Summary
“โอกาสมีให้ทุกคนที่มีความพยายาม” คำนี้ไม่ได้มากเกินไปสำหรับโค้ชฟุตบอลคนเก่งของ กรับใหญ่ อะคาเดมี จังหวัดราชบุรี “โค้ชหม่อง” ที่ก่อนมาเป็นโค้ช เขาเป็นนักการภารโรงผู้มีวุฒิการศึกษาแค่ ป.6 แต่ด้วยสิ่งที่มุ่งมั่นพร้อมประสบการณ์ชีวิต จึงผลักดันเด็กให้ก้าวไปสู่อาชีพนักฟุตบอลได้ เรื่องแบบนี้…ต้องขยาย
“ฟุตบอลเป็นเกมที่มีการปะทะ ถ้าคุณโดนคู่แข่งเตะแปลว่าคุณยังช้า ถ้าคุณเร็วเขาเตะไม่โดนคุณแน่” เราพยายามนึกภาพตามคำของโค้ช “หากคุณไม่เข้าใจและควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก็จะไปเป็นมืออาชีพไม่ได้”
ทัศนคติและการควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญที่ โค้ชหม่อง – ธีรพงษ์ อรมัย โค้ชผู้ฝึกสอน “กรับใหญ่ อะคาเดมี” (KRABYAI ACADEMY) ย้ำเสมอมา ทุกวันนี้ไม่เพียงแค่สอนฟุตบอลในอะคาเดมีชื่อดังของราชบุรี แต่เขายังพ่วงหน้าที่โค้ชผู้ช่วยของ FA Thailand (สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์) ทำหน้าที่เฟ้นหานักเตะดาวรุ่งเพื่อเป็นทีมชาติของโซนตะวันตกอีกด้วย
“จริงๆ ผมเป็นนักการภารโรงครับ แต่ว่าผมรักฟุตบอล อยากถ่ายทอดประสบการณ์ฟุตบอลของผมให้เด็กในชุมชน”
เชื่อไหมว่า นักการภารโรงตัวเล็กๆ คนนี้…เป็นสารตั้งต้นของ “กรับใหญ่ อะคาเดมี” และเป็นแรงหนุนหลังนักเตะที่อาจเป็นทีมชาติในอนาคตอีกหลายคน
“ประสบการณ์ 7 ปี ด้วยความรักฟุตบอล
สอนเด็กๆ จนเขาเรียกผมว่าอาจารย์หม่อง
รู้สึกภูมิใจครับ ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าผมเป็นนักการฯ”
โค้ชหม่อง – ธีรพงษ์ อรมัย
โค้ชผู้ฝึกสอน KRABYAI ACADEMY
วิถีนักฟุตบอล
แบบฉบับ โค้ชหม่อง – ธีรพงษ์ อรมัย
✔ สมรรถภาพร่างกายต้องพร้อม
✔ วินัยการซ้อมต้องดี
✔ มีความอดทน มีน้ำใจนักกีฬา
✔ ทัศนคติและวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง
เชียร์บอล…ทางวิทยุ
ตามประสาคนบ้าบอลย่อมมีไอดอลในสนามและติดตามเชียร์อย่างบ้าคลั่ง โค้ชหม่องในสมัยเป็น ด.ช.หม่อง เรียนชั้นประถมก็ไม่ต่างจากเด็กทั่วไป…แต่…
“ผมฟังฟุตบอลทางวิทยุ นักพากย์บอลเขาพากย์สนุกมาก เราก็จินตนาการตามไป”
โหหห ชีวิตโค้ชช่างเป็นตำนานเสียจริง
“ดุสิต เฉลิมแสน เป็นไอดอลผมเลย” เอ่ยถึงอดีตนักฟุตบอลกองหลัง ที่ได้ชื่อเป็นตำนานแบ็กซ้ายทีมชาติไทยยุคดรีมทีม ชื่อนี้ไม่ธรรมดา “ผมก็เล่นแบ็กซ้ายเหมือนกันครับ อยากเป็นนักฟุตบอล แต่ไม่ได้หวังถึงทีมชาตินะ แค่อยากเป็นนักบอลโรงเรียน ได้แข่งให้จังหวัดบ้าง”
ป.5 ไปคัดเป็นตัวจังหวัดราชบุรีก็ไม่ได้ มีเพื่อนร่วมชั้นติดไป 2 คน ขึ้น ป.6 ไปคัดอีกครั้ง เพื่อนคนเดิมได้ไป ด.ช.หม่อง ก็เตะบอลอยู่ที่โรงเรียนต่อไป
ขอบคุณภาพจากโค้ชหม่อง ธีรพงษ์
“สมัยนั้นเล่นบอลสนามดินด้วยเท้าเปล่า ถ้ามี ankle (ผ้ารัดข้อเท้า) มาใส่แทนรองเท้าสักข้างหนึ่งก็ถือว่าเท่แล้ว ตอน ป.5 ผมประสานงากับเพื่อนแล้วนิ้วชี้เท้าขวาหัก รุ่นพี่ก็ช่วยจับให้เข้าที่แล้วใช้ไม้ดามนิ้วไว้ ไม่ได้ไปหาหมอ ทุกวันนี้มันก็ยังงอๆ อยู่เลย”
หยุดเล่นฟุตบอลไป 2 สัปดาห์ แม่ถามก็บอกว่าเจ็บเท้าต้องพักก่อน ไม่ได้บอกว่ากระดูกหัก “ถ้าพ่อแม่รู้ต้องสั่งเลิกเล่นบอลแน่ ผมเลือกทนเจ็บเอาดีกว่า เพราะอยากเล่นบอลต่อไปครับ”
นึกถึงคำโค้ช “ถ้าโดนคู่แข่งเตะแปลว่าคุณยังช้า ถ้าคุณเร็วเขาเตะไม่โดนคุณแน่” คำสอนได้มาจากประสบการณ์ตรงแน่ๆ
“สมรรถภาพร่างกายและความสามารถทุกคนต้องมี
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทัศนคติที่ดี
ถ้าใครมีอารมณ์รุนแรง ผมตัดทิ้งก่อนเลย”
Suggestion
โค้ชนักการฯ & แก๊งลูกหมูของเขา
โค้ชหม่องเรียนจบชั้น ป.6 แล้วไปต่อ กศน. ได้วุฒิ ม.3 “ตอนแรกทำงานโรงงาน พอโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลกรับใหญ่ เปิดรับสมัครนักการฯ ก็มาสมัคร อาชีพสุจริตเหมือนกันไม่ได้คิดอะไรมาก”
ช่วงพักกลางวันหลังกินข้าวเสร็จเขาได้เห็นเด็ก ๆ ลงไปเตะฟุตบอลกลางสนามด้วยรูปร่างที่ค่อนข้างสมบูรณ์ “เด็กมีน้ำหนัก 30-40 กิโล เป็นแก๊งลูกหมูอะครับ” น้ำเสียงและรอยยิ้มเอ็นดู ไม่ได้บูลลี่แต่ประการใด “พอเด็กๆ เตะบอลเหนื่อยก็มานั่งข้าง ๆ ผม ผมก็เลยถามว่าอยากจะเล่นบอลจริงจังไหม ถ้าเกิดอยากเล่นบอลจริง ๆ เย็นนี้กลับไปถามพ่อแม่ก่อนว่าขออยู่ซ้อมบอลหลังเลิกเรียนได้ไหม ให้เขามารับช้าหน่อย อีกวันหนึ่งเด็กมาบอกว่าพ่อแม่ตกลง ก็เลยรวมแก๊งลูกหมูเป็นทีม แล้วผมก็ไปขอผู้อำนวยการว่าจะทำทีมฟุตบอลเด็กนักเรียน”
✔ นักบอลที่ดี สมรรถภาพร่างกายต้องพร้อม
และวินัยการซ้อมต้องดี
ด้วยความร่วมมือของครูท่านอื่นๆ กับนักการฯ คนเก่ง ผอ.วิริยะ น้อยมี ช่วงนั้นเพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่นานก็ตกลง และให้ฟอร์มทีมไปแข่งกีฬากลุ่มโรงเรียนละแวกนั้นด้วย
“ทีมแรกก็แก๊งลูกหมูนี่ล่ะครับ เด็กในตำแหน่งประตูก็หนักประมาณ 60 กิโลได้ (โค้ชยิ้มหัวเราะมีความสุข) เชื่อไหม แมตช์แรกแพ้ไป 13 – 0 14 – 0 กันเลย แบบว่าพอเขี่ยบอลปุ๊บ คู่แข่งยิง…ตู้ม…ประตูผมยังยืนแคะเล็บอยู่เลย แต่ว่าเด็กๆ ก็ยังเล่นแบบยิ้มแย้มแจ่มใส”
ผอ.วิริยะ น้อยมี และโค้ชหม่อง – ธีรพงษ์ อรมัย
กรับใหญ่ อะคาเดมี จังหวัดราชบุรี
โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลกรับใหญ่ ราชบุรี
พอฝึกไปเรื่อยๆ แล้วลองไปแข่งที่จังหวัดอื่นๆ จาก 14 – 0 เริ่มขยับขึ้นมาเป็นแพ้แค่ 4 – 0 5 – 0 จากพาเด็กเล่นเพื่อลดน้ำหนักก็มีความหวังขึ้นมา…นิดหนึ่ง!!
“ผมเสนอ ผอ. ว่า ขอให้เด็กมากินนอนที่โรงเรียน มาเก็บตัวกันเลย จะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” คำตอบ ผอ. เป็นการกระทำที่น่ารักมาก “ผอ. ไปคุยกับผู้คนละแวกตำบลกรับใหญ่ว่า…อยากได้ข้าว ไข่ ปลากระป๋อง วัตถุดิบทำอาหาร เพื่อมาทำให้เด็กกิน ผมเป็นคนนอนเฝ้าเด็กที่มาเก็บตัว เช้า – เย็น พาเด็กวิ่งแล้วสอนบอล ขอให้น้าที่เป็นนักการฯ อีกคนหุงข้าวไว้ให้ พอสอนเสร็จผมก็มาทำกับข้าวให้ลูกทีมกิน”
4 – 5 เดือนต่อมา ทีมที่เคยแพ้ขยับมาเป็นเสมอ และเริ่มมีโอกาสจับถ้วยรางวัลมาเป็นระยะๆ
“ประสบการณ์ทั้งหมดที่พาผมมาถึงจุดนี้
เพราะผู้อำนวยการให้โอกาสทุกอย่างครับ
ผมต้องตั้งใจทำเพื่อเด็ก ๆ ให้ดีที่สุด”
สนามสีน้ำเงินพาเซียน
ราวปี พ.ศ. 2560 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลกรับใหญ่ จับมือกับสโมสรฟุตบอลราชบุรีและโรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคม เปิด “กรับใหญ่ อะคาเดมี” (KRABYAI ACADEMY) ประกาศรับสมัครนักเรียนจากทั่วประเทศ คลิกอ่านความสำเร็จของทีมฟุตบอลโรงเรียนกรับใหญ่ในปัจจุบัน
“คนมามืดฟ้ามัวดินพันกว่าคน!!! แต่เรารับได้แค่รุ่นละ 20 คน ก็มีอายุ 12-14-16-18 เป็น 80 คนรวมเด็กเก่าของเรา ตั้งไว้ว่าไม่เกิน 135 คน พูดตรงๆ คือ เด็กที่มาไกลๆ ความมุ่งมั่นจะสูงกว่าก็เด็กในพื้นที่ มีมาจากปาดังเบซาร์ ศรีสะเกษ อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด โคราช กันเลย”
งานนี้นักการฯ คนขยันได้ขยับไปอบรมการเป็นโค้ชหลายครั้ง จนใช้ชื่อ “โค้ชหม่อง” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ งานประจำคือต้องตื่นตี 5 ครึ่งทุกวัน เพื่อพาเด็กกว่า 130 คนวิ่งเตรียมพร้อมสมรรถภาพ
“วันหนึ่งผมได้ไปแข่งฟุตบอลที่โรงเรียนวัดหนองศาลา ไม่ไกลจากกรับใหญ่นัก ได้เห็นสนามฟุตบอลสีน้ำเงิน ก็กลับมาชวนทางอะคาเดมีเขียนไปหา คิง เพาเวอร์” ผ่านไปเกือบปีถึงได้คำตอบจากโครงการ ‘100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย’ ว่ากรับใหญ่ อะคาเดมี ได้รับสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล โค้ชหม่องเล่าด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มมาก
“ถ้าสนามไม่เรียบเราไม่สามารถแก้ไขทักษะเด็กได้เลย อย่างเบสิกการแปบอลปกติฝึกกันเป็นเดือนๆ พอมีสนามสีน้ำเงินเรียบๆ ฝึกแค่ 2 อาทิตย์ก็ได้แล้ว และเซฟข้อเท้าเด็กกว่าตอนวิ่งเล่นในสนามที่เป็นหลุมเป็นบ่อ”
พัฒนาการเด็กดีขึ้นจนต่อยอดเป็นนักกีฬาไปหลายคนแล้ว (รู้ไหม “กรับใหญ่ อะคาเดมี” มีบุคคลากรทำงานกันเป็นทีม และมีโค้ชเก่งในทีมอยู่อีก คลิกอ่านที่นี่)
✔ มีความอดทน มีน้ำใจนักกีฬา
คือคุณสมบัติสำคัญของนักฟุตบอล
✔ สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักกีฬา
ยังอยู่ที่ทัศนคติและวุฒิภาวะทางอารมณ์
ขอบคุณภาพจากโค้ชหม่อง ธีรพงษ์
Suggestion
จะเป็นนักฟุตบอล…ต้องฉลาด
หน้าที่ใหม่ของโค้ชหม่อง คือเป็นแมวมองหานักเตะรุ่นเยาว์ในโซนตะวันตก เพื่อเข้าคัดเป็นดาวรุ่งทีมชาติของ FA Thailand
“จะไปดูตามโรงเรียนต่างๆ ไม่ได้บอกเด็กนะ ซึ่งโรงเรียนหนึ่งก็จะมีเด่นๆ อยู่แค่ 1 – 2 คนเท่านั้น มุ่งเจาะดูเป็นรายตำแหน่งเลย ปีหนึ่งคัดไปโซนละประมาณ 30 ถึง 40 คน ทั้งประเทศ 6 โซน ก็ได้ประมาณ 300 คน แล้วก็มาคัดอีกทีหลายรอบ คัดเหลือแค่ 44 คน” งั้นน้องๆ ใน กรับใหญ่ อะคาเดมี ก็เข้าตาเยอะสิ “ยิ่งเด็กเรายิ่งยากสิ เราจะให้คะแนนแบบเกินหน้าเกินตาเด็กคนอื่นไม่ได้ เวลาผมสอนผมมีสมุดจดบันทึกตลอดว่าใครเป็นอย่างไร”
ขอบคุณภาพจากโค้ชหม่อง ธีรพงษ์
โค้ชหม่องเปิดหน้าสมุดบันทึกการซ้อมให้ดู วันไหนมีใครซ้อมบ้าง ซ้อมทักษะอะไร และผลการซ้อมเป็นอย่างไร จะมาหลอกสายตาโค้ชไม่ได้ (สิ่งที่โค้ชบันทึกนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่ทำให้เด็กในอะคาเดมีสามารถพัฒนาการเล่นฟุตบอลได้ อ่านรายละเอียดได้จากภาพด้านบน)
“นักบอลต้องมีวินัย มีความมุ่งมั่น จริงจัง ทุ่มเท พรสวรรค์ก็เกี่ยว แต่ว่าพรแสวงสามารถผลักดันตัวเองไปไกลมากว่า เด็กที่มีพรสวรรค์บางคนไม่ซ้อมหรือซ้อมน้อย ถึงเวลาแข่งผมไม่ให้ลงนะ”
ทุกวันนี้เพื่อนๆ โค้ชหม่องที่อยู่ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ แจ้งข่าวให้ส่งเด็กไปสมัครเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยทุกปี “ผมบอกเด็กเสมอว่านักฟุตบอลต้องฉลาด ถ้าฉลาดคิดก็สามารถชนะในเกมได้ ถึงเวลาเรียนต้องเรียน” ซึ่งเด็กแก๊งลูกหมูหลายคนตอนนี้ก็โลดแล่นอยู่บนสนามของกีฬามหาวิทยาลัย
โค้ชที่บอกใครๆ ว่าจบแค่ ป.6 แต่ประสบการณ์นำเขามาจนถึงจุดนี้ได้ นักบอลรุ่นใหม่…ควรฟัง!!!
100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย: จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่ ‘ล้านความเป็นไปได้’