Passion

QLER ชายหนุ่มที่เรียกตัวเองว่า
“นักเล่าเรื่อง”

กฤษณา คชธรรมรัตน์ 10 Dec 2024
Views: 537

Summary

• นี่คือเจ้าของผลงานเพลงฮิต อย่าง “จีบ” ที่มียอดวิวมากกว่า 46 ล้านวิว
และ “ใจลอย (Blur)” ที่มียอดวิวสูงกว่า 22 ล้านครั้ง

• อัลบั้มแรกในชีวิตของเขาคือ “ลอง La Bye”
ชื่อเดียวกับหนังสือเล่มแรกของเขา

• แม้จะเป็นศิลปินน้องใหม่แต่เขาลงสนามอินเตอร์
ร่วมงานกับ “culenasm” ศิลปินจากญี่ปุ่น
และ “SURL” ศิลปินจากเกาหลีใต้

QLER (คิวเลอร์) หรือ ฐิติพงศ์ เกิดแก้ว (คิว) ชายหนุ่มเจ้าของชื่อไม่ซ้ำใคร ที่ถนัดเล่าเรื่องราวรอบตัวและหัวใจผ่านตัวอักษรและตัวโน้ต ส่งผ่านมากับหลากหลายเพลงที่ชวนฟังตั้งแต่ได้ยินแค่ชื่อเพลงอย่าง “จีบ” และ “ใจลอย (Blur)” แล้วยังมีอีกหลายเพลง “รูปถ่าย” “เพื่อนกันวันพุธ” “ธันวาคม” “แมรี่คิดมาก” รวมถึง “ลอง La Bye” จากค่ายเพลง What the Duck อ่านเรื่องราวของค่ายเพลงแห่งนี้ คลิก

การประกวดดนตรี THE POWER BAND 2024 ซีซันล่าสุด เวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลง ทำให้หลายคนได้เจอะเจอ กับ QLER เราเลยถือโอกาสนี้ชวนมาทำความรู้จักเรื่องราวทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของเขาคนนี้

“ผมไม่เคยเรียกตัวเองว่าศิลปิน ผมเรียกตัวเองว่านักเล่าเรื่อง

ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน (หัวเราะ) ชอบฟังเขา แล้วก็ชอบเก็บมาเขียนหนังสือ

หรือเขียนเป็นเพลงออกไป ผมคิดว่าตัวเองชอบเล่าเรื่อง”

QLER
ศิลปินค่ายเพลง What the Duck

 

Thaipower.co: เริ่มด้วยคำถามยอดนิยมถึงที่มาของชื่อ QLER

QLER: เรียกว่าคิวก็ได้ครับ (Thaipower.co: ชื่อเล่นคือคิว?) ใช่ครับ QLER เป็นตัวย่อของคำที่ชอบ  มันมาจากคำว่า Quit loving every robber ถ้าแปลเป็นภาษาไทยแบบง่ายๆ ก็คือเลิกรักนักขโมย ผมพยายามจะให้มันเท่มาประมาณ 5 ปีละ แต่รู้สึกว่าไม่ใช่ทาง เราไปทางนั้นไม่ได้เลย มันจะดูเด๋อๆ หน่อย

 

Thaipower.co: แนะนำตัวเองในแบบที่คุณอยากให้โลกรู้จัก

QLER: ผมไม่เคยเรียกตัวเองว่าศิลปิน ผมเรียกตัวเองว่านักเล่าเรื่อง เพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน (หัวเราะ) ชอบฟังเรื่องที่เขามาเล่า แล้วก็ชอบเก็บมาเขียนหนังสือ หรือว่าเขียนเป็นเพลงออกไป ผมคิดว่าตัวเองชอบเล่าเรื่อง แต่ว่าเราเลือกศิลปะที่เรียกว่าดนตรีเป็นสื่อในการส่งสารไปให้ผู้รับเท่านั้นเอง

 

เพลงไหนที่ QLER ชอบร้องตอนอาบน้ำ ?

QLER: In the Blood ของจอห์น เมเยอร์ครับ ผมชอบเนื้อเพลงครับ
ท่อนนี้ผมสักไว้ด้วยครับ Will it wash out in the water, or is it always in the blood
อะไรที่เราอยากจะล้างมันออกไป จริงๆ มันล้างได้แบบนั้นหรือเปล่า
หรือมันอยู่ในสายเลือด ชอบมากก็เลยร้องทุกวันในห้องน้ำ

 

Thaipower.co: ตอนนี้เราอยากฟังเรื่องราวของคุณบ้าง

QLER: จริงๆ ผมธรรมดามากครับ ผมเป็นเด็กบ้านนอก จากอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรีครับ บ้านของผมซ้ายขวาหน้าหลังก็จะเป็นท้องนา เรียกว่าบ้านนอกได้เลย ใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไปเลยครับ ตั้งแต่ประถม ถึงมัธยม แต่ผมเป็นเด็กที่แปลก เพราะว่าพ่อแม่ชอบส่งผมไปเรียนนอกจังหวัด ได้ย้ายโรงเรียน ได้ไปที่ต่างๆ เยอะ ความชอบก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

 

Thaipower.co: จุดเริ่มต้นของการเป็นศิลปินของ QLER อยู่ตรงไหน

QLER: ผมว่าน่าจะเป็นการฟูมฟักมาตั้งแต่เด็กมากกว่าครับ ครอบครัวผมไม่ได้เป็นครอบครัวนักดนตรีนะครับ แต่พ่อดีดกีตาร์ตอนตั้งวงเหล้ากับเพื่อน เรารู้สึกว่าเท่จังเลย เล่นเพลงของพี่เสกโลโซ ผมก็อยากเล่นได้บ้าง แล้วมันก็เป็นไปตามยุคสมัย มัธยมก็คือเน้นประกวดดนตรี ตั้งวงเล่นกับเพื่อน เราก็อยู่ในวงจรนั้น แล้วก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น เล่นกีฬาบ้าง เต้นบ้าง แล้วแต่ตามเพื่อนไปครับ ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แต่ดนตรีมันอยู่กับเราไปเรื่อยๆ ถึงหลายสิ่งมันจะหายไป แต่เรามักจะวนกลับมาแต่งเพลง มาอัดเพลง มาโพรดิวซ์เพลงแรก สุดท้ายมันมาจบที่ดนตรีครับ

 

เรื่องที่คนมักเข้าใจ QLER ผิดไป

หลายคนคิดว่าผมเป็นวง แต่ที่จริงผมเป็นศิลปินเดี่ยว หลายคิดว่าผมเป็นพี่นิวเวอรี่ ผมเคยไปงาน แล้วมีคนมาทักว่าพี่ใช่คนที่ร้องเพลง “หลงรัก” ไหมคะ ตอนนั้นผมเจอคำถามนี้เยอะ ผมก็เลยบอกว่าใช่ครับ เพราะผมกลัวเขาเขิน

 

Thaipower.co: แรงบันดาลใจในการทำเพลงของคุณคืออะไร

QLER: รู้สึกว่าตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงมหาวิทยาลัยครับ ตอนนั้นผมก็เล่นดนตรีปกติเลยครับ แล้วก็มีรุ่นพี่ที่เขาทำเพลงอยู่แล้ว เป็นแนวฮิปฮอปอาร์แอนด์บี เขาเห็นเราเล่นกีตาร์ได้ ก็ให้ไป เล่นกีตาร์อัดเสียงให้ เราเลยได้เรียนพวกเบื้องหลัง เลยรู้สึกว่าถ้ามีเพลงเป็นของตัวเองก็คงจะดี

แล้วผมเคยไปงานหนึ่งกับรุ่นพี่กลุ่มนี้ เขาก็พูดกับผมหลังเวทีว่า ลองคิดดูนะสมมติว่าคนที่อยู่ข้างล่างเขาร้องเพลงเราได้ เราจะรู้สึกยังไง มันก็เป็นหนึ่งในอินสไปเรชั่นนะครับ ว่าถ้ามีเพลงเป็นของตัวเอง มีคนฟัง มีคนร้องในสิ่งที่เราเคยเขียนอยู่ในห้อง มันจะเป็นยังไง

 

Thaipower.co: ตอนนี้มีคนร้องเพลงของเรา คิดว่าสิ่งนี้เป็นความฝันที่เป็นจริงแล้วหรือยัง

QLER: เป็นจริงแล้วครับ และมันเป็นจริงตั้งนานแล้วด้วย เพราะว่าผมตั้งเป้าไว้แค่ เพลงของผมไปทำอะไรกับใครสักคนก็พอ ให้อยู่เป็นเพื่อนเวลาที่เหงา หรือว่าคิดอะไรไม่ดี หรือว่ามีวันแย่ๆ ให้ประโยคหนึ่งของเพลงเราช่วยเขาได้ แค่นั้นก็พอแล้ว ซึ่งผมได้สิ่งนี้มาตั้งแต่ช่วงปีแรกที่ทำเพลงแล้ว รู้สึกว่ามันเกินจากสิ่งที่คิดไว้มากแล้ว ความรู้สึกผมได้รับจากคนที่ฟังเพลงมาเยอะมากแล้ว การทำเพลงของผมทุกวันนี้เป็นการตอบแทนมากกว่า

 

 QLER ชอบกินอะไรที่สุด

น่าจะเป็นอกไก่ต้ม ช่วงนี้ผมต้องออกกำลังกายครับ

Thaipower.co: เป็นศิลปินเต็มตัวมา 4-5 ปีแล้ว ถึงตอนนี้คุณก็เล่นสดเวทีน้อยใหญ่มาหลายงานแล้ว หลายปีที่ผ่านมาได้เรียนรู้อะไรบ้าง?

QLER: ผมว่าเป็นเรื่องของการที่เราออกไปเล่าเรื่องอะไรบางอย่างให้สักคนหนึ่งฟัง แต่ละวันจะมีผู้ฟังที่ไม่เหมือนกัน ก็จะมีคนฟังที่เป็นกลุ่มนี้กลุ่มนั้น เขามาด้วยเหตุผลเดียว คือเขาฟังเพลงเราแล้วเขารู้สึกอะไรบางอย่าง หน้าที่ของเราก็คือการเล่าประโยคนั้นให้มันจริงใจที่สุด ไม่ว่าวันนั้นมันจะดีสำหรับเราหรือไม่ หรือว่าเราไปเจออะไรแย่ๆ มา เราก็ต้องคำนึงด้วยว่าคนที่เขามาดูเรา เขาต้องการอะไรจากเรา ผมก็รู้สึกว่าเราต้องเป็นคนนั้นให้ได้ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด

 

Thaipower.co: ชื่อเพลงของคุณแต่ละเพลงสะดุดใจคนฟังไม่น้อย ทั้ง “ใจลอย (Blur)” “รูปถ่าย” “เพื่อนกันวันพุธ” “ธันวาคม” “แมรี่คิดมาก” หรือ “ลอง La Bye” …ที่มาของชื่อเหล่านี้เริ่มจากตรงไหน

QLER: ผมพยายามจะหาคำที่ไม่เหมือนคนอื่น มีเพลงหนึ่งอยู่ในอัลบั้มชื่อเพลง “นนล” เป็นการตั้งชื่อแบบเนิร์ดมาก จริงๆ แล้วแปลว่า หนึ่งในล้าน ก็คือ part per million ใน Chemistry แล้วผมแค่ใช้ประโยคนี้มาเล่าเรื่องว่าในบรรดาคนเป็นล้านเราจะเจอคนคนหนึ่ง

 

Thaipower.co: เพลงไหนที่มีคนตั้งคำถามกับคุณมากที่สุด

QLER: น่าจะเป็นเพลงชื่อว่า “วรัญญา” เพราะเป็นชื่อแฟนผมนี่แหละครับ เขาก็แค่จะตั้งคำถามว่าคนนี้คือใคร แล้วก็จะมีเพลงชื่อว่าเพลง “จีบ” ซึ่งเป็นชื่อที่ไม่ได้แปลกอะไรแต่ว่า cover ปกเพลงน่ะมันแปลก เป็นรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งแล้วเด็กคนนี้ก็แต่งตัวอะไรไม่รู้มั่วๆ ก็เกิดการตั้งคำถามว่าเด็กคนนี้คือใคร

 

อะไรคือความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัว QLER

ผมเป็นคนทำต้มจืดอร่อยมาก
ต้มจืดไข่เจียวครับ เขาเรียกว่าต้มจืดไข่น้ำ
ถ้าสมมติว่างานเพลงไม่เวิร์กแล้ว ผมจะไปทำกับข้าวขาย
(หัวเราะ)

 

Thaipower.co: และคุณเศร้าเหมือน

QLER: คนชอบคิดว่าผมเป็นคนที่ไม่มีความสุข เพราะชอบแต่งเพลงเศร้าๆ ที่จริงแล้วก็จริงนะครับ ทุกคนมีความสุขแล้วก็ความทุกข์อยู่แล้ว แต่ว่าผมแค่เลือกเอาความทุกข์มาเล่า เพราะรู้สึกว่าเราอินกับสิ่งนั้นได้มากกว่า แต่ว่าจริงๆ ชีวิตรัก หรือว่าครอบครัวของผมเป็นปกติมากเลย ไม่ได้มีอะไรที่แย่เลย

 

Thaipower.co: เพลงไหนที่อธิบายความเป็น QLER ได้มากที่สุด

QLER: เพลง “ลอง La Bye” ที่เป็นชื่ออัลบั้มแรกด้วย เพลงนี้ผมเขียนด้วยความรู้สึกว่าเราใช้ชีวิตมาประมาณหนึ่งแล้ว แพสชันการมีชีวิตของเรามันมีประโยชน์อะไร เป็นที่มาของตัวเพลงนี้ว่าจริงๆ แล้ว มันมีบางอย่างที่เราลืมไว้ตอนที่เราเป็นเด็ก ความสนุกหรือว่าความสร้างสรรค์อะไรบางอย่างที่แบบว่าพอโตมาเราจะถูกกดมันไว้ด้วยกรอบความถูกต้อง หรือว่าสิ่งที่มันควรจะเป็น ผมใช้ชีวิตไม่ค่อยสนุกเลย ผมก็เลยใช้แทร็กนี้เพื่อระบาย

 

Thaipower.co: อะไรที่นอกกรอบที่สุดที่เคยทำ

QLER: จริงๆ คือการเขียนเพลงนี้แหละ เพราะว่าหลังๆ ก็จะมีคนมาช่วยดูเรื่องเพลง เรารู้สึกว่าเราก็อึดอัด เพราะว่าไม่ได้เขียนในแบบที่เราชอบจริงๆ เราก็มีการคุยกัน แล้วก็ปล่อยเพลงเลย เพลงนี้ก็เลยไม่มีการคิวซีอะไรทั้งนั้น ก็เลยชอบเพลงนี้มาก

 

Thaipower.co: ในชีวิตของคุณอะไรที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้แต่เป็นไปได้มากที่สุด

QLER: ตอนนี้นี่แหละเป็นไปได้ที่สุดแล้วครับ ผมเรียนวิทยาศาสตร์มา มันห่างไกลจากคำว่าเป็นศิลปินมากๆ เลย แล้วเป็นศิลปินนี่ตกใจแล้ว แต่ว่าพอมีคนฟังเพลงเราร้องเพลงเราได้ด้วย อันนี้ตกใจกว่า ก็เลยรู้สึกว่าอันนี้คือสิ่งที่เป็นไปได้ที่สุด

 

Thaipower.co: เป้าหมายหรือแพลนอนาคตต่อจากนี้ของคุณคือ

QLER: จริงๆ แค่อยู่กับเพลงได้เรื่อยๆ คิดว่าทำเป็นอาชีพที่มั่นคงได้แล้วก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วก็ยังเป็นที่พึ่งพาจิตใจให้ใครบางคนได้ด้วยเพลงของเรา ผมว่ามันมีความหมายที่สุดแล้วสำหรับการเป็นศิลปิน

Author

กฤษณา คชธรรมรัตน์

Author

นักเขียนที่ให้ความสนใจกับทุกเรื่องบนโลก อย่างละนิดอย่างละหน่อย บ่อยครั้งจึงวาร์ปไปเขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ