Summary
สาวสวยมากความสามารถ แพน ภัทรธรโภคิน พิธีกรผู้มีรอยยิ้มและเสียงเป็นเอกลักษณ์ แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายและต้องทุ่มเท energy บวกๆ ให้งานลุล่วงราบรื่น แต่เธอกลับบอกว่าตัวเองเป็นคนอินโทรเวิร์ต มาร่วมค้นหาตัวตนและแพสชันของเธอที่ทำให้เราต้องร้องว้าวไปด้วยกัน
คุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างแล้วกับ แพน ภัทรธรโภคิน พิธีกรคู่กับ แทค ณัฐพล เหลืองกนก วนิช บนเวทีประลองความสามารถทางดนตรี THE POWER BAND 2024 SEASON 4 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเฉพาะสนามภูมิภาคจังหวัดต่างๆ ส่วนใครที่ติดตามการประกวดตั้งแต่ซีซันที่แล้ว จะเห็นว่าแพนเคยเป็นพิธีกรในรอบ Zoning สนามกรุงเทพฯ และยังเป็นพิธีกรกิจกรรมเชิญชวนให้มาสมัคร THE POWER BAND 2024 SEASON 4
นอกจากนี้แพนยังเคยร่วมงานกับ คิง เพาเวอร์ มาก่อน โดยเป็นพิธีกรกลางในงานอภิมหาสงกรานต์รางน้ำ รวมทั้งคลิปวิดีโอที่เปิดอยู่ใน King Power Duty Free แพนคือผู้ให้คำอธิบายป้ายสินค้าสีฟ้า – สีขาวและส่วนลดต่างๆ เป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน บอกเลยว่าสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
“ไม่มีใครเป็นใครได้ อย่างแรกต้องหาตัวเองให้เจอก่อน
อย่าพยายามเป็นตัวเองให้เหมือนคนอื่น
สิ่งที่เราชอบอาจไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเป็น
ดีของเราไม่ได้แปลว่าดีของคนอื่น
อย่างน้อยมันต้องได้มาตรฐานของสังคมด้วย”
แพน ภัทรธรโภคิน
พิธีกร
เด็กกิจกรรม จุดเริ่มต้นของงานที่ชอบ
บนเส้นทางสายอาชีพพิธีกร 16 ปีของแพน เริ่มต้นเพียงจุดเล็กๆ ที่โรงเรียน แพนเล่าว่าเธอได้รับเลือกให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ตั้งแต่ ป.1 – ป.2 ทำกิจกรรมต่างๆ เรื่อยมา ทั้งยังเป็นหัวหน้าชั้น และได้รับเลือกเป็นตัวแทนนักเรียนของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยให้เป็นพิธีกรร่วมกับโรงเรียนอื่นในงานสำคัญงานหนึ่ง หลังจากเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย แพนยังคงสนุกกับการทำกิจกรรม นอกจากจะเป็นดาวคณะแล้ว ยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์และพิธีกรของมหาวิทยาลัยอีกด้วย แพนเริ่มงานด้านพิธีกรจริงจังมากขึ้นขณะเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เมื่อรุ่นพี่ซึ่งจบไปแล้วทำงานด้านออร์แกไนเซอร์ชักชวนให้ร่วมงาน ด้วยความเป็นเด็กกิจกรรมบวกกับความมั่นใจในตัวเอง แพนจึงคว้าโอกาสนั้นไว้โดยไม่รีรอ
“แพนโชคดีที่ได้ทำงานที่ชอบและเติบโตไปกับสิ่งที่ชอบ… ทั้งที่ตอนมัธยมไม่รู้เลยว่าชอบ ตอนนั้นเรามองว่า ครูชอบใช้เรา ให้ไปพูด ให้ทำนู่นนี่ ในความรู้สึกตอนนั้น มันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร ไม่ได้เขินหรือขี้อายอยู่แล้ว เพราะเราเป็นเด็กกิจกรรม ชอบช่วยงานด้วย”
ขอบคุณภาพจากคุณแพน
ฮึดเพราะอยากได้คำชม
“ความฝันวัยเด็ก โอ้โห เยอะมาก ถ้าให้เล่านี่ ยาวนะ” เสียงหัวเราะปิดท้ายก่อนจะบอกว่า ตัวเองเป็นคนไม่ตีกรอบให้ตัวเอง แพนโตมากับโอกาสที่มีอยู่เรื่อยๆ โดยมีคุณแม่ผู้เปิดกว้างทางการเรียนรู้คอยแนะนำและสนับสนุนตลอดเวลา ช่วงหนึ่งที่แพนชอบไปนั่งวาดรูปในสวน ชอบปักเลื่อมบนเสื้อผ้า คุณแม่ก็ชวนให้เรียนสายแฟชั่น พอแพนเปลี่ยนมาชอบทำอาหาร ทำเบเกอรี คุณแม่ก็หาข้อมูลคณะอุตสาหกรรมอาหารให้ ตอนหลังกระแสมาทางหมอ เภสัช ถ้าอยากให้คนชมว่าเรียนเก่งต้องเรียนหมอ
“สิ่งที่ทำให้แพนพยายามแบบทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากคุณแม่ไม่ค่อยชม ทำให้เราติดนิสัยอยากเอาชนะ ไม่ได้อยากชนะใครอื่น แค่อยากชนะใจแม่เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีตรงที่เราจะพยายามจนถึงที่สุด ดีที่สุดของทางนั้น สุดท้ายถ้าไม่ได้รับคำชม ก็ถือว่าได้ลองทำแล้ว”
ขอบคุณภาพจากคุณแพน
หลังจากเบนเข็มมาสายหมอ คุณแม่ก็ส่งไปค่ายต่างๆ งานโอเพนเฮาส์ของมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง ผลออกมาคือสอบไม่ติด คุณแม่จึงแนะนำให้เปลี่ยนมาสายการเงินดู แพนตัดสินใจยื่นพอร์ตโฟลิโอและยื่นคะแนน สุดท้ายก็ได้ข่าวดีทั้ง 2 แผน แพนเลือกเรียนที่คณะสังคมศาสตร์ ภาควิชาบริหารธุรกิจ เอกการเงิน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “เพราะทุกคนต้องใช้เงิน มันอยู่ในทุกๆ ส่วนของชีวิตประจำวัน”
พิธีกรในแบบของแพน
• ตรงต่อเวลา
• รู้จักการทำงานเป็นทีม
• แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสม
Suggestion
Pretty / MC / พิธีกร?
หลายคนอาจสับสนกับคำทั้งสามเหล่านี้อยู่ แพนบอกว่า หน้าที่ของมันคือสิ่งเดียวกัน ต่างตรงที่คนจะเรียกว่าอะไร ซึ่งขึ้นอยู่กับทัศนคติและประสบการณ์
คนส่วนใหญ่มักมีภาพของพริตตี้ในแง่ลบ เพราะมีการเอาไปใช้ในบริบทที่ผิด แพนให้คำจำกัดความพริตตี้ว่า เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดี ได้รับเลือกให้นำหน้าตาของเขาไปนำเสนอสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ เช่นแจกเอกสารในงาน เชิญรางวัล โดยมีการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อสื่อสารเกี่ยวกับแบรนด์ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน MC (Master of Ceremony) หรือ Emcee ในภาษาอังกฤษ ซึ่งก็คือ พิธีกร ในภาษาไทย แต่แพนรู้สึกว่าด้วยการยอมรับในเมืองไทย คำเรียกว่า พิธีกร ให้ความรู้สึกดูโพรเฟสชันแนลกว่า ในขณะที่ MC จะถือไมค์พูดนำเสนอสินค้าตามห้างสรรพสินค้า พิธีกรมักอยู่ในงานที่มีความเป็นทางการและใช้ประสบการณ์มากกว่า เช่น งานแถลงข่าว “ส่วนตัวแล้ว แพนแฮปปีกับคำว่า พิธีกร มากกว่า อาจเป็นเพราะเราทำงานมาหลายระดับ ทำงานมาเยอะ เจอผู้ใหญ่ก็เยอะ เลยสัมผัสได้ถึงความต่าง”
ไม่มีการฝึกฝนใดดีไปกว่าการพัฒนาตัวเองจากประสบการณ์จริง
“แพนมีตัวเองเป็นไอดอล เพราะรู้สึกว่าทุกวันนี้เราอยู่มาได้ 16 ปี เราก็ไม่ธรรมดา เรามีฐานลูกค้า ลูกค้าประทับใจ กลับมาใช้ซ้ำ เท่านี้ก็การันตีแล้วว่าเรามีดี”
สำหรับแพนแล้วประสบการณ์สอนหลายสิ่งให้กับเธอ เวลาเห็นคนเก่ง ให้เลือกเฉพาะส่วนที่ดีของเขา เอามาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเรา สิ่งที่แพนได้ยินเสมอเมื่อมีคนพูดถึงเธอ คือน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ บุคลิกที่มั่นใจและสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก “มันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบหรือซ้ำใครได้ เก่งเหมือนกันแต่ก็ไม่เหมือนกัน แม้ในสถานการณ์เดียวกัน วิธีแก้ปัญหาก็ต่างกัน” สิ่งที่แพนแนะนำได้ในเรื่องการฝึกแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือลงมือทำ ลองผิดลองถูกกับสถานการณ์จริงแล้วเก็บไว้เป็นประสบการณ์
คนอาจมองว่าแค่มีสคริปต์ก็เป็นพิธีกรได้แล้ว แต่แพนบอกว่าพิธีกรมืออาชีพจะจับใจความสำคัญของเรื่องที่จะพูดแล้วถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในสคริปต์ออกมาให้คนในงานเข้าใจง่าย โดยต้องเอาสถานการณ์หน้างานมารวมกับแกนหลักซึ่งเป็นความต้องการของลูกค้า ทำให้เขารับรู้ถึงกิจกรรมและประโยชน์ที่จะได้รับ และการพูดนั้นจะต้องไปรบกวนคนที่มาร่วมงานด้วย
วิธีดูแลตัวเองในฐานะที่เป็นคนหน้ากล้อง
• กลบจุดด้อย ดึงจุดเด่นของตัวเองออกมา
• เลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะกับผิว และเหมาะกับงานที่จะไป
• หาลุคของตัวเองให้เจอ หรือฟังจากคนรอบข้างว่าเราเหมาะกับสไตล์ไหน
• เลือกชุดและแต่งหน้าให้เข้ากับธีมงาน
“การดูแลตัวเองคือการทำให้ตัวเองดูสะอาดตลอดเวลา เราเป็นคนขาว หมวย ก็จะเหมาะกับลุคใสๆ สไตล์เกาหลี คนมักจะชมว่าเราน่ารัก เราก็แต่งออกมาในสไตล์น่ารัก เลือกสไตล์ที่เรามั่นใจและรู้สึกว่าคนมองแล้วรู้สึกดีกับเรา”
คิดไปให้สุดเพื่อก้าวต่อไป
“แพนเป็นคนทำงานพิธีกรเจอคนเยอะก็จริง แต่เป็นคนอินโทรเวิร์ต” หลังจบงาน แพนจะกลับมานั่งพักที่รถ อยู่เงียบๆ สักพักเพื่อพักในจุดของตัวเองแล้วค่อยกลับบ้าน “แพนชอบอยู่กับตัวเองค่ะ แพนคิดว่ามันเป็นเทคนิคที่ดีสำหรับคนที่ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับสังคม หรือคนที่ชอบเอาความคาดหวังของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง อยากให้ลองอยู่กับตัวเอง นิ่งๆ ในห้องเงียบๆ ไม่ต้องกดดันตัวเอง ประมาณ 10 นาทีต่อวัน มันจะช่วยให้เราตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตได้ง่าย” ไม่ใช่การนั่งสมาธิเพื่อให้หยุดคิด แต่เป็นการปล่อยให้ตัวเองได้คิด คิดไปจนสุดทาง แล้วจะรู้ว่าควรไปทางไหนต่อ
เรื่องโปรด ทาง ‘บันเทิง’ ของพิธีกร THE POWER BAND
• วงโปรด: Bee Gees ได้รับอิทธิพลการฟังเพลงมาจากคุณพ่อ
• เพลงโปรด: What a wonderful world ของ Louis Armstrong
• ซีรีส์เรื่องโปรด: Peaky Blinders
นอกจากงานพิธีกรแล้ว แพนยังมีธุรกิจส่วนตัวที่ต้องดูแลอีก ได้แก่ “Bangkok Gunpla Salon” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับอุปกรณ์การต่อหุ่นจำลองกันดั้มของแบรนด์ dspiae, gunprimer, yujiao land และสี Ancholet ธุรกิจสัตว์เลี้ยง “Purr Paws Cat Hotel” โรงแรมแมวที่เหล่าทาสวางใจให้ดูแลเจ้านาย และ “One Last Time” Pet Funeral บริการจัดงานศพสัตว์เลี้ยงเพื่อความทรงจำที่ดีร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย โดยมีคุณพ่อเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญช่วยดูแลธุรกิจทั้งสาม
Suggestion
แพสชันกับฝันที่กำลังจะเป็นจริง
แพสชันในการทำงาน แพนบอกว่า คือสิ่งที่เจอในแต่ละวัน สิ่งใหม่ๆ ในแต่ละวันคือความท้าทาย เพราะแพนไม่ชอบอะไรซ้ำๆ เดิมๆ “แพนดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อย หวานๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นคนชอบรถ รถยนต์ รถแข่ง เลยตั้งเป้าไว้ว่าอยากเป็นเจ้าของรถ Audi R8 เพราะชอบมาก เป็นฝันที่กำลังทำอยู่ ถือเป็นแพสชันในชีวิตเลย…
“รถคือความท้าทาย แพนชอบขับรถ การที่เราเป็นคนอินโทรเวิร์ตจะมีความสุขในที่ของตัวเอง เหมือนการได้อยู่ในรถซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง เลยรู้สึกมีความสุขกับรถที่เรานั่งเหมือนอยู่เป็นเพื่อนกัน”
แพน ภัทรธรโภคิน ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการแข่งขัน
ใน 5 สนามภูมิภาค ร่วมกับ แทค ณัฐพล
อ่านเรื่องของแทค ณัฐพล คลิกที่นี่
เวทีของคนมีฝัน
“การที่เราจะมีฝันควรมีภาพที่ชัดเจนเพียงภาพเดียว ทุ่มเทอย่างเดียวให้ดีไปเลย” แพนบอกว่าการมีหลายฝันอาจต้องใช้เวลาอย่างมากในการทำให้แต่ละฝันเป็นจริง สำหรับน้องๆ ที่มาประกวดในเวที THE POWER BAND ที่ผ่านมา แพนสัมผัสได้ถึงความชัดเจนในการตามฝันทางด้านดนตรี แพนจึงอยากให้คนมีฝันแต่ยังไม่ลงมือทำ ได้มาเห็นความตั้งใจนี้ น้องๆ เป็นตัวอย่างที่ดีของการลงมือทำ ให้ฝันเป็นจริง
“ดนตรีคือสื่อกลางทำให้คนที่ต่างกัน เข้าใจกัน “Let The Music Power Your World เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี” คือการเอาดนตรีเข้ามาทำให้โลกของเราสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ได้ง่ายและมีความสุขยิ่งขึ้น.. สำหรับแพนสิ่งที่ทำให้เป็นได้สุดคือพ่อกับแม่ แพนเป็นคนรักครอบครัวมาก ก่อนที่จะตัดสินว่าเราจะไปสุดในด้านไหน แพนจะคิดว่าถ้าทำไปแล้วเขาภูมิใจ แสดงว่ามันเป็นเรื่องที่ดี”
เคล็ดลับของ แพน ภัทรธรโภคิน
กับ 16 ปีบนถนนสายพิธีกร
• หลักในการใช้ชีวิตและการทำงาน: ทำอะไรแล้วต้องไม่เดือดร้อนใคร
• สังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว
• อ่อนน้อมถ่อมตน มีมารยาท
• เป็นตัวของตัวเอง