Summary
กิก – ดนัย จารุจินดา นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว ยังเป็นนักกีฬาทั้งตัวและหัวใจ เคยฝันอยากเป็นนักบอล…ชอบฟุตบอล ขนาดอยากเปิดอะคาเดมี่!! กิกสร้างทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวเอง ด้วยความรัก ความสุข ความฝัน ความชอบ และ passion ลงมือทำจนมัน ‘เป็นไปได้’ นั่นจึงเป็นที่มาของความสุขและความสำเร็จของเขาในวันนี้
ดูเหมือนหนุ่มคนนี้จะเป็นตัวอย่างของการมีความตั้งใจและการเรียนรู้…นำไปสู่ ‘ความเป็นไปได้’ อย่างแท้จริง มีผลงานการแสดงอยู่อย่างสม่ำเสมอ…หากจะล่าชื่อละครที่เขาร่วมแสดงจะได้อยู่ร่วมครึ่งร้อย ล่าสุดเห็นบท “พ่อของพุดตาน” ในละครพรหมลิขิตเพิ่งผ่านตาไปหมาดๆ
“โครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ส่งมอบสนามลำดับที่ 89 ไปกันที่โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ เกาะลิบง จังหวัดตรัง มีการจัดกิจกรรมสนุกๆ อย่างการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับทีมนักเรียน ผู้คนในชุมชน และบุคคลในพื้นที่เหมือนทุกครั้ง คลิกอ่านเรื่องสนามปลูกฝันได้ที่นี่
ครั้งนี้ กิก – ดนัย จารุจินดา ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้ครั้งแรกในนามทีมก้าวคนละก้าว เขาเล่าถึงความรู้สึกของตัวเองว่าทั้งสนุกและดีต่อใจ และอาจฟื้นฝันของหนุ่มผู้เริ่มเล่นบอลตั้งแต่เด็กน้อยก็เป็นได้ “วันที่ไปทำกิจกรรมคนมาต้อนรับกันเต็มที่ ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ ที่นั่นก็รู้สึกอิ่มใจ มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข” เขาถึงกับกำชับทีมงานว่า ถ้ามีครั้งหน้าอย่าลืมชวนเขาด้วยนะ และเสียดายที่รู้จักกิจกรรมดีๆ แบบนี้ช้าไป สงสัยว่าจะติดใจเข้าจริงๆ แล้วล่ะ
จากการพูดคุยเราจึงได้รู้ว่าคุณกิกเป็นคนที่รักกีฬาฟุตบอลมาก ทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้ชม เพราะเขานั้นเป็นนักกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ถึงขั้นเคยมีความฝันว่าอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอลเลยทีเดียว
“หากจะพูดคำว่า ‘เดี๋ยว’ ให้เติมคำว่า ‘นี้’ ตามหลังเสมอ”
กิก – ดนัย จารุจินดา
นักแสดง
ความถนัดเดียวคือฟุตบอล
กิกเริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่ 5 ขวบ เพราะพ่อของเขาทำทีมฟุตบอล โดยมีลูกชายทั้งสองพี่น้องเป็นตัวตั้ง รวมตัวเด็กในหมู่บ้านและเด็กวัดละแวกบ้าน เพราะพ่ออยากให้เด็กๆ มีกิจกรรมทำจะได้ห่างไกลยาเสพติด “ตอนเด็กๆ ผมไม่ค่อยได้ไปไหนเลยนอกจากสนามฟุตบอล เพราะคุณพ่อค่อนข้างจริงจัง พ่อจะส่งแข่ง หลักๆ ก็เป็นงานวันเด็กที่แข่งกันตามศูนย์เยาวชน ตามสนามศุภชลาศัย”
หลังจากนั้นเขาก็เล่นฟุตบอลอย่างจริงจังและลงแข่งมาตลอด ในนามทีมโรงเรียนวัดสุทธิวราราม นักกีฬาฟุตบอลของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัน จนกระทั่งเข้าวงการบันเทิง กีฬาฟุตบอลจึงได้ลดบทบาทลง “พอเข้าวงการความจริงจังเรื่องฟุตบอลก็ลดน้อยลง กลายเป็นเตะในงานต่างๆ เพื่อความสนุกสนาน เตะเพื่อเป็นการออกกำลังกายมากกว่า”
ถึงแม้ว่าคุณกิกจะไม่ได้เป็นนักกีฬาตามเส้นทางที่เดินมาตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็เป็นแฟนกีฬาในฐานะของผู้ชม “ชอบดูฟุตบอล มวย ตะกร้อ ดูการแข่งขันกีฬาหลักๆ อย่างซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ เชียร์กีฬาที่ไทยเราเป็นเจ้าเหรียญทอง ตอนนี้ที่นิยมก็วอลเลย์บอล ดูแทบทุกทัวร์นาเมนต์เลย ศักยภาพของทีมชาติไทยเราก็ทัดเทียมกับต่างชาติ ลุ้นสนุก ส่วนทีมฟุตบอลผมเชียร์แมนยูฯ ชอบอีริค คันโตน่า กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เพราะว่าเจ้าของสโมสรเป็นคนไทย”
3 สิ่งในชีวิต
ที่กิกให้ความสำคัญ
• ครอบครัว ทำให้เราได้สัมผัสความสุขเล็กๆ น้อยๆ
เป็นความสุขในทุกวัน สุขเล็กๆ แต่สุขบ่อยๆ
• สุขภาพ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์
ตั้งเป้าว่าต้องมีสุขภาพที่ดี
• ไลฟ์สไตล์ ผมชอบท่องเที่ยวเกี่ยวกับธรรมชาติ
ชอบไปภูเขา ทะเล ไปแคมปิง
ทุกอย่างในชีวิตเกิดจากความชอบและ Passion
เขาบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเขานั้นมาจากความชอบและ passion ของตัวเองเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาชีพนักแสดง ที่ตอนแรกเขายังไม่ได้รักในการแสดงนัก อาจเป็นเพราะเขายังไม่เข้าใจศาสตร์การแสดงดีพอ แต่เมื่อได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของการแสดง เขาก็พบว่าเขาอยากทำให้ดี
“ตอนแรกที่เข้าวงการก็ยังไม่ได้ชอบสักเท่าไร มีพี่ไปเห็นผมที่สนามฟุตบอล ก็ชวนให้ลองมาทำงานตรงนี้ดู ซึ่งผมก็สงสัยว่าตัวเองจะอยู่ในวงการได้หรือ เพราะผมไม่เคยทำงานตรงนี้ ค่อนข้างขี้อาย ไม่ค่อยมั่นใจ แต่พอเล่นไปเล่นมาก็เหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวเอง อยากทำให้ได้ จนรู้สึกว่ามันสนุก ท้าทาย เลยเปลี่ยนมาเป็นความชอบในเรื่องการแสดง”
ส่วนการทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น Shin Kai Sushi & Sashimi Bar ที่เปิดมาได้ 10 ปีแล้ว ก็เกิดจากความชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นของเขา รวมถึงธุรกิจอีกอย่างของเขาคือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพผมอย่าง BIONOX ก็เกิดจากความชอบในด้านธุรกิจ เพราะเขาเรียนมาทางด้านบริการธุรกิจโดยตรง
“ผมเรียนมาทางด้านบริหารธุรกิจและเป็นคนที่ให้ความสำคัญด้านระบบการเงิน เงินออม เงินลงทุน เรารู้ว่าหน้าที่การงานของเรามันอาจไม่ได้มั่นคงเท่าไร เลยคิดว่าต้องมีอาชีพที่สอง คือ การทำธุรกิจ ผมว่าถ้าผมไม่ได้เป็นนักแสดงก็น่าจะเป็นนักธุรกิจ ตอนนั้นผมมีคำตอบในใจอย่างเดียวว่า ไม่อยากทำงานประจำ ผมชอบอิสระ คิดว่าไปค้าขายดีกว่า”
Suggestion
บทบาทใหม่ที่ได้รับ
บทบาทใหม่ที่ตัวเขาได้รับ ไม่ใช่บทบาทในละครเรื่องใด แต่เป็นบทในละครชีวิตของเขาเอง นั่นคือบทบาทพ่อ ของลูกชายตัวน้อยวัยใกล้ 4 ขวบ ซึ่งบทบาทใหม่นี้เปลี่ยนชีวิตและความคิดเขาไปไม่น้อย “ผมไม่คิดเลยว่าการมีลูกจะเปลี่ยนเราได้ขนาดนี้ อย่างแรกเลยคือ การให้ความสำคัญกับครอบครัว ไม่ใช่ให้ความสำคัญกับลูกเราคนเดียว มันกลายเป็นว่าเราให้ความสำคัญกับครอบครัวใหญ่ พ่อแม่น้องชายหรือหลาน แต่ก่อนเราจะมีกิจกรรมของตัวเอง ไม่ว่าจะเรื่องกีฬา เรื่องท่องเที่ยวเราก็จะไปกับเพื่อน งานสังคม ปาร์ตี้ แย่งเวลาเราไปหมด แต่ตอนนี้กลายเป็นให้ความสำคัญกับครอบครัว จัดสรรเวลาได้ดีขึ้น แบ่งเวลาเป็น โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”
ทุกสิ่ง ‘เป็นไปได้’ ถ้าตั้งใจเรียนรู้
ณ วันนี้ นอกจากงานในวงการบันเทิงและธุรกิจที่ทำอยู่ คุณกิกเองยังมีอาชีพใหม่เพิ่มขึ้นมานั่นคือ งานทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในอดีตเคยมีหมอดูทักเขาว่า เขาจะเติบโตและไปได้ดีในงานสายนี้ เขาเองก็แปลกใจ แต่วันนี้มันเกิดขึ้นจริงแล้ว “คุณพ่อพยายามที่จะผลักดันผมในการที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ตอนนั้นผมก็คิดว่า ผมจะไปทำได้อย่างไร ผมไม่มีความรู้ แล้วก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับทางด้านนั้นเลย แถมตารางงานก็แน่นมากแล้ว”
“แต่เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเอง วันหนึ่งพ่อมาคุยกับผมว่าไม่ค่อยสบายใจ เขามีที่ดินอยู่ อยากให้ลูกเห็นคุณค่าและดูแลแทนเขาหน่อย เพราะเขาก็แก่แล้ว มันก็เป็นอย่างหนึ่งที่ผมอยากทำให้พ่อสบายใจ ผมเคยมองว่ามันเป็นเรื่องยากเพราะผมไม่มีความรู้ แต่ก็รู้สึกว่าลองดูสักตั้ง ผมมาเปิด YouTube ศึกษาดู ฟังอาจารย์พูดเรื่องอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ พอดูไปเรื่อยๆ มันก็เกิดความรู้ จนรู้สึกว่าเราก็ทำได้ ผมว่า ผมมีนิสัยที่ชอบเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา” นี่เองคือสิ่งที่เขาเคยมองว่า ‘ไม่น่าจะเป็นไปได้’ แต่ว่ามันก็ ‘ เป็นไปได้’ ด้วยการลงมือทำของเขาเอง
เป้าหมายใหม่ในชีวิต
ในอนาคตเขาก็ยังมีสิ่งที่อยากทำ เป็นความฝันเล็กๆ แน่นอนว่ายังคงเกี่ยวข้องกับฟุตบอล กีฬาที่เขารัก “ตอนนี้สิ่งที่ผมอยากจะทำจริงๆ ก็เป็นเรื่องของฟุตบอล อยากทำ Academy เป็นของตัวเอง ด้วยว่าผมมีลูกชาย ผมอยากให้เขาสัมผัสกีฬาฟุตบอล เพราะผมมองว่าฟุตบอลมันไม่ได้ให้แค่ทักษะหรือสุขภาพอย่างเดียว แต่มันเป็นประโยชน์ในด้านสังคม การเป็นทีมเวิร์ก การเล่นกีฬาเป็นทีมผมว่ามันได้อะไรมากกว่าความเป็นนักกีฬา ก็เลยอยากทำทีมฟุตบอลเหมือนคุณพ่อ ในหมู่บ้านผมก็มีเด็กมาเตะฟุตบอลกันอยู่แล้ว บางทีถ้าเราพร้อมก็อาจจะขอไปดูแลเด็กๆ ทำให้จริงจังขึ้น ไปส่งแข่ง เป็นสปอนเซอร์ นี่คือสิ่งที่อยากทำให้ได้”
จากการได้คุยกับคุณกิก ทำให้เรารับรู้ได้ถึงพลังแห่งความตั้งใจและความคิดบวกของเขา หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาก็เกิดจากความพยายาม เรียนรู้ และลงมือทำ นั่นจึงเป็นที่มาของความสุขและความสำเร็จของเขาในวันนี้
คลิปของโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ส่งมอบสนามลำดับที่ 89 ไปกันที่โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ เกาะลิบง จังหวัดตรัง