Summary
เขาคือผู้ที่ทำให้วงการน้ำผึ้งเกิดมิติใหม่ เมื่อมีน้ำผึ้งคุณภาพที่เกิดจากการเลี้ยงผึ้งในสวนลำไยเกิดขึ้น แน่นอนว่ายุคบุกเบิกไม่มีอะไรง่ายเลย แต่ชายคนนี้ทำได้ และทำให้น้ำผึ้งแสงผึ้ง “ยืนหนึ่ง” ในการสร้างและส่งน้ำผึ้งแท้คุณภาพจากสวนลำไยไทยออกสู่สายตาชาวโลก
ชื่อของ คุณต่อ – เอกสิทธิ์ จันทกลาง รองประธานวิสาหกิจ กลุ่มทำสวนเพื่อการผลิตและแปรรูปผลผลิตเกษตร อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เขาคือผู้ผลิต ผู้ดูแล และผู้จัดจำหน่ายน้ำผึ้ง “แสงผึ้ง” น้ำผึ้งคุณภาพเกรดพรีเมียม ผลิตผลจากการเลี้ยงผึ้งในสวนลำไย ที่สืบทอดและบ่มเพาะจากภูมิปัญญาของชาวบ้านในพื้นที่มานานหลายชั่วอายุคน ที่วันนี้ส่งต่อน้ำผึ้งแท้ของไทยให้โลกรู้จัก
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
จากกลุ่มเกษตรกรผู้ทำสวนลำไย ได้เรียนรู้ พัฒนา ผ่านการแก้ไขปัญหามาเป็นเวลากว่า 10 ปี และไม่เคยหยุดนิ่ง จนเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงผึ้งและผลิตน้ำผึ้งอย่างแท้จริง ทำให้ทุกวันนี้น้ำผึ้งแสงผึ้ง ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งกลิ่นหอมหวาน และส่งน้ำผึ้งแท้คุณภาพดีออกสู่ตลาดโลกด้วย…น้ำผึ้งแสงผึ้งทำหน้าที่เป็น “พลังคนไทย” เป็นแกนกลางขับเคลื่อน “ของดีของท้องถิ่น” ให้กระจายไปไกลยิ่งขึ้น
“จะทำอะไรสักอย่าง เราต้องสนใจอยากจะทำก่อน
ไม่ใช่ว่าเห็นคนอื่นทำแล้วอยากทำ อย่างนั้นอาจจะไม่สำเร็จ”
เอกสิทธิ์ จันทกลาง
เจ้าของแบรนด์ น้ำผึ้งแสงผึ้ง
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
ความที่ทางบ้านทำธุรกิจลำไยอบแห้งอยู่แล้ว แต่ตัวคุณต่อเคยทำงานประจำเป็นทนายความ พอเศรษฐกิจเริ่มขยายตัว ผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปกำลังเติบโตขึ้น คุณต่อจึงกลับมาช่วยงานที่บ้านอย่างเต็มตัวตั้งแต่ปี 2553
“ผมมองว่าการเลี้ยงผึ้งให้ได้น้ำผึ้งจากดอกลำไยนั้น เป็นการแปรรูปและเป็นการใช้ภูมิปัญญาที่ดีที่สุด โดยที่เราไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง ผมเลยไปศึกษาการเลี้ยงผึ้งที่ศูนย์ผึ้ง จังหวัดเชียงใหม่”
จากกลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไยกลุ่มเล็กๆ จึงเริ่มมีการเลี้ยงผึ้งอย่างจริงจัง จนวันนี้เติบโตมาเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีชาวบ้านในชุมชนเป็นสมาชิกอยู่ 27 คน และยังมีเครือข่ายกลุ่มเลี้ยงผึ้งอีกประมาณ 60 กว่ากลุ่ม เรียกได้ว่าเป็นการรวมกลุ่มและเป็นพันธมิตรด้านการเลี้ยงผึ้งที่จริงจังและเข้มแข็งไม่น้อย
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
ผึ้งตัวเล็กแต่มีประโยชน์ไม่น้อย
การเลี้ยงผึ้งแบบออร์แกนิกนี้ จะได้ผลผลิตเป็นน้ำผึ้งธรรมชาติคุณภาพดีและมีประโยชน์มากมาย ซึ่งน้ำผึ้งแสงผึ้งก็เป็นตัวสินค้าหลักของทางกลุ่ม “ประโยชน์หลักๆ ของน้ำผึ้งคือ ช่วยในเรื่องของความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์ด้านโปรตีน เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางหรือส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่ม เป็นยาอายุวัฒนะที่ถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง”
ผลิตภัณฑ์อีกประเภทของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนนี้ก็คือ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากผึ้ง เช่น เกสรผึ้ง (ละอองเรณูของดอกไม้ที่ผึ้งนำมาผสมกับน้ำหวานของดอกไม้ แล้วเก็บรวบรวมไว้ในรัง รับประทานได้ มีคุณค่าทางอาหารสูงเช่นกัน) อ่านเรื่องราวสารพัดสารพันของผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้ง คลิกเลย
• เรียนรู้ พัฒนา พยายามแก้ไขปัญหาที่มีเสมอ
ในขณะที่ นมผึ้ง (สารอาหารที่ผลิตจากต่อมส่วนหัวของผึ้งงาน ลักษณะสีขาวขุ่น นิยมนำน้ำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงร่างกาย) และไขผึ้ง (เป็นสารที่ผึ้งงานผลิตจากต่อมไขผึ้ง เพื่อใช้สร้างหรือซ่อมแซมรวงผึ้ง ลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ สีขาวใสเหมือนน้ำนม มักใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางหรือนำไปทำเทียน) และมีการนำน้ำผึ้งไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว ชาสมุนไพรอบน้ำผึ้ง คอมบูชะ ไซเดอร์ ฮันนี่เวเนการ์ และล่าสุดที่ทางกลุ่มกำลังทำก็คือ น้ำลำไยสกัดเข้มข้นและน้ำลำไยผสมน้ำผึ้ง
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
Suggestion
ถ่ายทอดความรู้สู่ผู้ที่สนใจ
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอำเภอป่าซางแห่งนี้ นอกจากจะเป็นที่ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผึ้งแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้การเลี้ยงผึ้งสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องการเลี้ยงผึ้งอีกด้วย คุณต่อจึงมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย
“เมื่อสนใจการเลี้ยงผึ้ง มีใจตั้งมั่นว่าจะทำแล้ว เริ่มแรกจะต้องไปศึกษาหาความรู้ก่อน หรือจะมาถามเรื่องการเลี้ยงผึ้งกับเราก็ได้ มาศึกษา ดูงาน เพราะที่กลุ่มนี่ก็เป็นศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงผึ้งด้วย เราจะแนะนำว่าเลี้ยงผึ้งที่ไหน ทำอย่างไร ทำแล้วจะได้ผลตอบแทนแบบไหน รวมไปถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ อันนี้อยู่ที่การศึกษาดูงานหมดเลย จากประสบการณ์ของผม อันดับแรกที่ผมอยากจะแนะนำคือ ใจต้องมาก่อน”
• ก้าวให้ทันโลก ทันตลาด
มีมุมมองกว้างไกลและรู้เท่าทันเศรษฐกิจ
จากการพูดคุยครั้งนี้ทำให้เราได้ความรู้วิชา “การเลี้ยงผึ้ง 101” ติดตัวมาบ้าง “การเลี้ยงผึ้งเป็นการใช้ภูมิปัญญาของชาวบ้าน ผึ้งที่เราเลี้ยงเป็นผึ้งโพรง เป็นการเลี้ยงผึ้งแบบผสมผสานโดยการทำรังให้ผึ้งอยู่ เวลาเลี้ยงก็ย้ายไปในแหล่งที่มีดอกไม้หรือเกสรดอกไม้ เช่น สวนลำไย สวนลิ้นจี่ บริเวณที่ปลูกดอกทานตะวัน
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
วิธีดูแลก็ไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไร 1 อาทิตย์ก็จะมีการตรวจครั้งหนึ่งเพื่อดูความสมบูรณ์และความแข็งแรงของผึ้ง ดูว่ามีน้ำหวานเยอะหรือเปล่า ส่วนใหญ่จะดูองค์ประกอบโดยรวมมากกว่า ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่อะไรเยอะ ถ้าเป็นในช่วงฤดูน้ำผึ้งดอกลำไยก็ประมาณ 10 วันจะเก็บน้ำผึ้งครั้งหนึ่ง ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน หรือที่เราเรียกกันว่า “น้ำผึ้งเดือน 5” เพราะเป็นช่วงที่ดอกลำไยออก ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่น้ำผึ้งมีคุณภาพดีที่สุด” ฟังดูเป็นการทำงานที่น่าสนใจมากเลย ได้คลุกคลีอยู่กับความหวานตลอดเวลา
• ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในทุกปี
สิ่งที่เปลี่ยนไป ทำให้เราต้องเปลี่ยนแปลง
แม้คุณต่อจะบอกว่า การเลี้ยงผึ้งไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ด้วยสภาพสิ่งแวดล้อม ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงและกะเกณฑ์ไม่ได้ในแต่ละปี ย่อมมีผลต่อการเลี้ยงผึ้งตามธรรมชาติบ้างไม่มากก็น้อย
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
“สภาพแวดล้อมมีผลค่อนข้างมากกับการเลี้ยงผึ้ง แต่การเลี้ยงผึ้งมันก็ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน เราต้องปรับกระบวนการและมีการแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าโรคที่เกิดจากผึ้ง ภาวะที่เกิดจาการเลี้ยงผึ้ง ก็ไม่เหมือนกันสักปี เราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องเตรียมพร้อมอะไร แต่จะเป็นการเรียนรู้ เล่าสู่กันฟัง และถ่ายทอดความรู้ให้กันไปตลอด”
• ทำงานเป็นทีม
ปรึกษาและหาทางออกร่วมกัน
แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากกว่าการเลี้ยงผึ้ง นั่นก็คือ ปัญหาเรื่องของการบริหารคน “เรื่องของการเลี้ยงและทำน้ำผึ้งไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่จะมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการคน ที่เราอาจจะต้องปูพื้นความคิดกันใหม่ เพราะการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นเรื่องยาก ไม่เหมือนผู้ประกอบการรายเดี่ยว ที่สามารถตัดสินใจได้เลยเพียงคนเดียว นี่ไม่ใช่เจ้าของคนเดียว แต่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็จะยากในเรื่องของความคิดเห็น ต่างคนก็ต่างความเห็นกัน
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
วิสาหกิจชุมชนเกิดจากการรวมตัวของชาวบ้าน เกษตรกร กลุ่มวัยรุ่นเจนใหม่ เราก็ต้องมาปรับจูนกันในช่วงเริ่มต้น มีการจัดการเรื่องของการแบ่งผลกำไร และการนำผลประโยชน์ที่มีกลับคืนสู่สังคม ไม่ว่าจะเป็นการบูรณาการ คืนทรัพยากรให้สิ่งแวดล้อม การปล่อยนกปล่อยปลา หรือทำประโยชน์ให้แก่ชุมชน เรื่องนี้จะยากกว่าการเลี้ยงผึ้งอีก”
“การทำงานนี้เราได้เห็นชาวบ้านมีรายได้ มีอาชีพ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
และเห็นน้ำผึ้งของเรากระจายสู่ตลาด สังคม และตลาดโลกได้ ในชื่อแบรนด์ของเรา
ถือเป็นความภูมิใจและความสุขอย่างหนึ่งในการทำงาน”
Suggestion
ก้าวแรกที่เริ่มและการเติบโต
คุณต่อและสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีความใฝ่ฝันและวางแผนสำหรับอนาคตไว้ว่า อยากจะขยับขยายออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยทางกลุ่มจะเป็นจุดรวบรวมผลผลิตเกี่ยวกับน้ำผึ้งที่ใหญ่ที่สุด และตอนนี้ได้เดินทางเข้าใกล้ความฝันมากขึ้นทีละนิด โดยก้าวแรกได้เริ่มดำเนินการไปแล้วและกำลังเป็นไปด้วยดี
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
“เราวางแผนตั้งแต่เริ่มต้นจากการขายแบบชาวบ้าน จนพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์มีแพ็กเกจที่ออกแบบ ขอมาตรฐาน ออกเป็นสินค้าโอทอป วางขายในห้าง และส่งขายที่ คิง เพาเวอร์ เป็นหลัก ได้ขายในห้างดิวตี้ฟรี ทำให้เรามีโอกาสที่ดีในการกระจายสู่ตลาดโลก เราวางตัวแทนจำหน่ายจริงจัง ออกบูทตามงานต่างๆ มีหน้าร้านของตัวเองที่ลำพูน แล้วเราก็พัฒนาจากการขายเป็นแพ็กเกจ สู่การขายเป็นถังแบบอุตสาหกรรม”
• รักษาคุณภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์เสมอ
• ต่อยอดการผลิต
และนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เพื่อเติบโต
วันนี้ “น้ำผึ้งแสงผึ้ง” ไม่ได้มีแค่น้ำผึ้ง แต่ยังมีสบู่น้ำผึ้ง เกสรผึ้ง รวงผึ้งสด ชาอบน้ำผึ้ง น้ำลำไยเข้มข้น ไปจนถึงเครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวที่หอม หวาน เย็น ชื่นใจ…การดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มนี้เป็นการทำงานโดยชาวบ้านเพื่อชาวบ้านโดยแท้จริง ความภูมิใจและความสุขที่สุดของคุณต่อและสมาชิกกลุ่มก็คือ “ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพดี ถ้าซื้อผลิตภัณฑ์ของเราก็จะสามารถช่วยเหลือชุมชนด้วย ช่วยให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ที่ยั่งยืน มีกำลังใจที่จะเลี้ยงผึ้งและจัดหาน้ำผึ้งคุณภาพดีๆ เพราะถึงแม้จะเป็นผึ้งเลี้ยงแต่ก็เป็นผึ้งเลี้ยงธรรมชาติที่มีคุณภาพ สามารถส่งออกได้ ได้ช่วยเหลือคนและชุมชน รายได้ที่เราได้มาก็จัดสรร 5-10% กลับคืนสู่สังคม เป็นทุนการศึกษา ไปทำงานสาธารณประโยชน์ ปรับปรุงสาธารณูปโภค หรือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มันจะกลับคืนไปสู่สังคมของเราเสมอ”
ขอบคุณภาพจาก คุณเอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแท้ตราแสงผึ้ง
เคล็ด (ไม่) ลับการบริหารงาน
ของกลุ่มวิสาหกิจโดย “เอกสิทธิ์ น้ำผึ้งแสงผึ้ง”
• เรียนรู้ พัฒนา และพยายามหาทางแก้ไขปัญหาที่มีอยู่เสมอ
• ก้าวให้ทันโลก ทันตลาด มีมุมมองที่กว้างไกล และรู้เท่าทันเศรษฐกิจ
• ทำงานเป็นทีม ปรึกษาหารือ เสนอความคิดเห็น และหาทางออกร่วมกัน
• ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในทุกปี
• รักษาคุณภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้ดีอยู่เสมอ
• ต่อยอดการผลิตและนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เพื่อการเติบโต