Summary
คุยกับคุณแอ๊ะ – จันทรรัตน์ อุรพีพัฒนพงศ์ บอกเล่าเรื่องความรักในแบรนด์ SHEENICHI อาภรณ์ผ้าพลีทที่วางจำหน่ายร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ถ่ายทอดเสน่ห์ของผ้าพลีท ‘ศิลปะบนผืนผ้า’ ที่ชวนหลงใหล และความงดงามเหนือกาลเวลาของอาภรณ์คุณภาพ
ขอบคุณภาพจากคุณจันทรรัตน์
“อะไรที่เก๋ไก๋ก็นำเข้ามา แต่ต้องเริ่มจากอะไรที่เราชอบก่อน ถ้าเราไม่ชอบก็จะไม่ขาย เราเป็นคนที่ต้องมีแพสชันกับมันก่อน เวลาพูดจะรู้สึกออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจว่าเราเห็นคุณค่าของสินค้านั้นจริงๆ” คำบอกเล่าของ คุณแอ๊ะ – จันทรรัตน์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บริหารแบรนด์ฌีนอิจิ SHEENICHI เริ่มต้นคุยให้เราฟัง
ก่อนหน้าที่คุณแอ๊ะจะเริ่มต้นแบรนด์ฌีนอิจิ เธอเคยจับธุรกิจอื่นๆ มาก่อน จากนั้นจึงมองเห็นโอกาสจากความสวยงามของผ้าพลีท ผนวกกับความรักสวยรักงาม รักการแต่งตัว ‘ฌีนอิจิ’ จึงเกิดขึ้น โดยมีความหลงใหลทั้งมวลและความหวังดีต่อลูกค้าเป็นกุญแจสำคัญ
“ทุกแบบที่เลือกมาต้องมาจากความชอบและอยากใส่ด้วย ต้องเริ่มจากตัวเองก่อน
เราเน้นแก้ปัญหาให้กับลูกค้า ให้สวมใส่แล้วมั่นใจโดยที่ยังเป็นตัวเองอยู่”
จันทรรัตน์ อุรพีพัฒนพงศ์
ประธานกรรมการบริหารแบรนด์ฌีนอิจิ SHEENICHI
ขอบคุณภาพจากคุณจันทรรัตน์
Sheenichi ผ้าพลีทที่เต็มไปด้วยความหมาย
และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ชื่อแบรนด์นี้มีที่มาอย่างไรเหรอคะ?
“ชื่อของลูกค่ะ ลูกคนเล็กชื่อ Sheen (ฌีน) แปลว่า รุ่งโรจน์ สว่างไสว ส่วนคำว่า Ichi (อิจิ) ลูกสาวคนโตเป็นคนตั้ง คำว่า อิจิ แปลว่า หนึ่ง รวมกันระหว่างลูกคนโตกับคนเล็กเลยเป็นชื่อ SHEENICHI (ฌีนอิจิ) เพราะเขาเป็นคนชอบการ์ตูนและหนังญี่ปุ่นก็เห็นว่ามันมีสตอรี และก็เริ่มจากเขานี่แหละที่ทำเสื้อผ้าของแม่เปื้อน”
คุณแอ๊ะเล่าว่าก่อนที่จะเริ่มต้นคิดทำแบรนด์จริงๆ ช่วงที่ลูกคนโตยังเด็กชอบขีดๆ เขียนๆ ปากกาลูกลื่นมาขีดโดนชุดผ้าพลีทตัวใหม่ แต่ใช้เวลาเช็ดด้วยน้ำยาล้างเล็บสีปากกาก็ออกอย่างหมดจด ไอเดียการทำแบรนด์ยังมาจากชีวิตของคุณแอ๊ะเองที่ต้องเดินทางติดต่อธุรกิจอยู่บ่อยครั้ง
ขอบคุณภาพจากคุณจันทรรัตน์
“แอ๊ะเป็นคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ทั้งเรื่องงาน ท่องเที่ยว และช็อปปิง พอต้องเดินทางก็ต้องเลือกเสื้อผ้าให้ตอบโจทย์การเดินทาง จะใส่ชุดลำลองก็ไม่ได้เพราะมีคนมาดูแลรับเราจะทำให้ภาพลักษณ์ไม่ดี จึงนิยมใส่เสื้อผ้าพลีทเพราะผ้าขยายได้หลายเท่า ไม่อึดอัด ไม่ยับง่าย ม้วนเป็นก้อนเล็กๆ ได้ มีที่ในกระเป๋าเหลือให้ใส่ของที่ช็อปปิงกลับมา”
คุณแอ๊ะยังพบว่าผ้าพลีทสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ใส่แล้วดูสง่างามและปรับเปลี่ยนรูปแบบการใส่ ด้วยการเติมเครื่องประดับอีกนิดหน่อยก็สามารถสร้างมู้ดใหม่ๆ ใส่ออกงานได้ จึงนำมาสู่การต่อยอดเป็น ฌีนอิจิ ในปี 2552
จากอดีตนักศึกษาพยาบาล วันนี้คุณแอ๊ะคือนักธุรกิจและเจ้าของแบรนด์ผ้าพลีทที่เชื่อว่าหากใครได้เดินห้างสรรพสินค้า หรือที่คิง เพาเวอร์ ในสาขาต่างๆ จะต้องเคยเห็นอาภรณ์ผ้าพลีทจากฌีนอิจิแน่นอน
ผ้าพลีทที่แท้จริง ต้องเป็นยังไง?
“พลีทที่ดีต้องมีความสปริงตัว
สังเกตได้ว่าสินค้าของทางแบรนด์ SHEENICHI เราไม่ต้องใช้ผ้ากุ๊นเย็บขอบ เก็บริม
แต่พลีทของเราสามารถยืดขยายได้หลายเท่า
ในขณะเดียวกันก็สามารถสปริงตัวกลับสู่สภาพก่อนยืดขยายได้ คงรูปเป็นทรงดังเดิม”
ผลงานของ ฌีนอิจิ ภาพโดย Expert Kit
Suggestion
ความหลงใหลในผ้าพลีท
ศิลปะบนผืนผ้าสู่งานสะสม
อาภรณ์ทุกชิ้นจากฌีนอิจิ คือส่วนผสมของทั้งความหลงใหลในความสวยงามของผ้าพลีท ฝีมือการดีไซน์ของดีไซเนอร์ชาวไทยและผู้เชี่ยวชาญด้านการทำผ้าพลีท ที่คุณแอ๊ะยิ่งรู้จัก ยิ่งหลงรัก
“มันคือศิลปะบนผืนผ้า ด้วยความที่เรารู้จักผู้เชี่ยวชาญจึงทำให้รู้ว่าพลีทมีหลายชนิดมาก แต่ที่จะกล่าวถึงในที่นี้คือ พลีททำมือที่ต้องผ่านการพับ ขึ้นแบบจากกระดาษ เหมือนการพับนกกระดาษ แล้วคลี่กระดาษให้แบนราบ จากนั้นเอาผ้าไปแปะให้ติดกับกระดาษ แล้วขึ้นรูปตามที่พับกระดาษไว้จึงเกิดลวดลายตามกระดาษต้นแบบหรือทิศทางการบิดของพลีทที่แตกต่างกัน ก็จะเกิดเป็นลวดลายที่แตกต่างกัน ซึ่งเทคนิคในการทำผ้าพลีทนั้นมีเยอะมาก”
หลังจากกระดาษที่พับติดกับผืนผ้านำมาผ่านความร้อนสูง ใช้ไอน้ำร่วมด้วย กระดาษก็จะเปื่อยยุ่ย กระดาษลายพลีทมือจึงใช้ได้เพียง 1-2 ครั้งต่อการอัดพลีท 1 รอบ ทิ้งไว้เพียงผ้าพลีทที่ถูกอัดกลีบอย่างสวยงาม หากต้องทำผ้าพลีทผืนใหม่ คนทำผ้าก็ต้องเริ่มต้นจากการพับกระดาษใหม่ เป็นกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนแต่ผลลัพธ์ที่ได้สวยงามจับใจ “เสื้อผ้าพลีทมีปัจจัยเยอะมาก เป็นงานคราฟต์ที่ต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอน”
ขอบคุณภาพจากคุณจันทรรัตน์
จากชุดผ้าพลีทที่สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ความพิเศษของแต่ละคอลเลกชันทำให้กลายเป็นเสื้อผ้าที่สามารถสะสมได้ “การจะเอาผ้ามาทำให้มันยืดขยายได้หลายเท่า เกิดแนวเส้นหลากหลายแนวแล้วมาเย็บต่อกันให้สวยเป็นงานยากมากเลย เนื่องจากมีทั้งพลีทแนวดิ่ง แนวขวาง แนวทแยง แล้วต้องเย็บเชื่อมต่อกัน เช่น ช่วงเชื่อมต่อของลายพลีทแต่ละประเภท ต้องระวังไม่ให้รอยเย็บเชื่อมต่อผ้ากระดก กระเดิด ผิดรูป งานพลีทบางแบบจึงกลายเป็นงานสะสม เพราะหาคนทำซ้ำให้ออกมาเหมือนเดิมไม่ได้”
ยิ่งผ้าพลีททำยากมากเท่าไร ต้องใช้ความประณีตและละเอียดอ่อนในทุกกระบวนการผลิตมากเท่าไร ยิ่งทำให้กลายเป็นของที่น่าซื้อเก็บไว้และสามารถเก็บไว้ใส่ได้เป็นสิบปี เป็นความคุ้มค่าที่คุณแอ๊ะต้องการนำเสนอ
“เสื้อพลีททำยากมาก เสื้อธรรมดาเย็บผิดยังแก้ไขได้ แต่เสื้อพลีทผิดนิดเดียวถือเป็นสินค้า Defect เอามาขายไม่ได้เพราะมีตำหนิ หรือต้องขายโละไปเลย”
ผลงานของ ฌีนอิจิ ภาพจาก SHEENICHI
มุมมองเสื้อผ้า Fast Fashion
จะส่งผลกับการแข่งขันแบรนด์เสื้อผ้าที่ใช้ความประณีตไหม ?
“ตลาดแฟชั่นแบบใส่ทีซื้อใหม่ที มีการแข่งขันสูง เสื้อผ้าราคาถูกเข้ามาเยอะ
แต่แอ๊ะก็เชื่ออย่างหนึ่งว่าความพิถีพิถันของแบรนด์เราและไทยดีไซเนอร์
ที่เขายังอยู่ยั้งยืนยงในปัจจุบัน แม้จะมีการแข่งขันสูง แต่คนที่มีสินค้าที่เก็บดีเทล โดดเด่น
มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ผลงานประณีตและมีฐานแฟนคลับของตัวเองเหนียวแน่น
ต่อให้แข่งขันสูงยังไงก็ยังอยู่ได้”
ตั้งใจส่งต่อความพิถีพิถัน
และปรารถนาดีสู่ผู้หญิงทุกคน
“มันปลื้มและภูมิใจ คำที่จะรู้สึกภูมิใจที่สุดคือ มีคนบอกว่าคนรอบข้างชื่นชม เพื่อนบอกว่าใส่แล้วสวย ดูดี เวลาออกไปงานไหนก็จะรู้สึกว่าสวยโดดเด่น เขาใส่เสื้อผ้าพลีทของเราแล้วผลตอบรับมันดีเกินคาดก็เลยกลับมาซื้อซ้ำ”
คุณแอ๊ะบอกว่า เธอใช้ทั้งความพิถีพิถัน ความเป็นคนชอบช็อปปิง รักสวยรักงาม ที่สำคัญคือการเอาความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตั้งใจหาวิธีที่จะทำให้เสื้อผ้าพลีทตอบโจทย์ “อำพรางจุดด้อย เสริมจุดเด่นในตัวของผู้ที่สวมใส่” ให้ได้มากที่สุด
ขอบคุณภาพจากคุณจันทรรัตน์
“ทุกแบบที่แอ๊ะเลือกมาต้องมาจากความชอบและอยากใส่ด้วยถึงกล้าเอามาขาย คือต้องเริ่มจากตัวเองก่อนหรือคิดแทนลูกค้าว่า มีจุดกังวลใจตรงไหน เช่น คนมีหน้าท้อง คนต้นแขนใหญ่ สะโพกใหญ่ ต้นขาใหญ่ จะช่วยลดจุดกังวลแก่ลูกค้าด้วยสินค้าแบบใด คนที่คอสั้นก็มีแบบที่ช่วยให้ใส่แล้วสวยคอระหง หรือคนที่มีหน้าอกเล็กต้องใช้ตรงนี้มาช่วย เราเน้นแก้ปัญหาให้กับลูกค้า สวมใส่แล้วมั่นใจโดยที่ยังเป็นตัวเองอยู่” ซึ่งทุกอย่างล้วนมาจากแพตเทิร์น คัตติ้ง คุณภาพ และแบบที่ดีไซน์มาเพื่อให้ทุกคนใส่แล้วรู้สึกงดงาม งามสง่าอย่างมั่นใจที่สุด
คนที่สนใจสร้างแบรนด์เสื้อผ้าให้ประสบความสำเร็จ
ต้องมีอะไรเป็นสิ่งสำคัญบ้าง ?
“แบรนด์ระดับโลกจะกำหนดเทรนด์มา เราตามเทรนด์ได้
แต่อย่าตามจนสูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเอง
ควรใส่อินเนอร์ของตัวเองที่ไม่ย้อนแย้งกับเทรนด์ของโลก
ใส่ดีเทล ความเอาใจใส่มาผสมกับการใช้งานจริงอย่างลงตัว
และจับจุดความต้องการของลูกค้าได้ มันจะไปได้อีกนานเลย”
ขอบคุณภาพจากคุณจันทรรัตน์
Suggestion
ศิลปะของการเลือกเสื้อผ้า
ความสง่างามเหนือกาลเวลา
“จะมีบ้านกี่ร้อยล้านคุณก็ไม่ได้พกบ้านไปด้วยทุกที่ ขับรถก็ต้องจอดไว้ในที่จอดรถ แต่เสื้อผ้าที่ติดกายคุณนี่แหละที่จะเป็นตัวสะท้อนรสนิยมและอะไรต่างๆ ในตัวคุณได้ดีที่สุด”
ผ้าพลีทไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่กับคนบางช่วงวัย แต่เหมาะกับผู้หญิงทุกคน คุณแอ๊ะยังบอกด้วยว่า ผ้าพลีทนี่แหละที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่วัยสร้างตัวมากๆ
“ใช้ถุงตาข่ายใส่ในเครื่องซักผ้าความแรงต่ำ สะบัดและตากไม่ให้มีอะไรมาทับ มันก็ไม่ยับ ใส่ไปทำงานตกเย็นจะไปออกงานต่อ เติมเครื่องประดับเข้าไปดัดแปลงแบบเล็กน้อยก็กลายเป็นอีกดีไซน์หนึ่งทันที แอ๊ะเลือกชุดแบบที่ใส่แล้วงามสง่าทุกยุคสมัย ไม่ฉาบฉวย เนื้อผ้าป้องกันไรฝุ่น และผ้าพลีทส่วนใหญ่จะเป็นเส้นแนวดิ่งจะช่วยอำพรางสายตาทำให้ผู้สวมใส่ดูสะโอดสะอง”
ผลงานของ ฌีนอิจิ ภาพจาก SHEENICHI
นอกจากดีไซน์แล้ว คุณแอ๊ะยังให้ความสำคัญกับสีสันที่อยู่บนเนื้อผ้า ผสานความตั้งใจทำให้ทุกคนที่สวมใส่สวยงาม “เราเลือกโทนที่เหมาะสมกับคนในทุกสีผิวและทุกเชื้อชาติและตามเทรนด์ แต่ก็ไม่ได้ตามทุกอย่างซึ่งต้องดูที่ความเหมาะสมของลักษณะของสินค้าด้วย ว่าเราต้องการลุคอะไร ทะมัดทะแมง สดใส งามสง่า ดูโก้ มันก็จะมีสีที่เหมาะสมอยู่” ทั้งหมดทั้งมวลคือความงดงามแบบ Timeless เหนือกาลเวลา
ความภูมิใจที่ได้ส่งต่อสิ่งดีๆ
“ฌีนอิจิได้เข้าไปร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบันเรียกว่าพึงพอใจและแฮปปีมาก ด้วยความเมตตาของ คิง เพาเวอร์ ด้วย และประกอบกับที่เราพยายามตอบโจทย์ทุกอย่าง อะไรที่ต้องทำให้มันดีขึ้นได้เรื่อยๆ เราก็พยายามทำให้ดีขึ้นมาตลอด”
ในวันนี้เธอได้รับผลตอบรับชวนกระตุกรอยยิ้มมาเสมอ ยิ่งเติมเต็มให้หัวใจพองโต “แอ๊ะดูจากผลตอบรับจากลูกค้าที่มาชมถึงที่ร้านว่าลูกซื้อเสื้อผ้าจากแบรนด์เราให้แต่พอแม่ใส่ไปเจอเพื่อนๆ หรือคนในงานก็ชมกันใหญ่เลย” กับอีกเคสหนึ่งที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี เคยมีไกด์ทัวร์มาถามหาชุดเดรสที่ขายหมดไปแล้ว เพราะลูกทัวร์ของเขาที่เคยมาเที่ยวที่นี่อยากได้ จึงฝากให้มาซื้อถึงที่ประเทศไทย
ขอบคุณภาพจากคุณจันทรรัตน์
วันนี้สิ่งที่คุณแอ๊ะพยายามทำและความตั้งใจที่ใส่ลงไปในการบริหารแบรนด์ฌีนอิจิมาตลอดเกือบ 15 ปี ผลิดอกออกผลเป็นรอยยิ้ม ความมั่นใจจากลูกค้าทุกคน และการได้เป็นส่วนหนึ่งวางจำหน่ายที่คิง เพาเวอร์และห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ฌีนอิจิ แบรนด์ผ้าพลีทจากคนไทย ดีไซเนอร์ไทยได้รับการยอมรับจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติแล้ว
เราคุยกับคุณแอ๊ะมาร่วมชั่วโมง ได้เห็นทั้งมุมมองและความหลงใหลในผ้าพลีทซึ่งสะท้อนจากน้ำเสียงของเธอ ยิ่งตอบเราว่าผู้หญิงคนนี้ทั้งเข้มแข็ง เก่ง และใช้ความพิถีพิถันในตัวเองตั้งใจสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ออกมา เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนที่ได้สวมใส่เสื้อผ้าของเธอรู้สึกมั่นใจในรูปร่างและสง่างามที่สุดในแบบที่ตัวเองเป็น
ขอบคุณภาพจากคุณจันทรรัตน์
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: SHEENICHI
สนใจสินค้าพลังคนไทย สามารถสนับสนุนได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา