Summary
ชวนไปทำความรู้จักกับวง DS.RU.BAND วงที่คว้า ‘ตั๋วพิเศษ’ ที่มีเพียงใบเดียวสำหรับวงผู้เข้าประกวดรุ่นมัธยม จากเวที THE POWER BAND 2024 SEASON 4 มาครองได้ สมาชิกของวงรุ่นนี้มีใครกันบ้าง…น่ารักซุกซนขนาดไหน และตั๋วใบนั้นให้เรื่องราวดีๆ และประสบการณ์แสนพิเศษอะไรกับพวกเขาบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลย
THE POWER BAND 2024 SEASON 4 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดประกวดเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นมัธยมฯ และ รุ่นบุคคลทั่วไป แต่ละรุ่นจะมีตั๋วพิเศษอยู่เพียงรุ่นละใบ…เป็นตั๋วเพียงหนึ่งเดียวที่จะพา “ผู้ชนะ” ไปสู่ประสบการณ์เส้นทางใหม่ๆ ของคนดนตรี…ที่ไม่เพียงจะได้รับเงินรางวัล ถ้วยรางวัล แต่จะมีเพลงและ MV ที่ประกบดูแลโดยมืออาชีพของวงการเป็นของตัวเองด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดของตั๋วใบนี้จะทำให้คุณได้ประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ และได้ภูมิใจในสิ่งที่รักมาตลอด และตั๋วใบพิเศษในรุ่นมัธยมนั้น วง DS.RU.BAND จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายมัธยม) คว้าไปครองได้ในที่สุด ย้อนกลับไปอ่านโมเม้นต์หลังประกาศผลรอบตัดสิน THE POWER BAND 2024 SEASON 4 ได้ที่นี่
DS.RU. BAND เคยประกวดรายการ THE POWER BAND ในซีซันก่อนหน้านี้มาก่อน ซึ่งสมาชิกของวงในชุดนั้นๆ เป็นรุ่นพี่ของพวกเขา (อย่างวง Jazz Passion ที่เคยเป็นแชมป์รุ่นบุคคลทั่วไปเมื่อซีซัน 2 ก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนที่เคยอยู่วงนี้ คลิกอ่านที่นี่ หรือเมื่อซีซัน 3 วง DS.RU.BAND ที่เป็นสมาชิกอีกชุด ก็คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รุ่นมัธยม คลิกอ่านที่นี่
ที่ได้ส่งต่อชื่อวง ความฝัน และภารกิจทางดนตรีต่อให้รุ่นน้องชุดนี้ ซึ่งรวมตัวซุ่มซ้อมกันมานานกว่าจะทำได้สำเร็จในการประกวดของซีซัน 4 ที่ผ่านมา แต่ก่อนจะคว้าชัยชนะมาได้ พวกเขาเคยผิดหวังมาก่อนที่จะกลับไปฟิตซ้อมแก้ไขข้อผิดพลาด จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้จากสนามภูมิภาคสุดท้าย
เรื่องราวของสมาชิกวงรุ่นปัจจุบันทั้ง 7 คนที่มาแบ่งปันกับเรา…เต็มไปด้วยความฝันและความรักในเรื่องของดนตรีอย่างเต็มอิ่มตั้งแต่บรรทัดถัดจากนี้เป็นต้นไป
“การที่เราได้แชมป์ช่วยให้พวกเรารู้สึกว่าประสบความสำเร็จ
ในเป้าหมายหนึ่งของชีวิต เป็นสิ่งที่พวกเราอยากได้อยู่แล้ว
ทำให้เรามีแพสชันในการเล่นดนตรีมากขึ้น
และอยากที่จะพยายามต่อไปเรื่อยๆ
เพื่อที่เราจะได้มีซิงเกิลต่อๆ ไป ในนาม DS.RU.BAND อีก”
วง DS.RU.BAND
รางวัลชนะเลิศ รุ่นมัธยมศึกษา
THE POWER BAND 2024 SEASON 4
เพลงแห่งแรงบันดาลใจกับบันไดขั้นที่ 1
‘ทุกการเดินทางเริ่มต้นที่ก้าวแรก’ เราถามถึงจุดเริ่มต้นถึงความสนใจในด้านดนตรีและแรงบันดาลใจในสิ่งที่รักกันก่อน น้องๆ ทุกคน สมาชิกของวง DS.RU.BAND ชุดที่เข้าประกวดในซีซันที่ 4 ที่เพิ่งได้ขึ้นเวทีเปิดฉากการแข่งขันของซีซันที่ 5 ต่างรำลึกความหลังและเล่าให้ฟังด้วยดวงตาที่เป็นประกายเลยแหละ
• พัทธนันท์ สอนมัง (ข้าวปั้น) – Vocal
“ตอนเด็กๆ หนูเคยอยู่วงประสานเสียง แต่ก็ออกจากวงเพราะอาย ไม่ชอบอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ แต่จริงๆ ก็ยังชอบร้องเพลงอยู่ พอขึ้นมัธยมก็รู้สึกว่าอยากร้องเพลง ตอน ม.4 เพิ่งรู้ว่ามีชมรมสตริงก็เลยเข้าชมรมตามเพื่อน เพิ่งมีโอกาสมาประกวดตอน ม.6 เพราะหนูอยากเป็นนักร้องก็เลยต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ชอบ พยายามเปลี่ยนตัวเอง
• พีรยาภรณ์ ใจรังษี (อิน) – Vocal
“หนูเริ่มร้องเพลงตั้งแต่ ป.2 เพราะพ่อแม่ส่งไปเรียน เลยร้องเพลงมาตั้งแต่ตอนนั้น ตอนแรกก็ไม่ได้ชอบ แต่พอจะมาสอบเข้าโรงเรียนนี้ แม่ก็เล่าเรื่องวง DS.RU.BAND ให้ฟัง เลยลองไปฟังเพลงของวงแล้วรู้สึกว่าถ้าได้เข้าวงก็คงดี หนูสอบเข้าด้วยโครงการพิเศษทางช้างเผือก เลยได้เข้าชมรมและเข้าวง เพลงที่ฝึกเพลงแรกคือ ‘รักไม่ต้องการเวลา’ (ที่หนูนา หนึ่งธิดา ร้องเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง กวน มึน โฮ)”
ข้าวปั้น – อิน (ร้องนำ)
• ธิติกร ตันติธรรมผาติ (ฟลิบ) – Keyboard
“จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเล่นดนตรีก็เพราะผมฟังเพลงแล้วรู้สึกชอบคอร์ดและเมโลดีของเปียโน เลยเริ่มฝึกเปียโนด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ แล้วก็เข้าชมรมดนตรีของโรงเรียน จนมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในวง และได้มาแข่งรายการ THE POWER BAND นี้ครับ เพลงแรกที่ฝึกเล่นเปียโนคือ Isabella’s Lullaby”
• สุชานันท์ อิงค์นันท์ (อิง) – Piano
“พี่ชายของหนูเป็นนักดนตรี เขาตีกลอง หนูเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้รู้สึกชอบ จน ม.1 หนูเข้าชมรมดนตรีแล้วอาจารย์ก็ชวนไปแข่ง หลังจากนั้นก็แข่งมาเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าเล่นเปียโนมันก็สนุกดี เห็นพี่ๆ นักดนตรีแบ็กอัปก็รู้สึกว่าเท่ดี อยากเป็นแบบนั้นบ้าง เพลงแรกที่เล่นคือ เพลง เพ้อเจ้อ ของ Alarm9”
• ภัทรพล เอื้อฤาชา (อั๊ก) – Drum
“ตอนแรกผมไม่คิดจะเล่นดนตรีเลย แต่ผมเจอเพื่อนคนหนึ่งเขาตีกลองได้โหดมาก ที่ผมเข้าชมรมดนตรีเพราะจะตามเพื่อนมาเฉยๆ แต่พอรู้จักดนตรีมากขึ้นก็เริ่มชอบและมีแพสชันในการเล่นดนตรี มือกลองที่ทำให้ผมชอบตีกลองก็คือ โจอี จอร์ดิสัน วง Slipknot ครับ”
ฟลิบ (คีย์บอร์ด) – อิง (คีย์บอร์ด) – อั๊ก (กลอง)
ต้าฟู่ (เบส) – ซูม (กีตาร์)
• กษิดิศ ชัยทัศน์ (ต้าฟู่) – Bass
“ผมเคยเป็นนักกีฬาแต่ก็ไม่มีเป้าหมายอะไรเลย ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย กะจะมาเล่นกีตาร์เล่นๆ แต่เห็นว่ากีตาร์มันสายเยอะ แล้วไปเห็นกีตาร์ตัวหนึ่งมี 4 สาย ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักเบส ผมเลยไปเรียนจริงจัง หลังจากนั้นก็ได้ไปเล่นในชมรม เพลงแรกที่หัดเล่นคือเพลง “ทุ้มอยู่ในใจ” (อัลบั้ม Ost.SuckSeed ห่วยขั้นเทพ – ศิลปิน เก้า จิรายุ, แนท ณัฐชา และอีกหลายศิลปิน)
• พงศ์ภีระ ประยูรพัฒน์ (ซูม) – Guitar
“ตอนประถมผมเป็นนักกีฬาเปตอง แต่พอมัธยมผมไม่อยากเล่นแล้ว ผมได้ดูซีรีส์เรื่อง Hormone วัยว้าวุ่น แล้วมีฉากที่เขาเล่นคอนเสิร์ตกัน ผมเห็นว่าคนเล่นกีตาร์เท่ เลยไปหัดเล่นกีตาร์โปร่ง ไม่ได้จะจริงจังแค่อยากแอ็กสาว แล้วพ่อผมก็เปิดเพลง Sweet Child O’ Mine ของ Guns N’ Roses ให้ฟัง ผมชอบไลน์กีตาร์ของเพลงนี้มาก เลยเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเล่นกีตาร์ไฟฟ้า ผมเข้าวงนี้จากการอยู่ในชมรมเหมือนทุกคน ผมอาจจะดูมีแววอาจารย์เลยชวนมาแข่ง เพลงแรกที่ฝึกเล่นกีตาร์คือเพลง Zombie ของ The Cranberries”
รอบแข่งที่กทม.
Q: ตัวตนของ DS.RU.BAND เป็นแบบไหน?
A: คือความวุ่นวายและซุกซน เพราะทุกคนยังเด็ก
พลังยังเยอะ มี Passion เต็มไปหมด
รอบแข่งที่นครปฐม
Suggestion
หลังพายุผ่านไปฟ้าย่อมสดใสเสมอ
บนเส้นทางสายดนตรีที่สมาชิกทุกคนอยู่กับมันมายาวนานมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและช่วงที่ค่อนข้างโหดร้าย ทำเอาท้อและเหนื่อยไม่น้อย แน่นอนว่า DS.RU.BAND ก็หนีไม่พ้นช่วงเวลาเหล่านั้นเช่นกัน พวกเขาพร้อมที่จะแบ่งปันทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ได้ดังใจ…ให้เราฟัง
หลายคนในวงพูดตรงกันว่าช่วงที่ไม่ผ่านสนามกทม. นั้นเป็นหนึ่งช่วงเวลาที่รู้สึกไม่ดีที่สุดแล้ว อั๊กสรุปให้ฟังว่า “ตอนนั้นเพลงที่เราทำมาเพื่อแข่งในสนามกทม.นั้นยากมาก วงก็มีประสบการณ์น้อย และฝีมือยังไม่ถึงเพลงที่อาจารย์ให้มา ตอนลงแข่งที่สนามกทม. เราก็เลยไม่ผ่าน”
ข้าวปั้นก็คิดแบบนั้น “ตอนแข่งรอบที่กทม. เราเอาเพลง ‘เวลาเธอยิ้ม’ มาใช้แทนเพลง ‘โลเล’ หนูต้องร้องไลน์ประสานเยอะ แล้วไม่เข้าใจว่าคีย์นี้ต้องร้องอย่างไร ทำไม่ได้สักที เลยเป็นการกดดันตัวเอง เครียดจนแพนิกอยากออกจากวง แต่ก็ฮึบขึ้นมาสู้กับน้องๆ ต่อได้”
“ช่วงแรกที่ฟอร์มวงก่อนมาสนามกทม. ช่วงนั้นเหมือนมรสุมชีวิต” ซูมเล่าเสริมเรื่องเดียวกัน “เราเล่นไม่เข้ากันเลย ผมท้อที่สุดในการเล่นดนตรีเลย ถอดใจไปแล้ว และคิดว่าจะไปทำอะไรดีนอกจากดนตรี แต่ก็กลับมาซ้อมให้หนักขึ้น พัฒนาตัวเองให้มากขึ้น”
“ก่อนจะมาแข่ง THE POWER BAND ผมเห็นคนเก่งๆ แล้วก็ท้อครับ ผมคิดว่าเราจะเล่นโหดๆ จะซ้อมหนักไปทำไม ในเมื่อคนฟังเขาไม่รู้ว่าเราเล่นอะไร ผมจะไปทำอาหารแล้ว แต่ว่าเล่นดนตรีมันเท่กว่า” อั๊กแบ่งปันช่วงเวลาฟ้าหม่นให้ฟังบ้าง
ที่ MUSIC CAMP – รอบแข่งที่สนามตัดสิน
แต่แล้ววันเวลาที่ท้องฟ้าสดใสของทุกคนก็มาถึง
ต้าฟู่ตอบสั้นๆ แต่ได้ใจว่า “ช่วงเวลาที่ดีคือ ช่วงที่ได้แชมป์ครับ” รอบแข่งที่สนามตัดสิน DS.RU. BAND เลือกใช้เพลง Life Boy ของศิลปิน 4EVE (XOXO Entertainment) และ “เวลาเธอยิ้ม” ของศิลปิน POLYCAT (Smallroom) ในเวอร์ชันของวงเอง
แล้วซูมก็สร้างวีรกรรมจนได้ “ช่วงที่ได้แชมป์ผมดีใจเกินไปจนเหยียบป้ายวงตัวเอง อย่างที่ 2 คือ ผมทำถ้วยรางวัลพัง ตอนที่ถ่ายวิดีโอหลังจากที่ได้รับถ้วย พี่ทีมงานเขาให้เฮดังๆ น้องๆ ให้ผมเป็นคนถือถ้วยรางวัล แล้วคำว่า THE POWER BAND ที่ถ้วยรางวัลก็หลุดออกมา ได้ถ้วยมาไม่ถึงชั่วโมงเลย แต่ก็รู้สึกว่า ดีจังเลยที่เราเลือกเล่นดนตรี”
ตั๋วพิเศษหนึ่งใบ…ให้อะไรเราบ้าง
ขึ้นชื่อว่าตั๋วใบพิเศษทั้งทีต้องมีอะไรดีๆ บ้างล่ะ
“เวที THE POWER BAND ให้โอกาสกับเราเยอะมาก เป็นเวทีที่ครบเครื่อง เป็นเวทีใหญ่ที่ทำให้เรามีประสบการณ์ในการเล่นสด ได้ความรู้จากพี่ๆ ศิลปิน ถ้าชนะก็มีโอกาสได้ทำซิงเกิลอย่างพวกเราด้วย เลยอยากชวนทุกคนที่มีใจรักในเสียงดนตรี ไม่ว่าจะสายร้องหรือสายเล่นให้มาลองดูสักครั้ง” นี่คือสิ่งที่ข้าวปั้นอยากบอกนักดนตรีวงอื่นๆ ให้มาสัมผัส เพราะมันจะพาเราไปสู่เส้นทางใหม่ๆ ของคนดนตรี…
อั๊กเสริมว่า สิ่งที่เขาได้รับนั้นมันมากกว่าแค่รางวัลที่เห็นเป็นรูปธรรม “การที่เราได้แชมป์มันเปิดโอกาสให้วงเรามาก พี่ๆ ทีมงานคิง เพาเวอร์พาเราไปเล่นในหลายๆ งาน บางที่ที่เราไปอาจจะมีแมวมองมาดูก็ได้ และวงเราก็มีชื่อเสียงมากขึ้น ที่สำคัญวงเราได้มีซิงเกิลเป็นของตัวเองด้วย”
แล้วการประกวดเวที THE POWER BAND ครั้งใหม่กำลังจะมี SEASON 5 แล้ว อยากบอกอะไรเพื่อนๆ ที่รักดนตรีบ้างไหม
“คนที่อยากลองฟอร์มวงก็ไม่ต้องกลัว ให้กล้าคิดกล้าทำ ถึงเราตกรอบเราก็ไม่ได้เสียอะไร เราได้ประสบการณ์ อยากให้ทุกคนกล้าที่จะลงมือ” ต้าฟู่เป็นตัวแทนเพื่อนๆ สมาชิกของวงมาชวนแล้วนะ จะไม่ลองดูสักหน่อยเหรอ
ถ่ายทำ MV Live Session – เข้าห้องอัดกับ พี่ติ๊ก Home Run Music
โชว์พิเศษที่จตุจักร – การแสดงที่รายการ T-POP STAGE (ภาพจากวง DS.RU.BAND)
3 เมนูเพิ่มพลังหลังซ้อม
ของวง DS.RU.BAND
ไก่กระเทียมครับ ไก่กระเทียมค่ะ และ ไก่กระเทียมครับผม
*เสียงครวญจากวงถึงอาจารย์บอส
เพราะเวลาที่อาจารย์พาไปเลี้ยงข้าวทีไรต้องเป็นเมนูนี้ทุกที
คงต้องเปลี่ยนเมนูแล้วค่ะอาจารย์
บันไดขั้นต่อไปในอนาคต
วันนี้สมาชิกของ DS.RU.BAND เดินทางมาถึงจุดหนึ่งของความฝันแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่จุดสุดท้าย พวกเขายังคงมีความฝัน และมีทางเดินที่ต้องก้าวไปอีกไกลนัก และนี่คือความฝันของพวกเขาทุกคน
ฟลิบ (คีย์บอร์ด): ผมอยากเป็นคนแต่งเพลง และนักแต่งเพลงที่ชื่นชอบก็คือ อาจารย์บอสครับ
อิง (เปียโน): อยากเป็นนักดนตรีแบ็กอัปที่เล่นให้พี่อินในอนาคต
อิน (ร้องนำ): อยากเป็นนักร้อง มีวงแบ็กอัปเป็นน้องอิง
ต้าฟู่ (เบส): ตอนแรกผมอยากเป็นนักปิงปอง แต่ตอนนี้อยากเป็นศิลปินครับ คิดว่าแค่อยากเป็นแบ็กอัป แต่ตอนนี้อยากตั้งเป้าหมายให้สูงกว่านั้นแล้ว
อั๊ก (กลอง): อยากเป็นมือกลองในวงเมทัล
ซูม (กีตาร์): ผมอยากเป็นศิลปินที่มีวงของตัวเอง แล้วผมเป็นมือกีตาร์
ข้าวปั้น (ร้องนำ): อยากเป็นนักแสดงละครเวที เพราะได้ร้องเพลงด้วย
ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินฝัน ถ้ามุ่งมั่นเป็นได้อยู่แล้ว
คำถามสุดท้าย เราอยากรู้ว่า SEASON 5 กำลังจะมาถึงแล้ว DS.RU.BAND แชมป์จาก SEASON 4 ว่าอย่างไรบ้าง “พวกเรามาประกวดอีกแน่นอน แต่จะเป็นรูปแบบไหนนั้น ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป”
เอาล่ะ พวกเขาสัญญาแล้ว มารอลุ้นไปพร้อมๆ กัน ว่าวงจะนำอะไรมาอวดพวกเราอีก และจะเด็ดขนาดไหน แต่ก่อนจะถึงช่วงของการแข่งขันของ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2568 คลิกอ่านรายละเอียดน่าสนใจที่นี่ พวกเขาจะได้โอกาสมีส่วนร่วมกับศิลปินระดับประเทศ ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับวง ที่ BODYSLAM POWER OF THE B-SIDE CONCERT คอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเพื่อมอบรายได้จากการจำหน่ายบัตรหลังหักค่าใช้จ่าย ให้ “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” เพื่อสนับสนุนความต่อเนื่องทางการศึกษาแก่เด็กๆ ในโครงการก้าวเพื่อน้องปีที่ 5 ในวันที่ 4-5-6 เมษายนนี้อย่างไร…คงต้องติดตามกัน
ภาพโดย Expert Kit
เริ่มแล้ว THE POWER BAND 2025 SEASON 5 เวทีประกวดดนตรี…ที่มากกว่าการประกวด
