หากย้อนกลับไปยุค 90 คงไม่มีใครไม่รู้จักละครเรื่องน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ที่ดังเป็นพลุแตก แม็กกี้ – ณัฏฐ์กีรติ หทัยพงศคุณ ก็เป็นหนึ่งในนักแสดงหลักก็เข้ามาเฉิดฉายอยู่ในวงการตั้งแต่นั้นมา แม้ปัจจุบันเราอาจไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตาผ่านผลงานการแสดงเหมือนในอดีต แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณแม็กกี้กำลังตั้งใจทำ ทั้งธุรกิจส่วนตัว และการผันตัวมาทำงานในฐานะพิธีกรด้วย
นอกจากงานในวงการบันเทิงและธุรกิจแล้ว คุณแม็กกี้ยังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก้าวคนละก้าว ไปร่วมดวลแข้งเปิดสนามหญ้าเทียมสีน้ำเงินในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ล่าสุดที่โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ตรงกับเส้นทางการใช้ชีวิตของตัวเขา ทั้งความรักในด้านการเล่นกีฬา และแพสชันในการทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น
“ถ้าคุณเป็นตัวสำรองนั่งอยู่ข้างสนามตลอดระยะเวลา 10 ปี แล้ววันหนึ่งโค้ชบอกว่า
ลงเล่นเลย…พิสูจน์ให้ดูหน่อย วันนั้นต้องเป็นวันที่คุณทำได้ดีที่สุด ชีวิตมันอาจจะพลิกก็ได้”
‘แม็กกี้ ณัฏฐ์กีรติ’ ทีมก้าวคนละก้าว
พูดถึงการทำในสิ่งที่รัก
กีฬาคือยาวิเศษ
“เราเริ่มจากการเป็นคนรักกีฬา ตอนเด็กๆ เราก็เล่นเกมเหมือนกัน แต่พอเราเอาตัวเองออกมาเล่นกีฬา มันก็สร้างไหวพริบปฏิภาณให้เรา” กีฬาแรกๆ ที่คุณแม็กกี้เริ่มเล่นคือ บาสเกตบอล จากนั้นจึงพัฒนามาเล่นกีฬาอื่น อย่างการวิ่งออกกำลังกาย จนกระทั่งมาเล่นฟุตบอล ซึ่งความตั้งใจทั้งมวลของการเล่นกีฬานั้นก็คือการสร้างร่างกายให้แข็งแรง
นอกจากนี้ในความรักด้านกีฬาและการช่วยเหลือผู้อื่นของคุณแม็กกี้ ยังได้เข้ามาช่วยเป็นหนึ่งในดารา นักแสดงในโครงการก้าวคนละก้าว ร่วมกับ “ตูน บอดี้สแลม” และได้ร่วมเดินทางไปเปิดสนามหญ้าสีน้ำเงินที่โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม จังหวัดเชียงราย ด้วยเช่นกัน
“ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นเด็กมาก่อน เลยรู้ว่าถ้ามีผู้ใหญ่เล็งเห็นเยาวชนและความสามารถที่หลบซ่อนอยู่หรือเห็นช้างเผือกที่เขาอยากมี อยากเล่น แต่ไม่มีโค้ชหรืออุปกรณ์ดีๆ ให้ฝึก มันก็เหมือนขาดอะไรบางอย่าง เราเชื่อว่าถ้ามีสนามดีๆ ผู้ฝึกสอน อุปกรณ์ดีๆ อย่างไรเมืองไทยก็ต้องมีช้างเผือก จะไปเล่นในต่างประเทศหรือระดับโลกก็ได้”
การไปเล่น “เปิดสนาม” ในครั้งนั้น ทีมก้าวคนละก้าวสามารถเอาชนะทีมนักเรียนของโรงเรียนไปได้แบบเฉียดฉิวด้วยคะแนน 9 ต่อ 8 ซึ่งทุกคนในทีมก็มีความหวังว่า เด็กนักเรียนจะได้มีสนามหญ้าที่มีคุณภาพในการฝึกซ้อม หรืออย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กได้มีสถานที่เล่นกีฬาดีๆ เพื่อสร้างร่างกายที่แข็งแรงได้
“เชื่อเหลือเกินว่าอย่างน้อยเขาจะต้องมีฝีมือ เก่งในระดับหนึ่ง แล้วก็จะส่งต่อไปทีมจังหวัด ไปเป็นทีมสโมสร ถูกส่งไปถึงทีมชาติ หรือแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นอะไรเลย เขาก็จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์”
ถอดแนวคิดการใช้ชีวิตตามแบบ “แม็กกี้ ณัฏฐ์กีรติ”
● ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า งานหรือประสบการณ์เป็นเครื่องช่วยให้เราเห็นโลกในมุมที่กว้างขึ้น
● มีแรงใจและมองโลกในแง่ดีเสมอ
● ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง
● ใช้แรงหรือกำลังที่มีทำเพื่อคนอื่นบ้าง หรือแบ่งปันสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนที่ต้องการ
● เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด ไม่วิ่งตามใคร
Suggestion
บริจาคเกล็ดโลหิตเป็นร้อยครั้ง
นอกจากความสนใจด้านกีฬาที่ทำให้คุณแม็กกี้ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของก้าวคนละก้าวและโครงการของ คิง เพาเวอร์ แล้ว เขายังมีแพสชันในการช่วยเหลือคนอื่นเป็นพื้นหลังของการเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือคนมากมาย ทั้งการเข้าร่วมงานของของดารา ศิลปิน หรือองค์กรต่างๆ ยังรวมถึงการบริจาคเกล็ดโลหิต ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
“การบริจาคเลือด ใช้เวลาใน 30 นาทีคุณก็สามารถลุกขึ้นไปได้เลย แต่การบริจาคเกล็ดโลหิต คุณต้องมีสุขภาพแข็งแรง คนที่มาบริจาคก็จะต้องเป็นคนที่แข็งแรงระดับหนึ่ง ต้องนอนให้เลือดประมาณชั่วโมงถึงสองชั่วโมง ดังนั้นคุณต้องมีเวลา คนส่วนใหญ่เลยไปค่อยไปบริจาคกัน ผมบริจาคมา 104 ครั้งแล้ว”
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี คุณแม็กกี้พยายามหาเวลาไปบริจาคเกล็ดโลหิตอยู่เสมอ เพราะเกล็ดโลหิตมีอายุสั้นกว่าโลหิตที่มีผู้มาบริจาค การบริจาคเกล็ดโลหิตนั้นจะต้องได้มาจากคนที่มีสุขภาพแข็งแรง และทำตามเงื่อนไขการรับบริจาคซึ่งมีข้อบังคับหลายอย่าง ในขณะเดียวกันจำนวนผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้เกล็ดโลหิตในการรักษาตัวก็มีอยู่มาก
“ผู้ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก ลูคีเมีย หรือไข้เลือดออก เม็ดเลือดขาวของเขาจะมีน้อยก็จะเอาเกล็ดเลือดตัวนี้ไปช่วย เลือดของคุณในแต่ละครั้งสามารถช่วยเหลือคนได้อีกสามคนเลยนะ มันคือการให้ชีวิตน่ะ หัวใจของเรามันก็จะพองโต”
การเป็นคนที่มีความคิดและรักที่จะช่วยเหลือคนจึงเป็นแรงผลักดันให้คุณแม็กกี้ขยันออกกำลังกายทุกวัน พยายามกินอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้ตัวเองมีร่างกายที่แข็งแรง นอกจากจะไม่ต้องเจ็บป่วยแล้ว ยังสามารถนำเกล็ดเลือดจากร่างกายสุขภาพดีนี้ไปแบ่งปันให้กับผู้ที่ต้องการคนอื่นๆ ด้วย
หัวใจของการช่วยเหลือคน
“มารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่สามารถสละร่างกายได้เลยนะเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของผู้ป่วย เราเริ่มจากจิตใจ การออกกำลังกาย พอร่างกายแข็งแรง ในวันพรุ่งนี้หรือวันไหนก็แล้วแต่เราจะเอาเลือดหรือร่างกายที่แข็งแรงไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้อีกทีหนึ่ง มันเป็นทอดๆ เลย”
การช่วยเหลือคนอื่นด้วยการบริจาคเกล็ดโลหิตกว่าร้อยครั้งนี้ แม้จะไม่ได้ถูกนำมานำเสนอผ่านข่าวสารให้คนได้รู้ แต่จากร้อยกว่าครั้งที่บริจาคนั้น เกล็ดเลือดของคุณแม็กกี้สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้จำนวนมากแล้ว ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่เพียงเกิดจากจิตใจของตัวเองเท่านั้น แต่ยังถูกหล่อหลอมมาจากประสบการณ์การทำงาน การได้พบปะผู้คนมากมาย
“การที่เราออกมาเห็นโลกกว้าง เราก็ได้เห็นมุมมองอะไรที่กว้างมากขึ้น เราเจอคนมาทุกรูปแบบ แต่สุดท้ายก็สูงสุดกลับสู่สามัญ สุดท้ายทุกคนก็ต้องอยู่ในโลกใบเดียวกัน เราก็เอามาสอนตัวเองว่า ยังไงก็แล้วแต่ตราบใดที่เรายังไม่หมดลมหายใจ เราก็จะยังเป็นผู้ให้อยู่ต่อไป”
Suggestion
ทำในสิ่งที่ใช่กับตัวตน ชีวิตอาจพลิกก็ได้
แม้ว่าในยุค 90 คุณแม็กกี้จะเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากในขณะนั้น แต่ในปัจจุบันงานละครก็ลดน้อยลงไปบ้างแล้ว และหันไปทำงานด้านพิธีกรแทน นอกจากนี้ยังทำธุรกิจทั้งธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของครอบครัว และยังมีบ้านนาคาเฟ่ คาเฟ่ในจังหวัดอุดรธานีที่คุณแม็กกี้ร่วมกันทำกับภรรยา
แม้ในปัจจุบันทุกอย่างจะดูเหมือนลงตัวครบทุกอย่างแล้ว แต่ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาที่ล้มลุกคลุกคลานก็ได้มอบแง่มุมดีๆ ให้กับชีวิตว่าสุดท้ายแล้ว ไม่มีสิ่งไหนดีเท่าการได้ทำในสิ่งที่รัก “เราเชื่อว่าถ้าคนเราทำในสิ่งที่รัก ในสิ่งที่ใช่กับตัวตนของเรา มันจะทำออกมาได้ดี คำว่าแพสชันสำคัญมาก เพราะถ้าคุณชอบและทำแบบไม่ต้องเลียนแบบใครออกมาได้ดี มันจะเป็นแบบอย่างหรือที่เขาเรียกว่า ไอดอล”
หนึ่งในเรื่องที่สำคัญซึ่งคุณแม็กกี้ย้ำเตือนเราเสมอตลอดการคุยเรื่องการทำสิ่งที่รักคือ การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ใช้เวลาเพื่อเรียนรู้ ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ปรับ เปลี่ยน พัฒนาให้ดีขึ้น “ถ้าคุณเป็นตัวสำรองนั่งอยู่ข้างสนามตลอดระยะเวลา 10 ปี แล้ววันหนึ่งโค้ชบอกว่าลงเล่นไปเลย พิสูจน์ให้ดูหน่อย วันนั้นต้องเป็นวันที่คุณทำได้ดีที่สุด ชีวิตมันอาจจะพลิกก็ได้”
ตลอดระยะเวลาของการพูดคุย คุณแม็กกี้ค่อยๆ เผยมุมมองของตัวเองออกมาให้เราได้รู้จัก ทั้งเรื่องกีฬาและการช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งมุมมองที่ได้ฟังแล้วดีต่อใจ และน่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นถึงเรื่องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ด้วย และสุดท้ายคำว่าแพสชันของคุณแม็กกี้ แม้การบริจาคเกล็ดโลหิตหรือการทำเพื่อคนอื่นจะไม่ได้รับเงินกลับมา แต่ก็ได้ความสุขทางใจกลับมาเป็นค่าตอบแทน เพียงแค่นั้นก็คือความ หมายของการมีแพสชันในสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว