People

อาจารย์เช่ – อาจารย์ดิว
The Power Band Music Camp
“ป้ายบอกทาง” บนถนนสายฝัน

ศรัณย์ เสมาทอง 11 Sep 2023
Views: 1,053

Summary

ชวนอ่านความคิดเบื้องหลังกิจกรรมที่ THE POWER BAND 2023 Season 3 ต้องการเติมแรงบันดาลใจกับทักษะเน้นๆ เป็น “รางวัล” สำหรับวงผู้ผ่านเข้ารอบชิงฯ…เวลา 3 วันกับศิลปินและผู้คร่ำหวอดวงการดนตรีกว่า 20 ชีวิต ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ ให้ความรู้ ให้คำแนะนำ พร้อมจุดประกายให้ (ว่าที่) ศิลปินรุ่นใหม่กลับไปรังสรรค์ผลงานสุดคูลมาประชันกัน ให้เวทีแห่งความเป็นไปได้…ลุกเป็นไฟด้วยแรงสร้างสรรค์

“เข้าค่ายดนตรี 3 วัน…จะได้อะไรกันนะ”

คำถามผุดขึ้นทันที เมื่อรู้ว่าวงดนตรีที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ ในการประกวดดนตรี THE POWER BAND 2023 SEASON 3 จะต้องมาเข้าร่วม “The Power Band Music Camp” ในวันที่ 1 – 3 กันยายน 2566 สามวัน…ทั้งวันทั้งคืนที่น้องๆ จากทุกสารทิศที่ผ่านมาตรฐานด่าน 5 สนามภูมิภาคของการประกวดต้องมารวมกัน ณ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คลิกอ่าน PLAYGROUND THE DIARY of The Power Band Music Camp แคมป์ดนตรีแห่งแรงบันดาลใจ

ลองสอบถามหลายวงก็ได้คำตอบว่า “อยากไปครับ” “ล็อกวันไว้แล้วค่ะ” “เตรียมไปดูดวิชาเลยครับ”

แค่ 3 วันเนี่ยนะ!!

“คนประกวดเขาต้องการ direction อะไรสักอย่างหนึ่ง ที่เขารู้สึกว่าเขาขาด ซึ่งอันนั้นจะได้ตอนกรรมการคอมเมนต์” อาจารย์เช่ – อัคราวิชญ์ พิริโยดม หัวหน้าสาขาดนตรีสมัยนิยม (Popular Music) วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มเล่าไอเดีย “แต่ไม่พอแค่นั้น มันต้องมีคนไกด์ ซึ่ง Music Camp นี่ล่ะ ที่จะไกด์ในเชิงเกือบจะวิชาการเลย”

อาจารย์ดิว – ภูวิช ทวาสินชนเดช อาจารย์ในสาขาเดียวกับ อาจารย์เช่ มองในอีกทางให้ด้วย “เราเห็นน้องๆ มาจาก 5 สนาม กว่าจะจบการประกวดก็ครึ่งปีได้มั้ง เสร็จปุ๊บ…แยกย้ายกันกลับบ้าน มือกลองที่เชียงใหม่กับนักร้องที่สงขลาไม่ได้รู้จักกันเลย มันไม่น่าเป็นแบบนั้น”

ในที่สุด น้องๆ ก็ได้มานั่งตาโตฟังศิลปินรุ่นพี่เวียนมาให้ความรู้มากหน้าหลายตา

“การจะ develop ตัวเองให้สร้างสรรค์
มันต้องเข้าไปค้นหาตัวตนข้างใน Music Camp จะทำให้เขาได้สำรวจตัวเอง”

อาจารย์เช่ – อัคราวิชญ์ พิริโยดม

 

 

เป็นไปได้ ไม่ยาก…เกินไป

ด้วยการเป็นสถาบันการศึกษา กิจกรรมที่ทำให้สังคม ให้ความรู้ผู้คนเป็นเรื่องที่อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว แต่พอเป็นเรื่องประกวดดนตรี การให้ความรู้อย่างมากก็จะไปอยู่ที่คอมเมนต์ของกรรมการ แล้วแต่วงไหนจะจดจำ นำไปพัฒนาตนเองต่อไป

“เป็นผม…ผมลืม พอจะเอาไปใช้จริงๆ มันไม่ได้ประโยชน์เท่าไร” อาจารย์เช่ จริงจังกับเรื่องนี้ เพราะเอ่ยย้ำหลายครั้งว่าคนรักดนตรี ชอบเพลงของศิลปินบางคนตอนเด็กๆ พอพยายามฝึกให้มาก วันหนึ่งก็เล่นได้ดีแน่ๆ แต่สิ่งเหล่านั้นอาจารย์บอกว่ามันคือ “ทักษะช่าง” นักดนตรีที่เก่งก็ทำได้ทั้งนั้น บางคนเล่นดีเหมือนกำลังเปิดเพลงต้นฉบับ

“พลิกมาเป็นเรื่อง ความคิดสร้างสรรค์ มันคนละเรื่องเลยนะ เพราะความคิดสร้างสรรค์จริงๆ แล้วเกิดจากการที่เขานำตัวตนของเขาไปผสมกับเพลงออริจินัลของใครก็แล้วแต่ จนมันเกิดสิ่งใหม่ขึ้นมา พอมันเกิดสิ่งใหม่มันจะสะท้อนสิ่งที่นักดนตรีคนนั้นสร้างสรรค์ออกมาได้เป็นตัวเขา ถ่ายทอดออกมาให้คนอื่นได้ฟัง”

 

แรงบันดาลใจต้องสร้าง
ความคิดสร้างสรรค์ก็ต้องให้แรงกระตุ้น

 

อาจารย์เช่ เชื่อในตัวนักดนตรีที่ผ่านเข้ารอบทุกคนว่ามีพื้นฐานดนตรีดีและมีความสนใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว การนำมากระตุ้นให้พบแรงบันดาลใจเป็นเรื่องที่ควรเป็น “แม้จะแค่ 3 วัน แต่เป็น 3 วันที่กระตุ้นสุดๆ สังเกตแววตาของน้องที่มานั่งดูศิลปินเล่นตั้งแต่เช้า มันเช้ามาก…แต่แววตาเขาสนใจ พอถูกกระตุ้นบ่อย ความรู้มันจะเข้าไปอยู่ในความทรงจำ พอต้องเอาออกมาใช้ มันจะเกิดการปะติดปะต่อ ความคิดสร้างสรรค์จะมาตอนที่เราปะติดปะต่อเรื่องหลายๆ เรื่องเข้าด้วยกันนี่ล่ะ”

แม้ performance จะสำคัญ แต่อาจารย์เช่ดูจะจริงจังเรื่องความคิดสร้างสรรค์ในบทเพลงมาก

จึงมีเซกชันที่พา Bowkylion มาเล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำเพลงของเธอ การพยายามรักษาความเป็นตัวตนของเธอในผลงานทุกชิ้นให้น้องๆ ฟัง มี “พี่เจน Madpuppet Studio” – เจนพัฒน์ มนตรีเลิศรัศมี มาสอนและทดลองเรียบเรียงดนตรีในรูปแบบใหม่ๆ ให้โชว์ความคูลแบบเป็นตัวของตัวเองให้ดูกันต่อหน้า หรือเชิญ “พี่นะ Polycat” หรือ รัตน จันทร์ประสิทธิ์ มาแต่งเพลงสดๆ แบบจริงจังจนจบและร้องเพลงนั้นไปพร้อมกับน้องๆ

“ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กดูพี่แต่งเพลงชั่วโมงครึ่งแล้วจะเขียนเพลงเป็นนะ” อาจารย์ดิว เสริม “แต่เด็กที่เดินออกจากคลาสนี้จะเริ่มรู้สึกว่าการเริ่มต้นเขียนเพลงไม่ยากเกินไป เราทำแคมป์ให้แรงบันดาลใจเป็นสารตั้งต้นกลับไปพัฒนา เป็นแคมป์ที่ช่วยปรับเข็มทิศ ให้เห็นว่าอะไรที่ทำแล้วเสียเวลา อะไรที่ทำแล้วได้ผลเร็วกว่า อะไรที่เป็นทางลัด ให้เข้าสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น”

สายตาสองอาจารย์ที่จัด Music Camp ดูมีความสุขไม่แพ้น้องๆ

Music Camp สำหรับผมมี 3 Keywords

คือ
ต้องเสริมสร้างทักษะ
สร้างสังคม
สร้างโอกาส

ไม่ใช่แต่น้องจะมองมาที่พี่ พี่ก็หาศิลปินรุ่นใหม่เหมือนกัน”

อาจารย์ดิว – ภูวิช ทวาสินชนเดช

 

รู้จักกันแล้วนะ

ความพยายามที่จะเป็นไกด์ให้กับน้อง เห็นได้จากในแคมป์จัด Instrumental Clinic แยกชิ้นเครื่องมือกันไปเลย เพื่อการติวเข้ม พร้อมเปิดโอกาสให้ถาม หรือขอให้พี่ๆ ช่วยแก้ไขสิ่งที่ยังติดขัด

ดูจากรายนามศิลปินแล้ว ไม่ธรรมดา พี่แก๊ป – อรรถพล หมั่นเจริญ มาไขข้อข้องใจในวิธีการร้องเพลง พี่แง้ว – อาณัติ เอี่ยมวงษ์ศรีกุล มาสอนกีตาร์  พี่เมย์ – พัชรพงศ์ เรืองหิรัญวงศ์ คนนี้ต้องเรื่องเบสแน่นอน เรื่องกลองเป็น Action Jay Jackson คีย์บอร์ดมี พี่เอม – พีรณัฐ ชัยสังฆะ ศิลปินที่เคยเป็นวงแชมป์ THE POWER BAND SEASON 1 คลิกอ่าน (Link Passion วงถุงเท้าแดงไม่แรงได้ไง) ส่วนกลุ่มเครื่องเป่ามี 3 ท่าน พี่โป้ – ยุทธศักดิ์ พลายภู่ พี่เขต – รัฐเขตต์ ช่วยสมบูรณ์ และพี่เซิน – อนันท์พร เอี่ยมชาญบรรจง

การเป็นศิลปินต้องเรียนรู้อะไรบ้าง พี่พล – คชภัค ผลธนโชติ หรือ พี่พล วง Clash ก็มาสอนการพัฒนาตนเองสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวหรือศิลปินกลุ่ม สร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ สร้างฐานแฟนเพลง ทำเพลงได้แล้วยังไม่พอ ยังพา พี่เจษ – เจษฎา เอกศุภพรชัยกุล จาก Believe Digital Thailand มาให้ความรู้เรื่อง Music Distribution จะปล่อยเพลงกันด้วยวิธีไหนในยุคนี้

 

ให้วงประกวดทำความรู้จักกัน
เพื่อให้เกิดคอมมิวนิตีคุณภาพสำหรับคนดนตรี

 

นอกจากให้พี่ๆ มาช่วยสอนน้องแล้ว อีกเป้าหมายที่พาขุนพลคนดนตรีมาขนาดนี้ คือ อยากให้น้องได้ทำความรู้จัก เพื่อวันข้างหน้าจะขอความรู้จากพี่ และในวันข้างหน้าอาจจะกลายเป็นเพื่อนร่วมวงการก็ได้…ใครจะไปรู้

“อยากให้เกิดคอมมิวนิตี ต้องเริ่มจากน้องๆ เองเลย” เป้าหมายหลักของ อาจารย์ดิว เลยเรื่องให้คนได้รู้จักกัน “อีก 5 ปี 10 ปี เราไม่มีทางรู้เลยว่าการที่ได้เจอกันวันนั้น เขาจะไปสร้างอะไรด้วยกันอีกในอนาคต วันหนึ่งน้องจากคนละจังหวัดอาจจะเป็นสมาชิกวงเดียวกัน อาจมาทำงานเบื้องหน้าเบื้องหลัง เป็นโชว์ไดเรกเตอร์ เป็นโพรดิวเซอร์ บางคนเป็นศิลปิน เจอหน้ากันแล้วจำได้ว่าเรามาจาก THE POWER BAND ด้วยกัน”

เราเลยได้เห็นน้องจากคนละโรงเรียนนั่งคุยกัน บางคนเล่นกีตาร์ร้องเพลงด้วยกันที่ห้องพัก น้องบางคนเอ่ยออกมาเลยว่ามีไอดอลเป็นนักดนตรีอีกวง โดยไม่ได้สนใจว่านั่นคือ “คู่แข่ง” ของตัวเองในรอบชิงชนะเลิศ

เริ่มเป็นคอมมิวนิตีได้หรือยังครับ อาจารย์ดิว

“คนที่เล่นเก่งมากๆ แต่ไม่สามารถเป็นศิลปินได้
เพราะฟังเพลงน้อย ดูน้อย ชอบเล่นแต่เดิมๆ
แต่คนที่เล่นเก่งและฟังเพลงเยอะด้วย
จะรู้ว่า…จะไม่เหมือนใครและยังเป็นตัวฉันได้ยังไง”

อาจารย์เช่ – อัคราวิชญ์ พิริโยดม

เกาะขอบเวที

ถามถึงวัตถุดิบสำคัญที่นักดนตรีในยุคนี้ต้องมี สิ่งแรกที่อาจารย์เช่บอกไปตั้งแต่แรกแล้ว คือ ต้องมีทักษะช่าง…เล่นเครื่องมือให้ชำนาญ แต่ไม่ได้จบแค่เล่นเก่งเท่านั้น

“วัตถุดิบที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ก็สำคัญ มันเป็นเรื่องของวัฒนธรรม แนวเพลง รวมแล้วจะสร้างให้เราเป็นคนมีรสนิยม จากนั้นคนยุคนี้ต้องมีทักษะในการใช้อุปกรณ์รวมเสียงหรือประกอบเสียงต่างๆ ก็พวกอุปกรณ์ดิจิทัลเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ โปรแกรมดนตรีต่างๆ และอีกวัตถุดิบสำคัญอีกอย่าง คือ การแสดงบนเวที”

มีความรู้เกี่ยวกับ Sound Check and Stage Organization ซึ่งในสถาบันต้องเรียนกัน 15 สัปดาห์ อาจารย์มากลั่นให้เหลือชั่วโมงครึ่ง พา พี่บูท – กฤตธรรม ขาวแจ้ง จาก Roller Studio ที่เป็น Sound Engineer หลายวงมาให้ความรู้เรื่องการจัดการระบบเสียงบนเวที

“การบาลานซ์เสียงบนเวทีมันเป็นเรื่องเทคนิคเลยนะ ไม่ได้นามธรรมเหมือนการสร้างอารมณ์ในเพลง นักดนตรีต้องรู้ จะขอเสียงจากมอนิเตอร์ยังไง เวลาได้ยินบนเวทีแบบนี้ ต้องเล่นน้ำหนักอย่างไร จึงจะถ่ายทอดออกมาได้ตรงใจที่ซ้อมกันมา เรื่องนี้ต้องวิชาการกันหน่อย เพราะหลายวงพลาด ได้ยินเสียงจากมอนิเตอร์ดัง เพราะตอนซ้อมเราไม่ได้ยินดังขนาดนี้ พอเล่นก็เล่นเบาลงเฉยเลย อารมณ์ซ้อมมาหาย กรูฟไม่ออก”

 

แบ่งปันประสบการณ์จากทั้งมืออาชีพและศิลปิน
เพิ่มความรู้ ทักษะ เพื่อให้ต่อยอดการสร้าง “ลายเซ็น” ของพวกเขา

 

นอกจากเรียนการจัดการเวทีและเสียงแล้ว แคมป์ยังพา “พี่ๆ วง ETC” มาแชร์ประสบการณ์ เริ่มกันตั้งแต่ให้ทีมงานของวงขึ้นมา Sound Check Demonstration ลองทำกันให้ดูต่อหน้าต่อตา แล้วพี่ๆ ทั้งวงก็ขึ้นมาคุยให้ฟังเรื่อง Ensemble หรือการเล่นรวมวง เล่าเทคนิค ตอบข้อสงสัย เพลงเดียวกันเวลาขึ้นเวทีทำไมเล่นไม่เหมือนออริจินัล การจะจับอารมณ์คนดูให้อยู่ต้องปรับการเล่นให้สนุกขึ้นอย่างไร จบด้วยคอนเสิร์ตของวง ETC ร่วมกับ “พี่ PAE SAX” หนึ่งในกรรมการที่คัดน้องๆ เข้ามานั่นเอง

วันนี้…น้องๆ ฟังเพลงและเต้นอยู่ด้วยกัน อีกไม่กี่วันข้างหน้าพวกเขาอาจกลายเป็นคนบนเวที และอีกไม่นานก็อาจต้องมาเล่าประสบการณ์การเดินทางสายดนตรี ให้คนรุ่นใหม่นั่งฟังตาโตและฝันจะยืนอยู่ตรงนั้นบ้าง

“นักดนตรียุคก่อน – ยุคนี้ มันยากเหมือนกัน
เหมือนทำอาหารให้อร่อยมันยากเท่ากันล่ะ
แต่ยุคนี้เราต้องจัดจานให้เก่งขึ้น”

อาจารย์ดิว – ภูวิช ทวาสินชนเดช

“ป้ายบอกทาง”

ถามถึงฝีมือดนตรีของเด็กไทย อาจารย์ทั้งคู่ยืนยันว่าฝีมือดีขึ้น แต่การดีขึ้นหมายถึงดีขึ้นทั้งโลกเลยนะ เพราะฉะนั้นการให้ความรู้เพื่อการพัฒนายังเป็นเรื่องจำเป็น

“เบื้องลึกที่สุดของการจัด The Power Band Music Camp คือ อยากให้เขาหาตัวตนเจอ” อาจารย์เช่ เอ่ยถึงฝัน “การเอาความเป็นไทยออกไปทำให้เป็นสากลนิยมได้ อันนี้คือเป้าหมายสูงสุด ความเป็นไทย คือทั้งประเทศเลยนะ สำเนียง กลิ่นอาย วัฒนธรรม แต่การจะประยุกต์ให้ไปสู่สากลนิยม มันก็ต้องอาศัยพื้นฐานของความเป็นสากลนิยมด้วย คือใช้ดนตรีสากลนั่นล่ะ แต่จะเบลนด์ยังไงให้มีความเป็นไทยในนั้น ก็ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์นั่นล่ะ”

แม้เป็นเรื่องยาก แต่อาจารย์เช่ก็เชื่อว่าสามารถเป็นไปได้ “ถ้าไม่ทำตัวเป็นเกาหลีกันไปเสียหมด”

ส่วน อาจารย์ดิว ผู้ที่เคยผ่านชีวิตการเป็นเด็กปัตตานีเพียงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนที่ได้ขึ้นมาเรียนรู้ที่กรุงเทพฯ ย้อนความทรงจำสมัยดูคอนเสิร์ต ETC ตั้งแต่ยุคแรกๆ แล้วเอากลับไปสอนเพื่อน พร้อมอะเรนจ์เพลงในวงใหม่ พยายามฝึกฝนและเข้าประกวดดนตรีจนก้าวเดินมาได้จนถึงทุกวันนี้ จึงสัมผัสได้ถึงเรื่องลึกๆ ในใจของน้องๆ ว่าถ้าแรงบันดาลใจไม่หนักแน่นพอ เขาอาจจะท้อและหยุดเดินเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงกับน้ำตารื้น ฝากฝังให้น้องๆ กลับไปบอกไปเล่าความรู้ที่ได้จากแคมป์ให้เพื่อนที่ไม่ได้มาฟัง

“ถ้าวันนี้เขาขับรถบนถนนมืดๆ มีแต่ไฟรถตัวเองส่องทาง อย่างน้อย Music Camp หวังจะเป็นป้ายบอกทาง ที่สะท้อนแสงไฟให้เห็นว่าข้างหน้าคือที่ไหน จะได้ไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวจนรีบย้อนกลับ อยากให้เขาไปต่อจนถึงจุดที่ฝันไว้”

ค่ายดนตรี 3 วัน…จะมีศิลปินเกิดขึ้นอีกกี่คนนะ!?!

 

Keynote เก็บตก 3 วันดีๆ
จาก The Power Band Music Camp

แรงบันดาลใจต้องสร้าง…ความคิดสร้างสรรค์ก็ต้องให้แรงกระตุ้น  

ให้วงประกวดทำความรู้จักกัน เพื่อให้เกิดคอมมิวนิตีคุณภาพสำหรับคนดนตรี

แบ่งปันประสบการณ์จากทั้งมืออาชีพและศิลปิน

เพิ่มความรู้ ทักษะ เพื่อให้ต่อยอดการสร้าง “ลายเซ็น” ของพวกเขา

Author

ศรัณย์ เสมาทอง

Author

นักเขียนและผู้ผลิตรายการเชิงสารคดีอิสระ ชอบตะลอนเวิร์กตามที่ต่าง ๆ พร้อมเล่าเรื่องระหว่างการเดินทาง และบ่อยครั้งก็บันทึกประสบการณ์เป็นบทกวี

Author

บริษัท เอ็กเปิร์ดคิด จำกัด

Photographer

การรวมตัวของคนโปรดักชั่น ที่ยังเชื่อในพลังสร้างสรรค์ เราจึงคิดและผลิตงานศิลปะทุกรูปแบบ