Summary
“รางน้ำ” ชุมชนที่ครบเครื่อง ทั้งเรื่องกิน เรื่องความเป็นอยู่ใจกลางเมือง ไปจนถึงเรื่องจับจ่ายใช้สอยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถนนสายสั้นๆ แต่เป็น “เซ็นเตอร์” ของกรุงเทพฯ เอ่ยขึ้นมาก็เป็นที่รู้จักกันแทบทั้งนั้น ที่นี่ต้องมีอะไรน่าสนใจอีกแน่ๆ พอลองไปค้นหาดูเท่านั้นล่ะ โอ…รางน้ำ ไม่ธรรมดาอย่างที่คุณคิด
ย่านรางน้ำนี้เป็นชุมชนเก่าแก่…มีความเป็นมาอันยาวนาน และปัจจุบันก็เป็นเดสติเนชันท่องเที่ยวระดับโลกล่าสุด ที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ในพื้นที่ อยู่ใจกลางเมือง รายล้อมด้วยความสะดวกในการเดินทาง ด้านที่ติดสถานีรถไฟฟ้าคือฝั่งถนนพญาไทต่อเนื่องไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อีกด้านหนึ่งเป็นฝั่งถนนราชปรารภต่อเนื่องไปยังดินแดงและประตูน้ำ และยังมีถนนอีกเส้นอย่างศรีอยุธยาโอบล้อมมาทางด้านหนึ่ง
มีสวนสาธารณะขนาดย่อม…เป็นพื้นที่สีเขียวช่วยให้ความเย็นกายสบายใจ และยังเป็นพื้นที่ให้ผู้คนมาออกกำลังกายได้
“รางน้ำเป็นถนนที่ผ่านหลังโรงเรียนฉัน” เพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟัง “เมื่อก่อนมีของกินข้างทางเยอะมาก ฉันชอบกินกุยช่าย ข้าวมันไก่ มีโรงเรียนศิลปะด้วย พวกเด็กอาร์ตชอบมายืนดูสาวๆ โรงเรียนฉัน”
ฟังเรื่องเล่าในอดีตแล้วเราก็พยายามจินตนาการจากสิ่งที่เห็นในปัจจุบัน ว่ามันจะต่างกันสักแค่ไหนนะ
“เคยมีห้องแถวเก่าอยู่ตรงที่เป็นสวนสันติภาพตอนนี้ด้วยนะ พวกฉันชอบไปเดินเล่นกัน ” นั่นน่าจะนานมากแล้วนะ “ใช่…ตั้งแต่สมัยที่ศรีอยุธยาเป็นโรงเรียนหญิงล้วนแน่ะ”
โอ…นานมากจริงๆ
นี่สินะ “กลางกรุง”
เดินทางไปรางน้ำด้วยรถไฟฟ้าจะผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นึกถึงเมื่อตอนเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ใหม่ๆ เคยถามผู้ใหญ่ว่าตรงไหนที่เรียกว่าศูนย์กลางกรุงเทพฯ จริงๆ
“อนุสาวรีย์ชัยฯ นี่ล่ะ” คนตอบอาจจะไม่คิดอะไรมากมาย นึกแค่ว่าถนนพหลโยธินที่เป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ใครเดินทางจากสายเหนือและอีสานตรงเข้ากรุงก็จะถึง “กิโลศูนย์” จุดเริ่มต้นถนนพหลโยธินก็ตรงแยกนี่ล่ะ และตรงนี้ก็เป็นแหล่งรวมรถประจำทางเสียด้วย ใครจะไปทิศไหนของเมืองกรุง ให้คิดว่าตั้งต้นจากอนุสาวรีย์ชัยฯ น่าจะคุ้นเคยสุด
โซนอนุสาวรีย์ชัยฯ ก็ยังเป็นศูนย์รวมสถานที่สำคัญสายสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า วิทยาลัยแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพฯ และอีกหลายคณะของมหาวิทยาลัยมหิดล
เดินเข้ามารางน้ำก็ยังมี สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ที่มีประวัติยาวนาน ก่อตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2469 เรียกได้ว่านอกจากเป็นแหล่งรวมการเดินทางแล้ว ย่านนี้ยังเป็นแหล่งรวมการรักษาพยาบาลอีกด้วย
“โรงเรียนรางน้ำ” เคยรู้จักไหม
นึกถึงโรงเรียนที่เพื่อนพูดถึงคือ “โรงเรียนศรีอยุธยา” หรือชื่อเต็มๆ “โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี” หน้าโรงเรียนอยู่ทางถนนศรีอยุธยาแล้วทอดยาวไปจนถึงถนนรางน้ำ มีทางเข้าออก 2 ทาง
ย้อนไปตอนก่อตั้งและเปิดโรงเรียนครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2494 มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า “โรงเรียนรางน้ำ” จนปีการศึกษาถัดมา ม.ล.ปิ่น มาลากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในตอนนั้นก็ให้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า โรงเรียนศรีอยุธยา ยุคนั้นมีแยกเป็นโรงเรียนศรีอยุธยา (ชาย) และโรงเรียนศรีอยุธยา (หญิง) ด้วยนะ พร้อมมีครูใหญ่ 2 ท่านแยกกันดูแล
จนปี พ.ศ. 2498 มีการย้ายนักเรียนชายไปเรียนที่ “โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย” โรงเรียนศรีอยุธยาจึงกลายเป็นโรงเรียนหญิงล้วน เป็นแบบนั้นมา 4 ทศวรรษ ก่อนเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนสหศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2539 นี่เอง ส่วน “เด็กอาร์ต” ที่เขาเอ่ยถึงก็คือโรงเรียนศิลปะพระนครที่เคยสร้างสีสันให้ถนนรางน้ำ ก่อนจะย้ายไปสถานที่ใหม่ในเขตบึงกุ่มและปิดตัวลงในที่สุด
ยังมีอีกหลายโรงเรียนในละแวกนี้ รวมถึงโรงเรียนกวดวิชาและสอนพิเศษที่เรียงรายรอบๆ ทำให้รางน้ำคึกคักตลอดทั้งปี
ที่พักกาย VS ที่พักใจ
ถ้าย้อนไปช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ผ่านพ้นไป ผู้คนจากต่างจังหวัดโยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในเมืองเป็นจำนวนมาก ได้มีการสร้างอาคารสงเคราะห์ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้เช่าพักอาศัยและเช่าซื้อหลายโครงการ
โครงการแรกเกิดที่รางน้ำ!!! แถวที่เป็นสวนสาธารณะร่มรื่นฝั่งตรงข้ามโรงเรียนศรีอยุธยานั่นล่ะ
เป็นโครงการอาคารสงเคราะห์บ้านแถว (ซอยรางน้ำ-ราชวิถี) สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2493 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ต่อกันเป็นชุดๆ มี 237 คูหา ในเนื้อที่ 20 ไร่เศษ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของทหารผ่านศึกและประชาชนที่สูญเสียบ้านเรือนจากภัยระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
หลังจากหมดสัญญาที่ดินได้เปลี่ยนมือมาเป็นของกรุงเทพมหานคร ก็ได้พลิกพื้นที่จากห้องแถวให้เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับทุกคนได้เข้ามาใช้ประโยชน์ ให้ชื่อว่า “สวนสันติภาพ” เปิดสวนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2541 ตรงกับวันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2488 ถือเป็นการเริ่มต้นสันติภาพและความสงบสุขของผู้คนอีกครั้ง
ในบรรยากาศสงบเป็นธรรมชาติ มีเส้นทางเดินวิ่งระยะทางยาวประมาณ 700 เมตร เป็นวงรอบสระน้ำขนาดใหญ่ มีเครื่องออกกำลังกาย มีลานเต้นแอโรบิก มีที่อ่านหนังสือ พักผ่อนหย่อนใจ และแปลงพืชผักสวนครัวให้ได้มาเรียนรู้อีกด้วย
สวนแห่งนี้มีประวัติยาวนานเริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ก่อนจะมีชื่อสวนอย่างเป็นทางการ ใช้ชื่อว่า “สวนรางน้ำ-ราชวิถี” ซึ่งมีรายละเอียดสำคัญเล็กๆ น้อยๆ อย่างตัวอักษรที่เป็นชื่อสวนนี้มาจากลายมือของท่านพุทธทาสภิกขุ หรือประติมากรรมทองเหลือรูปนกพิราบคาบช่อมะกอก 5 ดอกกลางสระน้ำของสวนได้แรงบันดาลใจจากผลงานของปิกัสโซ ศิลปินของโลกเพื่อสะท้อนถึงความสุขสงบของโลกใบใหม่เป็นสัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้ แม้จะเป็นเพียงพื้นที่สวนเล็กๆ แต่สร้างความร่มรื่นได้ดี มีกิจกรรมหลากหลายให้พักผ่อนสำหรับคนกรุงได้เป็นอย่างดี
ที่ผ่านมาเคยมีกิจกรรมน่าสนใจอย่างตลาดย้อนยุคมีของกินหลากหลายและคึกคักตรงบริเวณซอยราชวิถี 3 (ชัยสมรภูมิ) ในช่วงเทศกาลลอยกระทง เหมาะที่จะเป็นจุดหนึ่งสำหรับกิจกรรมวัฒนธรรมสำคัญอย่างลอยกระทง เพราะที่นี่มีสระน้ำอยู่ถึง 3 สระกับลานน้ำพุด้วย
ภาพจากคลังภาพ คิง เพาเวอร์
“POWER YOUR WORLD”
“กู้ดดดดดดดดดดดดดดด มอร์นิ่ง เวียดนาม”
ถ้าใครเคยดูหนังฮอลลีวูดเรื่อง Good Morning, Vietnam ที่นำแสดงโดยนักแสดงอารมณ์ดี โรบิน วิลเลียมส์ ที่รับบทเป็น ดีเจ มาจัดรายการวิทยุเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ที่ไซ่ง่อน ในช่วงสงครามเวียดนาม คงจำประโยคเปิดเข้ารายการวิทยุของเขาได้
เหตุการณ์เกิดที่เวียดนาม หนังฉายปี พ.ศ. 2530 แต่หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในเมืองไทยทั้งเรื่อง เพราะการเข้าไปถ่ายทำในประเทศเวียดนามช่วงนั้นยากมาก โลเคชันหลักจึงเป็นที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต ชุมชนคนเวียดนามในเรื่องนี้ เขาเซตฉากถ่ายกันที่ถนนรางน้ำนี่เอง แถมยังมีนักแสดงไทยฝากฝีมือไว้กับบทหญิงสาวในเรื่องแสดงโดยจินตรา สุขพัฒน์ ตำนานแห่งอังศุมาลิน โกโบริ ฉบับภาพยนตร์
ภาพยนตร์ Good Morning, Vietnam
เป็นการยืนยันว่าที่นี่เหมาะเป็นแหล่งชุมชน ทั้งในความเป็นจริงและบนแผ่นฟิล์ม ในความพลุกพล่านของผู้คนในชุมชนรางน้ำ ถ้าใครมีโอกาสมาเยือนจะพบกับ “แหล่งกิน” ที่คุณจะอดใจไม่ไหว ต้องได้แวะชิมหรือซื้อติดมือไปอิ่มอร่อยที่บ้านกันแน่ อ่านเรื่องความอร่อยของกินริมทางในย่านนี้ต่อได้ที่
ร้านอาหารอีสานมารวมตัวกันหลายเจ้าปะทะร้านอาหารฝรั่ง แถมพักหลังนักท่องเที่ยวจีนเดินกันขวักไขว่ สีสันบรรเจิดทั้งกลางวันและกลางคืน ร้านกุยช่ายและข้าวมันไก่ยังคงมีขายอยู่ แต่จะใช่เจ้าเดิมที่เพื่อนเคยกินหรือไม่…ต้องมาหาคำตอบเอง หาไอเดียของอร่อยๆ ในรางน้ำเพิ่มเติมได้ คลิกที่นี่
ภาพจากคลังภาพ คิง เพาเวอร์
โครงการ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 (ในขณะที่บริษัทก่อตั้งมายาวนานเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 แล้วในฐานะธุรกิจสินค้าปลอดภาษีช่วงเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 และได้พัฒนามาเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวในปัจจุบัน) ก็เป็นหนึ่งใน Landmark ที่คนจดจำได้ ทั้งรูปลักษณ์อาคารที่เป็นโดมแก้วขนาดใหญ่ที่สวยงามทันสมัยตรงบริเวณที่เรียกว่า Crown Atrium ได้รับการออกแบบอย่างดีถ่ายทอดสัญลักษณ์เชิงวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย เสริมด้วยลวดลายจากอิทธิพลเครื่องทองโบราณของไทย…เพื่อเป็นแหล่งรวมร้านค้าปลอดภาษีที่นักเดินทางนานาประเทศนิยมมาจับจ่ายใช้สอยกัน ภายใต้แนวคิดใหม่ “THE POWER OF POSSIBILITIES” เน้นสร้างสรรค์ประสบการณ์ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการเดินทาง ทำให้ย่านรางน้ำมีความเป็นศูนย์กลางการช็อปปิงอีกแห่งหนึ่งด้วย
ภาพจากคลังภาพคิง เพาเวอร์
นอกจากนั้น ที่ชั้น 3 ของ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ยังมี โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์มาตรฐานระดับโลกที่ตกแต่งแบบโรงละครไทยร่วมสมัยสวยงาม อีกทั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา พื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นนี้ยังได้รับการปรับโฉมพื้นที่ให้มี “Thai Taste Hub” ซึ่งนำรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบต่างๆ ในกรุงเทพฯ มาจัดวางใหม่ เพื่อสื่อถึงถนนและตรอกซอกซอย สำหรับการนำสตรีตฟูดเจ้าดังของเมืองกรุงขึ้นมาให้ลิ้มลองในบรรยากาศสบายๆ ไม่ต้องฝ่ารถติดและอากาศร้อน หรือแม้แต่รอคิวนานให้เสียอารมณ์ ขึ้นลิฟต์แก้วด้านหน้าอาคารไปที่นั่นก็พบของอร่อยหลากหลาย คลิกหาไอเดียของอร่อยแบบครบๆ ที่นี่
ยิ่งในปี 2567 ต่อเนื่องไปนับจากนี้ คิง เพาเวอร์ ยังได้ชูแนวคิด “POWER YOUR WORLD เป็นได้สุด เป็นไปได้” จะพลิกโฉมให้ย่านรางน้ำเป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวระดับโลก จัดอีเวนต์ใหญ่ๆ ไปพร้อมกับพัฒนาประสบการณ์ด้านการช็อปปิง ผลักดันด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม แต่ยังคงให้ความสำคัญกับศิลปะและวัฒนธรรมเสมอมา
“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ ปี 2567” เมื่อเมษายนที่ผ่านมา ความ “ม่วน หนุก สุข คัก” ตลอดวันไปจนถึงค่ำ คงเป็นส่วนหนึ่งสำหรับข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการร่วมมือกับภาครัฐสำหรับกิจกรรมลอยกระทงที่สวนสันติภาพโดยกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะตามมาด้วยกิจกรรมส่งท้ายปีสู่การต้อนรับปีใหม่อย่างเต็มอิ่มกับกิจกรรม LIGHT UP CHRISTMAS TREE ที่เป็นช่วง Festive Season ยาวไปจนถึงต้นเดือนมกราคม 2568
ในรายละเอียดของกิจกรรมนั้น RANGNAM LOY KRATHONG DIGITAL กรุงเทพมหานคร และ คิง เพาเวอร์ ร่วมกันจัดงานลอยกระทงที่เน้น ความยั่งยืน เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักและส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดการใช้โฟมและบรรจุภัณฑ์ในการทำกระทง ส่วนเทศกาลความสุขปีใหม่ที่ King Power Rangnam อยู่ในกิจกรรม THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 เป็นการฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ เป็นไปได้…มีไฮไลต์เป็นต้นคริสต์มาสออกแบบพิเศษ ในบรรยากาศคริสต์มาสสไตล์ไทย พาเปิดวาร์ป ความสุขสุด Funtastic พาทุกคนไปร่วมสนุกสุดครื้นเครง
เปลี่ยนแปลง แต่ไม่เปลี่ยนไป
แม้รางน้ำจะเปลี่ยนโฉมหน้าไปมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ ที่นี่เป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ดี เพราะครบครันทั้งแหล่งกิน แหล่งช็อป การเดินทางสะดวกทั้งรถเมล์ รถตู้ รถไฟฟ้า พร้อมเดินทางออกไปได้ทุกมุมเมือง คอนโดมีเนียมผุดขึ้นหลายโครงการ อะพาร์ตเมนต์ก็มีมากมาย โรงแรมตั้งแต่เล็กๆ จนถึงหรูหรามีให้เห็นในละแวกนี้
ช่วงปิดเทอมใหญ่ อะพารต์เมนต์และคอนโดแทบไม่มีห้องเหลือ เพราะน้องๆ นักเรียนจากต่างจังหวัดตบเท้าเข้ามาเรียนพิเศษและกวดวิชาเตรียมสอบเปลี่ยนแปลงชีวิตการศึกษากันนั่นเอง
“ฉันไม่ได้กลับไปแถวโรงเรียนนานแล้ว วันหลังว่าจะไปอัปเดตอยู่เหมือนกัน”เตรียมใจไว้หน่อยนะ เพราะเธอไม่ได้มาถนนรางน้ำราวสามทศวรรษแล้ว ทุกอย่างเจริญขึ้นแทบจำไม่ได้แน่
แต่ก็เชื่อว่าเธอจะสนุกกับการลิ้มรสสตรีตฟูดเหมือนที่คุ้นเคย…แน่นอน
• รางน้ำลอยกระทงดิจิทัล
15 พ.ย. 67 (เวลา 17.00-21.00 น.) ณ สวนสันติภาพ ถนนรางน้ำ
• เปิดวาร์ปไฮไลท์ความสนุก
ให้คุณฉลองได้สุดตลอดเดือนที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
🎄14 พ.ย. 67 เปิดวาร์ป FUNTASTIC SHOW ฉลองเปิดไฟต้นคริสต์มาส
ชมฟรี ! โชว์ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน โดยเจฟ ซาเตอร์ และอาโป ณัฐวิญญ์
🎅เปิดวาร์ปความฟิน ทุกศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์
🎤มินิคอนเสิร์ต จัดเต็มกว่า 29 ศิลปิน
อาทิ Pretzelle, Season Five, Jaylerr, Tilly Birds, Tytan และอีกมากมาย
🍔NEON NIGHT BARZAAR อิ่มอร่อยกับสตรีทฟู้ด
และ POP UP CAFÉ ร้านดังกว่า 30 ร้าน
🏎️เปิดวาร์ปสนามโกคาร์ทใจกลางรางน้ำ (เริ่มตั้งแต่ 15 พ.ย. 67 เป็นต้นไป)
E – Gokart Track by MONOWHEEL
ร่วมสนุกฟรี ! เพียงช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ
จำกัด 1 สิทธิ์/ท่าน/วัน รวม 20 สิทธิ์ / วัน
หรือร่วมสนุกได้เพียงรอบละ 350 บาท / ท่าน
• 14 พย. 67 – 31 ธค. 67
ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางออกที่ 2
เพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3vforlu