Summary
วง Savvy ของเขาเพิ่งได้รับการประกาศชื่อว่าคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้ ไม่นานชื่อของผู้ได้รับรางวัล Outstanding Player 1 ใน 2 รางวัลสำหรับรุ่นมัธยมก็ประกาศชื่อของ ต้นโมกข์ – วรชน เติมวิทย์ขจร มือกีตาร์ วง Savvy เราชวนเขามาพูดคุยถึงความรักในดนตรี จากขึ้นเวทีรับรางวัลมือกีตาร์…ที่เริ่มต้นจากการเล่นเบส
พอบนเวทีประกาศผลตัดสินรางวัลที่มอบให้กับวงและบุคคลแล้ว เราก็รีบคว้าตัว ต้นโมกข์ – วรชน เติมวิทย์ขจร มือกีตาร์ เจ้าของรางวัล Outstanding Player ล่าสุด…สมาชิกวง Savvy มาพูดคุย วงดนตรีเลือดผสมจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียน Horwang Music Academy School และ Denla British School (กรุงเทพฯ) วงที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รุ่นมัธยม (High School Class) จาก THE POWER BAND 2024 SEASON 4 จัดโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำ ภายใต้คอนเซปต์ “Let The Music Power Your World เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี” มาด้วยเช่นกัน
ถึงเจ้าตัวจะอวยยศว่ารางวัลนี้ได้มาเพราะเพื่อนในวงช่วย (ช่วยกันผลักดัน) แต่เชื่อเถอะว่า 99.9% ของเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากตัวเขาเอง ยืนยันได้จากรางวัล Outstanding Musician จากเวทีประกวดเพลงแจ๊สระดับประเทศแห่งหนึ่ง ที่เจ้าตัวเพิ่งคว้ามาได้ก่อนนี้ไม่นาน
“ผมเคยมีความคิดว่า ทำไมเราถึงเล่นได้ห่วยขนาดนี้ จนอยากจะเลิกเล่นไปเลย” ต้นโมกข์ ยิ้มเขินๆ ระหว่างที่กำลังย้อนเล่าความรู้สึกตัวเองในวันที่ท้อแท้จนเกือบจะยอมแพ้ให้กับสิ่งที่รัก
“ดีนะที่กลับมาได้” เขาหัวเราะก่อนจะบอกถึงวันแย่ๆ ที่เคยผ่านมาได้ “มันมีช่วงหนึ่งที่ผมแอบกังวลว่าการเล่นดนตรีจะหาเลี้ยงชีพได้จริงเหรอ ถ้าทุ่มเทแล้วไม่ประสบความสำเร็จจะไปทำอะไรต่อ พอเริ่มลังเล มันน่าจะทำให้ผมหมดไฟไปช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายก็คิดได้ว่า ถ้าไม่อยากล้มเหลวก็อย่าล้มเลิก สักวันมันต้องสำเร็จ”
“ผมคิดว่า รางวัล Outstanding Player ไม่ได้มองว่าเราเล่นเก่งอย่างเดียว
แต่เราทำหน้าที่เป็นมือกีตาร์ของวงได้หรือเปล่า”
ต้นโมกข์ – วรชน เติมวิทย์ขจร มือกีตาร์ วง Savvy
Horwang Music Academy School และ Denla British School (กรุงเทพฯ)
รางวัล Outstanding Player (รุ่นมัธยมศึกษา)
THE POWER BAND 2024 SEASON 4
อ่านเรื่องของวง Savvy คลิก
ไม่ลองก็ไม่รู้ว่ารัก
ทำไมถึงเปลี่ยนจากเล่นเบสมาเป็นกีตาร์ ?
ที่ถามเพราะรู้มาว่าต้นโมกข์เคยขึ้นเวที THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ในฐานะมือเบสของวง Horwang Music Academy ย้อนกลับไปอ่านเรื่องของวงนี้เมื่อซีซันแรก คลิก
เขาเล่าว่า เบสคือเครื่องดนตรีชิ้นแรกในชีวิตที่เขาเล่น เจ้าตัวยืนกรานว่าเหตุผลไม่ใช่เพราะอยากให้สาวกรี้ดเหมือนที่เพื่อนแซว
“ตอนนั้นขาดมือเบสเล่นงานโรงเรียน เพื่อนมาชวนก็เลยอยากลอง แล้วเห็นว่ามันดีที่จะได้สนุกกับเพื่อนก่อนจบ ป.6 ด้วย พอเล่นแล้วสนุก ช่วงแรกๆ เพื่อนของพี่ชายเป็นคนสอนเล่นเบส แค่อาทิตย์เดียวก็พอเล่นเป็นแล้ว หลังจากนั้นเป็นเรื่องของการซ้อมล้วนๆ เพิ่งมาหัดเล่นกีตาร์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถึงได้รู้ว่าเราก็ชอบกีตาร์เหมือนกัน”
“ตอนเริ่มเล่นเพราะเห็นคนอื่นเล่นแล้วดูเท่ดี อยากเท่แบบเขาบ้าง แต่พอเราอยู่กับกีตาร์ทุกวันผมกลับชอบมันมากกว่าตอนเล่นเบส ยิ่งเวลาดูคลิปคนเล่นกีตาร์บนเวที เหมือนเห็นภาพตัวเองชัดมาก ว่าเราก็ไปอยู่จุดนั้นได้ เราอยากเห็นภาพตัวเองแบบนี้ ทุกครั้งที่เหนื่อย ท้อ ผมจะพยายามนึกภาพตัวเองในวันที่ได้ไป World Tour”
“ผลของความทุ่มเทซ้อมในวันนี้มันคุ้มค่าแน่นอน
ยิ่งถ้าได้เป็นศิลปินเดี่ยวได้ไป World Tour
นอกจากได้เล่นดนตรีแล้วยังได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วย”
Suggestion
กีตาร์คือทุกสิ่ง ดนตรีคือทุกอย่าง
ต้นโมกข์บอกว่า ตั้งแต่วันที่เริ่มเล่นเบสจนถึงวันนี้ การซ้อมดนตรีกลายเป็นกิจวัตรที่ไม่ทำไม่ได้ ถ้าไม่นับที่เขาต้องเล่นเพราะเป็นส่วนหนึ่งของในวิชาของเอกดนตรีที่เขาเรียนอยู่
“นอกจากจะซ้อมในห้องเรียนหรือซ้อมเพื่อส่งการบ้าน ว่างเมื่อไหร่ก็เล่นกีตาร์ ยิ่งถ้าช่วงไหนที่ฟิลเศร้าๆ เหงาๆ กีตาร์จะกลายเป็นเครื่องระบายความรู้สึกของผมทันที บางทีเปิด YouTube เจอเพลงที่ชอบก็มานั่งแกะคอร์ด ช่วงปิดเทอมก็จะจัดตารางซ้อมเองตั้งแต่บ่ายๆ ถึงเย็นทุกวัน เริ่มจากวอร์ม ซ้อมสเกล ซ้อมเทคนิคที่เรายังไม่เก่ง จะพยายามสร้างความท้าทายด้วยการหาคอร์ดยากๆ หรือเพลงเร็วมาฝึก”
พลังแห่งกันผลัดกันดัน
เมื่อถามถึงการดีไซน์พาร์ตโซโลในเพลง ‘วัดปะหล่ะ’ และ ‘ซ่อน (ไม่) หา’ บนเวทีรอบชิงชนะเลิศ เขาจะบอกว่า ทั้งสองเพลงทุกคนในวงจะช่วยกันดีไซน์ให้เหมือนกำลังเล่าเรื่องเดียวกัน ฟิลเหมือนกำลังดูละครเพลง “การดีไซน์ไลน์ดนตรีอย่างเพลง ‘วัดปะหล่ะ’ ของศิลปิน 4EVE ก็ตีความไปว่าคนอื่นเขาดีกว่าแล้วเขาทิ้งเราไป มันเลยต่อเนื่องไปที่เพลง ‘ซ่อน (ไม่) หา’ ของศิลปิน เจฟฟ์ ซาเตอร์”
“ดนตรีพาร์ตแรกผมก็เสนอไอเดียว่า อยากถ่ายทอดความรู้สึกเคว้งๆ เศร้าๆ จนไปถึงตอนสุดท้ายต้องการบอกคนฟังว่า ถึงจะเศร้าแต่เราจะมูฟออนแล้วนะ” ต้นโมกข์บอกว่า ตอนอยู่บนเวทีทุกโน้ตที่เขาถ่ายทอดเขารู้สึกกับมันจริงๆ ราวกับตัวเองเป็นตัวเอกในละครเรื่องนี้
แต่ถึงจะอินกับพาร์ตของตัวเองแค่ไหน แต่ต้นโมกข์บอกว่า เขาขึ้นเวทีเพื่อทำหน้าที่สมาชิกวง ไม่ใช่เพื่อโชว์ลีลาของตัวเองให้กรรมการเพราะหวังจะคว้ารางวัล Outstanding Player “ผมคิดแค่ว่าหน้าที่ของผมคือซัปพอร์ตความรู้สึกของนักร้อง แต่ถามว่าอยากได้รางวัลไหม อยากอยู่แล้ว”
“ผมว่าคนเล่นดนตรีทุกคนก็อยากได้รางวัลเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เวลาเห็นคนได้รางวัลก็คิดว่าถ้าเราได้บ้างก็คงจะเท่เหมือนกัน ก็เอามันมาเป็นแรงบันดาลใจพัฒนาฝีมือของตัวเอง แต่วันนี้ผมขึ้นแสดงในฐานะมือกีตาร์ วง Savvy การซัปพอร์ตกันในทีมคือหน้าที่หลักครับ ที่ผ่านมาถึงผมจะซ้อมกับวง แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าในฐานะนักดนตรีเราจะเล่นอย่างไรให้พอดี ไม่มากไปและไม่น้อยไป แต่ทุกคนในวงจะต้องซัปพอร์ตกันและกัน มาเข้าใจจริงๆ ก็ตอนที่เข้าค่ายดนตรี THE POWER BAND MUSIC CAMP”
“คนเล่นดนตรีทุกคนก็อยากได้รางวัลเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง
แต่วันที่ผมขึ้นแสดงในฐานะมือกีตาร์ วง Savvy การซัปพอร์ตกันในทีมคือหน้าที่หลัก”
อภิสิทธิ์เฉพาะผู้ลงแข่ง THE POWER BAND ที่ใครก็คว้าได้
มากไปกว่าประสบการณ์บนเวที เขาบอกว่าการเข้าแคมป์ดนตรี THE POWER BAND MUSIC CAMP เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่หาไม่ได้จากที่ไหน “มันเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ เอาแค่ที่สอนในคลาสก็ได้ความรู้เยอะแล้ว พอเลิกคลาสก็ยังขอคำปรึกษากับครูได้อีก ไม่มีใครกั๊กวิชาเลย ผมใช้โอกาสนี้ไปขอความรู้และคอมเมนต์กับครูแต่ละคน”
“ที่จำได้ไม่ลืมคือคำแนะนำของอาจารย์เช่ ในคลาสครูสอนเรื่องการสื่ออารมณ์ผ่านเพลง ซึ่งผมอยากรู้ว่าการจะสื่ออารมณ์ไปถึงคนฟังมันต้องทำยังไง ครูบอกว่าต้องรู้สึกไปกับเพลง ผมก็นำสิ่งที่ครูบอกมาทำการบ้านกับตัวเองเพิ่มเติมว่าเวลาเล่นโน้ตนี้ต้องรู้สึกแบบไหน”
นักกีตาร์ในดวงใจ
อันดา – อลันดา ฉันทรัตนโชค และ Guthrie Govan
“เวลาผมดูสองคนนี้มันเป็นพลังให้ผมอยากเห็นตัวเองขึ้นไปอยู่ในจุดเดียวกับเขาบ้าง”
ภาพโดย Expert Kit
ลองสวมบทเป็นคณะกรรมการให้คะแนนตัวเอง
“ถ้าคะแนนการเล่นกีตาร์ ผมให้ตัวเอง 5 เต็ม 10 พอใจระดับหนึ่งแต่ก็ยังมีอีกหลายจุดที่อยากพัฒนาให้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องอารมณ์อยากอินกับทุกโน้ตและสื่อไปถึงคนฟังมากกว่า จากนี้ก็คงจะต้องฟังให้เยอะ ฝึกตีความเพลง ฝึกเทคนิคใหม่ๆ และซ้อมให้เยอะกว่านี้”
ส่วนคะแนนการเล่นบนเวทีรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ ต้นโมกข์ให้ตัวเอง 10 เต็ม 10 “ค่อนข้างพอใจกับการเล่นในวันนี้มาก ไม่มีอะไรคาใจ รู้สึกเต็มที่มากๆ เหมือนได้ลองของหลังจากที่ซ้อมมานาน โดยเฉพาะช่วงโซโลเปลี่ยนคอร์ด เปลี่ยนคีย์ไปมา”
ฝันที่ต้องกล้าฝัน
ถึงคำถามจะฟังดู ‘คลิเช่’ ไปนิดแต่ก็อยากรู้อยู่ดีว่า ภาพฝันของต้นโมกข์ในเส้นทางดนตรีคืออะไร “ฝันสูงสุดคือการเป็นศิลปินกีตาร์เดี่ยว ทำอัลบั้มโดยที่แต่ละอัลบั้มมีเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันเหมือนซีรีส์ที่มีหลายภาค และสุดท้ายคือได้ไป World Tour”
ส่วนฝันที่ใกล้กว่านั้นเขาบอกว่ากำลังวางแผนลงแข่งกีตาร์เดี่ยวรายการ Overdrive Guitar Contest “นี่คือเวทีที่สูงที่สุดในประเทศไทยสำหรับนักกีตาร์แล้วครับ ทุกคนฝันอยากจะทำเพลงเพื่อลงแข่งและชนะในรายการนี้ ผมก็ฝันอยากจะชนะเหมือนกันครับ”
เมื่อได้สำรวจเส้นทางความฝันที่อยู่บนเส้นทางความสำเร็จของเด็กหนุ่มมัธยมผู้มุ่งมั่นคนนี้ เราก็ได้เรียนรู้ไปด้วยว่าความมุ่งมั่นและชัดเจนนั้น มีส่วนช่วยให้ “ฝันเป็นไปได้” และอินสไปร์ได้ดีจริงๆ
ภาพโดย Expert Kit