Summary
จากวัยเด็กที่เคยจับหนังสติ๊กครั้งแรก วันหนึ่งกลับถูกมือและต้องใจกับหนังสติ๊กเวียดนามถึงขั้นสุด ฝึกฝนซ้อมมือทุกวัน จนเป็นเซียนยิงหนังสติ๊กคนหนึ่ง พ่วงด้วยโอกาสได้ลองเป็นผู้ผลิตแบรนด์เอง เพราะอยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเสน่ห์ของเจ้าง่ามไทเทเนียมนี้ว่ามีดีมากกว่าแค่ความสนุก
วัยเด็กใครอยู่ต่างจังหวัด ต้องเคยอินกับหนังสติ๊ก เครื่องยิงที่ส่วนมากทำได้คือ ไม้กับยางเส้นเป็นแผ่น เหน็บไว้ตรงกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าข้างหลัง พร้อมชวนแก๊งเพื่อนวัยซนตระเวนพิชิตฝีมือกันแบบเฮไหนเฮนั้น
เช่นเดียวกับ คุณรัน – ณัฎศรัณย์ จันทร์วาววาม เซียนหนังสติ๊กเวียดนาม อายุ 46 ปี ที่เคยมาร่วมแสดง “พลังคนไทย” และถ่ายทอดความรักใน “กีฬา” ในรายการ THE POWER GANG EP 8 โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ที่เขาถูกใจและถูกมือกับ “หนังสติ๊กเวียดนาม” จนหลายคนยกให้เขาเป็น “เซียน”
“การยิงหนังสติ๊กไม่ใช่พุ่งไปที่เป้าเพียงอย่างเดียว
ก่อนโฟกัสเป้าหมาย อย่าลืมดูด้วยว่า ปัจจัยที่อยู่รอบข้าง
มีอะไรที่จะทำให้ลูกกระสุนเปลี่ยนทิศทาง หรือส่งผลกระทบต่อสายตา”
รัน – ณัฎศรัณย์ จันทร์วาววาม
เซียนหนังสติ๊กเวียดนาม
ภาพจากคุณรัน ณัฎศรัณย์
จากหนังสติ๊กไทยสู่หนังสติ๊กเวียดนาม
วัยเด็กต่างจังหวัดที่แม่ให้ไปอยู่กับคุณยายผู้เป็นครูในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และปิดเทอม นอกจากได้เรียนหนังสือแล้วยังได้เรียนรู้การเอาตัวรอด พร้อมการจับหนังสติ๊กครั้งแรกตอน 8 ขวบ จนมีภาพจำในเวลานั้นเกี่ยวกับสิ่งนี้ว่าเป็นง่ามหนังสติ๊กไทยที่ทำจากกิ่งไม้ต้นฝรั่งที่มีคุณสมบัติความเหนียวมากกว่าทำมาจากไม้มะขาม
มามีโอกาสจับหนังสติ๊กอีกครั้งตอนโต เพราะต้องการไล่นกพิราบที่ร้านขายอะไหล่รถยนต์ซึ่งตั้งอยู่ในตลาดกาญจนบุรี โดยไม่ต้องการให้นกตายหรือข้าวของเสียหาย จนเจอกับหนังสติ๊กจีนและเวียดนาม
ที่สุดแล้วเขาถูกใจหนังสติ๊กเวียดนาม เพราะเวลาใช้งานไม่ทำให้เจ็บง่ามมือ แต่ดันพลาดท่าโดนหลอกซื้อของแพง จนได้เจอกับเจ้าของผลิตแบรนด์ ถึงทำให้รู้ว่าหนังสติ๊กแบบเวียดนามที่แท้จริงมีเสน่ห์มาก “พอจับรู้สึกสมูท เวลายิงและการควบคุมวงกระสุนก็ไม่เพี้ยน ลูกวงแคบทำได้ดีกว่า พกง่าย เพราะเบาและมีการขึ้นรูปด้วยโลหะเพียงชนิดเดียว” เป็นความประทับใจของคุณรันกับอุปกรณ์ชนิดนี้
หนังสติ๊กเวียดนาม ต่างกับหนังสติ๊กไทย
ตรงไหนบ้าง?
• ด้ามจับและ “ง่าม”
ของตัวเครื่องยิง (หนังสติ๊ก) เป็นโลหะชิ้นเดียว
• กระสุน
ทั้งขนาด วัสดุ และลักษณะ ทำให้ลักษณะวิถีกระสุนต่างกันเมื่อยิง
ภาพจากคุณรัน ณัฎศรัณย์
ความต่างระหว่างหนังสติ๊กไทยและเวียดนาม
เนื่องจากลูกกระสุนของหนังสติ๊กไทย จะทำมาจากดินเหนียวและมีลักษณะใหญ่ เพราะรังกระสุนไทยมีขนาดใหญ่กว่า ง่ามซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากไม้เป็นหลัก
การจับทิศทางในการยิงหนังสติ๊กจะอยู่ที่ตัวลูกกระสุนเป็นหลัก เวลายิงต้องยืดยางให้สุด ให้มาแนบแก้ม แล้วมองที่หัวง่ามพร้อมบิดยาง เพื่อให้มีแรงผลักกระสุนออกไปและตรงเป้าได้มากสุด
และเนื่องจากวิถีกระสุนของไทยจะพุ่งแบบเส้นโค้ง ขณะที่หนังสติ๊กเวียดนามง่ามทำมาจากการขึ้นรูปจากวัสดุโลหะชิ้นเดียวซึ่งส่วนใหญ่เป็นไทเทเนียม ลูกกระสุนมีขนาดเล็กกว่าและมีอยู่ 2 แบบ คือ ผงเหล็กซึ่งจะอันตราย กับอีกแบบเป็นส่วนผสมระหว่างดินเผาผสมกับผงเหล็กที่เมื่อกระทบเป้าจะแตกเป็นฝุ่นเลยจะไม่อันตราย ส่วนการจับทิศทางจะยึดที่รังกระสุนเป็นหลัก โดยท่ายิงใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้วางตรงแนวนิ้วมือตรงง่ามแล้วกำไว้ การเล็งเป้าให้มองที่หัวด้านบน แล้วดึงยางข้างไปทางโหนกแก้ม แล้ววิถีกระสุนจะพุ่งเป็นแนวเส้นตรง
การยิงหนังสติ๊กตามหลักสากลมี 3 แบบคือ แบบ 45 องศา แบบ 90 องศา และแบบ 180 องศา ซึ่งแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่อยู่ที่ 90 องศา เพราะเล็งได้ง่ายกว่า ส่วนท่ายิงปกติมี 4 ท่า คือ ท่ารังกระสุนทัดแก้ม ท่าหลังหู ท่า Half Butterfly ที่จะดึงยางให้ยืดมาจากหลังหูประมาณ 1 ฟุต และท่า Full Butterfly ยืดแขนให้ยาวสุดเหยียด ที่ชอบหนังสติ๊กเวียดนามเพราะการยืดยางใช้แรงดึงไม่เท่าหนังสติ๊กไทย
Suggestion
เสน่ห์คือความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงไม่มีวันหมด
การยิงหนังสติ๊กแม้เป็นงานอดิเรก แต่คุณรันจะให้เวลาฝึกฝนวันละ 1 ชั่วโมงเป็นประจำทุกวันช่วงเย็นต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปีแล้ว พร้อมแชลเลนจ์เป้าการยิงของตัวเองไปเรื่อยๆ ตั้งแต่กระป๋องกาแฟ เป้าสปินรูปแบบต่างๆ ที่มีการร้อยเชือกหมุน ยิงเปิดฝาขวดน้ำอัดลมและขวดน้ำพลาสติก ยิงขั้วเม็ดพริกขี้หนูหรือขั้วมะม่วง ยิงหัวเข็มหมุด เดินและวิ่งออกกำลังกายไปด้วยและยิงกระป๋องด้วย หรือโยนขวดน้ำให้เหมือนเป็นเป้าบินแล้วยิง
ภาพจากคุณรัน ณัฎศรัณย์
“เสน่ห์อยู่ที่เราตั้งโจทย์แชลเลนจ์ให้ตัวเอง โดยยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเข้าเป้าแล้วเราก็ต้องทำให้ได้ ถ้าไม่ถอดใจก่อนก็มักคุ้มค่าที่รอ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้ลงแข่งขันยิงหนังสติ๊กจริงจัง แต่เน้นเข้าร่วมสนุกสนาน ส่วนผมถือว่าการแข่งขันกับตัวเองโดยเปลี่ยนความท้าทายเรื่อยๆ แล้วอัดคลิปมาลง TikTok และ YouTube ก็สนุกแล้ว”
4 ผลลัพธ์ที่ได้จากการยิงหนังสติ๊ก
แชร์สิ่งดีๆ จากเซียนหนังสติ๊กแบบเวียดนาม
1. สมาธิดีขึ้น
2. ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีและคิดบวกมากขึ้น
3. ฝึกความอดทนที่ต้องต่อสู้กับตัวเอง
4 มองและใช้ชีวิตประจำวันที่ใส่ใจรายละเอียดมากขึ้น
สิ่งที่ได้จากการยิงหนังสติ๊ก
นอกจากความสนุกยังได้สมาธิและมีสติมากขึ้น ทำให้รู้จักนิ่งและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีเวลาเจอปัญหาและไม่หัวร้อนกับเรื่องอะไรง่าย เพราะกว่าจะฝึกยิงหนังสติ๊กในหลายรูปแบบ ทั้งเป้านิ่ง แบบเคลื่อนไหว ทั้งขนาดเล็ก – ใหญ่ หรือให้คนที่เป็นผู้ยิงเคลื่อนไหวเอง ซึ่งในแต่ละวินาทีนั้นถือว่าเรากำลังต่อสู้กับตัวเอง อย่างล่าสุด แชลเลนจ์ยิงหยดน้ำจากขวดน้ำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ด้วยสถานที่มีข้อเสียเปรียบทั้งอากาศร้อนและลมแรง การนั่งจับจังหวะหยดน้ำและรออัดคลิปถ่ายด้วยจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อกระสุนเริ่มเฉียดหยดน้ำก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องทำให้ได้ อย่าหวั่นไหวไปกับกระแสลมกับสิ่งที่ล่อสายตาต่างๆ และในที่สุดสามารถเอาชนะตัวเองได้จากการมีสมาธิจริงๆ
จากผู้เล่นสู่ผู้ผลิตแบบมีอัตลักษณ์
เพราะเล่นแล้วถูกจริตพร้อมรีวิวลงโซเชียลมีเดียทำให้คนไทยรู้จักมากขึ้น วันหนึ่งเจ้าของแบรนด์ถามว่าสนใจทำหรือไม่เพราะเขาจะไม่ทำแล้ว นั่นคือจุดที่เริ่มขยับจากงานอดิเรกเป็นเรื่องจริงจังมากขึ้น จนมีแบรนด์ R-Slingshot ย่อมาจากคำว่า Run เป็นแบรนด์หนังสติ๊กของตัวเอง
เหตุผลที่ลุยเต็มที่เพราะความชอบในหนังสติ๊กเวียดนามจริงจัง เพราะสามารถใช้งานได้จริง ขณะที่ตัวง่ามก็มีความสวยงาม และอยากให้คนไทยมีหนังสติ๊กแปลกใหม่เล่นและสามารถจับต้องราคาได้ โดยไม่โดนพ่อค้าเอาเปรียบเหมือนที่ตัวเองเจอมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบแฮนด์เมดที่ 4 ปีทำออกมากว่า 100 รุ่น เฉลี่ยปีละ 20-30 ชิ้นต่อรุ่น พร้อมพัฒนาให้เป็นอุปกรณ์สามารถพกพาได้ทุกวัน แบบที่ 1 ชิ้น สามารถทั้งเปิดขวด เป็นประแจเพื่อขันนอต และยิงหนังสติ๊กได้ด้วย
Suggestion
ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่
เวลามีคนมาขอคำแนะนำจะบอกเสมอว่า 50% คือ ผู้เล่นมีความอยากเล่นจริงจังขนาดไหนที่ใจต้องรักการฝึกซ้อม ส่วนอีก 20% คือ ง่ามอุปกรณ์ที่ใช้ยิง และ 30% ประเภทของยางที่ใช้ยิง
ถ้าเห็นและลองแล้วชอบก็เริ่มฝึกเลยไม่ว่าจะเป็นหนังสติ๊กไทย เวียดนาม ยุโรป หรือจีน แต่รับรองว่าการยิงหนังสติ๊กช่วยฝึกสมาธิได้ดีมาก ที่สำคัญต้นทุนอุปกรณ์ไม่ได้สูงมาก สิ่งสำคัญสุดคือความตั้งใจที่จะเรียนรู้และขยันฝึกซ้อม เพราะทุกอย่างสามารถหาข้อมูลหรือเทคนิควิธีได้จากโซเชียลมีเดีย
แม้วันนี้ยิงไม่โดน พรุ่งนี้ไม่โดน หรือวันมะรืนไม่โดน แต่ต้องมีสักวัน อย่าเพิ่งไปยอมแพ้กับสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำเต็มที่ แต่จำไว้ว่าจะช้าหรือเร็ว ถ้าวันหนึ่งเราทำได้แล้วจากนั้นจะเร็วเลย เพราะประสาทสัมผัส กล้ามเนื้อและใจเราเกิดการเรียนรู้ระหว่างทางแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร
ภาพจากคุณรัน ณัฎศรัณย์
เป็นแรงบันดาลใจส่งต่อให้คนอื่น
การได้ออกสื่อในวงกว้างมากขึ้นทั้งจากรายการทีวี Super 100 อัจฉริยะเกินร้อย หรือกับ รายการ THE POWER GANG EP.8 ทาง YOUTUBE โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ถ้ามองผิวเผินคือการที่เราได้รับบททดสอบยิงหนังสติ๊กที่ท้าทายตามโจทย์ใหม่ แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่และให้คุณค่ามากกว่านั้น คือ คำถามที่คนดูแล้วสงสัยว่า “ทำไมเขายิงหนังสติ๊กแม่นจัง” ได้กลายเป็นการสร้างแรงบันดาลใจทางอ้อมให้กับหลายคนแบบไม่รู้ตัว เพราะอยากยิงหนังสติ๊กให้แม่นแบบนี้เช่นกัน
ถึงตอนนี้ไม่น่าเชื่อว่าประโยชน์จากงานอดิเรกของเขาจะกลายเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้ แล้วก็เคยเกิดขึ้นกับน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากลองยิงหนังสติ๊กหน้าตาแปลกประหลาดและแม่นแบบนี้บ้าง จนได้ลองและค่อยๆ เรียนรู้ ท้ายสุดน้องคนนี้ก็ฝึกปรือฝีมือจนได้ไปออกรายการด้วยกัน ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ว่าเราจะเป็นใครถ้ามีความมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นจริงๆ ทุกคนก็สามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
ที่ได้มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และความชำนาญในกีฬาชนิดนี้ให้กับผู้ชมของ THE POWER GANG โดยเฉพาะอย่างยิ่งแชลเลนจ์ที่ไม่เคยทำมาก่อน เพื่อรับรางวัลเป็นลูกฟุตบอลส่งต่อให้น้องๆ ในชุมชนที่ต้องการ แม้ยากและยังต้องอยู่ในระยะห่างเป้า ไกลถึง 8 เมตร แต่เขาทำให้ “เป็นไปได้” “แชลเลนจ์ในวันนี้มีความยากมาก ทั้งเรื่องลมแรงและการส่ายไปมาของลูกโป่งที่เป็นเป้ายิง ความไม่เสถียรนี้ทำให้ยาก”
“ความจริงเราก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่เจอสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วทำให้สุดทาง ทั้งเรื่องฝึกฝนและการคิดไม่เหมือนคนอื่น มุ่งมั่นทำหนังสติ๊กเอง หลายคนมองว่าบ้า แต่ตัวเขาเองคิดว่า ช่วงโควิด-19 ที่คนออกไปไหนไม่ได้ก็น่าจะเป็นโอกาสหนึ่งที่คนจะสนใจยิงหนังสติ๊กมากขึ้น แล้ววันนี้ทุกอย่างก็ได้พิสูจน์แล้วว่า การหาตัวเองเจอและพยายามอดทนทำในสิ่งที่ชอบ แม้จะคิดต่างจากคนอื่น แต่วันหนึ่งความแตกต่างตรงนั้นจะมาช่วยยกระดับในการลงมือทำของเราเอง” นี่คือประโยคทิ้งท้ายจากคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่คิดว่าครั้งหนึ่งเขาจะกลายเป็นไอดอลของใครได้ แล้วดีกว่าเดิมอีกที่วงจรแรงบันดาลใจนี้จะมีต่อไปเรื่อยๆ ด้วยหนังสติ๊กแบบนี้
ชมความสนุกแบบเต็มอิ่มของ The Power Gang EP8 ตอน “เจอ 2 เซียนหนังสติ๊กขั้นเทพ”