเคยได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ จากเวทีสีสัน อะวอร์ดส์
หรือแม้แต่บทบาทการเป็นผู้บรรยายหรือโฆษกของโครงการก้าวคนละก้าว แต่ทั้งหมดนั้นเป็นตัวตนในหลากหลายด้านของผู้ชายคนนี้…โด๋ว มรกต โกมลบุตร
ในอนาคตก็คงมีอีกหลายบทบาทที่เราอาจจะได้พบได้เห็น เพราะความสนใจและความชอบก็เปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลาและช่วงวัย เราเลยมานั่งคุยกับเขาถึงความชอบ ความสนใจ และแรงขับเคลื่อนในชีวิต ทั้งในอดีต ปัจจุบัน รวมไปถึงในอนาคตด้วย
“แต่ละคนก็จะมีสถานการณ์ที่เจอะเจอไม่เหมือนกัน
สิ่งที่เราเจอะเจอ เราก็ต้องหาวิธีคิดหรือวิธีการอยู่กับมันให้มีความสุขให้ได้
พยายามหาความสมดุลของชีวิต ไม่ฟุ้งเฟ้อจนเกินไป มีฐานะประมาณไหนก็อยู่ให้สมฐานะ
ก็จะทำให้ชีวิตสมดุลและมีความสุข”
โด๋ว มรกต โกมลบุตร
ดีเจ พิธีกร และพิธีกร Live สดของโครงการก้าวคนละก้าว
อดีต วัยแห่งการทดลองและแสวงหา
การเป็นนักจัดรายการวิทยุ ทำให้เราเดาได้ไม่ยากว่าความหลงใหลอย่างหนึ่งในชีวิตของเขานั้น น่าจะเป็นเรื่องของบทเพลงและดนตรี ซึ่งก็มีพื้นฐานที่มาจากครอบครัวและคนรอบตัวในวัยเด็ก “พ่อผมซื้อเทปคุณวินัย พันธุรักษ์ มาฟัง เราก็ได้ยินจากพ่อ จากวิทยุที่พ่อเปิด รวมไปถึงพี่ข้างบ้านที่เขาเล่นดนตรี ฟังรายการวิทยุ มันปลูกฝังให้เราซึมซับมาโดยตลอด นั่นเป็นจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นก็มาถึงสิ่งที่เราเริ่มไขว่คว้าหามาเองแล้ว พอฟังเขามา เราก็มาฟังต่อแล้วก็รู้สึกชอบ จึงไปศึกษามากขึ้น ก็เริ่มมีความชอบเป็นของตัวเอง”
ในช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่อยากรู้ อยากลอง และเป็นช่วงวัยที่กำลังค้นหาตัวเอง ซึ่งเขาก็ค้นพบว่าตัวเองนั้นชอบอะไรและอยากเดินไปในเส้นทางไหน “ผมเชื่อว่าบางคนอาจจะหาความชอบของตัวเองเจอเร็ว บางคนอาจจะหาเจอช้า ก็แล้วแต่บุคคล ซึ่งผมโชคดีตรงที่ผมเจอตอนอายุ 19 ตอนนั้นอยู่ในช่วงแสวงหา แล้วผมก็ได้ลองทำอะไรหลายอย่าง”
“ผมชอบถ่ายรูป ผมก็ไปลอง ลองเล่นละครเวทีจนถึงละครโทรทัศน์ แต่สิ่งที่สนุกที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องของดนตรี ซึ่งผมก็มองเอาไว้ว่า ในอนาคตผมอยากทำงานที่เกี่ยวข้องกับดนตรี อาจจะเป็นนักดนตรีก็ได้ อาจจะเป็นนักจัดรายการวิทยุ หรืออาจจะไปขายเทปขายซีดีก็ได้ ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าจะได้มาจัดรายการวิทยุหรือเปล่า ผมแค่ตั้งธงเอาไว้ว่า เราอยากทำอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับดนตรี”
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนโอกาสจะมาถึง
โอกาสที่เราจะก้าวตามฝันนั้นจะมาถึงเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ เตรียมตัวให้พร้อมและคอยแสวงหาโอกาส พาตัวเองไปในทิศทางที่เราชื่นชอบและเลือกมาอย่างดีแล้ว “ผมไปเสนอตัวขอเขาฝึกทำรายการวิทยุ ไปช่วยรุ่นพี่ที่เขาจัดรายการวิทยุ ช่วยเขาวางแผ่น ใส่เทป แล้วก็จำว่าเขาพูดแบบไหน ต่อเพลงอย่างไร พอฝึกได้สัก 1 เดือน มันคงเป็นจังหวะแล้วก็โชคด้วย รายการของทางบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง เขาเลยบอกให้ผมไปจัดที่คลื่น FM103.5 เลย
ครั้งแรกตอนวันที่ 1 กันยายน 2535 ผมยังจำได้ดี ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เริ่มยึดเป็นอาชีพ ผมว่าอาชีพจัดรายการวิทยุของผมมันมากกว่า 20 ปี ถ้าคนถามผมว่าอาชีพของผมคืออะไร ผมพูดได้เลยว่า ผม คือ นักจัดรายการวิทยุ”
ปัจจุบัน ใช้ชีวิตให้เต็มที่และมีความสุข
ทุกวันนี้การทำงานยังคงสร้างคุณค่าและความสุขให้เขาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี ด้านอาหาร และการกีฬา แต่ก็ยังมีอีกสิ่งที่เขาพยายามทำอยู่ในช่วงนี้ “ตอนนี้ผมอยากจะทำหนังสือ พยายามจะคลอดออกมา ผมกำลังสัมภาษณ์นักเขียนเพลงคนหนึ่ง และเอาเรื่องราวของนักเขียนเพลงคนนี้ออกมาเป็นหนังสือ ด้วยความที่อายุมากขึ้นเลยอยากมาทำงานอีกแบบหนึ่ง หรือว่าจะเป็นงานอีเวนต์ต่างๆ อาจจะเป็นงานทางด้านตลาดที่ดูอาร์ตหน่อย ตลาดสำหรับคนหนุ่มสาวหรือคนที่มีรสนิยมใกล้เคียงกัน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับทั้งดนตรี แฟชั่น และก็จะมีช่วยงานมูลนิธิก้าวคนละก้าว ที่ดูจะชัดเจนที่สุดในช่วงเวลานี้ครับ”
อีกหนึ่งความชื่นชอบและแปรมาเป็นหน้าที่การงานและหมวกอีกใบของเขาก็คือ ความชื่นชอบและความสนใจเรื่องอาหารการกิน ซึ่งมีที่มาแบบนี้ “ตอนจัดรายการวิทยุผมเลือกเอาเรื่องอาหารมาเล่าในรายการ หรือเวลาคุยกับเพื่อนๆ ผมก็เล่าไปตามที่ได้ไปเจอมา ตามที่ตัวเองรู้สึก แล้วมี feedback มาว่า เวลาผมเล่าเรื่องอาหารทำให้คนที่ฟังอยากกินขึ้นมา เลยคิดเอาเองว่าเราน่าจะมีพรสวรรค์ในการนำเสนอเรื่องอาหารแน่ๆ ก็เลยเริ่มไปทำรายการอาหาร ผมชอบฟังเรื่องราวของการทำอาหาร เพราะแต่ละร้านจะมีที่มาที่ไปของเขา ผมว่าเรื่องราวเหล่านี้มีเสน่ห์ มันสนุกและมหัศจรรย์เวลาที่เราได้ยินเรื่องของเขา ก็เลยชอบนำเสนอเรื่องแบบนี้”
Suggestion
อนาคต ความฝันที่แปรผันตามเวลา
ในอนาคตที่ถึงแม้ว่ายังมาไม่ถึง แต่พี่โด๋วก็มีความฝันและความสนใจในเรื่องต่างๆ อยู่อีกมากมาย “ผมยังคงอยากทำรายการเพลง แต่ ณ วันนี้ช่องทางมันไม่ได้มีแค่วิทยุอย่างเดียวแล้ว ยังมีออนไลน์ ก็ศึกษาอยู่ว่าเราจะไปทางไหนดี ทั้งรายการเกี่ยวกับอาหาร รายการเกี่ยวกับบ้านหรือต้นไม้ ที่อันนี้เริ่มมาสนใจ จะเห็นว่าเราจะใส่ใจกับเรื่องไหนในช่วงที่เวลานั้นมันมาถึง เราก็จะไปสนใจ ไปค้นคว้า สิ่งที่ผ่านมาเหมือนผมประสบความสำเร็จทางความฝันแล้ว ผมไม่รู้หรอกว่าความสำเร็จในชีวิตเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เราอยากทำตอนเด็ก เราได้ทำมันก็อิ่มเอิบใจแล้ว สิ่งที่อยากจะทำก็ยังคงมีมาเรื่อยๆ แต่ก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป จะทำได้หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง น่าจะทำให้ชีวิตเรากระชุ่มกระชวยนะ เวลาที่มีสิ่งที่อยากทำ”
เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดีๆ
อีกหนึ่งความชื่นชอบของเขานั่นคือเรื่องของกีฬา “ผมชอบกีฬานะ ตอนสมัยมัธยมผมเป็นนักวอลเลย์บอลโรงเรียน หลังจากนั้นก็มาเล่นฟุตบอล ตอนนี้กีฬา 3 อย่างที่เล่นอยู่คือ วิ่ง ขี่จักรยาน และฟุตบอล แล้วก็ดูฟุตบอลก็มีทีมที่เราชื่นชอบ อย่างลิเวอร์พูลและเลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 นะครับ เพราะว่าเป็นทีมของคนไทย”
ด้วยหน้าที่การงาน ความที่ได้รู้จักกัน มีความสนใจในกีฬา และมีเรื่องราวดีๆ รอบตัวทำให้พี่โด๋วได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมโครงการก้าวคนละก้าว “ตอนที่พี่ตูนเริ่มวิ่งกรุงเทพฯ–บางสะพาน ตอนนั้นรู้สึกว่ามันเป็นกิจกรรมที่ดี ผมก็แค่ประชาสัมพันธ์บอกกล่าวกับคนฟังว่ามีกิจกรรมนี้ พอมากิจกรรมใหญ่ครั้งที่ 2 ที่ทำเส้นทางเบตง-แม่สาย ก้อย(รัชวิน)โทร.มาหาบอกว่าจะมีโครงการก้าวคนละก้าว จะต้องมีการ Live สด ต้องมีโฆษก มีพิธีกรในการเล่าเรื่อง เขาบอกว่านึกถึงเรา ก็เป็นเรื่องน่ายินดีมาก รู้สึกเป็นเกียรติ ผมตอบตกลงใน 20 วินาที ไม่ต้องคิดเลย”
แล้วเมื่อมูลนิธิก้าวคนละก้าวได้มาร่วมกิจกรรมใน “โครงการ 100 สนามฟุตบอลสร้างพลังเยาวชนไทย” พี่โด๋วก็มีโอกาสได้มาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ดีๆ แบบนี้ “ผมทำงานกับทางมูลนิธิฯ พอทาง คิง เพาเวอร์ มีกิจกรรมการส่งมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล (ในการแข่งฟุตบอลแมตช์พิเศษที่โรงเรียนท่าข้ามพิทยาคม จังหวัดแพร่) ก็ชวนทางเราไปเตะฟุตบอลด้วย ซึ่งผมก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก ผมว่ามันเป็นโอกาสดีของโรงเรียนและชุมชนที่จะได้สนามฟุตบอลที่เป็นมาตรฐาน มันน่าจะเป็นประโยชน์กับเด็กนักเรียนรวมไปถึงคนในชุมชน แล้วก็มองเห็นว่า ถ้าสนามนั้นสามารถสร้างคนให้รักกีฬา ถ้ามากไปกว่านั้นสามารถสร้างนักกีฬาฟุตบอลให้กับจังหวัด ให้กับสโมสรของจังหวัด หรือสร้างนักกีฬาฟุตบอลที่มารับใช้ทีมชาติได้ ผมว่ามันคุ้มมากๆ”
ทุกวันนี้พี่โด๋วก็ยังคงทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความสุข ซึ่งเป็นความสุขที่ไม่ได้เกิดกับเขาแค่คนเดียว “ผมมองว่าตอนนี้ผมทำทุกอย่างเพื่อความสุขและความสนุกส่วนตัวเป็นอันดับแรก แต่ผมมาเจอว่าเวลาที่เราทำอะไรให้คนอื่นแล้ว เขาก็มีความสุข มันจะทำให้เรามีความสุขแบบดับเบิลขึ้นไปอีก”
ปิดท้ายบทความนี้ด้วยร้านอาหารแบบรสโอชา โดย มรกต โกมลบุตร ที่พี่โด๋วแนะนำและกาดอกจันไว้ว่าไม่ควรพลาด นำมาฝากกันค่ะ เผื่อว่าท่านใดสนใจอาหารอร่อยๆ จะได้แวะไปชวนชิมลิ้มลองกันบ้าง
• หมี่กรอบ ร้านตุ๊ก ถนนพระสุเมรุ
หมี่กรอบของเขาผัดได้นุ่มและกรอบในที่เดียวกัน เครื่องเคียงมีมะนาวพริกทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นหมี่กรอบที่โดนใจผมมากที่สุด
• ร้านเชฟถนอม
สปาเกตตีหมึกดำ เขาทำได้รสชาติถูกใจคนไทยแบบเรามากๆ มีทั้งความเผ็ด ความเป็นอิตาเลียนปนกัน แล้วผมเห็นเชฟถนอมมาตั้งแต่เขาออกจากร้านใหญ่มาเปิดร้านของตัวเองในซอยสุขุมวิท 18 ตอนนั้นผมไปรับประทานแล้วก็ได้คุยกัน เขายังชวนผมให้ไปทำร้านด้วยกัน ถ้าตอนนั้นผมมีเงินไปลงทุนป่านนี้ผมคงรวยไปกับเขาแล้ว เพราะตอนนี้เขาดังมาก มีหลายสาขา
• สีลมภัตตาคาร
ร้านนี้ก็เนิ่นนานมาเป็นร้อยปี แต่ก่อนเขาอยู่บนถนนสีลม แต่ตอนนี้เขาย้ายไปอยู่ตลิ่งชันแล้ว ร้านนี้จะมีเมนูพวกสตูลิ้นวัว ซี่โครงอบ ที่เป็นจุดเด่น และขนมปังกะโหลกที่เข้ากับสตูลิ้นวัว แกงกะหรี่ไก่ และซี่โครงอบ