Summary
ประครอง บัวใหญ่ เกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางการมองเห็น แต่ใจรักฟุตบอลลึกซึ้งตั้งแต่เด็ก ทุ่มเทฝึกฝนจนทำฝันให้เป็นไปได้ ก้าวเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นและเป็นกัปตันทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทยต่อเนื่องกว่าทศวรรษ เขาเป็นครู โค้ช และผู้ให้คำแนะนำเยาวชน ด้วยหวังจะมอบโอกาสให้ทุกคนเช่นที่เขาเคยได้รับ
บอลไทยไปบอลโลกเป็นความจริง เมื่อนักฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทยสามารถตีตั๋วเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ถึงสองครั้ง!
และหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นของทีมฟุตบอลชุดนี้คือ “ประครอง บัวใหญ่”
เรื่องราวของประครองในการทลายกำแพงอุปสรรคและพิสูจน์ให้เห็นว่า ใครๆ ก็พัฒนาได้ด้วยการฝึกฝน มุ่งมั่น ตั้งใจ และพยายาม ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนอย่างทรงพลัง
13 ปีที่โลดแล่นในสนามแข่งภายใต้ชุดทีมชาติไทย ประครองได้พิสูจน์ถึงจิตวิญญาณของมนุษย์ผู้ไม่ยอมแพ้ เขาไม่เพียงแต่เอาชนะอุปสรรคทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นบุคคลผู้ส่องสว่างในโลกแห่งฟุตบอล ทั้งในฐานะผู้เล่นและกัปตันทีมชาติไทย รวมถึงเป็นรุ่นพี่ที่ให้คำปรึกษากับนักกีฬารุ่นเยาว์
เรื่องราวของความหลงใหล ความมุ่งมั่นพยายาม การต่อสู้เพื่อฝัน การเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส…สร้างความเป็นไปได้ ในการคว้าชัยชนะของเขายังเป็นเรื่องราวที่ปลุกพลังใจให้กับทุกๆ คนได้
“อยากติดทีมชาติ เพราะเราไม่ได้เรียนเก่งมาก หนทางก้าวหน้าคงมีแค่การเป็นนักกีฬา
ผมอยู่กับฟุตบอลมาเกือบทั้งชีวิต ถ้าไม่มีฟุตบอลก็คงจะไม่มีวันนี้”
ประครอง บัวใหญ่
ผู้เล่นและกัปตันฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย
เกียรติยศและชัยชนะใต้เสื้อทีมชาติไทย
เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ ประครอง บัวใหญ่ หลังทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์ ในศึกเอเชียนพาราเกมส์ 2022 ณ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยประครองเป็นผู้ทำประตูชัย ชนะจุดโทษญี่ปุ่น 1-0
“ถือเป็นความทรงจำที่ดี เหรียญนี้มีค่ามาก เพราะเราเล่นมากี่ครั้งก็ไม่เคยได้เหรียญ ได้ที่สุดท้ายของเอเชียนพาราเกมส์มาตลอด ครั้งนี้ได้ที่ 3 ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ อย่างน้อยๆ ก็ทำให้ทางสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย หรือผู้สนับสนุนไม่รู้สึกเสียเปล่าที่ทุ่มเทสนับสนุนเรามา” ประครองบอก
แมตช์ประทับใจของประครองยังรวมถึงเกมที่ทีมชาติไทยคว้าชัยชนะ ผ่านไปเล่นในศึกฟุตบอลคนตาบอดชิงแชมป์โลก (IBSA Blind Football World Championship 2018) ครั้งแรก ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน (และครั้งที่ 2 ในปี 2023 ที่ประเทศอังกฤษ)
“อีกแมตช์ถึงจะเป็นความทรงจำที่ไม่ดีนักแต่ประทับใจ คือ ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย ที่อินเดีย (IBSA Blind Football Asian Championships 2022) เราชนะญี่ปุ่นในรอบรองชนะเลิศ ในรอบชิงชนะเลิศเราแพ้จุดโทษจีน แต่ถือว่าทุกคนทำเต็มที่”
✔ วินัยจากตัวเองคือสิ่งสำคัญที่สุด
ทีมชาติไทยชุดนี้ เก็บตัวฝึกซ้อมและเล่นร่วมกันมานาน “ตั้งแต่ก่อนไปเอเชียนพาราเกมส์ ที่กัมพูชา เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ที่บราซิล และไปฟุตบอลโลก ที่อังกฤษ ต่อเนื่องมาถึงประเทศจีน เรามีโค้ชต่างชาติ (เจอร์มัน อัลแบร์โต มาร์เกวซ ชาวอาร์เจนตินา) ซึ่งเคยพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์บอลโลก ได้ไปโอลิมปิก ทางสมาคมฯ หาโค้ชที่มีประสบการณ์และมีคุณภาพทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ด้านการฝึกซ้อมก็เข้มข้นมาก”
ชายผู้สวมเสื้อหมายเลข 10 พบว่า การติดทีมชาติ การได้รับเหรียญรางวัล การได้รับเกียรติ เสียงปรบมือ คำชื่นชม รวมไปถึงประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ เช่น การเดินทางไปหลายๆ ประเทศเพื่อแข่งขัน เป็นต้น ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะฟุตบอล ซึ่งพาเขาไปไกลเกินกว่าที่จินตนาการไว้
เคล็ดลับ สร้างพลังใจก่อนแข่ง สไตล์ประครอง
• ทำสมาธิอยู่กับตัวเอง
• ถ้าตื่นเต้นก็พยายามรีแลกซ์แล้วไปยืดเหยียดเตรียมร่างกาย
• ฟังเพลงปลุกใจ! ช่วยสร้างความพร้อมให้จิตใจ
ด้วยอาทิ เพลงพระเจ้าตาก (คาราบาว)
ผู้ชนะ (เสก โลโซ), แสงสุดท้าย (บอดี้สแลม) … เป็นต้น
Suggestion
ความหลงใหลที่จุดประกาย
ประครอง บัวใหญ่ วัย 35 ปี เป็นชาวอุบลราชธานี เขามีความบกพร่องทางการมองเห็นมาตั้งแต่เกิด เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่สมัยประถม หลังจากได้ยินเสียงเพื่อนๆ เล่นฟุตบอลกันสนุกสนาน จึงอยากลองเล่นดูบ้าง แม้มองไม่เห็นแต่ใช้หูฟังเพื่อคำนวณตำแหน่งทิศทางและวิถีการเคลื่อนที่ของลูกบอลซึ่งจะมีกระดิ่งใส่ไว้ในถุงพลาสติก
ประครองฝึกเล่นฟุตบอลคนเดียวจนชำนาญ ก่อนจะมาขอเล่นกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งเขาก็ได้แสดงพรสวรรค์ออกมา เขาชื่นชอบฟุตบอลมาตลอด จนย้ายไปเรียนมัธยมที่โรงเรียนคนตาบอดที่ร้อยเอ็ด และได้พบกับโค้ชคนแรกของเขา
“ครูไก่ (ดรัณภพ นันตาเรือน) เป็นครูตาบอดที่เคยสอนผมสมัยมัธยมที่ร้อยเอ็ด ครูเคยเป็นนักกีฬาทีมชาติ เป็นโค้ชคนแรกของผม เขารู้ว่าเราตัวเล็ก ต้องสร้างความแข็งแรง”
จากนั้นฟุตบอลกลายเป็นเป้าหมายในชีวิต “เราอยากติดทีมชาติ อยากเป็นนักกีฬาสักประเภท เพราะเราไม่ได้เรียนเก่งมาก หนทางที่จะก้าวหน้าหรือได้ไปต่างประเทศ คงจะมีแค่การเป็นนักกีฬา ถ้าไปเล่นกีฬาอื่นเราก็ตัวเล็ก แต่ถ้าเป็นฟุตบอล ทุกคนยอมรับในทักษะของเราอยู่แล้ว”
✔ เลือกทำอะไรที่มีความสุข
เราจะทุ่มเทให้กับมัน
ขณะเรียนปี 2 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ฝันของประครองก็เป็นจริง เมื่อเขาผ่านการคัดเลือกเป็นนักกีฬาฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย และความสามารถของเขาก็เปล่งประกาย
“เมื่อก่อนผมเป็นนักฟุตบอลที่มีความเร็ว…คล่องตัวสูง สามารถเลี้ยงบอล เก็บบอลได้ดี” ประครองพูดถึงสไตล์การเล่นของตัวเอง “แต่พออายุเยอะขึ้นก็จะมีความเข้าใจเกม อ่านเกมดี ครองบอลเหนียวแน่น นิ่ง วางบอลแม่น เป็นคนที่คอยครีเอตเกม”
ประครองเล่นให้ทีมชาติต่อเนื่องมากว่า 10 ปี เขาได้การยอมรับในความมุ่งมั่นและความทุ่มเททั้งในการซ้อมและแข่งขัน “บวกกับเราใจสู้ ทำให้เราสามารถยืนหยัดอยู่ได้”
เพื่อฟุตบอลเขายอมแลกหลายๆ อย่าง รวมถึงลาออกจากครูที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
“ผมอยู่กับฟุตบอลมาเกือบทั้งชีวิต ถ้าไม่มีฟุตบอลก็คงจะไม่มีวันนี้”
ก้าว … ต่อไป
หลังจบการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ ที่จีน เมื่อตุลาคม 2566 ประครอง บัวใหญ่ ใช้เวลาช่วงพักอยู่ที่บ้านในจังหวัดนครราชสีมาเพื่อรอทีมชาติเรียกเก็บตัวฝึกซ้อม โดยเป้าหมายต่อไปของกีฬาแข้งคนตาบอดไทย คือการเป็นแชมป์อาเซียนพาราเกมส์ และเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกให้ได้
“ตอนนี้ผมทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ช่วยงานโครงการที่หานักกีฬาไปเก็บตัวไปแข่ง แล้วก็ช่วยงานในกกท.ที่เขามอบหมายให้”
ประครองยังช่วยงานสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย “โค้ชให้ไปเป็นผู้ช่วยฝึกสอนเด็กตาบอดตามโรงเรียนต่างๆ ไปดูเด็กด้วยว่าคนไหนมีแวว พอที่จะเอามาฝึกซ้อม เอามาเก็บตัวได้”
ในวัย 35 ประครอง บัวใหญ่ หวังจะได้เป็น “ข้าราชการครู” ตามสายวิชาที่ได้เรียนมา และเขา “คาดว่า” น่าจะเล่นฟุตบอลได้อีกราว 4 ปี ก่อนที่จะแขวนสตั้ด
“หลังจากนั้นผมก็ยังอยากอยู่กับฟุตบอล ถ้าสมาคมฯ เห็นว่าเราสามารถช่วยได้ก็ยินดีที่จะมาสอนรุ่นน้องต่อ อยากให้ทีมชาติไทยพัฒนาเยาวชนขึ้นมาเรื่อยๆ มีผู้สนับสนุนมากขึ้น เพื่อจะได้มีโอกาสไปแข่งทัวร์นาเมนต์ต่างๆ
“ผมอยากให้ภาครัฐและภาคเอกชนมาสนับสนุนกีฬาฟุตบอลคนตาบอด รวมทั้งสนับสนุนเรื่องการจ้างงาน นักฟุตบอลหลายคนยังไม่มีงานทำ แล้วเราก็ต้องการศูนย์ฝึกกีฬาสำหรับคนตาบอดโดยเฉพาะ เราได้รับบริจาคที่ดินมาแล้ว แต่ยังขาดงบประมาณที่จะมาสร้างอาคาร”
✔สิ่งสำคัญสำหรับผู้ขาดโอกาส
คือให้โอกาสเขาดูแลช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด
Suggestion
ส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมกัน
เมื่อมีโอกาส ประครองมักแบ่งปันคำแนะนำอันล้ำค่าสำหรับนักกีฬารุ่นเยาว์ที่ปรารถนาจะก้าวเดินบนเส้นทางคล้ายกับเขาว่า “การมีวินัยกับตัวเองสำคัญที่สุด ไม่จำเป็นต้องมีคนมาบอกให้ซ้อม ถ้ารู้ว่าวันไหนจะเริ่มเก็บตัว ผมจะเก็บตัวล่วงหน้าไปก่อนแล้วเดือนหรือสองเดือน นอกจากมีวินัยกับตัวเองแล้วก็มีความสุขกับฟุตบอล ถ้ามันมีความสุขแล้ว เราจะทุ่มเทให้กับมัน”
นอกจากเรื่องฟุตบอล ประครองยังอยากแนะนำให้ครอบครัว พ่อแม่ และผู้ปกครองมองเห็นว่า การศึกษาเป็นกุญแจสำคัญในการไขประตูและทำลายอุปสรรคต่างๆ
“ครอบครัวมีส่วนสำคัญ บางบ้านไม่ค่อยสนับสนุนหรือให้โอกาสลูกได้พบปะผู้คน คนตาบอดก็จะไม่มีโอกาสอะไรเลย เด็กบางคนถูกพ่อแม่ขังไว้ในบ้าน ไม่ให้ออกมาพบคนอื่น เขาอาจรักลูกเกินไป หรือเพราะสงสาร”
สิ่งที่จะช่วยเด็กๆ เหล่านั้นในระยะยาว ก็คือเปิดโอกาสให้เขาได้รู้จักโลก ได้เรียนรู้ ทำให้พวกเขาช่วยเหลือตัวเองได้
เช่นที่ครอบครัวของเขาได้ให้โอกาสกับประครอง “ผมก็พยายามดูแลตัวเอง ไม่ได้เป็นเด็กมีปัญหา พยายามช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ สิ่งที่จะทำให้ผมก้าวหน้าได้ก็คือ การเรียน”
ระหว่างนั้น เขายังได้เจอครูดีๆ หลายคนในโรงเรียน ที่ไม่เพียงแต่สอนเรื่องวิชาการ ทว่าช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ชีวิตแง่อื่นด้วย
“พอมาเป็นครู ก็ได้เอารูปแบบบางอย่างที่ครูเคยสอนผมมาสร้างเด็กรุ่นหลัง ผมสร้างเด็กติดทีมชาติกีฬาโกลบอล (Goalball) และได้แชมป์โกลบอลของประเทศไทย ทุกคนให้การยอมรับในด้านการเป็นครูหรือเป็นโค้ช ในวงของนักกีฬาตาบอดเขาก็รู้จักผม เชื่อว่าเราทำได้”
ถ้าหากได้รับโอกาส ความเข้าใจ การยอมรับ และการสนับสนุนจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะ ครอบครัว ครู โรงเรียน หรือสังคม ทุกคนสามารถเปล่งประกายส่องสว่างได้ แม้ในเส้นทางที่มืดมิดที่สุด
สำหรับ ประครอง บัวใหญ่ ความสำเร็จบนเส้นทางฟุตบอลของเขายังเป็นผลจากการไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรค เป็นพลังของความมุ่งมั่นไม่เปลี่ยนแปลง และความพยายามอย่างต่อเนื่อง ในโลกของกีฬา การวัดความสำเร็จที่แท้จริงไม่เพียงแต่อยู่ที่ผลลัพธ์เท่านั้น
“การแข่งขันกีฬามีวันที่เล่นดี เล่นไม่ดี แต่ตัวเราเองจะรู้ว่า ทำเต็มที่หรือยัง เล่นไม่ดีเราก็เสียใจ แต่ถ้าทำเต็มที่แล้วก็ต้องพยายามบอกตัวเอง ให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม แล้วก็คิดถึงเกมครั้งหน้า
“ผมบอกกับโค้ชตรงๆ ว่า ถ้าผมเล่นไม่ดี โค้ชสามารถด่าว่าหรือตะคอกผมแรงๆ ได้ บางอย่างเราควรจะทำได้ดีกว่านี้ เขาก็จะช่วยกระตุ้น นั่นคือในสนาม พอออกนอกสนามก็จบ
“การเล่นกีฬาอย่างเต็มที่เสมอ ไม่ว่าผลจะออกมาแพ้หรือชนะ มันคือหัวใจของนักกีฬาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาทั่วไปหรือนักกีฬาคนพิการ”
ภาพจาก Facebook สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย
รู้จักฟุตบอลคนตาบอดแบบสังเขป
• นักฟุตบอลฝั่งละ 5 คน รวมผู้รักษาประตู กติกาหลายอย่างคล้ายกับฟุตซอล / ผู้เล่นทุกคนต้องสวมผ้าปิดตา เพื่อความเท่าเทียม / ผู้รักษาประตูเป็นคนสายตาปกติได้ / สนามขนาด 40×20 เมตร ด้านข้างสนามมีแผ่นป้ายกั้น ไม่ให้บอลออกและสะท้อนเสียงเข้าหูนักกีฬา / ไม่มีทุ่มบอล ไม่มีล้ำหน้า / แข่งครึ่งละ 25 นาที พักครึ่ง 10 นาที / ลูกบอลที่ใช้จะมีกระดิ่งติดไว้ / ผู้เล่นทีมรับต้องตะโกนคำว่า วอย (Voy) ขณะเข้าแย่งบอล เพื่อให้ทีมรุกรู้ตำแหน่งของฝั่งตรงข้าม เพื่อป้องกันการปะทะกัน
• ระหว่างการแข่ง ผู้ชมต้องไม่ส่งเสียง ยกเว้นช่วงที่บอลตาย หลังทำประตูได้ หรือช่วงพักครึ่งกับจบเกมแล้วเท่านั้น
• ทำความรู้จากกีฬาชนิดนี้ คลิก