Passion

‘Sisweet’ แพ้-ชนะ ไม่ใช่ประเด็น
เพราะพวกเขาต้องการเป็น ‘ศิลปิน’

อลิษา รุจิวิพัฒน์ 30 Jul 2024
Views: 826

Summary

Sisweet วงม้ามืดสนามกรุงเทพฯ จากชมรมดนตรีโรงเรียนศรีสุวิช ที่ได้คำชมจากคณะกรรมการอย่างเป็น    เอกฉันท์ว่า “ทำโชว์เหมือนเล่นเพลงตัวเอง” ถึงจะเจนจัดเวทีประกวด แต่ THE POWER BAND คือเวทีท้าทายที่สุด เพราะเป้าหมายวงคืออยากเป็นศิลปิน ถ้าคิดจะไปให้ไกลจึงตัดสินใจงัดกับรุ่นใหญ่ซะเลย

“เราไม่ได้อยากเป็นแค่แชมป์ในเวทีการประกวดแต่เราอยากเป็นศิลปิน” พวกเขาจึงเลือกลงสมัคร Professional Class แทนที่จะงัดข้อกับรุ่นเดียวกันใน High School Class เพราะเป้าหมายวงคือ อยากเป็นศิลปิน ถ้าคิดจะไปให้ไกลจึงตัดสินใจงัดกับรุ่นใหญ่ซะเลย

ถ้านี่คือเป้าหมายของทีม Sisweet การสอบผ่านสนามแข่งกรุงเทพฯ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ THE POWER BAND 2024 SEASON 4 เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี” จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ก็พิสูจน์ได้ว่าพวกเขามาถูกทางและเสริมความเชื่อมั่นไปอีก เมื่อคณะกรรมการเห็นตรงกันว่า “เหมือนดูโชว์ของพวกเขาจริงๆ ไม่ใช่การเอาเพลงคนอื่นมารีอะเรนจ์”

(ซ้ายไปขวา) จักร (เบส) / อะตอม (กีตาร์) / วิป (กลอง) / อั้ม (กีตาร์)
(หน้า) อิง (ร้องนำ)

“นี่แหละแนวทางของวง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการให้คนดูสัมผัส ทุกคนต้องสนุกเหมือนดูคอนเสิร์ตของศิลปิน ไม่ได้มาดูการประกวด” อั้ม – พิมพ์สุวิช คงสอาด (กีตาร์) พี่ใหญ่ของวงบอก เมื่อเราถามว่า ฟังคอนเมนต์คณะกรรมการแล้วรู้สึกอย่างไร

“เป็นจุดแข็งของวงเลยครับ” จักร – จักรินทร์ มงพลเมือง (เบส) เล่าเสริมพร้อมบอกว่า “ตอนที่เรารีอะเรนจ์จะฟังต้นฉบับแค่ครั้งเดียวแล้วยกเครื่องใหม่หมด อย่างเพลง ‘จงเรียกเธอว่านางพญา’ มันต้องสนุกได้มากกว่านี้และปรับเป็นแนวดนตรีของพวกเรา และใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปในเพลง สิ่งที่ทุกคนเห็น มันคือตัวเรา”

อิง – มนัสนันท์ อิทธิกรณ์วรกิจ (ร้องนำ) เสริมว่า “เวลาโชว์บนเวทีเราแค่จินตนาการว่านี่คือผลงานของเรา มีเท่าไรใส่ให้หมด อยากให้คนดูรับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจเราให้มากที่สุด อย่างเพลง ‘จงเรียกเธอว่านางพญา’ ที่ถือโทรโข่งได้ไอเดียจากสิ่งที่เราชอบ และอยากให้เป็นไอคอนิกของตัวเราว่า นักร้องวง Sisweet ต้องถือโทรโข่ง”

 

“อยากแสดงตัวตนเต็มที่โดยไม่แคร์ว่าจะแพ้หรือชนะ”

อิง – มนัสนันท์ อิทธิกรณ์วรกิจ นักร้องนำ

 

อายุวงแค่ 1 ปี แต่ลุยมาแล้วกว่า 20 สนามแข่ง

ที่ทรงอย่างเซียนเบอร์นี้ เพราะเดินสายประกวดมากกว่า 20 สนาม และเก็บแต้มประสบการณ์บนเวทีต่างๆ อาทิ Siam Square Walking Street หรืองาน The Voice Foundations และเคยเป็นตัวแทนภาคตะวันออกเข้ารอบชิงชนะเลิศ หลังจากที่เพิ่งฟอร์มวงได้เพียง 3 เดือน!

อั้มเล่าว่า ชมรมดนตรีโรงเรียนศรีสุวิช เพิ่งมีเมื่อปีที่แล้ว (ปี 2023) “ผอ.คงเห็นว่าพวกเราตั้งใจจริงก็เลยสนับสนุนเต็มที่ ทำห้องซ้อมดนตรีให้ และได้ครูจุ้ย – ศุภกร รอบรู้ มาเป็นครูที่คอยสอนและผลักดันให้พวกเราไปประกวด”

“ครูจุ้ยเคยบอกว่า นอกจากอยากผลักดันให้ฝันของทุกคนเป็นจริง อีกเหตุผลหนึ่งคือ อยากผลักดันน้องวิป เพราะศักยภาพของน้องเกินกว่าที่จะเล่นโชว์แค่ในโรงเรียน” อิงเสริม

วิป – ด.ช.วัชรพงศ์ นิตย์ใหม่ (กลอง) น้องเล็กของวงเล่าว่า ตั้งแต่เด็กมีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจ นั่งตักพ่อตีกลองตั้งแต่ 3 ขวบ เล่นจริงจังตอน 7 ขวบ และส่งคลิปแข่งประกวดกลองเดี่ยวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา “ผมอยากเป็นแบ็กอัป พอพี่ๆ ชวนร่วมวงก็ตกลงทันที เพราะอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ”

ส่วน อะตอม – ณัฐวัฒณ์ สรงเนย (กีตาร์) จากเด็กที่ไม่เคยคิดว่าจะเล่นดนตรีได้ ดันโดนลีลาการเล่นดนตรีของอั้มตกจนอยากเล่นตาม “พี่อั้มคือคนที่ทำให้ผมอยากเล่นดนตรี ผมได้ดูพี่เขาเล่นในงานแฟร์ของโรงเรียน ความรู้สึกแรกคือ โครตรเท่! หลังจากนั้นก็ฟอร์มวงเลยครับ”

“ผมนี่แหละที่ยืนดูข้างอะตอม” จักรเล่าต่อ “ตั้งวงแบบมั่วๆ มีแค่กีตาร์กับเบส แล้วครูจุ้ยก็ชวนพี่อั้มกับวิปมาร่วมวง ส่วนอิงมาคนสุดท้าย”

“อิงเคยทำวงกับพี่อั้มตอนอิงอยู่ ม.ต้น แต่พอดีมีเหตุให้ต้องย้ายโรงเรียนเลยออกจากวงไป พอ ม.ปลาย กลับมาเรียนที่เดิม พี่อั้มกับครูจุ้ยก็ชวนกลับมา ต้องขอบคุณทั้งสองคนมากๆ เพราะเคยเกือบหมดหวังกับเส้นทางนี้และคิดจะทิ้ง แต่เหมือนมีคนจุดประกายให้เรามีโอกาสอีกครั้ง และลึกๆ เหมือนเรายังโหยหามันอยู่ ยังคิดถึงช่วงเวลาที่เรามีความสุขกับมันเลยตัดสินใจกลับมา” อิงเล่า

 

เพลงปลุกพลังฟังแล้วพร้อมจะ ‘ไปต่อให้สุด’

• อั้ม (กีตาร์): คู่ชีวิต (Cocktail)
• อิง (ร้องนำ): ain’t it fun (Paramore)
• อะตอม (กีตาร์): ทุกซิงเกิลของวง Potato
• จักร (เบส): ปลายสายรุ้ง (Paradox)
• วิป (กลอง): ซ้ำซ้ำ (Paper Planes)

เวทีประกวด = พื้นที่สร้างประสบการณ์จริง

4 วันต่อสัปดาห์ อย่างต่ำ 4 ชั่วโมงต่อวัน คือเวลาที่พวกเขาทุ่มเทให้กับการซ้อมนับตั้งแต่วันแรกที่ฟอร์มทีมจนถึงวันนี้ พวกเขาบอกว่า ช่วงไหนที่ต้องประกวดจะซ้อมหนักขึ้น เหนื่อยแต่ไม่ท้อเพราะเป้าหมายเดียวในตอนนี้คือ ‘เก็บประสบการณ์ให้มากที่สุด’

“ครูบอกเสมอว่า ให้มองการประกวดเป็นประสบการณ์” พวกเขาบอกว่าถึงแม้ยุคนี้ใครก็สามารถเป็นศิลปินได้ ทำเพลงเอง ทำช่องเอง แต่เวทีการประกวดเป็นพื้นที่ที่จะสร้างประสบการณ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้

“สมมติเราทำเพลงเองแล้วดังแต่ไม่เคยแสดงจริงบนเวทีเลย ถ้ามีคนมาจ้างงานเราไม่มีทางเอาคนดูอยู่เพราะเราไม่มีประสบการณ์บนเวทีจริง เราไม่สามารถออกแบบโชว์ให้คนดูสนุกกับเราตลอดการแสดง และถ้าเจอปัญหาเฉพาะขึ้นมาพังแน่นอน เพราะทุกเวทีไม่มีทางเดาได้เลยว่าจะเจอกับอะไร” อั้มบอก

อะตอมเล่าว่า “ผมเคยสายกีตาร์ขาด แอมป์ชอร์ต แรกๆ ช็อตฟีลไปเลย หลังๆ นิ่งขึ้นเยอะ” ส่วนอิงบอกว่า “ลืมเนื้อนี้ประจำ”

วิปเองก็ชอบการประกวด “นอกจากจะได้เพื่อนใหม่ยังทำให้เห็นว่ามีคนเก่งกว่าเราอีกเยอะเราจะหยุดพัฒนาไม่ได้”

“การประกวดทำให้เราได้ฟังคอนเมนต์จากคณะกรรมการ ทำให้เรารู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนที่ทีมต้องปรับและอะไรคือจุดแข็งที่เราต้องรักษามันไว้ อีกอย่างคือ เราได้ฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้นหลายคนตามไอจีเราหลังจากเห็นเราบนเวทีประกวด” จักรปิดท้าย

“ที่เลือกสมัคร Class B แทนที่จะงัดข้อกับรุ่นเดียวกันใน Class A ได้
เพราะเป้าหมายวงคือ อยากเป็นศิลปิน ถ้าคิดจะไปให้ไกลต้องงัดกับรุ่นใหญ่ไปเลย”

อั้ม – พิมพ์สุวิช คงสอาด (กีตาร์)

 

ขอบคุณนะ…ที่ทำให้เรามีวันนี้

ถ้าให้เลือกขอบคุณหนึ่งคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ “คุณพ่อคุณแม่ครับ” วิปตอบอย่างรวดเร็ว “ท่านคอยสนับสนุนผมมาตลอด และเชื่อว่าผมจะเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น”

เช่นเดียวกับอะตอม “พ่อกับแม่พูดเสมอว่าพร้อมสนับสนุนเต็มที่แค่ขอให้ไปให้สุด ผมอยากขอบคุณพี่อั้มด้วยที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากเล่นดนตรี ครูจุ้ยที่ทำให้ผมเล่นกีตาร์เก่งขึ้นและรู้อะไรเกี่ยวกับดนตรีมากขึ้น”

ส่วนอั้ม พี่ชายคือคนที่เขาอยากขอบคุณเพราะเป็นคนแรกที่ซื้อกีตาร์ให้ “อีกคนที่อยากขอบคุณคือครูจุ้ย ถ้าครูไม่ผลักดันพวกเราคงไม่มาถึงจุดนี้”

อิงเสริมว่า “พวกเราโชคดีมากที่มีโรงเรียนสนับสนุน มีครูคอยผลักดัน และพ่อแม่ของพวกเราทุกคนที่สนับสนุนเต็มที่ ขอบคุณทุกคนที่อยู่รอบตัว ถึงพวกเราจะไม่รู้ว่าในอนาคตแต่ละคนจะเดินเส้นทางนี้ต่อไหม แต่ถ้าวันนี้เราไม่เคยได้โอกาส คงไม่มีทางรู้ว่า นี่คือทางที่พวกเราอยากเดินต่อหรือเปล่า”

จักรเห็นด้วยว่าทุกคนรอบตัวคือคนที่พวกเขาอยากขอบคุณ “ผมชอบที่ครูจุ้ยบอกว่า วงเราเน้นสุด! ต่อให้มีคนดูแค่คนเดียวก็ต้องเล่นให้สุด ขอบคุณที่ครูคอยดึงสติและผลักดันพวกเรา ที่ลืมไม่ได้คือขอบคุณเพื่อนในวงที่ช่วยกันเต็มที่ ส่วนพ่อแม่ก็บอกว่า ‘ไปให้สุดอย่าหยุดนะ’ และสุดท้ายขอบคุณเวที THE POWER BAND ด้วยครับ ที่ทำให้เราเห็นโอกาสบนเส้นทางนี้มากขึ้น

 

Let The Music Power Your World

เมื่อถามว่า ‘ดนตรี’ พาพวกเขาไปเจอความเป็นไปได้อะไรบ้าง อั้มเล่าว่า เด็กชายอั้มเคยคว้าที่ 1 แข่งขันดนตรีไทยระดับเขต เก่งจนได้ไปแข่งระดับภาค “ตอนนั้นครูบอกว่า ถ้าเราให้ความสำคัญกับดนตรี ทุ่มเทและเชื่อมั่น สักวันมันจะพาเราไปในที่ที่เราไม่เคยไป ตอนเด็กๆ ผมไม่เข้าใจ แต่วันที่ผมยืนอยู่บนเวที THE POWER BAND ผมเชื่อหมดใจเลยว่ามันจริง ใครจะเชื่อว่าพลังดนตรีจะพาให้ผมมายืนบนเวทีใหญ่ขนาดนี้”

อะตอมสารภาพว่า เคยคิดว่าตัวเองเล่นดนตรีไม่รอด แต่พอเปิดใจและอยู่กับมันจริงๆ ถึงได้พบว่าดนตรีคือความสุข “ผมยังไม่เชื่อเลยว่าการที่ผมทุ่มเทฝึกซ้อมกีตาร์จะทำให้ผมมาได้ไกลขนาดนี้”

“ดนตรีทำให้ผมค้นพบตัวเอง ไม่งั้นผมก็คงจะเป็นแค่เด็กธรรมดาที่ใช้ชีวิตไปวันๆ” จักรเล่าว่าตั้งแต่เด็กชีวิตผูกพันกับดนตรีตลอด ตั้งแต่ไปนั่งดูพี่ชายซ้อมดนตรี อยู่ชมรมดนตรีไทย ย้ายไปเล่นวงโยธวาทิต แล้วก็หันมาลองคีย์บอร์ดและกีตาร์ สุดท้ายก็มาจบที่เบส และพาเขามาถึงวันนี้

วิปเล่าว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งเขาท้อจนเกือบจะเลิก เพราะเจอกับโจทย์ที่ยากมาก “เราเดินมาไกลขนาดนี้แล้วถ้าล้มเลิกที่ทำมาก็เสียเปล่า พอตั้งสติได้ก็คิดใหม่ว่า เรามาไกลขนาดนี้ถ้าเลิกตอนนี้ที่ทำมาก็เสียเปล่า ก็เลยตั้งใจมากขึ้น ซ้อมมากขึ้น สุดท้ายผมก็เอาชนะตัวเองได้ ยิ่งทำให้มั่นใจว่า ถ้าเรามุ่งมั่นไปจะเป็นอะไรก็ได้

เห็นพลังเยอะและดูมาดมั่นบนเวที แต่อิงบอกว่า จริงๆ แล้วเธอเป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย แต่สิ่งที่ทลายกรอบนั้นได้ก็คือ ‘ดนตรี’  “ถ้าเรารักมัน เต็มที่กับมัน ต่อให้มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราผิดหวัง สุดท้ายเราจะเจอความเป็นไปได้ในเส้นทางของเรา”

 

ชมความสนุกจากรายการ Music School EP.24‘SISWEET’ ร็อกหวานเจี๊ยบ!

Author

อลิษา รุจิวิพัฒน์

Author

มนุษย์ที่ชอบทำงานตามโจทย์แต่ชอบใช้ชีวิตตามใจ หวั่นไหวกับของเล่น การ์ตูน ร้านหนังสือ ดิสนีย์แลนด์ และฝันว่าสักวันจะได้ไปเยือนสวนสนุกทั่วโลก

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ