เมื่อการประกวด THE POWER BAND 2022 ซีซันที่ 2 …การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2565 จัดโดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เริ่มต้นขึ้นแล้ว สนามแรกประเดิมความมันแบบอันลิมิต จนบนเวทีแทบลุกเป็นไฟ…
นอกจากจะเต็มไปด้วยความสนุก ความมัน และพลังงานแห่งแรงบันดาลใจของนักร้อง นักดนตรี และจากศิลปินรับเชิญพิเศษ เปี่ยมล้นไปทั้งบนเวทีและด้านล่างของผู้ชม เติมเต็มความบันเทิงให้ทั้งผู้ชมและผู้เข้าประกวดแล้ว ที่สำคัญ Thaipower.co เชื่อว่างานนี้จะมอบประสบการณ์สำคัญบทหนึ่งในชีวิตให้กับทั้ง 17 วงที่ผ่านรอบคัดเลือกมาสู่การแสดงสดที่สนาม 1 ขอนแก่น ซึ่งเป็นสนามภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ THE POWER BAND ก็ได้ผู้ผ่านเข้ารอบจากสนามนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว…แม้จะได้ผู้ผ่านเข้ารอบที่เชือดเฉือนความสามารถกันมาอย่างเข้มข้นเพียง 4 วงเท่านั้น
ลองฟังพวกเขามาล้อมวงเล่าถึงการก้าวออกมา “ทำฝัน” ก่อนไปต่อกันที่สนามชลบุรี…ซึ่งเป็นสนามต่อไป
บางคนมีความฝัน
เมื่อโอกาสสวมบทบาทศิลปินอาชีพมาถึง “คนมีฝัน” ฝั่งภูมิภาคอีสาน…จึงไม่รอช้า ตอบรับโอกาสครั้งนี้ หลายคนอาจมองว่านี่คือ “โอกาส” แต่สำหรับพวกเขา นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง นั่นเป็นเพราะมันคือการหยิบเอาความฝันออกมาใช้นำทางนั่นเอง และเมื่อโอกาสถูก “เสิร์ฟ” ไปหาทุกคน วงต่างๆ ตามจังหวัดต่างๆ ที่อยู่รายล้อมขอนแก่น ซึ่งเป็น “สนาม” ประกวดสำหรับภูมิภาคนี้จึงเริ่มต้นขึ้น
BETAGEN จากโรงเรียนกู่สวนแตงวิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นวงที่ขึ้นเวทีเป็นอันดับแรก และพวกเขาก็ประเดิมเวทีด้วยความเต็มที่อย่างแท้จริง “สิ่งที่ได้มาทำนี้เป็นความฝันของพวกเราค่ะ เมื่อก่อนพวกเราเคยเป็นวงโปงลางกันมาก่อน แต่อยากทำดนตรีสากล การประกวดบนเวที THE POWER BAND นี้จึงเป็นความฝันสูงสุดเลย คุณครูเป็นผู้อยากสานฝันให้พวกเราได้มีโอกาสมากขึ้น” พวกเขาจึงเก็บฝันใส่กระเป๋าแล้วเดินทางจากบุรีรัมย์เข้ามาที่ขอนแก่น สนามประกวด
วงที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
จากสนามขอนแก่น ได้แก่
CLASS A
วง HUUKI HUUDA โรงเรียนเลยพิทยาคม จังหวัดเลย
วง Little Wings โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย จังหวัดศรีสะเกษ
วง หน้าโรงเรียน โรงเรียนสตรีสิริเกศ จังหวัดศรีสะเกษ
CLASS B
วงคากะจะ จากศรีสะเกษ
กล้าฝัน…แล้วกล้าทำ
เมื่อมีฝัน…จงอย่าเก็บเอาไว้! สัมผัสได้เลยว่าผู้ประกวดแต่ละวงและแต่ละคน ต่างมีความรักในเสียงดนตรี เมื่อนำความฝันและสิ่งที่รักของทุกคนมารวมกัน ยิ่งกลายเป็นเอนเนอร์จีดีๆ ที่ชัดเจน เราสังเกตการณ์ ติดตาม และสนุกไปกับดนตรีจากการสร้างสรรค์ของแต่ละวงไปด้วยอย่างเต็มอิ่ม เห็นได้ชัดว่าผู้ประกวดรุ่นมัธยมศึกษาและบุคคลทั่วไป ต่างจัดเต็มเพื่องานนี้…อย่างไม่รีรอที่จะหยิบความฝันสำคัญของพวกเขาออกมาทำให้ปรากฏ
วงจากขอนแก่นเจ้าบ้าน หรือกาฬสินธุ์ อย่าง วง Cloud จากโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน หรือวง Red Sky จากโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ต่างเห็นตรงกันว่าพวกเขาจะไม่รอช้า
“ถ้าอยากทำอะไร ลงมือทำเลย ถ้ามัวแต่ฝัน เราจะได้แค่จินตนาการ…เวที ประกวด THE POWER BAND สำหรับพวกเราคือการเปิดโลกออกไปนอกกรอบ ให้เราทำตามความฝัน เปิดประสบการณ์ เพราะนี่คือเวทีสุดท้ายที่พวกเราจะได้รวมตัวกัน” เพราะจะมีรุ่นพี่ที่อยู่ชั้น ม.6 หลังจากปีนี้ก็เรียนจบแล้วแยกย้าย วง Cloud กล่าวด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่วง Red Sky มีความเห็นสนับสนุนเรื่องความฝันที่ไม่ต่างกันนัก “มีความฝัน ต้องลงมือทำเลย อย่ามัวแต่คิด ต้องฝึกซ้อมและตั้งใจอย่างสุดๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรเป็นจริง พวกเราตื่นเต้นกันมาก คนเยอะมากๆ แต่สนุกมากๆ”
Suggestion
สิ่งสำคัญ
“ถ้ามีความฝัน ขอให้ลองหาโอกาสให้ตัวเองได้ลงมือทำ กล้าๆ อย่าไปกลัว” วง Vemus จากโรงเรียนสารคามพิทยาคม มหาสารคาม เล่าไว้ถึงความในใจที่พวกเขาเดินหน้าออกมาประกวดเพื่อเติมเต็มความฝันให้กับตัวเอง
“อยากให้ทุกคนฝันแล้วก็ลงมือทำ ถ้าเรายังไม่ได้ลองทำ มันก็จะไม่เกิดโอกาส ยิ่งพยายามมากเพียงใด ความฝันก็จะขยับใกล้ความจริงมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากไม่กล้าเล่นดนตรีต่อหน้าคนอื่นก็แค่ลองปรับความคิดของตัวเอง ลองคิดว่า เราเล่นให้คนในครอบครัวฟัง จะได้กล้ามากขึ้น เล่นให้ครอบครัวฟัง หรือเล่นให้เพื่อนฟัง เมื่อเพื่อนชอบก็อยากเล่นให้คนอื่นฟัง…ยิ่งเราพยายาม ความฝันก็จะเป็นจริงมากขึ้น คำเดียวที่จะทำให้ฝันเป็นจริงได้คือ ‘ซ้อม’ เท่านั้น”
วง “หน้าโรงเรียน” (ศรีสะเกษ) โรงเรียนสตรีสิริเกศ รุ่นมัธยมศึกษา
“พวกเรามีความตื่นเต้น แต่อยากมาโชว์มาก พอประกาศผลได้เป็นผู้ผ่านเข้ารอบจากสนามที่ 1 มันเหมือนทุกอย่างได้ปลดล็อก พวกเราเต็มที่ที่สุดเลย และสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็คือเพื่อวันนี้เลย”
วง Little Wings (ศรีสะเกษ) โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย รุ่นมัธยมศึกษา
โอกาส เป็นของทุกคน
“นานเกินไปแล้วกับการที่ไม่มีการประกวดดนตรี และไม่มีโอกาสให้กับเด็กๆ เลย” ศิลปิน INDIGO พูดถึงสนามประลองดนตรีที่เป็นโอกาสในการ “เทของดี” ที่แต่ละคนมีออกมาแข่งขันกัน “สำหรับเด็กๆ ที่เล่นดนตรีอยู่ รายการประกวด THE POWER BAND นี้จะเข้ามาเติมความฝันให้กับทุกคน”
การประกวดบนเวที THE POWER BAND ที่สนามขอนแก่น แบ่งผู้ประกวดออกเป็น Class A ระดับมัธยมศึกษา และ Class B ระดับประชาชนทั่วไป เพื่อมอบโอกาสให้ครอบคลุมทุกการสร้างสรรค์…รอคอยเพียงแค่ให้คนมีฝัน..ลงมือทำ
วงกุลสตรี (กาฬสินธุ์) โรงเรียนอนุกูลนารี เป็นวงหนึ่งที่เคยผ่านเวทีประกวด THE POWER BAND ครั้งแรกเมื่อปีก่อนมาแล้ว สมาชิกวงในปีนี้มีน้องสมาชิกใหม่ของวงเกินครึ่ง สมาชิกที่ผ่านเวทีจากในครั้งนั้นมีเพียง 2 คน “ปีนี้แทบจะเรียกว่าเริ่มต้นใหม่ เพราะรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ประกวดมามากเรียนจบกันไปแล้ว แนวเพลงของวงเรายังดำเนินแนวทางเดิม คือใช้ความเป็นพื้นบ้านอย่างเสียงพินเข้ามาผสม และได้เพิ่มเติมความเป็นร็อกมากขึ้น พวกเราตื่นเต้นกันมาก แต่พอได้ขึ้นเวทีแล้ว ได้แสดงสิ่งที่ทุกคนตั้งใจ และมีคนมาดูเราเยอะมาก ก็เรียกว่าทำดีที่สุด”
คำว่า “ทำดีที่สุด” น่าจะมีความหมายมากกว่าทุกสิ่งและสำหรับหลายๆ วงที่มาเข้าร่วมประกวด เช่นเดียวกับที่วง Colorful ที่เดินทางจากโรงเรียนยโสธรพิทยาคม ยโสธร ให้คะแนนตัวเองไว้อย่างนั้น “พวกเราทำดีที่สุดแล้วในวันนี้ เราอาจทำผิดหรือเล่นไม่ดีอย่างที่ตั้งใจไว้ไปบ้าง แต่อย่างน้อยเราก็ได้โชว์ศักยภาพที่วงมีให้กับทุกคน”
“พวกเราทำให้ตัวเราเองไม่หมดไฟ…เป็นความฝันของพวกเราที่ตั้งใจในการรวมตัวในนามวงนี้และสมาชิกทุกคนเป็นครูดนตรีและครูศิลปะที่ตั้งใจจะทำฝันของตัวเองและเป็นตัวอย่างให้กับเด็กๆ ลูกศิษย์ที่พวกเราสอน พวกเราอยู่ในช่วงวัยกลางคน แต่ยังมีฝันและสนุกกับสิ่งที่อยากทำคือการเล่นดนตรี ความรักในดนตรีเป็นแรงผลักดันให้เรามาในจุดนี้ ถึงจะมีเวลาซ้อมน้อย เพราะต่างคนต่างมีภาระงานที่ต้องทำ ตื่นเต้นมากเพราะเป็นการประกวดครั้งแรก แต่ยอมรับครับว่าทุกคนสนุกกันมาก…ขอบอกว่าถึงพวกเราจะแก่แต่ก็มีไฟ”
วงคากะจะ (ศรีสะเกษ) รุ่นบุคคลทั่วไป
Suggestion
ก้าวแรกของการเป็นศิลปิน
บนเวทีในช่วงการแสดงของศิลปินชั้นนำที่ THE POWER BAND เต็มไปด้วยความสนุกและความมันที่รับช่วงมากจากเอนเนอร์จีแบบสุดเหวี่ยงของวงผู้เข้าประกวดที่เพิ่งจบลงไป ความฟินจากทั้งศิลปินรับเชิญพิเศษของ 5 ค่ายพันธมิตรของงาน ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน INDIGO และยังมี COPTER มี BEAN Napasorn และ SLAPKISS คือดีย์… โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Jeff Satur ที่ได้เสียงกรี๊ดจากสาวๆ ไปอย่างล้นหลาม
“เวทีนี้เป็นพื้นที่ให้เราได้แสดงออก” เจฟฟ์บอกกับ THE POWER BAND อย่างนั้น “…ไม่ได้หมายความว่าแข่งแล้วจะต้องชนะเท่านั้น แต่สำคัญตรงเป็นโอกาสที่ให้ได้โชว์ความสามารถ ซึ่งโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ความฝันเป็นสิ่งที่ทุกคนมี แต่คนที่จะกล้าทำฝันได้ มันถึงจะมีความหมาย …เวทีนี้จึงเป็นการเฟ้นหา (คนเก่ง) จริงๆ เป็นการเปิดโอกาสให้คนได้เข้าถึงการประกวดและเป็นการคัดเลือกที่มีคุณภาพจริงๆ ”
ที่สนามขอนแก่นนี้เรามีศิลปิน “เด็กขอนแก่น” เกิดและโตที่นี่ มาร่วมแจมด้วย อย่าง COPTER บอกว่าครั้งหนึ่งการเป็นศิลปินเคยเป็นความฝันของเขาเหมือนกัน เคยเป็นผู้ชมในการประกวดดนตรีเวทีใหญ่ๆ เมื่อสมัยก่อน จนมาในวันนี้เขาได้มาขึ้นเวทีและมีส่วนร่วมกับการประกวด นับเป็นเรื่องที่ COPTER เห็นว่ายิ่งใหญ่สำหรับตัวเขาเอง “เตอร์เคยเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่อยากได้รับโอกาส ตอนเป็นนักเรียน เตอร์เล่นกีตาร์…ไม่ได้มีวง เคยอยากประกวดบ้างเหมือนกัน โอกาสนี้เลยอยากชวนทุกคนว่าใครที่มีของ อยากให้เอาความสามารถออกมาโชว์ เพราะนี่คือโอกาสที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน…”
ในขณะที่ฝั่งวงประกวดในระดับมัธยมที่เดินทางมาจากอุดรธานี อย่างวง Serpent และวงในขอนแก่นเองอีกวง อย่าง Six Some ต่างคิดเหมือนกันว่าการประกวดเวทีนี้ นอกจากจะทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีแล้ว ยังทำให้มือสมัครเล่นอย่างพวกเขารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้น เมื่อได้ผ่านการขึ้นแสดงจริงบนเวทีมาแล้ว
“มาประกวดครั้งนี้เป็นความท้าทายที่ทำให้พวกเราได้ก้าวออกมาจาก safe zone” วง Six Some จากโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน (ขอนแก่น) บอกอย่างนั้นเพื่อที่จะถ่ายทอดให้ทุกคนฟังว่า จะชนะหรือไม่ชนะ สิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับพวกเขาคือการได้ลองลงมือทำดูต่างหาก “การประกวดนี้ บนเวทีสนุกมาก ทุกคนเอนจอย…พวกเราได้สนุกไปกับการประกวด อีกทั้งได้ทำเต็มที่แล้ว” ก่อนที่วง Serpent จากโรงเรียนบ้านดุงวิทยา (อุดรธานี) จะสนับสนุนด้วยความสุขจากการที่พวกเขาได้ลงมือทำ “พวกเราได้ประสบการณ์มาก แต่แรกก็กลัว…ไม่กล้า พอเดินหน้าแล้ว ถอยไม่ได้ พวกเราได้ทำสิ่งที่เคยคิดมาตลอดเป็นครั้งแรก คือการประกวด…แต่ไม่เคยกล้าทำเลย ขึ้นเวทีแล้วมีคนมาดูในสิ่งที่พวกเราอยากทำ เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว มีความสุขมากตั้งแต่ตอนที่ได้ทำ”
“พวกเราฟินกันตั้งแต่ตอนยังไม่รู้ผล เพราะเวทีนี้คือพวกเราอยากมากันจริงๆ ฝันที่เราอยากจะทำคือเราอยากมาเวทีนี้จริงๆ ไม่เคยกล้าที่จะมาเวทีใหญ่ๆ แบบนี้ เราได้แสดงออกอย่างที่ตั้งใจ ทำการร้อง เล่นดนตรี และการเต้น…เอนเตอร์เทน เราคาดหวังแค่ได้มาแสดงความสามารถให้คนอื่นได้เห็นว่าโรงเรียนของเราก็มีพวกเราที่มีความสามารถ เราอยากจะมาสร้างตำนานให้กับเวทีนี้”
วง HUUKI HUUDA (เลย) โรงเรียนเลยพิทยาคม รุ่นมัธยมศึกษา
เวทีนี้นอกจากจะมอบโอกาสสำคัญให้คนที่มีฝันอยากเป็นศิลปินแล้ว ยังมีรางวัลรวมมูลค่าถึง 1 ล้าน 5 แสนบาทรวมไปถึงการได้ทำเพลงและ MV ของตัวเองด้วย คุณกฤษติกร พรสาธิต (ติ๊ก วง Playground) ผู้บริหารค่าย Home Run Music 1 ใน 3 กรรมการ สนามขอนแก่น “สำหรับภาพรวมของสนามขอนแก่น ผมตกใจในความสามารถของวงที่มาประกวด ทั้งเรื่องของฝีมือและเรื่องของเทสต์ เรียกว่ามีศักยภาพที่ไม่แพ้วงในกรุงเทพฯ เลย สิ่งนี้เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ผม ซึ่งถือว่ามาเจอของดีอยู่เหมือนกัน”
ในส่วนกรรมการยังมีทั้ง คุณ “เป้ Sax” ไพสิฐ คำกลั่น ศิลปินและโปรดิวเซอร์ ค่าย Muzik Move และ คุณวิโรจน์ สถาปนาวัตร (J-Pap วง INFINITY) ไม่เพียงแต่จะให้ comment ที่เป็นประโยชน์กับวง ในการนำไปพัฒนาการเล่นและร้องของตัวเองแล้ว ยังได้ถ่ายทอดมุมมองของ “ผู้ใหญ่” ผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรีว่าเราพบ “ช้างเผือก” จากการประกวดระดับภูมิภาคอย่างน่าตื่นเต้น
การคัดเลือกตัวแทนจาก 5 สนามเพื่อชิงชนะเลิศระดับประเทศกันที่กรุงเทพฯ ต่อไป ยังคงไปต่อกันที่สนามชลบุรี คงไม่มีคำกล่าวไหนที่จะเหมาะสมไปกว่าที่ บีน นภสร ทิ้งท้ายไว้ว่า “อย่าช้านะคะ ใครมีของดีในตอนนี้ให้รีบอัดคลิปส่งเข้ามา แล้วมาเจอกัน มาแข่งขันและมาสร้างความสุขไปด้วยกันค่ะ”
วงที่ได้ผ่านการคัดเลือกสนามชลบุรี
Class A ได้แก่ 1.วง CEREBRUM (ตราด) โรงเรียนสตรีประเสริฐศิลป์ 2.วง TK Music Band (ตราด) 3.โรงเรียนตราษตระการคุณ 4.วง “สวนทุเรียนคุณแม่” (ระยอง) 5.โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” 6.วง Phikul Band (ปราจีนบุรี) โรงเรียนปราจีนกัลยาณี 7.วง “เพี้ยน” (บุรีรัมย์) โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม 8.วง “อะไรดังกว่าระเบิด” โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา 9.วง Success (ชลบุรี) โรงเรียนพนัสพิทยาคาร 10.วง “ดอกแก้วบาน” (สมุทรปราการ) โรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์
Class B ได้แก่ 11.วง Different (ชลบุรี) 12.วง Lazy Cat (ชลบุรี) 13.วง “นกเอี้ยงมาเลี้ยงควายเฒ่า” (ฉะเชิงเทรา) 14.วง FHOONK (ชลบุรี) 15.วง THE PUMB (กรุงเทพฯ) 16.วง Jazzys (ชลบุรี) 17.วง “ตัณหา” (บุรีรัมย์)
ตามไปชมบรรยากาศความสนุกจากสนามขอนแก่น
