ลอยละล่อง เลียบริมน้ำ เจ้าพระยา
กลิ่นหอม โชยมา จากแห่งไหน
หอมกลิ่น ดอกไม้ สมุนไพร
อบอวล ใน บรรยากาศ ศาสตร์ถิ่นไทย
“ในบรรยากาศ”
ชื่อนี้คือ กลิ่นแรกของเราที่เล่าเรื่องราวถึงความประทับใจในตำรับยาและสมุนไพรของไทย การเดินทางโดยเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ความวิจิตรของกำแพงพุทธศิลป์และดอกไม้นานาพรรณในวัดโพธิ์ ท่ามกลางตึกรามตามสมัยนิยมในกรุงเทพมหานคร
เราอยากให้ท่านพบกับความสงบในเพียงขณะหนึ่ง เสมือนวัดโพธิ์ที่รายล้อมไปด้วยตึกเหล่านั้นและวัฏจักรที่ขับเคลื่อนเมืองไปอย่างไม่มีวันเหนื่อยล้า
(โน้ตกลิ่น : ผิวมะกรูด การบูร สมุนไพรเย็นสดชื่น ดอกไม้ไทย ยาเส้น ยางไม้ พิมเสนต้น ใบเตย)
ร้อยกรองและร้อยแก้วที่เปี่ยมด้วยวรรณศิลป์อันงดงามนี้ปรากฏอยู่ในเพจเฟซบุ๊ก YAHN ญาห์ณ ที่บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจของ คุณก้องภพ อ่อนนิ่ม ในการสร้างสรรค์ ‘เครื่องหอมเพื่อการบำบัดจากองค์ความรู้ของคนไทยที่ผสานกลิ่นอายความเป็นสากล’ ได้ดีที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความสงสัยใคร่รู้อยู่ดีว่าเพียงแค่ภาพกับอารมณ์ความรู้สึก ณ ขณะหนึ่งซึ่งเป็นนามธรรมนั้น เหตุใดจึงก่อเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมาได้ และจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องใช้วัตถุดิบชนิดไหน
“สำหรับ ‘ในบรรยากาศ’ เกิดจากความประทับใจของวิวทิวทัศน์และบรรยากาศแถวท่าเตียน ที่มีวัดอรุณ วัดโพธิ์คอนทราสต์กับตึกใหญ่ตามสมัยนิยม เป็นกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ที่มีทั้งเรื่องราวจากตอนต้นรัตนโกสินทร์ และเรื่องราวในปัจจุบัน ผมอยากจะทำกลิ่นไทยที่ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกโบราณเกินไป กลิ่นยาหอมดอกไม้และสมุนไพรไทย ที่เติมความโมเดิร์นให้เกิดความคอนทราสต์กัน”
แต่ละกลิ่น…กลั่นกรองจากความทรงจำ
“ผมนึกถึงเครื่องหนังที่อยู่ในตึก ในออฟฟิศ เลยใช้ Labdanum เป็นยางที่สกัดจากต้น Rock Rose ที่มีมากในอิตาลีและแถบเมดิเตอร์เรเนียน สมัยก่อนเอามาใช้ฟอกดับกลิ่นสาปหนังสัตว์ ก็เลยกลายมาเป็นที่มาของกลิ่นเครื่องหนังอย่างที่เราคุ้นเคยกัน” กลิ่น ‘ในบรรยากาศ’ หรือ Nai Banyaagàat จึงเป็นกลิ่นของยาหอม ดอกไม้ สมุนไพรไทย และกลิ่นของเครื่องหนัง ที่มีความหวานแสดงให้เห็นถึง ความรู้สึกประทับใจ ในความร่วมสมัยของย่านท่าเตียน”
ส่วนกลิ่น OPAL ผลิตภัณฑ์กลุ่มเดียวกันกับ ‘ในบรรยากาศ’ แต่เป็นขั้วตรงข้ามนั้น คุณก้องภพได้นำมาขยายความเชิงเปรียบเทียบให้เห็นแนวคิดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ผมมักจะพูดถึงคอนเซปต์ของความรู้สึก ‘ในบรรยากาศ’ กับ ‘MOON’ (Pillow Mist) เป็นฉากทัศน์ แต่ในส่วนของ OPAL เรื่องราวของกลิ่น ถูกสร้างจากคอนเซปต์ของความงาม “Beauty” ในมุมมองของเรา
“เพราะเราต้องการสร้างกลิ่นที่ต่างจาก ‘ในบรรยากาศ’ ที่มีความ dark และ animalic อยู่ ด้วยกลิ่นที่มีความแน่น ในบรรยากาศจึง target ไปที่ชาวตะวันตกเสียมากกว่า ค่อนข้างเป็น Unisex ที่ออกไปในโทน Masculine อยู่บ้าง
“‘โอปอล’ จะให้ความรู้สึกเบาๆ แบบที่คนเอเชียนิยม และผมอยากให้เข้าถึงผู้หญิงมากขึ้นด้วย เลยเลือกโอปอล หินประจำราศีตุล เป็นราศีของความสวยงาม ถ้าพูดถึงความเป็นเฟมินิน ผมนึกถึงราศีตุล ซึ่งมีดาว Venus เป็นดาวประจำราศี
“สีอ่อนหวานขาวนวล เหมือนหอยสังข์ และมีประกายสีชมพู ฟ้า เขียว อยู่เรื่อๆ ในอัญมณี โอปอล จึงถูกใช้เป็นตัวแทนของความงามของเรา ซึ่งทำให้เราเลือกกลิ่น musky นุ่มนวล ให้เป็นตัวแทนของสีมุกหอยสังข์ กุหลาบมอญอ่อนหวานแทนสีชมพู ผสมกับความซ่า และเขียวอ่อนๆ จากเสม็ดขาว
“การตีความกลับไปกลับมา เหมือนเวลาที่เราได้ยินเพลงที่ทำให้นึกถึงช่วงเวลากลางคืน เพลงปลุกใจ หรือเพลงในหนังสงครามต้องเป็นยังไง เพลงม้าก้านกล้วยนี่สงกรานต์แน่นอน บางทีเราก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ประสาทสัมผัสทั้งหลายในร่างกาย จะส่งสิ่งที่เรารับมาไปยังสมองของเรา ซึ่งจะประมวลผลออกมาจากประสบการณ์ที่เราสั่งสมมาในชีวิต เกิดเป็นความรู้ ความเข้าใจ และเห็นภาพ จากเสียงเป็นภาพ จากกลิ่นเป็นภาพหรือความรู้สึก”
“ญาห์ณ เป็นมากกว่าแบรนด์เครื่องหอม เราตั้งใจจะเป็นแบรนด์ที่ให้ experience ของความเป็นเอเชีย อุษาคเนย์ ในภาษาสากลในทุกช่องทาง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และการเป็นอยู่ที่ดี”
ก้องภพ อ่อนนิ่ม เจ้าของแบรนด์ YAHN
จากภาพประทับในความทรงจำ ทำให้เกิดการกลั่นกรอง คิดเป็นสูตรที่ไม่ซ้ำใคร ลงมือผลิต รวมถึงดีไซน์ฉลากด้วยตัวเอง ทั้งยังทดสอบคุณภาพด้วยการใช้เองทุกวันเพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ และแน่ใจว่าปลอดภัย
“ก่อนขึ้นสูตร เราเลือกสาร ดูแล้วว่าใช้ได้แค่ไหน อันไหนใช้ไม่ได้ IFRA จะบอกว่าสารตัวไหนแบนแล้ว สารตัวไหนใช้ได้แค่ไหน แต่ที่เราต้องย่อยลงไปอีกคือ essential oil เช่น ส้ม มี citral มีสารจำพวก furocoumarins อยู่เยอะ เราต้องรู้ว่าเรากำลังพูดถึงตัวไหนที่อันตรายกับไม่อันตราย แม้แต่ส้มที่ดูเป็นมิตร และไม่อันตราย ก็มีความเป็นกรด อาจจะกัดผิวได้ เราต้องรู้องค์ประกอบทางเคมีว่าในส้มมีอะไรบ้าง ต้องเจาะทีละตัวแล้วมาคำนวณกันอีกทีว่าใช้ได้เท่าไร”
Suggestion
แนวคิดทางธุรกิจ
ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ที่คิดค้น ออกแบบ และดูแลเองทุกขั้นตอน แต่เรื่องของการตลาดนั้นคุณก้องภพก็ให้ความสำคัญมากเช่นกัน แม้ครอบครัวจะทำธุรกิจ OEM อยู่แล้ว หากทว่าถ้าจะต่อยอดด้วยการสร้างแบรนด์ใหม่ย่อมต้องวางแผนไม่ต่างจากธุรกิจใหม่
ในวันที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ร้านค้าโมเดิร์นเทรดกลับมาเปิดตัวเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับ คิง เพาเวอร์ ทั้งในเมืองและสนามบินเริ่มกลับมาคึกคักรับนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศที่ทยอยเดินทางมาเมืองไทยที่แสนคิดถึง YAHN ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้สัมผัสสีสันน่ายินดีนี้ โดยได้อวดโฉมที่ Firster คิง เพาเวอร์มหานครเป็นครั้งแรกหลังจากขายออนไลน์กับ คิง เพาเวอร์ เป็นแพลตฟอร์มแรกมา 1 ปี และได้บอกเล่าถึงแนวคิดทางธุรกิจไว้ในสองประเด็น
สัดส่วนลูกค้าไทยและต่างประเทศ
“ตั้งแต่วันแรกที่เรานึกถึงภาพคนใช้สินค้าของญาห์ณ เรามองเห็นคนที่ชื่นชอบความ exotic เป็นหลักอยู่ก่อนแล้ว คนที่ลองอะไรต่ออะไรมาสักพัก และกำลังก้าวไปสู่ดินแดนใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เรามองตลาดที่มีความหลากหลายของคนและสนใจในตัว ญาห์ณ มากกว่า อันนั้นเป็นหมุดหมายของเรา
“ส่วนในเบื้องต้น เราได้ทำควบคู่ไปกับตลาดภายในประเทศ โดยเป็นสินค้าประเภท Healing เป็นส่วนมาก เนื่องมาจากวัฒนธรรมการใช้ยาดม ยาหม่อง สินค้าประเภทแก้ไขปัญหาการนอนหลับ การรักษาสุขภาพ จึงตอบโจทย์คนไทยได้ดีกว่า เราจึงทำตลาดภายในและภายนอกประเทศควบคู่กันไปตั้งแต่วันแรก เพราะมองเห็นว่าสิ่งที่นิยมในต่างประเทศ วันหนึ่งก็อาจจะเป็นที่นิยมในไทยได้ อย่างเช่น การดื่มกาแฟสด ในขณะเดียวกัน เราก็อยากจะพาวัฒนธรรมในการใช้ยาหอม ยาดม ยาหม่องไทย ที่เป็นทั้งกลิ่นจรุงจิตและสรรพคุณในการรักษาไปนำเสนอให้คนต่างชาติใช้ เช่นเดียวกับการที่คนตะวันตกหัดใช้ตะเกียบเมื่อรับประทานอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยว”
แผนการขยายธุรกิจ
“เรามองว่า Stake Holders ของเรา คือลูกค้าที่ชื่นชอบในความเป็น ญาห์ณ ภาคเอกชนที่ช่วยผลักดันงานของคนไทย องค์กรรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในยาไทย อาหารและศิลปะ วัฒนธรรมไทย ทั้งองค์ความรู้จากบรรพบุรุษและงานร่วมสมัย กรมการค้า กรมวิทย์ฯ สาธารณสุข สื่อมวลชน media ต่างๆ และอีกมากมาย พวกเราทุกคนสามารถร่วมกันสร้างซอฟต์เพาเวอร์กันได้ และเป็นเกมที่ win win ที่ทำให้พวกเราทุกคนสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองและประเทศ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวตนของเรา การเข้าร่วมกิจกรรมกับภาครัฐและเอกชนเหล่านี้จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่คนจากหลายฝ่ายจะได้เอาความสามารถมาแชร์กัน
“ญาห์ณ เป็นมากกว่าแบรนด์เครื่องหอม เราตั้งใจจะเป็นแบรนด์ที่ให้ experience ของความเป็นเอเชีย อุษาคเนย์ ในภาษาสากลในทุกช่องทาง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และการเป็นอยู่ที่ดี
“ในตอนนี้เราเข้าถึงคนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วไป content ที่มีก็เป็นในเชิงภาพทัศนศิลป์เพื่อการพาณิชย์ เราค่อนข้าง blur ความแตกต่างระหว่างโลก Commercial กับ Fine Art และในเร็ววันนี้ก็คิดว่าจะมี content อย่างอื่นที่เป็นประโยชน์กับผู้คนมากขึ้น ทั้งที่เป็นหรือยังไม่เคยเป็นลูกค้าของเรา ส่วนช่องทาง Offline เราขอบคุณเอกชนที่มีชื่อเสียงหลายท่านที่ได้ให้การช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี เราก็ยังคงจะอยู่กับโมเดิร์นเทรดไปต่อ ในขณะที่เราก็มีแผนที่จะทำ Flagship Store ของเราเองที่รวมเอาสิ่งที่เรามีเข้าไว้ด้วยกัน เป็นยาไทยม็อกเทล ค็อกเทล ร้านกาแฟ เครื่องหอมของเรา รวมถึงคลินิก Wellness ที่ใช้องค์ความรู้ที่เรามี
“ส่วนช่องทางในต่างประเทศนั้น เป็นจุดหมายที่เรามองไว้ตั้งแต่แรก โดยลักษณะการเข้าไปก็คงไม่ต่างกับเมืองไทย การเล่าเรื่องกับความนิยมในตัวสินค้าอาจจะต่างกันไปบ้าง แต่คอร์แวลูของเราก็ยังคงเหมือนเดิม business model ก็เหมือนเดิม แต่มาร์เก็ตติ้งต่างไป โดยเรามองถึงพวกร้าน Selected Shop ตามเมืองหลักๆ ในประเทศที่มีคนใช้สินค้า Spa Wellness และตอบรับกับสินค้า Luxury จากเอเชีย คาดว่าจะเริ่มมีการส่งออกในเร็วๆ นี้ และตั้งใจว่าจะทำ Flagship Store ในเมืองหลัก รูปแบบก็คงใกล้เคียงกับที่ไทย คงไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบกระบวนการอะไรมาก เพราะเราออกแบบธุรกิจมาให้ถึงจุดนี้ตั้งแต่วันที่คิดจะทำแล้ว ที่เหลือก็คือเดินเข้าไปหา มีอะไรก็แก้ไขระหว่างทางไป”
Suggestion
ความสนใจในหลากหลายมิติของคุณก้องภพแห่ง YAHN
ทัศนศิลป์ : สนุกกับการวาดรูปตอนเป็นเด็กอนุบาล – ป.4 แล้วเปลี่ยนไปเล่นกีฬา กลับมาจับพู่กันใหม่เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปลาย “มันช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณเรา ในใจลึกๆ อยาก express อะไรบางอย่างตลอดเวลา” (ในภาพต่อๆ ไปเป็นผลงานที่เขาวาดเอง)
กีฬา : ช่วงวัยรุ่นหันมาเอาดีด้านกีฬาโดยเฉพาะบาสเก็ตบอล ซึ่งเขาคนนี้นับเป็นหนึ่งในนักกีฬาเด่นของโรงเรียน
ภาษา : ถนัดวิชาภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก ได้อันดับท็อปของห้องอย่างสม่ำเสมอ
วิทยาศาสตร์ : ชอบวิทยาศาสตร์ (แต่ไม่ชอบคณิตศาสตร์)
แล้วกลับเลือกเรียนศิลป์ภาษาจีน ด้วยเหตุผลที่ว่า “ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวเองหรอกว่าจะเรียนอะไร ผมเลือกเรียนภาษาจีน เพราะเพื่อนๆ ได้นัดกันว่าจะเลือกเรียนสายนี้กันหมด ตอนเรียน ม.ต้น เป็นเด็กค่อนข้างชอบขัดระเบียบ เขาจะไล่ออกจากโรงเรียนก็เลยให้ไปบวช 1 เดือนเป็นการขัดเกลา เพื่อจะพิจารณาให้เรียนต่อ ไปบวชวัดป่าสิบกว่าคนก็ไปเตะบอลในวัด (หัวเราะ) ผมว่ามันก็มีความมรณสติ เขาพาไปดูคนป่วยเป็นเอดส์ เราก็ impact นะ กลุ่มที่ไปบวชก็กาเลือกห้องภาษาจีนเหมือนกันหมด คือมันไม่ได้ชอบภาษาอะไรหรอก เลือกเพราะเพื่อนน่ะ แต่ก็ดีนะทำให้พอเข้าใจภาษาที่สำคัญอีกภาษาของโลกได้บ้าง”
ภาพยนตร์ : ชอบดูหนังน่ะใช่ แต่ไม่ได้เป็นเหตุผลให้เลือกเรียนภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยเอกชน
“เอาจริงๆ เป็นเพราะมันไม่ต้องสอบอะไรเลย ตอนนั้นผมไม่ได้อยากเรียนหนังสือน่ะ ก็เลย อะไรก็ได้ที่มันง่ายที่สุด ขออภัยคนที่เรียนฟิล์มด้วย พูดในแง่การเข้าเรียนนะครับ แต่การทำฟิล์ม ตอนที่จะมาสร้างเป็นผลงานน่ะยากที่สุด ขั้นตอนเยอะ ทำหนังมันต้องใช้คนหลายคน”
ดนตรี : ชอบเล่นกีตาร์ ปัจจุบันเน้นดื่มด่ำกับดนตรีแจ๊ส และ World Music มากเป็นพิเศษ
หนังสือ : “สมัยเด็กชอบอ่านนิยาย ชอบ Herman Hesse , Jack Kerouac และ ชิทแตก ของ ปราบดา หยุ่น ตอนนี้ชอบอ่าน non-fiction ชอบอ่านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ ทฤษฎี หลังๆ มานี่ชอบ ‘เซเปียนส์’ กับงานของ Ray Dalio, Adam Grant”
นิวยอร์ก : ความหลงใหลในมหานครแห่งนี้เป็นเพราะความเป็นมหานครแห่งโมเดิร์นอาร์ต และเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนเมือง ในการพูดถึงวิถีชีวิตในเมืองใหญ่ได้ดี “ผมมีพาร์ตของความเป็นไทย ที่โตมากับบาสเก็ตบอล และฮิปฮอป”
ค็อกเทล : “งานที่เอเจนซีจัดให้ทำตอนไปก็คืองานทำความสะอาดทั่วไป แต่เนื่องจากคนไทยที่ไปรอบเดียวกัน กลับเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยหมดเลย เรายังเป็นหนุ่มที่ไม่ได้เรียบร้อยเท่าไร พอตกเย็นก็เลยมักชอบไปดื่มสังสรรค์กับคนถิ่น โดยตัวเองเป็นคนต่างถิ่นเพียงคนเดียว
บอสเลยพาไปฝากบาร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ก็เลยทำบาร์ที่อเมริกา จนพอกลับมาก็เลยเรียนบาร์เทนเดอร์ อย่างจริงจังที่เมืองไทย และได้ทำงานที่แรกในไทย จำได้เลยว่า เป็นรถโฟล์กค็อกเทล แถวๆ ประตูน้ำ อันนั้นก็ 10 กว่าปีมาแล้วครับ เป็นงานแรกๆ ในชีวิต ก็เลยยาวมา เป็นทักษะที่ทำเป็นแล้วเป็นเลย ก็เลยเวลาไปไหน จะงัดสกิลนี้กลับมาใช้หาเงิน”
แพทย์แผนไทย : เข้าศึกษาที่โรงเรียนการแพทย์แผนไทย แผน(ก) หลักสูตร 3 ปี
“จริงๆ มันเริ่มมาจากค็อกเทล ผมรู้จักกับสมุนไพรฝรั่งหมด ผมก็หาพวกสมุนไพรไทยๆ เพื่อจะมาทำค็อกเทลของผมก่อน ก็เลยเริ่มสนใจอ่านเรื่องสมุนไพรมาเรื่อยๆ จากเอเชียซึ่งมันกว้าง ค่อยสโคปมาเป็นไทย และเนื่องจากคนมักจะมาคุยเรื่องราวของเขากับผม ราวกับว่าผมเป็นที่ปรึกษาเขา เราก็เลยเริ่มต้องหาวิธีจะพูดกับเขา และเลือกว่าสมุนไพรใดในเครื่องดื่มนั้นๆ รสไหนจะช่วย tender จิตใจเขาได้ดีที่สุด ก็เลยเริ่มสนใจเรื่อง Healing และจริงๆ เราก็สนุกกับการจ่ายยาให้คนด้วย”
อาหาร : เพราะอาหารคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิต เพราะเคยใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และเพราะเลือกทางสายมังสวิรัติ ทำให้ต้องทำอาหารเป็น ทุกวันนี้ก็ทำอาหารเอง อาจไม่ถึงกับทุกมื้อ แต่ก็บ่อยจนเขานับการทำอาหารไว้ในหมวดหมู่เดียวกับการผสมค็อกเทลและการปรุงเครื่องหอม
ดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ : ขอจัดไว้ในหมวดเดียวกัน ด้วยมีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่เนืองๆ แรกเริ่มเดิมทีคุณก้องภพสนใจดาราศาสตร์อยู่แล้ว ซึ่งไม่น่าแปลกใจมากนัก แต่เมื่อเขาบอกว่าดูดวงได้ด้วย เครื่องหมายอัศเจรีย์ผุดขึ้นมาทันที
“ฝึกมา 4-5 ปีแล้วครับ อ่านหนังสือเอง มันเกิดจากความสงสัย อยากได้คำตอบ เคยสนใจปรัชญาแล้วรู้สึกว่ามาถึงจุดหนึ่ง ตอบคำถามไม่ได้แล้ว ก็ต้องไปหาสิ่งที่มากกว่านี้ ก็คือเรื่องจิตวิญญาณ ในแง่ที่คำพูดในโลกมนุษย์ให้คำตอบผมไม่ได้ ผมหาความจริงมากกว่า อารมณ์ที่ตื่นขึ้นมาแล้ว ทำไมเราเจอชีวิตอย่างนี้ (วะ) ก็เจอเรื่องดวง เจอว่าศาสตร์แห่งดวงดาว คือ จริง ถ้าถามว่าผมสนใจอะไรมากที่สุดในชีวิต คำตอบของผมคือเรื่อง จิตวิญญาณ”
แม้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนของผู้สร้างสรรค์ ญาห์ณ อาจจบเพียงเท่านี้ แต่เชื่อว่ายังมีสิ่งที่ซ่อนเร้น รอวันเวลาปรากฏออกมาในช่วงขณะที่พอเหมาะพอดีเป็นแน่
ญาห์ณ (YAHN)
ที่ตั้ง : 89/637 ซอยนวมินทร์ 81 เขตนวมินทร์ แขวงบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10240
Website: YAHN
Facebook: YAHN
Instagram: YAHN
ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ตลาดพลังคนไทย
คลิก: YAHN
