Passion

“รองชนะเลิศฯ”
อีกก้าวที่เติบโต ของอุดรพิทยานุกูล

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว 3 Oct 2023
Views: 3,154

Summary

วงอุดรพิทยานุกูลกลับมาแล้ว พร้อมเติบโตขึ้น ปีนี้วงลงแข่งใน 2 Class แต่ยังเฉียบและเล่นดนตรีได้ยอดเยี่ยมใน THE POWER BAND 2023 SEASON 3 พวกเขาครองเวทีและเสียงกรี๊ดจากคนดู จนคว้ารองชนะเลิศอันดับ 2 ไปครอง ในฐานะ ‘เอนเตอร์เทนเนอร์’ ที่สร้างความประทับใจให้คนดู พวกเขามีความสนุกๆ พร้อมเล่าถึงไอเทมลับ! ของวง ไปอ่านกันเลย

“สวัสดีอุดรพิทฯ เราเจอกันอีกแล้ว” ปีที่ 2 แล้วนะที่ได้เจอกัน จะเรียกว่าเป็นแฟนประจำของเวทีนี้ก็ว่าได้ ใน THE POWER BAND 2022 SEASON 2 พวกเขาคว้ารางวัลชมเชยใน Class A ไปครอง และปีนี้ THE POWER BAND 2023 SEASON 3 โดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พวกเขาเขยิบขึ้นอีกก้าวด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 ของ Class B 

เอ๊ะ ทำไมคราวนี้พวกเขากลับมาใน Class B ล่ะ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้…

ปีนี้ ณ สนามขอนแก่น อุดรพิทยานุกูลผ่านเข้าสู่รอบแสดงสดของ Class A รุ่นมัธยมศึกษา แต่พวกเขาก็พลาดตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้ทางวงมีการปรับแผน โดยการดาวน์โหลดไอเทมลับมาเสริมทีม นั่นคือรุ่นพี่ของพวกเขา อย่าง เจ็ท – อภิรักษ์ แสนนาม (ร้องนำ) และ ผักกาด – ภควดี สุวรรณกุศล (ร้องนำ) (คลิกอ่านเรื่องวงเมื่อ SEASON 2)

ปรับรูปแบบโดยลดขนาดวงลงเหลือน้องๆ 6 คน คือ บูม – วรภัทร นาคเครือ (กีตาร์) คอปเตอร์ – นาคินทร์ ไชยยงค์ (เบส) ผักบุ้ง – ธัมมาภรณ์ วะสาร กับ นาเดีย – พีรชญา สุปัญญา (คีย์บอร์ด) จัมโบ้ – พะศทัศน์ ศรีเครือเนตร (กลองชุด) และ ต้า – พิทวัส คุณชื่น (เพอร์คัชชัน/ แซกโซโฟน) 

เมื่อมีพี่ๆ เข้ามา พวกเขาจึงย้ายมาเข้าร่วมใน Class B และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สมใจ แต่ก็ยังคงใช้ชื่อโรงเรียนเป็นชื่อวง เพราะนี่คือตัวตนและศูนย์รวมหัวใจของทุกคน

ถ้าเราตั้งคำถามกับตัวเองหรือสิ่งที่ตัวเองชอบไม่ผิด คำตอบหรือผลลัพธ์มันก็จะไม่เพี้ยน
เพราะฉะนั้นถ้าอยากเก่งก็ต้องซ้อม อยากเป็นศิลปินก็ต้องทำเพลง

วงอุดรพิทยานุกูล รองชนะเลิศอันดับ 2 Class B
THE POWER BAND 2023 SEASON 3

 

ไอเทมลับและขุมพลังสำคัญ

รุ่นพี่ทั้งสองคนกลับมาเป็นขวัญกำลังใจและเสริมทัพให้น้องๆ ทำให้อยากรู้เลยว่าทำไมถึงกลับมาลงสนามอีกครั้ง ผักกาด (1 ใน 3 นักร้องนำจากปีที่แล้ว (คลิกอ่านเรื่องวงเมื่อซีซันที่แล้ว) เธอกำลังเรียนดนตรีศึกษา ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น) เริ่มเล่าให้เราฟัง “พอไปอยู่มหาวิทยาลัยแล้วเหงามาก พอเห็นการแข่งที่สนามขอนแก่น น้องๆ ไม่เข้ารอบเลยเสียดาย อยากให้ไปรอบลึกๆ กว่านี้ พอดีอาจารย์โทร.มาชวนว่าอยากมาเล่นกับน้องๆ ไหม แถมบอกว่าพี่เจ็ทก็มานะ”

ผักกาด(ร้องนำ) – เจ็ท (ร้องนำ)

พี่เจ็ทเสริมว่า “อาจารย์ก็บอกผมว่าผักกาดมานะ” คอปเตอร์ทำหน้าเจ้าเล่ห์ “อ่อ แผนของอาจารย์นี่เอง แผนสูง”  ฮ่าๆๆ

ผักกาดเล่าต่อ “หนูรู้สึกว่ามันน่าสนุก เพราะเราเคยเล่นดนตรีด้วยกัน ตอนนั้นหนูอยู่ ม.4 พี่เจ็ทอยู่ ม.6 ก็คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ คิดถึงศักยภาพของพี่เจ็ทด้วย เขาเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ การได้เล่นดนตรีกับเขามันมีความสุข ตอนนี้หนูอยู่ขอนแก่น พี่เจ็ทอยู่กทม. เรายิ่งโตก็จะห่างกันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะมีโอกาสได้เล่นดนตรีด้วยกันอีกไหม พอมีโอกาสเลยกลับมาค่ะ”

ส่วนพี่เจ็ทของน้องๆ เรียนอยู่ปี 3 ศิลปกรรมศาสตร์ ดุริยางคศาสตร์สากล มศว.และกำลังทำเพลง ทำวงดนตรี (วงชื่อ Just Improvize) และทำตามฝันอยู่ “ตอนแรกผมไม่อยากกลับมานะ แต่ตอนที่วงลงแข่ง Class A ผมไปช่วยครูดูน้องซ้อม ก็สนุกดี ผมเลยโอเค ถ้ามันจะเป็นการต่อยอดความฝันให้น้องๆ ได้”

เพลงประจำตัวของแต่ละคน

เจ็ท: After Last Night ของ Bruno Mars
ผักกาด: Better ของ Jeremy Passion
ผักบุ้ง: ฉันจะทำเพื่อเธอ ของ SIN (SINGULAR)
นาเดีย: Backlight (จากการ์ตูน One Piece) ของ Ado (ศิลปินญี่ปุ่น)

 

Everything’s Possible
เพลงแต่งใหม่ ความหมายดีๆ ที่วงใช้ขึ้นเวที

เพลงนี้คือเพลงที่วงอุดรพิทยานุกูลแต่งและร้องให้เราฟังในรอบชิงชนะเลิศ

นอกเหนือจากเพลงถ้าเธอไม่ไหว เพลงประจำโครงการ ซึ่งเป็นวงเดียวที่เลือกเพลงนี้มาใช้

ทั้ง 2 เพลงเป็นเพลงที่ให้กำลังใจ

“ถ้าเลือกเป็นเพลงรักหรือเพลงเศร้า น้องๆ อาจจะยังเล่าได้ไม่ดีเท่ากับคนที่โตกว่า
ที่น่าจะมีประสบการณ์เยอะกว่า ความที่ยังเด็กอาจจะเห็นภาพไม่ชัด วงเลยเปลี่ยนเป็นเพลงให้กำลังใจแทน”
พี่เจ็ทผู้แต่งเพลงนี้เล่าให้ฟัง

 

ประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้

หลังจากผ่านเข้ารอบมาแล้วสมาชิกทั้ง 7 คน (ยกเว้นเจ็ท) ก็เข้าเพิ่มพูนความรู้ใน The Power Band Music Camp ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เข้าค่ายดนตรีแบบนี้ ทุกคนประทับใจมากและสิ่งที่ได้รับนั้น ก็เปลี่ยนพวกเขาไปไม่น้อย “ผมชอบเซกชันเบสกับพี่เมย์ พัชรพงศ์ ผมเอาความรู้เรื่องการปรับและการบาลานซ์ซาวนด์มาใช้ด้วย” คอปเตอร์ มือเบสของวงบอกเราอย่างภาคภูมิใจ คลิกอ่านเรื่องของมิวสิกแคมป์

ผักบุ้ง – นาเดีย สองสาวคีย์บอร์ด

ส่วนผักบุ้ง หนึ่งในสองมือคีย์บอร์ดสาวนั้น ชอบความรู้เรื่องการแต่งเพลงจากพี่นะ Polycat และคลินิกคีย์บอร์ดกับพี่ Aimzillow “หนูได้รู้ว่าเวลาที่เราไม่ได้เล่น เราต้องทำยังไงไม่ให้เขิน ที่มีประโยชน์ที่สุดน่าจะเป็นช่วงพี่ๆ ETC. พวกพี่เขามีคีย์บอร์ด 2 ตัวเหมือนพวกเราเลย สิ่งที่พี่โซ่พูดให้ความรู้เยอะและเข้าใจง่าย”

เพลงประจำตัวของแต่ละคน

บูม: Isn’t She Lovely ของ Stevie Wonder
คอปเตอร์: I Wish ของ Stevie Wonder
จัมโบ้: Somebody to Love ของ Queen
ต้า: When You Wish Upon A Star ของ Dave Koz

นาเดียคีย์บอร์ดสาวอีกคน “นี่เป็นการเข้าค่ายดนตรีครั้งแรกเลยค่ะ ได้รู้จักคนเยอะ และประทับใจที่สุดคือได้ไปดูออร์เคสตรา ว้าวมาก ดูไปเรื่อยๆ หนูเริ่มง่วง แต่สุดท้ายหนูภูมิใจนะที่ฟังจนจบ และอีกอย่างคือ อาหารอร่อยมากค่ะ”

ผักกาดก็ได้ความเข้าใจเรื่องการร้องเพลงเพิ่มขึ้นด้วย “การร้องเพลงบนเวทีเราต้องเข้าใจเพลงจริงๆ เพราะการเล่นดนตรีคือการสื่อสาร เราต้องเข้าใจสิ่งที่เราทำอยู่ ไม่ใช่ว่าเราสื่อสารอยู่คนเดียว เราต้องนึกถึงคนฟังด้วย”

“ผมได้ความรู้มาเยอะมาก ได้เจอศิลปิน เจอโพรดิวเซอร์มาสอนเรื่องที่เรายังไม่รู้ ชอบตอนที่ได้เข้าคลาสเวิร์กช็อปกลองกับ Action Jay Jackson ครับ ผมนำเทคนิคที่เขาสอนมาปรับใช้ ช่วยได้เยอะเลยครับ” จัมโบ้ มือกลอง ดีใจที่ได้เจอไอดอลของเขา ส่วนบูม มือกีตาร์ บอกว่าเขาเล่นกีตาร์ได้ดีขึ้นส่วนหนึ่งก็มาจากค่าย “ตอนเข้าคลินิกกีตาร์กับอาจารย์อาณัติ อาจารย์สอนเรื่อง Sub Division การใช้คอร์ด ทำอย่างไรให้เล่นกีตาร์โดยไม่กวนคนอื่น ผมเอามาปรับใช้ก็ดีขึ้นจริง การไปครั้งนี้ได้ศึกษาเยอะให้รู้จริงมากกว่าเดิมครับ”

ต้า มือแซกโซโฟน ก็รู้สึกไม่ต่างกัน “การไปแคมป์ผมเจออะไรใหม่ๆ เยอะมาก ได้เพื่อน ได้ความรู้ โดยเฉพาะคลาสคลินิก ผมได้ฝึกการควบคุมลม ฝึก Improvisation และนำมาปรับใช้ในการเล่นดนตรีของตัวเองด้วย ได้ไปดูสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ไป คือการแสดงออร์เคสตรา กับวงที่ผมชอบมาก คือ ETC. ได้รู้เรื่องการแต่งเพลงจาก พี่นะ Polycat ได้การเรียบเรียงดนตรีจาก พี่เจน Madpuppet …พูดทั้งวันนี้ก็ไม่หมดครับ ไม่รู้ว่าจะมีแคมป์ดีๆ แบบนี้อีกไหม ขอบคุณทาง King Power ครับที่จัดกิจกรรมดีๆ อย่างนี้” ต้าคือ 1 ใน 3 สมาชิกวงอุดรพิทฯ รุ่นเดิม ที่ได้ไปขึ้นเวทีคอนเสิร์ตกับวง Bodyslam ล่าสุด คลิกอ่านเรื่องบนเวทีนั้น

จัมโบ้ (กลอง) – ต้า (แซกโซโฟน)

บูม (กีตาร์) – คอปเตอร์ (เบส)

 

ความเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไป 

ทั้งจากปีที่แล้วจนถึงปีนี้ และสนามนครปฐมจนถึงรอบชิงชนะเลิศ เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ อุดรพิทฯ ไปทีละนิดละหน่อย คนที่เข้ามาเปลี่ยนคือ พี่เจ็ทนี่เอง “ถ้าเราเล่นในรูปแบบและสีสันเดิมๆ ก็อาจจะได้ผลลัพธ์แบบเดิม ผมรู้สึกว่าควรจะเปลี่ยนสีสันใหม่ เพราะอุดรพิทฯ ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว แต่เราคือ Entertainer คนหนึ่ง”

“จากสนามนครปฐมมา เราไม่ค่อยได้คุยเรื่องดนตรีกันแล้ว เราคุยกันว่าทำอย่างไรเราถึงจะมั่นใจมากขึ้น รอบนี้ผมก็อ้อนวอนอาจารย์เลยว่า เราจะไม่ใส่เสื้อแดงกันแล้วนะ ขอให้ทุกคนได้แต่งตัวแบบที่ตัวเองชอบ พอเรามั่นใจขึ้น ทัศนคติทางดนตรีก็ดีขึ้นด้วย และถ้าเราทำการบ้านมาดีแล้ว นอกเหนือจากนั้นมันคือความสนุกจากการเล่นดนตรี นี่คือสิ่งที่ผมพยายามให้น้องๆ เข้าใจ” และความพยายามของพี่เจ็ทก็สัมฤทธิ์ผลแล้ว

ช่วงท้ายเราคุยกันถึงความรู้สึกที่เพิ่งได้รับรางวัลมาหมาดๆ หลายคนรู้สึกดีใจ แต่ก็แปลกใจ เพราะปีนี้มีวงเก่งๆ หลายวง พวกเขารู้สึกว่าโตขึ้นอีกขั้น จากการได้รับรางวัลที่สูงขึ้น เราเลยชวนว่า SEASON 4 มาอีกสิ “แล้วเราก็จะได้ที่ 2 แล้วก็กลับมาอีกเพื่อที่ 1 วงเราจะปิดท้ายที่ SEASON 5 ใช่ไหมนะ”

เราเชื่อว่าถ้าอุดรพิทยานุกูลยังไม่หยุดฝัน เราจะได้เจอกันอีก รอดูกันว่า ปีหน้าพวกเขาจะโตขึ้นและก้าวไปถึงฝันโดยไม่ต้องรอถึง SEASON 5 หรือเปล่า

Author

ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว

Author

นักเล่าเรื่อง ผู้มีหนังสือและการเดินทางเป็นดั่งลมหายใจ นิยมชมชอบท้องฟ้า กาแฟ และแมว

Author

อำพน จันทร์ศิริศรี

Photographer

ช่างภาพอิสระมากว่า 30 ปี...ที่คร่ำหวอดกับการถ่ายภาพรายการทีวีต่างๆ เช่น The Voice, The Rapper, The Stars Idol เป็นต้น และถ่ายภาพคอนเสิร์ตต่างๆ