Passion

ณัฐวัศห์ เดยะดี
เยาวชนผู้ก้าวเดินบนทางที่เลือกเอง

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว 11 May 2023
Views: 622

จากที่ครั้งหนึ่ง โจ้ – ณัฐวัศห์ เดยะดี เคยเป็นนักเรียนในห้องเรียนออนไลน์ของรายการบุกสนาม Kick from Home ทางช่องยูทูบ King Power Thai Power พลังคนไทยของ “คุณครูพี่ก็อปปี้” จักรกฤษณ์ วิเศษรัตน์ นักฟุตบอลจากสโมสรฟุตบอลนรา ยูไนเต็ด และ FOX HUNT รุ่นที่ 1 เขาก็ได้เรียนรู้เรื่องเทคนิคการเดาะบอลแบบมืออาชีพไปแล้ว

เขาบอกเล่าความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในรายการดังกล่าวเอาไว้ว่าเขานำเคล็ดลับจากการฝึกเล็กๆ น้อยๆ จากรายการไปใช้ประโยชน์ได้จริง “ผมได้ความรู้เรื่องเทคนิคกับการฝึกทักษะในการเดาะบอลเพิ่มมากขึ้น และได้เอาไปลองซ้อมดูด้วยครับ ผมไม่เคยถ่ายรายการอะไรแบบนี้เลย นั่นเป็นครั้งแรกเลยรู้สึกตื่นเต้น”

เราขอพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของความเป็นไปได้เรื่องหนึ่ง ที่ถูกบอกเล่าผ่านโอกาสที่โรงเรียนอุดรพิทยานุกูลซึ่งได้รับคัดเลือกจากโครงการ 100 สนามฟุตบอลสร้างพลังเยาวชนไทย ประจำปี 2564 โดยมี โจ้ – ณัฐวัศห์ เป็นนักกีฬาคนหนึ่งในหลายๆ คนที่เป็นตัวแทนสำหรับ “ความเชื่อและพลังแห่งความเป็นไปได้”

“ในส่วนของโรงเรียนมีความประทับใจเป็นอย่างยิ่งที่มีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมที่ได้มาตรฐานใช้สำหรับบริการบุคลากรในโรงเรียนนักเรียนและชุมชนที่มาขอใช้บริการครับ” คุณครูสมจิตร ภูษา โค้ชทีมฟุตบอลเป็นผู้เล่าให้ฟัง “ส่วนพัฒนาการของนักกีฬาฟุตบอลที่เกิดจากการใช้สนามฟุตบอลที่ได้รับจาก คิง เพาเวอร์ ทำให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกซ้อมในสนามกีฬาแห่งนี้ จนทำให้มีทักษะการเล่นฟุตบอลที่ดีขึ้นตามลำดับครับ”

เด็กชายโจ้เริ่มเล่นฟุตบอลจากการที่เพื่อนชวนไปเตะฟุตบอลเมื่อตอน 9 ขวบ เขาเริ่มชอบเพราะสนุกที่ได้เล่นบอลกับเพื่อน มาถึงวันหนึ่งฟุตบอลกลายมาเป็นความสนใจ ความรัก และความมุ่งมั่นในการเป็นนักฟุตบอลในวันนี้ของเขา ตอนนี้โจ้อยู่ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และยังเป็นกัปตันทีมฟุตบอล รุ่น 14 ปี ของโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ซึ่งเคยได้รับคัดเลือกเป็น 1 ในโครงการ “100 สนามฟุตบอล” สร้างพลังเยาวชนไทย ประจำปี 2564 รวมทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายคนอาจคุ้นชื่อจากวงดนตรีโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ที่มาร่วมแข่งขันเวที THE POWER BAND ที่ผ่านมาในระดับมัธยม และเป็น 1 ใน 15 วงที่ผ่านเข้ารอบ Final ด้วย

โจ้ในวัย 14 ปี แม้เขาจะยังมองอนาคตของตัวเองไม่ชัดเจนนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ในวันนี้คือ เขามีใจรักและมุ่งมั่นในการเล่นฟุตบอลไม่น้อย โจ้เจอความชอบของตัวเองตั้งแต่เด็ก และพยายามที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อปูทางไปสู่เส้นทางที่เขาฝันไว้ นั่นคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

เราเลยมาจับเข่าคุยกับโจ้ถึงความรักและความสนใจในกีฬาฟุตบอลของเขา คุยถึงอนาคตที่เขาใฝ่ฝัน รวมถึงสิ่งที่เขากำลังพยายามทำเพื่อไปให้ถึงความฝันนั้นด้วย พร้อมกันกับ คุณครูสมจิตร ภูษา โค้ชทีมฟุตบอลของโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ที่ดูแลและฝึกสอนโจ้มาตั้งแต่เขาเข้าทีมฟุตบอลของโรงเรียน

เริ่มต้นด้วยตัวเอง

หลังจากที่ได้รู้จักและเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ตอน ป.5 โจ้เริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขานั้นชอบฟุตบอลและอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เมื่อเพื่อนชวนไปเข้า Academy โจ้จึงไม่ลังเลและเริ่มฝึกซ้อมจริงจัง จนได้เข้าร่วมทีมของโรงเรียนอนุบาลอุดรธานีเป็นทีมแรก เมื่อโจ้มาเรียนต่อ ม.1 ที่โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จึงสมัครเข้าร่วมทีมฟุตบอลของโรงเรียนอีกครั้ง ครูสมจิตร เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของทีมฟุตบอลของโรงเรียนและเหตุผลที่เลือกโจ้เข้าร่วมทีมให้ฟัง

“โรงเรียนอุดรพิทยานุกูลเป็นโรงเรียนที่ส่งเสริมความเป็นเลิศด้านวิชาการ แล้วมีกีฬาเป็นทางเลือกของนักเรียน โรงเรียนเราจะมีโควตาสำหรับนักกีฬาปีการศึกษาละ 3-4 คน ซึ่งไม่ครบทีมสำหรับกีฬาฟุตบอล ครูจึงประกาศให้นักเรียนทั่วไปที่สนใจฟุตบอลมาเข้าร่วมทีมด้วย ซึ่งโจ้ก็มาสมัครเอง พอได้ลองซ้อมดูผมก็เห็นแวว เห็นฝีไม้ลายมือว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่มีทักษะและเทคนิคพื้นฐาน โจ้เป็นผู้เล่นที่มีความโดดเด่นก็เลยให้ไปเล่นสนับสนุนในเกมรุก เขาก็มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา มีความรับผิดชอบสูง ได้รับความไว้วางใจจากผู้ฝึกสอนและเพื่อนร่วมทีม”

ตอนแรกโจ้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งกองกลาง แต่เขารับบทบาทเป็นกองหน้ามาก่อน “โจ้เป็นคนที่รับส่งบอลได้ดี ตอนแรกผมให้เขาไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แต่มันจะไปถูกแรงปะทะจากกองหลัง โจ้เป็นผู้เล่นที่มีรูปร่างค่อนข้างเล็ก เลยทำให้เอาฟอร์มการเล่นตรงนั้นออกมาใช้ไม่ได้ ผมเลยวางแผนให้เขาลดลงมาหนึ่งตำแหน่ง ไปช่วยสนับสนุนเกมรุก เป็นกองกลางตัวรุก” ซึ่งโจ้ก็ชอบและเหมาะกับหน้าที่นี้มาก “ผมชอบตำแหน่งนี้เพราะเป็นตัวทำเกม เป็นตำแหน่งที่คอยจ่ายบอลให้เพื่อน” โจ้บอกเราอย่างนั้น

“ผมไม่รู้ว่าในอนาคตจะได้เป็นนักฟุตบอลหรือเปล่า แต่ก็จะทำวันนี้ให้เต็มที่ก่อน

ตั้งแต่เล่นฟุตบอลมา ไม่เคยเหนื่อยหรือท้อเลย

ผมคิดว่ามันคือความท้าทายมากกว่า เวลาที่เราท้อหรือเจออุปสรรค

โจ้ – ณัฐวัศห์ เดยะดี
กัปตันทีมฟุตบอล รุ่น 14 ปี โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล อุดรธานี

 

พัฒนาตัวเองในทุกวัน

ตอนนี้โจ้ยังคงซ้อมและลงแข่งฟุตบอลเพื่อเก็บประสบการณ์ พัฒนาและเติมเต็มในสิ่งที่ขาดภายใต้การดูแลฝึกฝนอย่างใกล้ชิดของโค้ช แต่ก็ยังมีปัญหาที่ตัวเขาจะต้องแก้ไขอยู่บ้าง เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในอนาคต

“ปัญหาของผมตอนนี้คือ ยังไม่ค่อยกล้าเล่นเท่าไร อาจจะเพราะว่ากดดัน กลัวเพื่อนร่วมทีมว่า เวลาแข่งบางครั้งก็รู้สึกกดดัน ไม่มั่นใจ เพราะยังขาดประสบการณ์อยู่ เวลาที่ไม่มั่นใจผมก็จะปรึกษาพ่อแม่ ฟังคำสั่งสอนของโค้ชและพยายามแก้ไขตรงนั้น” คุณครูเสริมอีกว่า “เขายังขาดความมั่นใจในการเล่นอยู่ อีกอย่างคือเรื่องของความเร็วและเรื่องของความแข็งแรง เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้แรงปะทะ ถ้าอยู่ในสนามความแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องเสริมเรื่องนี้เข้าไป เรื่องความเร็ว ความคล่องตัว ก็อยากให้เขาฟิตให้มากขึ้น เพื่อเสริมเรื่องความแข็งแรงของร่างกาย”

นอกจากการเป็นนักฟุตบอลแล้ว เรื่องการเรียนโจ้ก็ยังคงต้องรับผิดชอบและเน้นเรื่องการเรียนควบคู่กันไปด้วย “เวลาที่ต้องไปแข่งฟุตบอลก็จะขออนุญาตครูก่อนครับ แล้วก็ต้องกลับมาตามงาน ตามสอบทีหลัง แต่เพื่อนๆ ก็ช่วยในเรื่องการเรียนด้วย ส่วนการซ้อมฟุตบอลก็ใช้เวลาหลังเลิกเรียน แล้วก็มีไปซ้อมเสริมที่บ้านบ้าง”

มุ่งหน้าสู่อนาคต ด้วยโอกาสดีที่มี

ตอนนี้เจ้าตัวกำลังจะขึ้น ม. 3 แล้ว แม้ตอนนี้เขาจะยังไม่ได้มีแผนอะไรจริงจัง เพราะยังคงเน้นเรื่องการเรียนก่อน แต่ว่าโจ้ก็มีความฝันและมีเป้าหมายของการเล่นฟุตบอลไว้ คือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพหรือติดทีมชาติไทย และฝันไกลถึงการไปเล่นที่ต่างประเทศด้วย “ผมอยากไปอยู่ทีมบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นทีมโปรด ผมชอบเมสซี่ เพราะว่าเขาเอาตัวรอดได้ดีในพื้นที่แคบ เขาสร้างสรรค์เกมได้ดี และยิงประตูได้ด้วย ผมอยากเป็นแบบนั้น แต่ถ้าไม่ได้เป็นนักฟุตบอล ผมก็น่าจะเรียนด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา” สิ่งที่เด็กชายตอบ…ยังคงเป็นความรักและมั่นคงอยู่บนเส้นทางสายนักกีฬาอยู่ดี

คุณครูเสริมถึงอนาคตของเด็กที่มีใจรักกีฬาอย่างโจ้ว่า “เด็กที่นี่พอจบ ม.3 ผมก็จะส่งไปคัดตัวที่กรุงเทพฯ และที่สโมสรหลายๆ ที่ ไปเมืองทองบ้าง BG บ้าง ท่าเรือบ้าง ให้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ส่วนใครที่ไม่อยากไปหรือผู้ปกครองไม่สนับสนุนให้ไปเรียนที่กรุงเทพฯ ก็ให้ฝึกต่ออยู่ที่โรงเรียน พอจบ ม. 6 นักกีฬาของที่นี่จะมีเกียรติบัตรให้เพื่อเป็น Portfolio ให้สมัครเข้าเรียนโควตานักกีฬาของมหาวิทยาลัยได้ นี่คือเป้าหมายของการทำทีมของเรา

ถ้าเด็กคนไหนเก่งเราก็ไม่ได้หวงว่าต้องอยู่กับเรา ถ้าเด็กสนใจที่จะเข้าสโมสร เราก็จะส่งเสริมและมองหาโอกาสที่ดีให้กับนักเรียนที่มีศักยภาพ เราไม่ได้เน้นความเป็นเลิศของทีม แต่เราเน้นความเป็นเลิศของตัวบุคคลมากกว่า ถ้าใครที่เรามองว่าไปต่อได้ก็ส่งเสริมเขา”

นอกจากนั้นยังอยู่ที่ตัวของโจ้เองด้วย ถ้าเขามุ่งมั่นและพร้อมที่จะเดินบนเส้นทางสายนักกีฬา ครูและโรงเรียนก็จะส่งเสริมอย่างเต็มที่ รวมถึงทางบ้านและครอบครัวของโจ้ด้วย

“ทางบ้านก็สนับสนุนการเล่นกีฬาอย่างเต็มที่ พอผมบอกที่บ้านว่าผมอยากเป็นนักกีฬา เขาก็สนับสนุนทุกอย่าง เพราะในครอบครัวยังไม่มีใครเป็นนักกีฬาเลย” นี่เป็นโอกาสที่จะเกิดขึ้น หากโจ้เลือกที่จะเดินไปให้สุดทางสายนักฟุตบอลในอนาคต เพราะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งจากทั้งทางบ้านและทางโรงเรียน

 

มากกว่าความสนุกคือความสุขที่ได้ทำเต็มที่

โจ้ยังอยู่ในวันและวัยแห่งการทดลอง สนุกสนาน มีความฝัน และพัฒนาตัวเองอยู่ในทุกๆ วัน เขาบอกว่าความสุขในการเล่นฟุตบอลของเขาก็คือ “การได้เล่นกับเพื่อน ได้เล่น ได้สนุก และได้ทำให้เต็มที่”

“ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมต้องค่อยๆ คิดไป แต่ก็ยังไม่หนีจากฟุตบอลไปไหน ถ้าผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพก็จะทำอาชีพอื่น และเล่นฟุตบอลเป็นงานเสริม จริงๆ ผมตั้งใจจะเล่นฟุตบอลเป็นหลักก่อน อยากไปทางนี้ให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้ เพราะเวลาที่เล่นฟุตบอลก็รู้สึกสนุกและรักกีฬาฟุตบอลครับ”

เราเชื่อว่าหากยังมีความรัก ความมุ่งมั่น และทำอย่างเต็มที่แบบนี้ ต่อไปเส้นทางนักฟุตบอลของโจ้ต้องมีอนาคตที่สดใสรออยู่อย่างแน่นอน

ใช่แล้ว! โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล คือโรงเรียนที่มีวงมาประกวดดนตรี THE POWER BAND 2022 และสมาชิกของวงได้รับคัดเลือกร่วมแสดงกับวงบอดี้สแลมใน “Bodyslam พูดในใจ The B Side Concert”

ย้อนกลับไปดูความเก่งด้านดนตรีของเด็กอุดรพิทฯ ได้ที่ The Power Band 2022 Dream it Do it Ep.6

Author

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว

Author

นักเล่าเรื่อง ผู้มีหนังสือและการเดินทางเป็นดั่งลมหายใจ นิยมชมชอบท้องฟ้า กาแฟ และแมว