Summary
อีกหนึ่งตัวอย่างที่เคยผิดหวังแต่พร้อมยอมรับและเข้าใจ ซึ่งเมื่อมีโอกาสใหม่ก็ทำตามหน้าที่ตัวเองให้สุด พร้อมขอทดลองการใช้ชีวิตที่หลากหลาย เพื่อหาคำตอบแพสชันที่ดีที่สุดให้ตัวเอง จนถึงวันนี้ คุณกอล์ฟ ณรงค์ฤทธิ์ ก็สามารถเลือกทำสิ่งที่รักและช่วยสร้างความมั่นคงให้เขาพร้อมกันด้วย
ความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลในวัยเด็กของ คุณกอล์ฟ – ณรงค์ฤทธิ์ ศรีวรเวียง อาจหล่นหายไป แต่ใครจะรู้ว่าอนาคตจะได้กลับมาคลุกคลีในวงการลูกหนังด้วยการเป็นผู้บรรยายฟุตบอลและพิธีกร “พากย์” ฟุตบอลแทนการเป็นนักเตะ
ฝันที่เขามีมายาวนานกว่า 17 ปีตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย…ในวันนี้ฝันนั้นกลายร่างมาอยู่ในรูปแบบของผู้บรรยายฟุตบอล โดยที่ชีวิตเขายังคงขับเคลื่อนด้วยแพสชันที่เขามี เรื่องหนึ่งคือ รถยนต์ อีกเรื่องคือ ฟุตบอล ที่เราถือโอกาสชวนเขาคุยและพาทุกคนไปทำความรู้จักหนุ่มคนนี้ไปด้วยกัน ในช่วงที่วาระฟุตบอลยูโร 2024 เวียนมาถึงอีกครั้ง
“อย่าไปสนใจกับผลลัพธ์เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย แต่ให้ดูความสำเร็จเล็กๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง
เพราะสามารถรวมกันให้ถึงเป้าหมายได้เหมือนกัน”
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีวรเวียง นักพากย์ฟุตบอล
ภาพจากคุณณรงค์ฤทธิ์
เริ่มต้นกับนักพากย์ฟุตบอล…โดยบังเอิญ
เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปที่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่วัยประถมหลังดูทีมชาติไทยยุค ซิกโก้ – เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และตามต่อด้วยพรีเมียร์ลีกทีมลิเวอร์พูล ซึ่งกลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้หนุ่มคนนี้อยากฝึกซ้อมฟุตบอลให้ดี แต่ที่บ้านไม่สนับสนุนเพราะกลัวลูกชายบาดเจ็บและต้องการให้ลูกมุ่งไปทำอาชีพตามยุคสมัยนั้นมากกว่า เขาจึงไม่สามารถเข้าสู่การคัดตัวเตะฟุตบอลอย่างที่หวังไว้ได้สำเร็จ
แม้รู้สึกผิดหวังเพราะไม่สามารถเดินไปหาโอกาสที่ต้องการได้เอง ได้แต่ทำใจยอมรับ จนหันไปประกวดร้องเพลงตามรายการต่างๆ และกลายเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ คุณกอล์ฟ ณรงค์ฤทธิ์ มีความกล้าแสดงออกและไม่ตื่นเวที
เชียร์ทีมไหน? ในฟุตบอลยูโร 2024
กอล์ฟ: ทีมอังกฤษ เพราะผูกพันต่อเนื่องจากที่ดูพรีเมียร์ลีก
และจะเชียร์หนักมากช่วงที่มีนักเตะลิเวอร์พูลติดทีมชาติ
ภาพจากคุณณรงค์ฤทธิ์
แต่สุดท้ายเขาก็ได้เข้ามา “วงการฟุตบอล” อย่างตั้งใจ แม้จะเฉียดกับความฝันนักกีฬาของตัวเอง และแม้ในเวลานั้นแม่ของเขาจะเป็นคนที่ไม่ได้มองว่าลูกชายคนนี้จะมีอาชีพนักบอล แต่ก็พร้อมสนับสนุนให้ทำกิจกรรมต่างๆ เสมอ พร้อมทั้งคะยั้นคะยอให้เขาสมัครรายการตามล่าหานักพากย์พรีเมียร์ลีกตัวจริง (True Visions UBC Premier League Commentator Hunt 2007) ที่เปิดรับสมัครเพียงวันเดียว แต่เขาก็ไม่ไปเพราะคิดว่าคงทำไม่ได้ แต่เมื่อโครงการดังกล่าวขยายเวลารับสมัครเพิ่มอีก 1 วัน เพราะมีผู้สนใจสมัครจำนวนมากมายที่ต้องมาแสดงพากย์สดต่อหน้าคณะกรรมการ
Suggestion
5 แนวคิดชีวิต จาก กอล์ฟ ณรงค์ฤทธิ์
1. มุ่งมั่น ขยันอดทน และหาความรู้ให้กับตัวเองเสมอ
2. รับผิดชอบสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด
3. ผลลัพธ์ไม่ใช่คำตอบ ความสำเร็จระหว่างทางสำคัญที่สุด
4. ความสุขสร้างได้จากตัวเอง ความทุกข์ก็เช่นกัน ไม่ต้องไปพึ่งคนอื่น
5. การกระทำสำคัญกว่าคำพูด
ภาพจากคุณณรงค์ฤทธิ์
เขาตัดสินใจสมัคร และผลปรากฏว่าผ่านเข้ารอบตัดสินเป็น 1 ใน 10 คน จึงหันมาจริงจังกับโอกาสที่ได้รับ โดยเดินหน้าฝึกฝนอย่างเต็มที่ตลอดหนึ่งเดือน โดยหวังคะแนนส่วน 30 % ที่เป็นคะแนนโหวตจากทางบ้าน ต้องทำให้เป็นไปได้สุด และกลับไปหาเสียงที่โรงเรียน ส่วนอีก 70 % ทำการบ้านและฝึกฝนตัวเองที่ปกติสวมวิญญาณนักพากย์เกมและวางแผนเกมฟุตบอลเป็นประจำอยู่แล้ว และผลการตัดสิน ชื่อของ คุณกอล์ฟ ณรงค์ฤทธิ์ ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ขณะเขากำลังเรียนมหาวิทยาลัย ปี 3
ประสบการณ์ “นักพากย์” กับฟุตบอลยูโร
กอล์ฟ: ได้ทำหน้าที่พากย์หรือพิธีกรการแข่งขันฟุตบอลยูโรมาแล้ว 4 ครั้ง
และ ฟุตบอลยูโร 2024 เป็นครั้งที่ 5
ลองทำหลายอย่าง…ให้รู้แพสชันที่แท้จริง
แม้เริ่มต้นอาชีพได้เร็วจากผู้บรรยายฟุตบอล แต่เขาขอไปทำงานอื่นๆ ด้วยในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเซลส์ขายรถยนต์ฮอนด้าควบคู่เป็นนักพากย์ และพบคำตอบให้ตัวเองว่า “ไม่ได้เหมาะกับการทำงานออฟฟิศแบบเต็มเวลา” ก่อนเขาจะตัดสินใจมาทำข่าวกีฬาที่ Voice TV ควบคู่ไปกับทำหน้าที่บรรยายเกมฟุตบอลทาง True Visions กับทำโครงการประกวดหานักพากย์ดังกล่าวนั่นเอง
คุณกอล์ฟมีโอกาสทดลองทำหลายอาชีพ เพราะได้ซื้อพื้นที่ว่างแห่งหนึ่งเพื่อเปิดคาร์แคร์และที่สำหรับจูนรถยนต์ แต่เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดความคุ้มค่าจึงลองเปิดธุรกิจเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านชาบู ร้านกาแฟ ร้านนวด ไปจนถึงร้านอาบน้ำสุนัข ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ตั้งแต่การรังวัดเขตแดน การก่อสร้าง การทำร้านต่างๆ ซึ่งมีทั้งสำเร็จและล้มเหลว แต่ที่สำคัญทำให้รู้ว่าตัวเองมีแพสชันที่สร้างรายได้อยู่ 2 อย่างคือ เรื่องฟุตบอลกับรถยนต์
ภาพจากคุณณรงค์ฤทธิ์
ไม่ใช่อาชีพที่ฝัน แต่เป็นมากกว่าอาชีพที่ชอบ
แม้อาชีพผู้บรรยายและพิธีกรรายการฟุตบอลไม่ได้เป็นสิ่งที่ฝันมาก่อน แต่ตอนนี้เป็นมากกว่าอาชีพที่ชอบกว่า 17 ปีแล้ว และทำให้รู้ว่าการบรรยายเทียบได้กับการเป็นนักดนตรี เสียงนักพากย์เสมือนเป็นแบ็กกิงแทร็กที่ใช้ประกอบในแมตช์การแข่งขัน นักร้องสามารถมีคาแรกเตอร์และลีลาได้ แต่ต้องรักษาบาลานซ์ให้ดีว่า ทำอย่างไรไม่ให้ตัวเองทำเกินขอบเขตและหน้าที่ เพราะถ้านำมันจะกลายเป็นเกินหรือล้นไป ซึ่งคนดูเขาเปิดมาดูฟุตบอลหรือนักบอลไม่ได้เปิดมาดูนักพากย์ จึงต้องคอยเตือนตัวเองเสมอว่า เราคือองค์ประกอบที่ทำให้แมตช์การแข่งขันฟุตบอลนั้นๆ ให้ครบเครื่องมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็ต้องไม่ทิ้งการทำหน้าที่สื่อสารให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคนดูด้วย
ไอดอลฟุตบอล
เจอร์เกน คล็อปป์ อดีตกุนซือทีมลิเวอร์พูล
“ชอบไอเดียและแพสชันบริหารจัดการทีมที่ดีมากของเขา ทำให้ทีมมีความสามัคคี มีระบบการจัดการการเงิน และผลักดันอะคาเดมีได้ นั่นเพราะทีมหลักของเขาต้องมีแนวเล่นชัดเจนก่อน เปรียบเหมือนการใช้ชีวิตจริงของเราที่เป้าหมายเป็นเหมือนรากต้นไม้ใหญ่ที่สำคัญ”
ภาพจากคุณณรงค์ฤทธิ์
ฟีดแบ็กที่ต้องจำและเรียนรู้
ช่วงแรกเคยโดนตำหนิลงหนังสือพิมพ์ว่า “การพากย์ของเขาไม่รู้จักนักเตะยุค 80” ซึ่งตอนนั้นเขาไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี แต่เขาใช้เหตุการณ์นี้มาคอยบอกกับตัวเองว่าต้องไม่ให้เกิดผิดพลาดขึ้นอีก และสิ่งที่เขาได้เรียนรู้คือ ต้องวางแผนหาข้อมูลให้ครบ พัฒนาและฝึกฝนการฟังภาษาอังกฤษ และหาข้อมูลต่างประเทศมากขึ้น พร้อมกับรู้จักประเมินตัวเองว่าควรรับงานแบบไหนที่สามารถรับผิดชอบงานนั้นได้ดีที่สุด
“ถ้ามีคนชมพากย์ดีสนุกดีก็ดีใจ แต่จะให้ความสำคัญกับการประเมินงานแต่ละครั้งมากกว่า ถ้าออกมาเหมือนที่ตั้งใจก็รู้สึกดี เพราะบางครั้งคนดูรู้สึกสนุกแต่ความจริงเราไม่ได้ต้องการสื่อสารความสนุก”
ภาพจากคุณณรงค์ฤทธิ์
‘ผู้สื่อข่าว-นักพากย์-พิธีกร’ ฟุตบอล
ทั้งหมดนี้มีความเหมือนกันคือ การหาและใช้ข้อมูลแต่แตกต่างกันด้วยวิธีการ ส่วนตัวชอบเป็นพิธีกรเพราะสามารถเป็นตัวเองมากที่สุด โดยกำหนดประเด็นแล้วพยายามดึงตัวตนหรือสื่อสารให้ผู้ตอบแลกเปลี่ยนในสิ่งที่อยากนำเสนอออกมาให้ได้ ส่วนผู้บรรยายเกมแข่งฟุตบอลต้องพากย์ตามภาพที่กำลังเสนอตามที่เห็นขณะนั้นเท่านั้น ขณะที่ผู้สื่อข่าวสิ่งสำคัญสุดคือ การรายงานข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ใครย้ายทีมตัวราคาค่าตัวเท่าไร ซึ่งอาจมีการวิเคราะห์ข่าวที่พอจะเพิ่มความเป็นตัวตนลงไปได้เล็กน้อย
แรงบันดาลใจสำคัญในชีวิต
‘ธรรมมะของพระพุทธเจ้า’
“เรื่องทางสายกลางที่ต้องหาจุดสมดุลการใช้ชีวิตในแต่ละช่วง
เสมือนเป็นสารตั้งต้นฝึกใจให้หาวิธีการแก้ปัญหาและรับมือสิ่งที่กดดันได้
ไม่ฟุ้งอยู่กับปัญหา เพราะสุดท้ายทำให้เรียนรู้ว่า ถ้าดับทุกข์ไม่ได้ก็อยู่กับทุกข์ให้เป็น”
ภาพจากคุณณรงค์ฤทธิ์
Suggestion
อนาคตในแวดวงฟุตบอล
ปัจจุบันทำหน้าที่พิธีกรและผู้บรรยายเกมฟุตบอลที่ True Visions รวมถึงการบรรยายเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 เป็นครั้งที่ 5 แล้ว และไม่พลาดที่จะเชียร์ทีมอังกฤษ เพราะจากการดูพรีเมียร์ลีกทีมเลิฟอย่างลิเวอร์พูล นอกจากนั้นยังร่วมกับพี่ๆ เพื่อนๆ ทำคอมมิวนิตีคนรักฟุตบอลออนไลน์ ทาง YouTube และ เพจเฟซบุ๊กชื่อ “โอ้โหแหม่ OHO-MAE” ที่มี Live เป็นประจำทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ เวลา 21.00 น. เพื่อแลกเปลี่ยนความสนุกสนานกัน
“ยอมรับว่าอาชีพนักพากย์เกมฟุตบอลอาจไม่ใช่สิ่งสูงสุดยุคนี้แล้ว เดี๋ยวนี้คอนเทนต์จากอินฟลูเอนเซอร์คือคำตอบ ส่วนคอนเทนต์ทีวีคือยุคเก่า ในขณะที่โลกออนไลน์และโซเชียลมีเดีย หรือ AI คืออนาคต เพราะหลายคนสามารถติดตามคอนเทนต์สดแบบการแข่งขันเรียลไทม์ได้เลย แต่จะเข้ามาแลกเปลี่ยนแต่ละเกมแข่งขันที่เกิดขึ้นแล้วในคอมมิวนิตีต่างๆ ที่ออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง อนาคตสำหรับตัวผมยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจขยายไปขอบเขตอื่น เช่น ทำอะคาเดมี สนามฟุตบอล หรือจัดอีเวนต์”
กิจกรรมแจกฟุตบอลคือจุดเริ่มต้นที่ดีให้วงการ
“มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับ คิง เพาเวอร์ มา 4-5 ครั้ง ตั้งแต่เล่นเกมกับเด็กๆ รวมทั้งเป็นพิธีกรในกิจกรรม “คาราวาน “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย ปี 2567” ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากเพราะหลักการฝึกทักษะเล่นฟุตบอลได้ดี ต้องเริ่มที่ลูกบอลและสนามที่พร้อม โดยเด็กอายุต่ำกว่า 6-12 ปี คืออายุสำคัญในการฝึกทักษะเริ่มต้น ถ้าเขาขวนขวายไปหาคลิปวิธีฝึกเล่นบอลจากสื่อต่างๆ เขาจะพัฒนาทักษะการเล่นที่ดีได้ ส่วนการพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงและการเล่นเป็นทีมสามารถไปฝึกภายหลังได้ และเมื่อมีจุดเริ่มต้นที่ดีจากฟุตบอลแล้ว ภาครัฐหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ ควรขยายให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้ต่อไป”
ฟุตบอลยูโรกับแมตช์ที่ประทับใจ
กอล์ฟ: ฟุตบอลยูโร 1996 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน
แต่ต้องตกรอบรองชนะเลิศไป เพราะพ่ายให้กับทีมชาติเยอรมนี
ภาพจากคุณณรงค์ฤทธิ์
ตัวอย่างแพสชันให้คนอื่น
ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด เราต่างสามารถเป็นตัวเองและเป็นต้นแบบแพสชันให้คนอื่นได้เสมอ เพียงมีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน ไม่หยุดเรียนรู้ และเน้นที่การกระทำมากกว่าคำพูด ซึ่งนำมาใช้กับลูกชายวัย 10 ขวบของเขาที่กำลังให้ความสนใจฝึกการเตะบอลอยู่
สิ่งสำคัญสุดคือ “ใจ” ถ้าไม่สู้ทุกอย่างก็จบ พร้อมเขายังตกลงกับภรรยาว่า ต้องทำทุกอย่างให้ลูกดูมากกว่าพูดให้เขาฟัง น่าจะเป็นวิธีให้เด็กเขาซึมซับได้ดีกว่า และเมื่อทำดีที่สุดแล้ว สุดท้ายไม่เป็นไปตามเป้าหมายต้องยอมรับและไม่เสียดายที่ทำ เพราะความสุขได้เกิดขึ้นระหว่างที่ทำไปแล้ว
เรื่องราวของคุณกอล์ฟ ณรงค์ฤทธิ์ สามารถทำให้เราเห็นว่า…แม้ความฝันเคยสลายไป แต่เมื่อมีโอกาสใหม่เข้ามาก็จงอย่าทิ้งแพสชันไป และทำทุกวินาทีที่ได้รับมาให้ดีที่สุดเสมอ