เต็มไปด้วยความสุขและพลังเต็มเปี่ยมของความฝันจากคนรักดนตรีและเสียงเพลง บนเวทีของสนามชลบุรี Thaipower.co เก็บบรรยากาศจากการประกวด THE POWER BAND ซีซั่น 2 การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2565 จัดโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย กลับมาฝาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงของวงดนตรีผู้เข้าประกวดที่ล้วนปล่อย ทีเด็ดกันอย่างเต็มที่และแสดงฝีมือที่เข้มข้น แต่ละวงของทั้ง Class A รุ่นมัธยมศึกษา หรือ Class B รุ่นประชาชนทั่วไป
ในขณะที่การแสดงคอนเสิร์ตปิดท้ายเวทีจากศิลปินดัง ไม่ว่าจะเป็น WISH ศิลปินน้องใหม่ SERIOUS BACON สองศิลปินดูโอ อารมณ์ดี เสียงดี อีกทั้งยังมีศิลปินรุ่นพี่ๆ อย่าง BEAN NAPASORN และ SLAPKISS ก่อนที่จะปิดท้ายความสนุกและความมันบนเวทีค่ำคืนการประกวดอย่างสวยงามด้วยวงพี่ใหญ่ SEASON FIVE
ที่แน่ๆ การประกวดครั้งนี้ได้วงชนะเลิศที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสนามชลบุรี จำนวนทั้งหมด 6 วงด้วยกัน เพื่อที่จะ “ไปต่อ” ในการแข่งขันที่รอบ Final เป็นที่เรียบร้อย ร่วมกับผู้ชนะเลิศที่จะเข้ารอบจากสนามเชียงใหม่ สนามสงขลาและสนามกรุงเทพฯ ที่เวทีเตรียมร้อนจนลุกเป็นไฟเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ทั้งหมด 15 วงที่ได้ขึ้นเวทีสนามชลบุรีต่างก็ทำเต็มที่…ทำดีที่สุดเท่าที่พวกเขาตั้งใจ และบอกเป็นเสียงเดียวว่า “การได้ทำในสิ่งที่ฝันนั้นมีความสุขที่สุดแล้ว”
วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
จากสนามชลบุรี ได้แก่
CLASS A
วง Success (ชลบุรี) โรงเรียนพนัสพิทยาคาร
วงเพี้ยน (บุรีรัมย์) โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม
วงอะไรดังกว่าระเบิด (ชลบุรี) โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
CLASS B
วง Different จาก ชลบุรี
วง The Pump จาก กรุงเทพฯ
วงตัณหา จาก บุรีรัมย์
“ไม่ต้องรอให้พร้อม ออกมาทำตามฝันเถอะครับ ยิ่งถ้ามีโอกาสดีๆ อยู่ตรงหน้า ยิ่งไม่ต้องสนใจว่าจะเข้ารอบหรือจะชนะ เพราะทุกเหตุการณ์บนเวทีคือประสบการณ์ที่หาไม่ได้ และประสบการณ์ตรงนี้จะทำให้คุณเข้าใกล้ความฝันครับ”
วง The Pump (กรุงเทพฯ) รุ่นบุคคลทั่วไป
ภาพรวมจากกรรมการมองว่า วงประกวดสนามชลบุรีนี้ แต่ละวงไม่มีใครเล่นไม่ดีเลย แต่ผลการตัดสินเกิดขึ้นได้จากการที่วงไหนมีข้อผิดพลาดมากกว่ากัน คุณ “เป้ Sax” ไพสิฐ คำกลั่น ศิลปินและโปรดิวเซอร์ ค่าย Muzik Move เป็นตัวแทนของ 1 ใน 3 กรรมการ (ได้แก่ คุณวิโรจน์ สถาปนาวัตร (J-Pap) วง INFINITY และ คุณกฤษติกร พรสาธิต (ติ๊ก) วง Playground ผู้บริหารค่าย Home Run Music) แสดงความเห็นพร้อมรอยยิ้มไว้ว่าหนักใจแทนกรรมการตัดสินรอบ Final เพราะผ่านมาสองสนามภูมิภาคคือล้วนมีแต่วงคุณภาพ…วงระดับประชาชนทั่วไปต่างมีผลงานโดดเด่น ในขณะที่วงระดับมัธยมก็เล่นได้ดีเกินวัย
“ตอนผมเรียนมัธยม ผมยังเล่นไม่ได้ขนาดนี้เลยครับ ทำให้เห็นว่าเด็กสมัยนี้ไปไกลถึงไหน…ไปไกลแล้ว โครงการดีๆ แบบ THE POWER BAND นี้ทำให้เราได้เห็นว่า ณ วันนี้เด็กๆ เก่งไปไกลแล้ว เป็นความหวังให้เราว่าอนาคตข้างหน้า เราน่าจะได้เห็นอะไรดีๆ จากวงการเพลง ยิ่งเรากระจายพื้นที่ออกไปมากเท่าไหร่ เรายิ่งได้เจอคนเก่งในภูมิภาคนั้นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรารู้ว่า โอ้โห เรามีเพชรในตม รอเจียระไนอยู่เยอะมากๆ นะครับ การประกวดนี้ทำให้เรามีพื้นที่ที่เข้าไปเฟ้นหาคนเก่งๆ นำออกมาเจียระไนให้สวยงาม”
ถึงเวลาเปิดเวทีการประกวด แน่นอนว่าวงแรกที่ขึ้นเวทีคงหนีความตื่นเต้นไม่พ้น แต่วง Cerebrum โรงเรียนสตรีประเสริฐศิลป์ จังหวัดตราด วางความตื่นเต้นของพวกเขาเอาไว้ชั่วคราวแล้วหยิบเอาความฝันออกมาทำให้ปรากฏ สมาชิกทั้ง 5 คน เดินทาง 200 กว่ากิโลเมตรจากจังหวัดของตัวเองมาที่สนามของการประกวด “ไม่มีอะไรต้องกลัว เราก็แค่ทำให้เหมือนตอนซ้อม ต้องซ้อมให้เยอะ ซ้อมจนเข้าไปใน Cerebrum พอเราไม่กลัว เราก็ทำเต็มที่ อีกอย่างพวกเราอยากลงสนามเร็วๆ และลงให้เยอะที่สุด แข่งเยอะเท่าไหร่ยิ่งเพิ่มประสบการณ์ และเมื่อโอกาสมันมาเราก็ทำเลย” แน่นอนว่าพวกเขาลงมือทำเต็มที่…และดีที่สุดอย่างที่เตรียมตัวมาแล้ว จึงไม่เสียดายที่ผลตัดสินจะเป็นอย่างไร และพวกเขามีความสุข
เช่นเดียวกับวงดอกแก้วบาน โรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ สมุทรปราการ ซึ่งเคยเป็นวงดนตรีไทยกันมาก่อน “พวกเราคิดว่าดนตรีคือสิ่งที่ทำให้พวกเรามารวมตัวกันได้ มีความสุขทุกครั้งที่ได้รวมตัวกันเล่นดนตรี การประกวดทำให้พวกเราได้ประสบการณ์…ความตื่นเต้นและข้อผิดพลาดทั้งหมดก็ยังเป็นประสบการณ์ที่ดีของพวกเรา วงก่อนหน้าเราเล่นได้อย่างคูล แต่เราก็หันกลับมาให้กำลังใจกัน พอขึ้นไปบนเวทีเราก็กำจัดทุกอย่างที่กังวลออกไปให้หมด คิดแค่ว่าเรามีโอกาสครั้งนี้ เป็นครั้งแรกและแค่ครั้งเดียว ต้องทำให้เต็มที่ที่สุดและเราต้องเล่นอย่างมีความสุข เมื่อเราได้รับความเห็นจากคณะกรรมการที่เป็นศิลปินอาชีพ เราก็จะนำไปปรับปรุงและพัฒนาวงของพวกเราให้ดีขึ้น”
“อยากเก่งก็ต้องซ้อม การซ้อมเยอะๆ จะช่วยให้เรากล้าขึ้น และถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเองมันต้องออกมาดีแน่นอน เมื่อไหร่ที่กลัว เพื่อนในทีมคือพลังใจที่ดีที่ทำให้พวกเรามั่นใจและกล้าที่จะทำตามความฝันมากขึ้น เพราะเชื่อว่าเรามีความฝันเดียวกัน”
วง เพี้ยน (บุรีรัมย์) โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม รุ่นมัธยมศึกษา
“อยากให้ลองทำดูในสิ่งที่ตัวเองไม่กล้า ลองเปิดใจดูสักครั้ง เรามาแข่งเวทีนี้ เพราะเราอยากใช้ช่วงชีวิตให้คุ้ม อยากเก่ง อยากพัฒนา อยากจะลุย เพราะชีวิตวัยรุ่นมีครั้งเดียว มีผิดพลาดบ้างเป็นธรรมดา แต่ไม่หยุด…ไม่ท้อ สู้ต่อไปเรื่อยๆ ทำให้เต็มที่ที่สุด และอยากให้เรารักสิ่งที่เราทำ เพราะจะทำมาออกมาได้ดี”
วง Success (ชลบุรี) โรงเรียนพนัสพิทยาคาร รุ่นมัธยมศึกษา
Suggestion
การประกวดก็คือการแข่งขัน สำคัญกว่านั้นคือความเห็นจากกรรมการที่นำไปใช้พัฒนาตัวเองได้จริง “เราทำดีที่สุดแล้วสำหรับการแก้สถานการณ์ เราตื่นเต้นกันจนมือกลองมือชามือเย็นไปหมดเลยครับ” วง Phikul Band จากโรงเรียนปราจีนกัลยาณี ปราจีนบุรี ยอมรับว่าพวกเขาไม่ได้ทำผลงานบนเวทีได้ ‘เพอร์เฟกต์’ แต่สำคัญกว่าทุกสิ่งคือพวกเขามีความสุข “การประกวดดนตรีนี้มอบประสบการณ์ที่มากกว่าเรื่องของเสียงเพลง ทั้งสร้างความสุข สร้างเพื่อน และยังให้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับพวกเรา เราไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เปิดโลกกว้างให้กับเรา อะไรที่มันยังไม่เป็นที่น่าพอใจ พวกเราทั้งอาจารย์และสมาชิกในวงก็จะช่วยกันปรับปรุงต่อไป” แน่นอนว่าท่อนแร็ปจากการแสดงของพวกเขายังคงเป็นที่จดจำของคนดูในวันนั้น
ในขณะที่บางวงมีความตั้งใจที่จะมาสร้างความทรงจำดีๆ กลับไป อย่าง วง TK Music Band โรงเรียนตราษตระการคุณ อีกวงจากจังหวัดตราด “ภูมิใจที่ได้มารวมตัวแข่งขันสำคัญ เพราะหลายคนในวงก็จะเรียนจบ ม.6 แล้ว การประกวดดนตรีให้เราได้ comment ได้รู้ว่าเรายังไม่เก่งมาก ให้เราพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ ได้เจอกับคู่แข่งที่เก่งๆ เก่งกว่าเรา…ทำให้เรามีแรงกระตุ้นสำหรับตัวเองมากขึ้นด้วย”
หากจะมองให้เห็นว่าเวทีแห่งนี้เป็นโอกาส เวทีประกวดดนตรีครั้งนี้คือโอกาสที่เปิดกว้างอย่างยิ่ง แบ่งเป็น 5 สนามภูมิภาคที่เป็นการเข้าหาคนมีใจรักดนตรีแล้ว ยังเปิดโอกาส “อีกครั้ง” ให้กับบางวงที่พลาดไปจากสนามก่อนหน้านี้ “เราไม่ได้ปิดกั้นให้ผู้สมัครเฉพาะภูมิภาค คนที่ยังไม่ได้ผ่านเข้ารอบก็สามารถมาแก้ตัวใหม่ได้ในสนามต่อๆ ไป เพราะยังมีสนามเชียงใหม่ สงขลา และกรุงเทพฯ” คณะกรรมการมีความเห็นไปในทางเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดประสงค์ที่พวกเขาไม่ได้เพียงแค่ “ให้คะแนนตัดสิน” แต่มุ่งหวังที่จะให้วงเกิดการพัฒนาตัวเองด้วย
หรือหากใครเห็นว่าเป็นโอกาส จงเดินออกมาคว้าไป หรือถ้าใครมองว่าเป็นโอกาสที่ต้องแก้ตัวใหม่ อย่ารอช้า อยากชวน มาชม มาเชียร์ หรือมาแข่งกันได้เลย เพราะสองสนามที่ผ่านมา มีทั้งวงจากจังหวัดที่ข้ามสนามภูมิภาค อย่างวง The Pump จากกรุงเทพฯ วงเพี้ยนและวงตัณหาสองวงนี้มาจากบุรีรัมย์ ซึ่งทั้งหมดต่างก็ข้ามมาแข่งที่สนามชลบุรี ส่วนสนามเชียงใหม่ที่กำลังจะมาถึง มีทั้งวงที่ข้ามภาคมาอย่าง วงอสุรา(โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย) จากลพบุรี วงอุดรพิทยานุกูล (โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล) จากอุดรธานี และมีวงที่ขอ “สู้ต่อ” อย่างวงกุลสตรี (โรงเรียนอนุกูลนารี) จากกาฬสินธุ์ที่ยังไม่สมหวังจากเวทีประกวดที่สนามขอนแก่นด้วย
“จะเก่งหรือไม่เก่งก็ต้องลองทำดูก่อน จะได้ถือว่าเป็นการฝึกตัวเองให้กล้าที่จะทำตามฝัน อย่ากลัวที่จะฝัน ไม่มีใครเก่งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกเรามาได้ทุกวันนี้เกิดจากความพยายามในการฝึกซ้อมกันทุกวัน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเราก็ยังต้องพัฒนาอีก ยังมีสิ่งที่เรายังต้องเรียนรู้อีกมากเพื่อทำให้ฝันเป็นจริง”
วงอะไรดังกว่าระเบิด (ชลบุรี) โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา รุ่นมัธยมศึกษา
“อยากให้ลองทำดูก่อน ลองทำตามที่ตัวเองคิดภาพไว้ ห้ามรอ ลงมือทำไปเลยไม่ต้องกลัว ไม่มีใครเก่งแต่เกิดแน่…ต้องฝึกซ้อม ต้องพัฒนาตัวเองไป มันอาจจะไม่ใช่ก้าวที่ประสบความสำเร็จภายในเร็วๆ นี้ แต่จะเป็นก้าวเล็กๆ ที่เราค่อยๆ ทำไป แล้วส่งผลให้เราสำเร็จในอนาคต”
วง ตัณหา (บุรีรัมย์) รุ่นบุคคลทั่วไป
“The Power Band เป็นเวทีประกวดใหญ่ที่รับผู้สมัครจากทั่วประเทศ เลยเป็นการดึงคนเก่งมารวมตัวกัน ถ้าเราผ่านเข้ารอบได้ ก็เหมือนเป็นการพิสูจน์ว่าเราก็เก่งในประมาณหนึ่ง คนเราเก่งได้หลายด้านและต่างกัน ที่สำคัญแค่ต้องกล้าทำ ลองทำไปก่อน ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็จะทำได้”
วง Different (ชลบุรี) รุ่นบุคคลทั่วไป
วงที่ได้ผ่านการคัดเลือกสนามเชียงใหม่
Class A ได้แก่ 1.วง Belebt (เบเลบท์) (เชียงราย) โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย 2.วง Exclusive (เชียงใหม่) โรงเรียนวารีเชียงใหม่ 3.วง Heritage (เชียงใหม่) โรงเรียนรัตนาเอื้อวิทยา 4.วงอสุรา (ลพบุรี) โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย 5.วง Lonely Peperoni (เชียงใหม่) โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย 6.วง River (เชียงใหม่) โรงเรียนวารีเชียงใหม่ 7.วง The PicLic Band (เชียงใหม่) โรงเรียน วชิราลัย 8.วง TP.Band (นครสวรรค์) โรงเรียนตาคลีประชาสรรค์ 9.วงกุลสตรี (กาฬสินธุ์) โรงเรียนอนุกูลนารี 10.วงอุดรพิทยานุกูล (อุดรธานี) โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล
Class B ได้แก่ 11. วง DAY (เชียงใหม่) 12.วง Paraa (เชียงใหม่) 13.วง MN BAND (อุบลราชธานี) 14.วงจะไป FUNK (ลำปาง) 15.วง New Band (เชียงใหม่)
ชมบรรยากาศวันแข่งขันสนามที่ 2 ชลบุรี พร้อมทำความรู้จักวงที่ทะลุผ่านเข้ารอบเพื่อไปรอชิงชนะเลิศทั้ง 2 รุ่น ให้มากขึ้นได้เลย