รายการผจญไทย รายการสนุกๆ ทางช่อง YouTube: King Power Thai Power พลังคนไทย เป็นรายการที่จะพาเหล่าพิธีกรซึ่งเป็นคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยหรือเรียนรู้ภาษาไทย ไปสัมผัสกับวัฒนธรรมและความเป็นไทยผ่านผลิตภัณฑ์สินค้าของไทยนานาชนิด งานฝีมือ ภูมิปัญญาชาวบ้าน อาหาร และวิถีชีวิตความเป็นอยู่
ในรายการนี้มีพิธีกรหลายคนหลายเชื้อชาติ และหนึ่งในพิธีกรที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักนั่นก็คือ โอป้าหน้าใส หนุ่มเกาหลีผู้ที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอ …เจได หรือ จอง ฮยอง ยุน นั่นเอง เจไดอยู่เมืองไทยมา 20 กว่าปีแล้ว นานจนตัวเจไดบอกว่า “ผมรู้สึกว่าประเทศไทยเป็นบ้านตัวเอง”
เจไดเกิดที่เกาหลี แต่อายุ 3 เดือนก็เดินทางมาไทยเลย เขาเติบโต เรียนหนังสือ และมีเพื่อนที่นี่มากมาย เขารักเมืองไทยมาก เมื่อถึงเวลากลับเกาหลี เจไดก็เลือกจะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยอีก “ผมอยู่ที่ประเทศไทยชินกว่า แล้วก็ชอบคนไทยด้วย เพราะคนไทยมีน้ำใจ ดูแลช่วยเหลือ ไม่เอาเปรียบกัน ชอบข้อนี้มากที่สุด ชอบความจริงใจด้วย ผมโตมาที่ประเทศไทย บ้านของผมคือที่นี่ครับ”
ความฝันเปลี่ยนผันตามเวลา
เจไดในช่วงวัยเด็กก็เหมือนเด็กทั่วไปที่เรียนหนังสือ เล่นสนุกกับเพื่อน และชอบเล่นกีฬา “ตอนเด็กๆ ช่วงประมาณ ป.1 – ป.5 ผมอยากเป็นนักกีฬา นักฟุตบอล นักเบสบอล… พอเรียนประมาณอยู่เกรด 2 ผมกลับไปอยู่เกาหลี ที่เกาหลีเขาชอบเล่นเบสบอลกันอยู่แล้ว ผมก็เลยยิ่งอยากเป็นนักกีฬา”
แต่เมื่อโตขึ้นความฝันก็เริ่มเปลี่ยนไป “พอเรียนมาเรื่อยๆ อยู่ๆ ผมกลับอยากเป็นเชฟแทน ตอนแรกที่เข้ามหาวิทยาลัย ผมจะไปเรียนด้านการทำอาหารเลย แต่สุดท้ายก็เลือกมาเรียนด้านมาร์เก็ตติ้งแทน หลังจากนั้นความฝันของผมก็ยังเปลี่ยนไปอีก ผมอยากเป็นดารา เป็นนักแสดง เพราะมันเริ่มจากการเป็น YouTuber แล้วมีคนรู้จักมากขึ้น บวกกับผมเป็นคนที่ชอบทำให้คนมีความสุขหรือดีใจ เวลาที่ตั้งใจทำกับข้าวให้คนอื่นกินหรือทำอยากอื่นให้คนมีความสุข ผมรู้สึกสบายใจ”
โอกาสในการทำงาน
เจไดเริ่มต้นทำงานมาตั้งแต่สมัยเรียนยังเรียนมหาวิทยาลัย ได้รับโอกาสที่ดีในการทำงานที่หลากหลาย จากการชักชวนของรุ่นพี่ที่รู้จัก เพราะเห็นว่าเจไดพูดภาษาไทยได้ดีมาก และคลิปนั้นประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มียอดวิวเป็นล้าน คงมีบางงานที่ทุกคนอาจจะเคยเห็นเขาผ่านตากันบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้วว่าเจไดเคยผ่านงานอะไรมาบ้าง
- เป็น YouTuber ในช่องโอป้าเกาหลี
- เป็นพิธีกรรับเชิญในรายการโทรทัศน์ต่างๆ
- เป็นพิธีกรในสังกัด GMM และเป็นหนึ่งในทีมพิธีกรรายการโตแล้ว ทางช่อง GMM 25
- เป็นนายแบบ ถ่ายโฆษณา และแสดงซีรีส์
- ปัจจุบันเจไดทำงานประจำ เป็นพนักงานออฟฟิศเต็มตัว ของบริษัทอีเวนต์ออร์กาไนเซอร์แห่งหนึ่ง
อีกงานหนึ่งที่เจไดมีโอกาสได้ทำและชอบมากๆ ก็คือ การได้เป็นส่วนหนึ่งของรายการผจญไทย โดยเจไดได้ไปสัมผัสงานจักสานไม้ไผ่ที่จังหวัดชลบุรี จากการถ่ายทำ EP.1 ตอนจักสานไม้ไผ่ของรายการ เจไดได้เรียนรู้เรื่องการจักสานและลงมือทำจริงในทุกขั้นตอน โดยมีแม่ๆ ชาวบ้านเป็นผู้สอนให้ แล้วถัดจากนั้นมาก็ยังได้ร่วมงานทำหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการผจญไทยอีกหลายๆ EP ด้วยกัน
“ตอนแรกที่เห็นก็รู้สึกว่าน่าจะทำง่าย แต่พอได้ลองทำดูจริงๆ มันยากมาก และที่สำคัญที่สุดที่ผมรู้สึกนะครับ คือ คิง เพาเวอร์ ให้โอกาสพวกเขาได้ทำแล้วเอามาขายที่สนามบิน เป็นโอกาสดีๆ ที่ชาวบ้านเขาได้ช่วยกันครับ” ซึ่งประทับใจกับการทำงานที่ต้องลงพื้นที่ไปสัมผัสแหล่งผลิตผลงานฝีมือของชาวบ้านแล้ว เจไดยังประทับใจมากกับการทำรายการผจญไทย Chef from Home ที่มีแม่ของเจไดมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ โชว์ฝีมือการทำอาหารแบบฟิวชันไทยผสมเกาหลี โดยใช้วัตถุดิบหลักเป็นผลิตภัณฑ์ไทย ได้แก่ บางกอกคุกกี้ ซึ่งเขากับคุณแม่นำไปเป็นวัตถุดิบทำข้าวต้มเกาหลีจากขนมข้าวออร์แกนิกของไทย เป็นการผสมผสานที่ลงตัวไม่น้อย
Suggestion
นักเรียนรู้โลกกว้าง
การได้เป็นพิธีกรในรายการผจญไทยนี้ ถือเป็นการเปิดโลกใบใหม่และใบใหญ่ของเจไดให้เปิดกว้างยิ่งขึ้น “ที่ผมได้เรียนรู้มาจากการทำรายการยังไม่ถึง 20% ของงานฝีมือของคนไทยเลย ผมอยากเรียนรู้สิ่งใหม่เรื่อยๆ คงมีอะไรแปลกๆ ที่ผมไม่รู้อยู่อีก ผมอยู่แต่ในกรุงเทพฯ เลยอยากได้ไปดูว่ามีอะไรที่อื่นอยู่อีกบ้าง ได้ทำรายการนี้แล้วผมรู้สึกสนุกมาก ได้ลองสิ่งแปลกใหม่เป็นครั้งแรกหลายอย่าง เช่น อาหาร เวลาไปต่างจังหวัดเราจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเขาหรือจังหวัดเขาด้วย
หลายครั้งยังแปลกใจว่ามีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ จากที่ผมเคยคิดว่าผมกินได้หมดแต่พอเจอบางอย่างกลับไม่กล้ากิน จากคนนิสัยลุยๆ พอไปเจอจริงๆ ผมกลายเป็นคนต่างชาติไปเลย มีความรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา สนุกมากๆ”
จากการได้ดูคลิปหรือรายการที่เจไดเป็นพิธีกร จะสัมผัสได้เลยว่าเจไดเป็นคนที่มีพลังเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ ตื่นตาตื่นใจและสนุกไปกับทุกกิจกรรม งานพิธีกรจึงเป็นงานหนึ่งที่เจไดชอบมาก “ผมชอบเจอคนเยอะๆ ไปอยู่ข้างนอก ไปดูบรรยากาศ เจอความแปลกใหม่ ชอบเรียนรู้ อยากสัมผัสวัฒนธรรม ได้ลองอะไรที่ไม่เคยลองมาก่อน ผมเลยอยากเป็นพิธีกรที่จะเล่าให้คนฟังในสิ่งที่ผมได้รู้ด้วย อยากแชร์ไอเดีย”
“ถ้าชอบก็ทำไปเลยดีกว่า ไม่ต้องกังวลว่าคนรอบข้างจะคิดอย่างไร ถ้ามีความสุขก็ทำไปเลย
เป็นตัวเองในแบบของตัวเอง ไม่มีใครว่าหรอก”
จอง ฮยอง ยุน พิธีกรรายการผจญไทย
อีกมุมหนึ่งของเจได
เจไดบอกว่าเขาไม่ค่อยมีปัญหานักสำหรับการใช้ชีวิตในประเทศไทยเหมือนชาวต่างชาติคนอื่น เป็นเพราะว่าอยู่มานานและเข้าใจภาษาไทยกว่า 95% ปัญหาเดียวที่เขากังวลอยู่เสมอคือ เรื่องวีซ่า และ Work Permit นอกจากนั้นตอนนี้เจไดยังได้รับบทบาทใหม่ คือการทำงานประจำเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่เจไดรู้สึกว่ามันยังไม่ค่อยเป็นตัวเขานัก แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ได้เรียนรู้
“การทำงานออฟฟิศถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ผมเริ่มจากศูนย์เลย ไม่มีประสบการณ์มาก่อน กดดันตัวเองด้วย ตอนแรกที่มาทำงานก็เครียดครับ นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ไม่รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ คนทั่วไปมักจะคิดว่าทำงานบริษัทเดี๋ยวก็ขึ้นไปเป็นหัวหน้า เก็บประสบการณ์ไปดีกว่า แต่ผมอยากทำงานล้างจานแบบมีความสุขมากกว่าทำงานที่ออฟฟิศ ผมไม่ชอบอยู่นิ่งๆ ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มันอึดอัด ผมชอบออกไปข้างนอน อยู่ outdoor มากกว่า แต่ผมก็คิดว่าตอนอายุสัก 30 ผมอยากลองทุกอย่าง ทำไปก่อน ถ้าไม่ได้ก็มีทางออกอยู่แล้ว แต่พอทำงานได้รู้จักคน ได้ connection ผมก็รู้สึกดีขึ้น”
ร่มมีหลายแบบ
เจไดมีประสบการณ์การทำงานมาหลากหลายอย่าง พบปะผู้คนมากมาย มีเด็กๆ หลายคนที่มองเขาเป็นไอดอล อยากทำงานอยากเป็นอย่างเขา เจไดจึงมีคำแนะนำดีๆ มาฝากด้วย
“ไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานอย่างเดียวนะ แต่เป็นทุกเรื่องเลย ถ้าชอบก็ลองดูทุกอย่าง บางคนอาจจะลองหลายรอบแล้วทำไม่ได้ แต่ถ้ายังไม่ได้ลองทำ อย่ายอมแพ้ หรือสุดท้ายแล้วมันไม่ได้จริงๆ ก็ยังมีทางอื่นๆ อีกหลายทาง ผมว่าอย่าท้อแท้หรือเสียใจที่เราทำไม่ได้ สิ่งไหนที่อยากทำก็ทำไปเลย ไม่อยากให้ยอมแพ้ตั้งแต่แรก อย่างเช่นเอาแค่ในวงการนี้ ก็ยังมีทั้งนักแสดง พิธีกร นักร้อง มีนักจัดอีเวนต์ มีหลากหลายด้าน ซึ่งก็ให้ลองหลายๆ อย่างก่อน เรียกว่ามีร่มหลายแบบครับ อยากให้ทุกคนสู้ๆ”
ฝันทำ(ร้าน)อาหาร เปิดตำนานบทใหม่ของชีวิต
ถึงแม้จะมีโอกาสทำงานมาหลายอย่างแล้ว แต่ก็มีอยู่อีกหนึ่งอย่างที่เจไดอยากทำและมีแผนที่จะทำอย่างจริงจังในอนาคต “ผมมีแผนจะเปิดร้านอาหารที่เมืองไทยอยู่แล้ว เป็นร้านอาหารเกาหลีที่ประเทศไทยครับ” ซึ่งน่าจะถือเป็นบทพิสูจน์อีกอย่างหนึ่งในอนาคตที่เจไดจะได้สัมผัส และร้านอาหารในแบบที่เจไดฝันไว้นั้น ตัวเขามีภาพอยู่ในหัวชัดเจน “ผมอยากให้ร้านของผมเป็นแบบเจ้าของร้านเป็นคนที่เฟรนด์ลี่ คนกินไม่ต้องมากับเพื่อนก็ได้ มาดื่มมาปาร์ตี้กับเจ้าของร้านก็ได้ มาแล้วมีความสบายใจ คุยกันได้ เป็นเพื่อนกันได้”
เจไดเป็นคนที่ร่าเริงและยิ้มอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ได้ดูคลิปหรือรายการที่เจไดเป็นพิธีกร เราจะรับรู้ได้ถึงความสนุกสนานของตัวเขา ดูแล้วเราก็จะยิ้มไปด้วย และได้รับพลังงานที่เขาส่งถึงทุกคนตลอดเวลา ตอนนี้เจไดวางแผนใกล้ๆ ไว้ว่าอยากจะทำงานพาร์ตไทม์หรือเป็นฟรีแลนซ์ ทำงานเป็นพิธีกร ถ่ายโฆษณา แล้วค่อยๆ ก้าวต่อไปอีกทีละน้อย ค้นหาความฝัน เพื่อที่จะเดินไปทางนั้นอย่างมั่นคง
ติดตามผลงานการเป็นพิธีกรของเจไดได้ใน YouTube: King Power Thai Power พลังคนไทย
หรือใน Instagram: Jedai _yoon
